กรณีศึกษาคุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 6


[ 10 ม.ค. 2556 ] - [ 18270 ] LINE it!

 
 
ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 8 มกราคม พ.ศ.2556
 
 
 
Case Study
คุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 6
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
 
 
        หลังจากที่เราฟังผลกรรมของฝ่ายหญิงกันไปแล้ว คราวนี้เราลองมาฟังในส่วนของฝ่ายชายหรือฝ่ายของพระภิกษุหนุ่มในพุทธันดรที่ผ่านมา ที่สึกออกมากันบ้าง แต่ก่อนที่เราจะลงรายละเอียดในส่วนนี้ เราคงต้องมาเฉลยกันก่อนว่าฝ่ายชายหรือพระภิกษุหนุ่มในพุทธันดรที่ผ่านมาเป็นใคร เพราะถ้าหากเราไม่เฉลยในตอนนี้ เดี๋ยวเรื่องราวในบางช่วงจะต่อไม่ติด ฝ่ายชายหรือฝ่ายพระภิกษุหนุ่มรูปนั้นก็คือ ตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้ หรือพระพ่อของลูกชายทั้ง 2 คนในภพชาติปัจจุบันนั่นเอง
 
ฝ่ายพระภิกษุหนุ่มรูปนั้นก็คือ ตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้
ฝ่ายพระภิกษุหนุ่มรูปนั้นก็คือ ตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้
 
        มาถึงตรงนี้ ครูไม่ใหญ่ว่าเราควรจะต้องศึกษา เพราะรายละเอียดในส่วนนี้ จะมีบางส่วนที่เชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับคำถามที่ตัวลูกถามมาว่า ตัวลูกมีผังบวชอย่างไร และจะทำอย่างไรถึงจะได้ติดตามสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างไม่ตกหล่น เพราะฉะนั้น ครูไม่ใหญ่เลยขอเอาคำตอบของคำถามข้อนี้ มากล่าวรวมกับรายละเอียดที่กำลังจะพูดถึงเลยก็แล้วกัน
 
        ในส่วนของฝ่ายชายหรือฝ่ายของพระภิกษุหนุ่มที่สึกออกมาซึ่งก็คือตัวลูก ด้วยความที่ตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมาได้ตั้งมโนปณิธานก่อนออกบวชเอาไว้ว่า “ตัวลูกจะออกบวชสร้างบารมีไปจนตลอดชีวิต” แต่สุดท้าย เมื่อตัวลูกได้มาเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ลูกรู้สึกถูกใจไปทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตา, อากัปกริยามารยาท อีกทั้งเธอยังมาเป็นโยมอุปัฏฐากที่คอยมาดูแลเอาใจใส่ตัวลูกเป็นอย่างดี และที่สำคัญที่สุดก็คือเธอมีใจให้กับตัวลูกก่อน แล้วตัวลูกก็เผลอไปมีใจให้กับเธอด้วย
 
 
ตัวลูกจะออกบวชสร้างบารมีไปจนตลอดชีวิต
ตัวลูกจะออกบวชสร้างบารมีไปจนตลอดชีวิต
 
 
        เมื่อความไม่สำรวมอินทรีย์ได้เกิดขึ้นกับพระภิกษุ ที่ตั้งใจบวชแต่เพิ่งบวชได้ไม่นาน ซึ่งก็คือตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา สติซึ่งถือเป็นเครื่องยับยั้งว่า อะไรที่พระควรคิด อะไรที่พระควรพูด อะไรที่พระควรทำ ก็เลยพลอยหย่อนลงไปด้วย และเมื่อตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมาเผลอใจย้ำคิด ย้ำพูด แล้วก็ย้ำทำในเรื่องราวแบบนี้มากเข้าๆ ก็เลยเป็นเหตุทำให้ตัวลูกทนอยู่ในเพศภาวะอันประเสริฐนี้ไม่ไหว ผลสุดท้ายเมื่อตัวลูกปล่อยใจให้อำนาจกิเลสซึ่งก็คือความรักและความหลงเข้าครอบงำจิตใจ ตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมาก็เลยตัดสินใจลาสิกขาแล้วก็สึกออกมาครองเรือนในที่สุด
 
ตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมาตัดสินใจลาสิกขาแล้วก็สึกออกมาครองเรือน
ตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมาตัดสินใจลาสิกขาแล้วก็สึกออกมาครองเรือน
 
 
        ซึ่งผลกรรมหรือผลของการกระทำ ที่ตัวลูกเผลอใจปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความถูกต้องดีงามและ มโนปณิธานในครั้งนี้ ก็ได้ถูกเซ็ตจนกลายเป็นผังสำเร็จที่จะคอยติดตามส่งผลต่อตัวลูก นับตั้งแต่วันที่ตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมาตัดสินใจลาสิกขา โดยกรรมดังกล่าวจะคอยมาตัดรอนกำลังบุญทุกๆ บุญ รวมถึงบารมี 10 ทัศ , 20 ทัศ แล้วก็ 30 ทัศ ที่ตัวลูกเคยสั่งสมเอาไว้ด้วยความยากลำบากในอดีตชาติให้อ่อนกำลังลง ซึ่งก็จะเป็นผลทำให้รูปสมบัติ, ทรัพสมบัติ, คุณสมบัติของตัวลูก จะมีความสมบูรณ์น้อยกว่าที่ตัวลูกควรจะได้รับ
 
ผลกรรมที่ตัวลูกเผลอใจได้ถูกเซ็ตคอยติดตามส่งผลต่อตัวลูกตั้งแต่บัดนั้นมา
ผลกรรมที่ตัวลูกเผลอใจได้ถูกเซ็ตคอยติดตามส่งผลต่อตัวลูกตั้งแต่บัดนั้นมา
 
 
        กล่าวคือแทนที่ตัวลูกจะสมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไป ก็กลับกลายเป็นถอยหลัง หรือพูดง่ายๆ ว่า แทนที่จะอยู่หัวแถวก็ต้องมาอยู่หางแถว และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตัวลูกก็จะต้องมาสั่งสมบุญสร้างบารมีเพิ่มเติมกันใหม่อีก ซึ่งตรงนี้มันน่าเสียดายนะลูกนะ
 
แทนที่ตัวลูกจะสมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไป ก็กลับกลายเป็นถอยหลัง
แทนที่ตัวลูกจะสมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไป ก็กลับกลายเป็นถอยหลัง
 
 
        และเมื่อบุญที่ตัวลูกได้สั่งสมเอาไว้อ่อนกำลังลง วิบากกรรมรวมถึงเศษกรรมต่างๆ ที่ตัวลูกเคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ในอดีตชาติ ซึ่งมันจ้องจะส่งผลต่อตัวลูกตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็อาจจะได้ช่องตามมาส่งผลในช่วงจังหวะนี้ ด้วยความที่ในครั้งนี้ ฝ่ายของพระภิกษุหรือตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมาไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นก่อน กรรมดังกล่าวจึงแค่เข้ามาตัดรอนกำลังบุญ คือไม่ได้ไปดึงดูดเอาวิบากกรรมหรือเศษกรรมมาขยายผลเหมือนของฝ่ายหญิง ประมาณว่าแค่เปิดช่องทางให้วิบากกรรมหรือเศษกรรมทำงานได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ฝ่ายของพระภิกษุเป็นผู้เริ่มต้นก่อน คือเป็นคนคิด พูด แล้วก็ลงมือกระทำก่อน ผลกรรมที่เกิดขึ้นในฐานะเป็นผู้เริ่มต้น ก็จะหนักกว่าของฝ่ายหญิงมาก อย่าลืมว่าเราเป็นพระ บุญบาปอะไรก็ตามที่เราทำ มันจะมีกำลังมากกว่าโยมมากๆ
 
วิบากกรรมรวมถึงเศษกรรมต่างๆ ที่ตัวลูกเคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ในอดีตชาติ มันคอยส่งผลต่อตัวลูกตลอดเวลา
วิบากกรรมรวมถึงเศษกรรมต่างๆ ที่ตัวลูกเคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ในอดีตชาติ มันคอยส่งผลต่อตัวลูกตลอดเวลา
 
 
        นอกจากมันจะตัดรอนกำลังบุญทุกๆ บุญ ที่ตัวลูกเคยสั่งสมเอาไว้ด้วยความยากลำบากในอดีตชาติแล้ว ตราบใดที่กรรมดังกล่าวมันยังมีกำลังส่งผล มันก็จะเข้ามาตัดรอนและส่งผลต่อการบรรลุธรรมของตัวลูก ทั้งในภพชาติปัจจุบันนี้และในภพชาติต่อๆ ไป กล่าวคือแทนที่บุญจากการบำเพ็ญเนกขัมมะบารมีมาอย่างยาวนานในอดีตชาติ จะส่งผลทำให้ตัวลูกเป็นพวก “สุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา” หรือปฏิบัติธรรมได้สะดวกบรรลุธรรมได้เร็ว ก็จะกลับกลายเป็นพวก “ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา” หรือปฏิบัติลำบากบรรลุธรรมได้ช้า อย่างนี้เป็นต้น และที่สำคัญมันยังทำให้การไปถึงเป้าหมายของชีวิตนักบวช นั่นก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานของตัวลูก ถูกยืดเวลาออกไปยาวนานอีกด้วย
 
ตราบใดที่กรรมดังกล่าวยังมีกำลังส่งผล มันก็จะเข้ามาตัดรอนและส่งผลต่อการบรรลุธรรมของตัวลูก
ตราบใดที่กรรมดังกล่าวยังมีกำลังส่งผล มันก็จะเข้ามาตัดรอนและส่งผลต่อการบรรลุธรรมของตัวลูก
 
 
        เท่านั้นยังไม่พอ ผลกรรมดังกล่าว มันยังไปตัดรอนผังบวชของตัวลูกซึ่งแต่เดิมก็เริ่มที่จะหนาแน่นแล้ว ให้ลดปริมาณความเข้มข้นและหนาแน่นลงอย่างที่มันควรจะเป็น คือจากเดิมที่ผังมันต่อๆ ต่อๆ กันถี่ๆ พอกรรมดังกล่าวนี้มาตัดรอน ผังบวชของลูกจากถี่ๆ มันก็เลยกลายเป็นห่างๆ เพราะในหลายภพชาติหลังๆ ก่อนหน้าจะถึงพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกก็ได้สั่งสมผังบวชด้วยการบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี หรือออกบวชเป็นพระจนตลอดชีวิตมาหลายภพหลายชาติแล้วเหมือนกัน
 
ผลกรรมดังกล่าว ไปตัดรอนผังบวชของตัวลูกให้ลดปริมาณความเข้มข้น และหนาแน่นลงอย่างที่มันควรจะเป็น
ผลกรรมดังกล่าว ไปตัดรอนผังบวชของตัวลูกให้ลดปริมาณความเข้มข้น และหนาแน่นลงอย่างที่มันควรจะเป็น
 
        ดังนั้นเมื่อผังบวชไม่หนาแน่น เส้นทางการบวชในภพชาติปัจจุบันและในภพชาติต่อๆ ไปของตัวลูก ก็อาจจะไม่ราบรื่นหรืออาจจะเจอกับอุปสรรคทั้งจากเรื่องคน, สัตว์ หรือสิ่งของ ที่พร้อมจะดึงใจให้ตัวลูกจำต้องออกห่างจากเส้นทางของการบวชสร้างบารมีไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ
 
        และถ้าในอนาคต ไม่ว่าจะในภพชาติปัจจุบันนี้ หรือในภพชาติต่อๆ ไป ถ้าตัวลูกเผลอใจพลาดพลั้งไปกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวนี้ซ้ำๆ รอยเดิมอีก ผลกรรมดังกล่าวซึ่งมันคอยจ้องจะตัดรอนผังบวช รวมถึงกำลังบุญทุกๆ บุญ ที่ตัวลูกเคยสั่งสมเอาไว้ด้วยความยากลำบากในอดีตชาติอยู่ตลอดเวลา ก็จะทับทวีความเข้มข้นมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกมาก และถ้าเมื่อไหร่ที่มันมีกำลังมากๆ มันก็จะส่งผลทำให้ตัวลูกมีโอกาสที่จะหลุดจากเส้นทางการบวชสร้างบารมี
 
เมื่อไหร่ที่มันมีกำลังมากๆ มันก็จะส่งผลทำให้ตัวลูกมีโอกาสหลุดจากเส้นทางการบวชสร้างบารมีกับหมู่คณะไปเลยก็ได้
เมื่อไหร่ที่มันมีกำลังมากๆ มันก็จะส่งผลทำให้ตัวลูกมีโอกาสหลุดจากเส้นทางการบวชสร้างบารมีกับหมู่คณะไปเลยก็ได้
 
        และที่เลวร้ายที่สุด มันก็อาจจะทำให้ตัวลูกหลุดหรือพลัดพรากจากเส้นทางการสร้างบารมีกับหมู่คณะไปเลยก็ได้ และถ้ามันเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ ตัวลูกก็อาจจะพลาดพลั้งไปกระทำบาปอกุศล ซึ่งมันจะส่งผลทำให้ตัวลูกอาจพลัดตกลงไปในอบายได้
 
        อย่างในภพชาติปัจจุบันนี้ ด้วยผลแห่งการกระทำดังกล่าว ก็เลยส่งผลทำให้แทนที่ตัวลูกจะได้ออกบวชตั้งแต่วัยหนุ่มเหมือนอย่างในภพชาติที่ผ่านๆ มา ตัวลูกก็เลยต้องผ่านการแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็มีลูกก่อนที่จะออกบวช พอออกบวชแล้วตัวลูกก็ต้องต่อสู้กับอำนาจกิเลสที่มันยังคงมีอยู่ภายในใจ อีกทั้งยังต้องต่อสู้กับความคิด คำพูด แล้วก็การกระทำทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง ที่อาจจะบั่นทอนกำลังใจและทำให้ตัวลูกเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย หรือรู้สึกน้อยอกน้อยใจ จนเป็นเหตุทำให้ตัวลูกจำต้องหลุดจากเพศภาวะของความเป็นพระ
 
พอออกบวชแล้วตัวลูกก็ต้องต่อสู้กับอำนาจกิเลสที่มันยังคงมีอยู่ภายในใจ
พอออกบวชแล้วตัวลูกก็ต้องต่อสู้กับอำนาจกิเลสที่มันยังคงมีอยู่ภายในใจ
 
        หรือบางทีลูกอาจจะต้องเจอกับเรื่องราวหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่มาบีบบังคับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องคน หรือเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันอาจจะทำให้ตัวลูกจำต้องสึกออกจากเพศภาวะของความเป็นพระ ทั้งๆ ที่ภายในใจลึกๆ ของตัวลูกเองนั้นก็ไม่อยากที่จะสึกออกมา
 
        เพราะฉะนั้น ถ้าตัวลูกอยากที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดที่ตัวลูกเคยทำเอาไว้ในพุทธันดรที่ผ่านมา และอยากทำผังบวชของตัวเองให้หนาแน่นมากกว่านี้ คือ อดีตที่ผิดพลาดลืมไปให้หมด นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ตัวลูกก็จะต้องตั้งใจบำเพ็ญสมณะธรรม พยายามทำจิตให้นิ่ง ไม่เกาะ ไม่เกี่ยว ไม่เหนี่ยว ไม่รั้งในเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องราวทางโลก อย่างเช่น สรรเสริญ สตรี และสตางค์ เป็นต้น ด้วยการทำตนให้เป็นพระแท้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งเรื่องความคิด คำพูด และการกระทำ เพื่อที่ตัวลูกจะได้รับอานิสงส์จากการเป็นเนื้อนาบุญของโลก รวมถึงการเป็นอายุของพระศาสนา และเป็นต้นบุญต้นแบบในการสร้างบารมีให้แก่ผู้ที่จะมาภายหลัง เหล่ามนุษย์และเทวดา
 
ตัวลูกต้องตั้งใจบำเพ็ญสมณะธรรม พยายามทำจิตให้นิ่งทำตนให้เป็นพระแท้
ตัวลูกต้องตั้งใจบำเพ็ญสมณะธรรม พยายามทำจิตให้นิ่งทำตนให้เป็นพระแท้
 
        และถ้าจะให้ปลอดภัยตลอดเส้นทางการสร้างบารมีตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม ตัวลูกก็จะต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ เข้าถึงแล้วก็ต้องมาศึกษาวิชชาธรรมกาย เพื่อจะได้ไปเก็บผังที่ตัวลูกเคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ในอดีต ซึ่งข้อนี้สำคัญที่สุด นอกจากนั้นตัวลูกจะต้องมีมโนปณิธานอันแน่วแน่ที่จะสร้างบารมีอยู่ในเพศภาวะอันประเสริฐนี้ไปจนตลอดชีวิต ซึ่งข้อนี้ถือว่ามีความสำคัญมากๆ เหมือนกัน
 
ตัวลูกจะต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้
ตัวลูกจะต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้
 
        ถ้านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ตัวลูกทำได้อย่างนี้เป็นอย่างน้อย ครูไม่ใหญ่เชื่อว่าผังบวชของลูกจากที่เริ่มจะหลวมๆ ก็จะกลับมาหนาแน่น หนาแน่น แล้วก็หนาแน่นขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ลูกสามารถทำผังการบวชของลูกให้ติดสนิทแน่น จนกลายเป็นผังสำเร็จที่ไม่มีช่องว่างระหว่างอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เมื่อนั้นตัวลูกก็จะได้ออกบวชสร้างบารมีไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
 
        และจากเรื่องราวความผิดพลาดของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ก็สอนให้รู้ว่า ลูกพระลูกเณรของครูไม่ใหญ่ทุกๆ รูป ไม่ว่าจะอยู่นอกหรือในประเทศทั่วโลก พวกลูกจงพึงสำรวมระวัง และจงอย่าดูเบาหลักในการปฏิบัติที่พระภิกษุพึงควรกระทำต่อมาตุคามหรือสตรีเพศ ตามหลักที่พระพุทธองค์ทรงตรัสกับพระอานนท์ในทำนองที่ว่า
 
        1. การที่ภิกษุไม่มองดูสตรีเพศเลยนั้นเป็นการดี
 
        2. แต่ถ้าจำเป็นต้องดู จงพึงอย่าพูดหรือสนทนาด้วย และ 
 
        3. ถ้าจำเป็นต้องสนทนาจริงๆ จงพึงตั้งสติและควบคุมสติเอาไว้ให้ดี จงอย่าให้ความกำหนัดยินดีหรือความหลงใหล หรือปล่อยให้กิเลสเข้ามาครอบงำจิตใจของเราได้
 
        และจากหลักปฏิบัติทั้ง 3 ข้อ หลัก 2 ข้อแรกดูจะทำได้ยากสักหน่อยในยุคปัจจุบันนี้ เพราะภารกิจที่หมู่คณะของเรา จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายให้แผ่ขยายออกไปทั่วโลก เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอกับผู้คนเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นกำลังหลักในการสนับสนุน คือผู้หญิง เพราะฉะนั้น ถ้าเราหลีกเลี่ยงที่จะเจอและสนทนากับญาติโยมที่เป็นผู้หญิงไม่ได้ ลูกพระลูกเณรทุกๆ รูปจงพึงให้ความสำคัญกับหลักปฏิบัติข้อที่ 3 ให้จงหนัก
 
        และจงระลึกเอาไว้เสมอว่า “บัดนี้เรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว อาการกิริยาใดๆ ของสมณะ เราต้องทำอาการกิริยานั้นๆ” หรือพูดง่ายๆ ว่า เราต้องมีสมณะสัญญา หรือมีจิตวิญญาณของความเป็นพระอยู่เสมอ ว่าเราเป็นพระ เราเป็นพระ เราเป็นพระ ซึ่งการที่เราจะเป็นพระแท้ได้อย่างสมบูรณ์นั้น เราจะต้องเข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกภายในซึ่งก็คือพระธรรมกาย
 
ถ้าลูกพระลูกเณรรูปไหน มีความจำเป็นต้องโทรคุยธุระกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิง จงคุยอย่างมีสติและมีสมณะสัญญา
ถ้าลูกพระลูกเณรรูปไหน มีความจำเป็นต้องโทรคุยธุระกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิง จงคุยอย่างมีสติและมีสมณะสัญญา
 
        ยิ่งในยุคปัจจุบันนี้ อุปกรณ์สื่อสารอย่างมือถือหรืออุปกรณ์จำพวกตระกูลไอ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นไอนู่น ไอนี่ แม้มันจะเอามาใช้ประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายได้ก็จริง แต่ลูกๆ ทั้งหลายก็ต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้อย่างระมัดระวัง และใช้มันให้ถูกวัตถุประสงค์ นั่นก็คือใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการสั่งสมบุญสร้างบารมี ไม่ใช่ใช้เพื่อการสร้างบาป บั่นทอนบารมีของเรา
 
        ดังนั้นถ้าลูกพระลูกเณรรูปไหน มีความจำเป็นต้องโทรคุยธุระกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นกำลังหลักในการสนับสนุน ลูกทุกๆ รูปจงคุยอย่างมีสติและมีสมณะสัญญา หรือมีจิตวิญญาณของความเป็นพระอยู่เสมอ เวลาคุยก็อย่าคุยนาน คือคุยให้มันตรงประเด็น อย่าแตกประเด็น เพราะถ้าเราแตกประเด็นพูดนอกเรื่องเมื่อไหร่ เราก็อาจจะถูกความกำหนัดยินดี ความหลงใหล หรือกิเลสเข้ามาครอบงำจิตใจของเราได้ ลูกทุกๆ รูปจงอย่าลืมนะว่า เรายังไม่ชนะพญามาร เพราะฉะนั้นเราจะประมาทไม่ได้ 
 
        หรืออย่างเวลาที่เราต้องประสานงานหรือทำภารกิจงานหยาบของหมู่คณะ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะหลีกเลี่ยงการทำงานร่วมกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิงไม่ได้ เพราะฉะนั้นในเมื่อเราเป็นพระ เราก็ต้องมีระยะห่างและวางตัวให้เหมาะสม คือเข้าใกล้ได้ แต่อย่าชิด และถ้าหากมีอะไรมากระทบ ก็อย่าให้มันมากระเทือนต่อความเป็นพระของเรา เช่น ตาของเราเผลอไปกระทบรูปที่ถูกใจ ก็ให้เราพึงสำรวมอินทรีย์, หมั่นรักษาจิตของเราให้บริสุทธิ์ และพึงตรึกระลึกถึงสมณะสัญญาเอาไว้เสมอว่า เราเป็นพระ เราเป็นพระ เราเป็นพระ เพื่อที่สิ่งที่มากระทบจะได้ไม่มากระเทือนถึงใจของเรา เป็นต้น
 
 
แน่นอนว่าเราจะหลีกเลี่ยงการทำงานร่วมกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิงไม่ได้
แน่นอนว่าเราจะหลีกเลี่ยงการทำงานร่วมกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิงไม่ได้
 
 
        และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ไม่ว่าจะมีเหตุจำเป็นขนาดไหนก็ตาม ห้ามเราอยู่ในที่ลับหูลับตา หรืออยู่กันตามลำพังกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิงกันสองต่อสอง เพราะในตอนนี้เรายังไม่ชนะเขา ดังนั้นพญามารจะคอยหาช่องนำเอากิเลสเข้ามาปรุงแต่งอยู่ภายในใจของเราตลอดเวลาได้ง่าย
 
ห้ามเราอยู่ในที่ลับหูลับตา หรืออยู่กันตามลำพังกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิงกันสองต่อสอง
ห้ามเราอยู่ในที่ลับหูลับตา หรืออยู่กันตามลำพังกับอุบาสิกาหรือญาติโยมที่เป็นผู้หญิงกันสองต่อสอง
 
        เพราะฉะนั้นลูกพระลูกเณรรูปใดที่กำลังเผลอใจ คิด พูด หรือกำลังกระทำกรรมในลักษณะดังกล่าวนี้อยู่ ลูกจงพึงระวังและจงมีสติยับยั้งชั่งใจ โดยให้หวนกลับมาระลึกนึกถึงมโนปณิธานในการออกบวชสร้างบารมี นับตั้งแต่วันแรกที่เราออกบวชหรือได้มาเจอกับหมู่คณะ อย่าลืมว่าเราต้องอยู่หัวแถว ไม่ใช่อยู่หางแถว เพราะถ้าเราอยู่หางแถวแล้วหางยังไม่กระดิก มันจะไปกันใหญ่น่ะลูกน่ะ สุดท้ายลูกพระลูกเณรทุกๆ รูปจงจำคำนี้ให้ขึ้นใจว่า “ทุกอย่างเผลอ เป็นเสร็จ”
 
        ส่วนว่าบทสรุปของเรื่องราวของเธอและตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไร เราก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อในตอนต่อไป
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เกาะติดบรรยากาศเดินธุดงค์ธรรมชัยปีที่ 2 วันที่ 10 มกราคม 2556เกาะติดบรรยากาศเดินธุดงค์ธรรมชัยปีที่ 2 วันที่ 10 มกราคม 2556

กรณีศึกษาคุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 7กรณีศึกษาคุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 7

เกาะติดบรรยากาศเดินธุดงค์ธรรมชัยปีที่ 2 วันที่ 11 มกราคม 2556เกาะติดบรรยากาศเดินธุดงค์ธรรมชัยปีที่ 2 วันที่ 11 มกราคม 2556



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน