ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2555
ธุดงค์ธรรมชัย โครงการสามเณรดีศรีตำบลนำร่อง
ตอน...สามเณรดีผู้นำโลกยุคใหม่
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีสามเณรผู้องอาจจากโครงการบรรพชาสามเณรดีศรีตำบล โรงเรียนบ้านโป่งน้อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ยกทัพออกเดินธุดงค์ธรรมชัยโดยเริ่มก้าวแรกจากวัดโป่งน้อย มุ่งหน้าไปพัฒนาวัดโชติกุนสุวรรณารามหรือวัดหมูบุ่น งานนี้แม้จะมีอุปสรรคบ้าง เพราะตลอดทางแดดร้อนมาก แต่เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาและเพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ต่อให้แดดร้อนกว่านี้อีกร้อยเท่าสามเณรธุดงค์ก็ไม่หวั่น ทุกย่างก้าวสามเณรเดินธุดงค์ด้วยความสงบ เป็นแถวสวยงาม เวลาหยุดพักก็วางกลดวางย่ามเป็นระเบียบ เวลานั่งก็นั่งเป็นแนว แล้วพอรับปานะจากโยมไปแล้วก็ฉันอย่างสำรวม ทำให้ชาวเชียงใหม่เลื่อมใส ยิ่งเมื่อลุง ป้า น้า อา เห็นสามเณรน้อย ใช้มือน้อยๆ จับไม้กวาด ขยับไม่ถู ปัดตรงนั้น ขัดตรงนี้ ออกแรงพัฒนาวัดอย่างแข็งขันไม่ยอมหยุด ชาวบ้านก็ฮือฮาพูดถึงแต่สามเณร ชื่นชมแต่สามเณร และอยากให้มีการบวชอย่างนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ
สามเณรน้อยพัฒนาวัดด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่
ชุมชนเข้มแข็ง ศีลธรรมเฟื่องฟู
วันหนึ่งพระอาจารย์จัดให้มีตัวแทนสามเณรขึ้นเทศน์ให้ผู้ปกครองฟัง สามเณรก็พูดเปิดใจอย่างลูกผู้ชายแมนแมนว่า “สมัยก่อนสามเณรอยู่ที่บ้านไม่ว่าจะซักผ้าหรือทำความสะอาดบ้านจะมีโยมพ่อโยมแม่คอยทำให้ เวลาโยมพ่อใช้ให้ทำอะไร สามเณรก็จะบอกแต่ว่า ไม่ว่าง ไม่ทำ จนสามเณรได้มาบวชในโครงการนี้ ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่ตื่นยันหลับ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม 5 ห้องชีวิต การนั่งสมาธิ สวดมนต์ ทำให้สามเณรโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และรู้ถึงพระคุณพ่อแม่ ต่อไปนี้สามเณรจะเชื่อฟังโยมพ่อโยมแม่ จะไม่หาข้ออ้างมาเลี่ยงงานอีกต่อไปแล้วครับ” พอเทศน์จบผู้ปกครองก็ร้องไห้เพราะปลื้ม โครงการบรรพชาสามเณรดีศรีตำบล ทำให้เด็กๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แล้วจากที่ดีอยู่แล้วก็เป็นเด็กดีมากกว่าเดิม
สามเณร ธีรภัทร สิทธิ อายุ 10 ขวบ ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมบวชเพราะอยากตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ที่ท่านเลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด เมื่อผมบวช ผมได้สวดมนต์ ได้นั่งสมาธิ พ่อแม่ก็ได้บุญกับผมด้วย พอพระอาจารย์ให้เดินธุดงค์ผมก็เดินไปด้วย นึกถึงองค์พระที่กลางท้อง และนึกถึงหน้าพ่อแม่ไปด้วย แล้วผมก็ดีใจที่ได้มาช่วยทำให้วัดที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาด สะอาดน่าเข้า เวลาที่พระอาจารย์ให้ผมนั่งสมาธิ ผมจะเห็นองค์พระที่กลางท้อง ผมรู้สึกมีความสุข มีใจที่ว่าง ถ้าจบโครงการแล้ว ผมจะชวนพ่อแม่ญาติพี่น้องนั่งสมาธิ ให้มีความสุขแบบผม และผมจะเป็นคนดีตลอดไปครับ”
สามเณร ธีรภัทร สิทธิ อายุ 10 ขวบ “ผมจะเป็นคนดีตลอดไป”
สามเณร วงศกร ยังเจิมจันทร์ อายุ 16 ปี บอกว่า “ตอนที่คุณครูมาชวนผมบวช คุณครูบอกว่าคุณครูจะมาบวชด้วย 3 ท่าน มันทำให้ผมตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะดูคุณครูเป็นต้นแบบครับ พอผมบวชแล้วพระพี่เลี้ยงก็สอนให้ผมนั่งสมาธิ ผมเห็นดวงแก้วอยู่กลางท้อง ผมมีความสุขมาก ราวกับลอยได้ มันสบายโปร่งใสเหมือนไม่มีตัวเรา ทำให้เราสบายใจครับ แล้วพอได้เดินธุดงค์ผมรู้สึกว่าได้ฝึกความอดทนมากขึ้น ทำให้รู้จักการรักษาระเบียบมากขึ้น ได้รู้ว่าความเหนื่อยยากของพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงเรามันหนักกว่านี้ ผมเดินไปก็นึกถึงดวงแก้วที่กลางท้องเป็นระยะๆ เพราะอยากให้พ่อแม่ได้บุญครับ การมาบวชครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าชาวพุทธทุกคนมีหน้าที่ต้องทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ ถ้าลาสิกขาไปแล้ว ผมจะเอาความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิต จะนั่งสมาธิทุกวัน จะสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน จะชวนพ่อแม่ให้นั่งสมาธิด้วยกัน และจะพาพ่อแม่ทำบุญตักบาตรทุกวันครับ”
สามเณร วงศกร ยังเจิมจันทร์ “ผมจะชวนพ่อแม่นั่งสมาธิ ทำบุญตักบาตรทุกวัน”
การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวสามเณร ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองปลื้มมาก คนในชุมชนก็ปลื้ม คุณครูก็ปลื้ม แล้วที่ปลื้มยิ่งกว่าใครก็คือท่าน ผอ.เรืองฤทธิ์ จันทร์ดี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโป่งน้อย
นายเรืองฤทธิ์ จันทร์ดี (ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโป่งน้อย)
เปิดเผยความปลื้มว่า “โครงการบรรพชาสามเณรดีศรีตำบลเป็นโครงการที่ดีมาก ผมเริ่มต้นจากการส่งคุณครูผู้ชายในโรงเรียนไปบวชเป็นพระครูแก้วก่อน 3 รูป พอกลับมาที่โรงเรียนพระครูแก้วทั้ง 3 รูป บอกผมว่าตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งได้เป็นครู ไม่เคยเห็นโครงการที่ดีขนาดนี้มาก่อน อยากให้โครงการนี้ลงไปถึงลูกศิษย์ทุกคน หลังจากนั้นทั้งผมและพระครูแก้วก็ลงมือชวนเด็กๆ บวช อธิบายให้เด็กฟังว่าบวชแล้วจะดียังไง ทำให้มีเด็กๆสมัครใจมาบวชทะลุเป้าเลยครับ คำสอนในพระพุทธศาสนาสามารถฝึกเยาวชนได้ดีจริงๆ ในฐานะที่ผมเป็นครู ผมภาคภูมิใจที่เห็นลูกศิษย์ของผมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ต่อไปพวกเขาจะได้เป็นคนดีศรีสังคม ผมคิดว่าโครงการนี้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของพระราชบัญญัติการศึกษา มาตรา 6 ที่บอกว่าเราจะต้องให้เด็กและเยาวชนนั้นเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คือมีการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย สังคม สติปัญญา มีคุณธรรม จริยธรรมฯ ผมอยากเชิญชวนทุกๆโรงเรียน รวมไปถึงเพื่อนครูด้วยกัน ให้ช่วยสนับสนุน รับโครงการดีๆ อย่างนี้ไปปฏิบัติ ถ้าทุกๆ โรงเรียนทำได้เหมือนกันหมด ต่อไปเรามองไปทางไหนจะพบแต่เยาวชนที่เป็นคนดี ถ้าเราบวชสามเณรล้านรูปทั่วประเทศได้ ประเทศไทยเราคงเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก สงบสุขที่สุดในโลก ผมขอยืนยันว่า นี่คือการฟื้นฟูศีลธรรมโลกอย่างแท้จริง”