ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2555
ปรโลกนิวส์ ของ ทีมชนะสกุลนิยม
ปรโลกนิวส์ ตอน โยมแม่ละโลกแล้วไปไหน ตอนที่ 3
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา
หลังจากที่ “กุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงาน” หรือโยมแม่ของลูกในภพชาตินั้น กับหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นต่างมีใจให้แก่กันและกันแล้ว ทั้งคู่ต่างก็ได้คอยดูแลเอาใจใส่กันและกันเป็นอย่างดีในทุกๆ เรื่อง อีกทั้ง ทั้งคู่ยังได้คอยหาโอกาสใช้เวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้นอีกด้วย
ทั้งคู่ต่างมีใจให้แก่กันและกันและได้แอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเข้าในที่สุด
และเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองได้มีมากขึ้นแบบเรื่อยๆ เช่นนี้ จึงเป็นผลทำให้ ทั้งคู่ได้แอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเข้าในที่สุด
เมื่อวันเวลาผ่านไป สามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นก็ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมของภรรยาตัวเองที่เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเล็กน้อย บางประการถึงมากมาย คือตัวเธอมักจะหาเหตุเดินทางไปติดต่อเรื่องธุรกิจกับ “กุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงาน” บ่อยขึ้นกว่าเดิม และในแต่ละครั้งที่ตัวเธอเดินทางไปติดต่อเรื่องธุรกิจนั้น ตัวเธอก็มักจะใช้เวลานานกว่าปกติ จนบางครั้งตัวเธอก็ไม่ยอมกลับมาบ้าน เมื่อตัวเขาซักถามถึงเรื่องนี้ ตัวเธอก็มักจะบ่ายเบี่ยงอย่างเนียนๆ โดยหาเหตุผลต่างๆ มาอ้างสารพัด อีกทั้งท่าทีของตัวเธอก็ช่างแลดูเย็นชาและหมางเมินต่อตัวเขาเสียเหลือเกิน
สามีของเธอเริ่มเห็นพฤติกรรมของเธอที่เปลี่ยนไป และท่าทีของเธอแลดูเย็นชาและหมางเมินต่อเขา
และด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป๋อย่างนี้แบบนี้ ของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้น ดังที่ได้กล่าวไปแล้วนี้เอง จึงทำให้สามีของเธอพอที่จะเดาได้ว่า “ในตอนนี้ภรรยาของเขาต้องมีใจเป็นอื่นแล้วอย่างแน่นอน
สามีของเธอพอที่จะเดาได้ว่า ตอนนี้ภรรยาของเขาต้องมีใจเป็นอื่นแล้วอย่างแน่นอน
แต่ด้วยความรักที่ตัวเขามีต่อตัวเธออย่างมั่นคงและไม่เคยเสื่อมคลาย จึงทำให้ตัวเขาไม่อยากที่จะสืบสาวราวเรื่องอะไรกับเธอมากไปกว่านี้ โดยตัวเขาได้แต่เก็บความบอบช้ำและทุกข์ระทมทรวงในเอาไว้แต่เพียงลำพังคนเดียว
ส่วนตัวหญิงสาวชาวบ้านคนนั้น หลังจากที่ตัวเธอได้ทุ่มเทใจทั้งหมดมาให้กับกุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงานแล้ว ตัวเธอก็อยากที่จะมาอยู่เคียงคู่และเคียงข้างโยมแม่ของลูกอยู่ตลอดเวลา โดยที่ตัวเธอไม่ได้สนใจถึงความรู้สึกของสามีของเธอเลยว่า “สามีของเธอจะปวดร้าวหัวใจสักเพียงไร”
ตัวเธออยากมาอยู่เคียงข้างกุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงานอยู่ตลอดเวลา
และด้วยความที่หญิงสาวชาวบ้านคนนั้น อยากที่จะมาอยู่เคียงคู่และเคียงข้างกุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงานอยู่ตลอดเวลานี้เอง จึงทำให้ในที่สุด ตัวเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะปิดฉากชีวิตคู่กับสามีของเธอ เพื่อมาเปิดฉากชีวิตรักกับโยมแม่ของลูกในภพชาตินั้น อย่างเปิดเผย
เมื่อหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นได้ตัดสินใจที่จะปิดฉากชีวิตรักเดิม เพื่อเปิดฉากชีวิตรักใหม่เช่นนี้แล้ว ตัวเธอจึงได้แอบเขียนจดหมายอำลาสามีของเธอ แล้วก็ได้แอบเก็บข้าวเก็บของและเครื่องใช้ทั้งหมดย้ายไปอยู่กับโยมแม่ของลูกในภพชาตินั้น ในทันที
ตัวเธอได้แอบเขียนจดหมายอำลาสามีของเธอ
หลังจากที่สามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นได้กลับมาถึงบ้านแล้ว ตัวเขาก็ได้พบว่า “ภรรยาของเขาไม่อยู่ที่บ้านเหมือนอย่างเคย อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้ของเธอก็หายไปจนหมดแบบไม่เหลืออะไรเอาไว้ให้ดูต่างหน้าเลย จะมีเหลือไว้ก็แต่เพียงซองจดหมายเล็กๆ ฉบับหนึ่งที่จ่าหน้าซองถึงตัวเขาเท่านั้น”
เมื่อสามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นกลับมาถึงบ้าน ตัวเขาก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
เมื่อตัวเขาได้พบกับเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว ตัวเขาก็เกิดความรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แล้วตัวเขาก็ไม่รอช้าได้รีบหยิบจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาอ่านในทันที
หลังจากที่สามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้น ได้อ่านเนื้อความในจดหมายฉบับนั้นแล้ว ตัวเขาก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดๆ จนแทบจะขาดใจตายคาจดหมายฉบับนั้นเลย เพราะตัวเขาไม่เคยคิดเลยว่า ภรรยาสุดที่รักของเขา จะทิ้งตัวเขาไปแบบนี้
เมื่อสามีของเธอได้อ่านจดหมายนั้นแล้ว ตัวเขาก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
และเมื่อสามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้น พอที่จะตั้งสติทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แล้ว ตัวเขาจึงได้ตัดสินใจออกจากบ้าน เพื่อไปตามหาภรรยาสุดรักของเขาในที่ๆ ตัวเขาคิดว่าภรรยาของเขาจะอยู่ที่นั้น ด้วยความหวังแบบลึกๆ ว่า รักแท้ที่ตัวเขามีให้กับเธอมาโดยตลอดนั้น จะสามารถนำพาตัวเธอกลับมาอยู่กับตัวเขาได้อีกครั้ง ซึ่งสถานที่ดังกล่าวนั้นก็คือ ร้านขายจิวเวอรี่ของ “กุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงาน” หรือโยมแม่ของลูกในภพชาตินั้นนั่นเอง
แต่เมื่อสามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นได้ไปถึงที่ร้านขายจิวเวอรี่ของ “กุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงาน” แล้ว ตัวเขากลับพบว่า ร้านขายจิวเวอรี่ปิดสนิทและไม่เปิดขายจิวเวอรี่เหมือนเช่นเคย
เมื่อสามีของเธอไปถึงร้านขายจิวเวอรี่ ก็พบว่าร้านปิดสนิทและไม่เปิดขายจิวเวอรี่เหมือนเคย
แต่ถึงกระนั้น ตัวเขาก็ได้เฝ้ารอคอยด้วยความหวังว่า “อีกไม่นาน ร้านขายจิวเวอรี่ของโยมแม่ของลูกก็คงจะเปิด แล้วตัวเขาก็จะได้พบกับภรรยาสุดรักของเขา” แต่ไม่ว่าตัวเขาจะเฝ้ารอคอยอยู่ที่หน้าร้านขายจิวเวอรี่ ของโยมแม่ของลูกอย่างเนิ่นนานเพียงไรก็ตาม ร้านขายจิวเวอรี่ดังกล่าว ก็ไม่ยอมเปิดสักที จนเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า ประตูของร้านขายจิวเวอรี่ก็ยังคงปิดสนิทอยู่เหมือนเดิม
ส่วนสาเหตุที่ร้านขายจิวเวอรี่ของโยมแม่ของลูก ได้ปิดสนิทอยู่หลายวันนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ กุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงานคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า “สามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้น จะต้องมาตามหาตัวหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นอย่างแน่นอน”
โยมแม่ของลูกปิดร้านขายจิวเวอรี่ชั่วคราว เพื่อไม่อยากมีเรื่องกับสามีของเธอ
เมื่อโยมแม่ของลูกคาดการณ์ไว้เช่นนี้ ตัวท่านจึงได้ตัดสินใจปิดร้านขายจิวเวอรี่ชั่วคราว เพื่อไม่อยากที่จะปะทะหรือมีเรื่องกับสามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้น
และเมื่อสามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นเห็นว่า ร้านขายจิวเวอรี่ของโยมแม่ของลูก ปิดสนิทอยู่หลายวันเช่นนั้น ตัวเขาจึงเกิดความคิดขึ้นมาในใจว่า “ถ้าหากตัวเขาเฝ้ารอตัวเธออยู่อย่างนี้ ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเป็นแน่ เพราะอย่างไรตัวเธอก็คงจะไม่กลับไปใช้ชีวิตคู่อยู่กับเขาเหมือนอย่างเดิมแน่นอน หรือถ้าหากตัวเธอจำยอมกลับไปใช้ชีวิตคู่อยู่กับเขา ตัวเขาก็คงจะได้แต่ร่างกายของเธอที่ไร้ซึ่งหัวใจ และสายใยแห่งความรักความปรารถนาดีอีกแล้ว
สามีของเธอก็คิดได้ว่า หากตัวเขาเฝ้ารอตัวเธออยู่อย่างนี้ ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรแน่
ดังนั้น ตัวเขาควรที่จะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตัวเขาแต่เพียงลำพังจะดีกว่า แล้วก็ตั้งใจทำธุรกิจหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ควบคู่ไปกับการเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ของตัวเขาให้ดีที่สุด เพราะคงจะไม่มีใครในโลก ที่จะรักและจริงใจกับตัวเขาเหมือนอย่างท่านทั้งสองอีกแล้ว และในตอนนี้ ภรรยาของเขาก็กำลังมีความสุขอยู่กับคนที่เธอรัก ตัวเขาก็ควรที่จะดีใจไปกับเธอด้วย”
ตัวเขาได้เดินทางกลับไปยังบ้านของตัวเอง
เมื่อสามีของหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นคิดและพอที่จะทำใจได้เช่นนี้ ตัวเขาจึงได้เดินทางกลับไปยังบ้านของตัวเอง พร้อมทั้งคราบน้ำตาที่หลั่งออกมาด้วยความขื่นขมและทุกข์ระทมทรวงในอย่างสุดๆ
ส่วนว่า หลังจากที่กุลบุตรสุดหล่อผู้รักการทำงาน กับหญิงสาวชาวบ้านคนนั้นได้ใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันแล้ว พวกเขาทั้งสองจะสุขสมหวังในความรัก ดั่งที่วาดฝันกันเอาไว้หรือไม่ อย่างไร เราก็คงจะต้องอดใจรอมารับฟังกันต่อในตอนต่อไป