กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 5


[ 18 ม.ค. 2556 ] - [ 18273 ] LINE it!

 
ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2556
 
 
 
 
 
Case Study
โรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 5
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
  
 
 
        คำถามข้อที่ 2 เพราะเหตุใดจึงมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในบ้านที่ลูกอาศัยอยู่ในปัจจุบันคะ เช่น สวิตซ์คัตเอาท์มีการสับเองโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือมีน้ำโคลนผุดขึ้นมาเต็มพื้นหินอ่อนในวันที่ลูกทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น
 
        คำตอบข้อ...สำหรับสาเหตุที่ทำให้มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นภายในบ้านของลูกนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ภายในบ้านของลูกมีเหล่าภุมมะเทวาระดับล่างหรือพวกผีบ้านผีเรือน คอยดูแลรักษาอยู่ตลอดเวลา โดยพวกผีบ้านผีเรือนเหล่านี้จะอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของท่านภุมมะเทวาระดับหัวหน้าเขตในแถบนั้น ซึ่งก็คือคุณพ่อของลูกนั่นเอง
 
ภายในบ้านของลูกมีเหล่าภุมมะเทวาระดับล่างหรือพวกผีบ้านผีเรือน คอยดูแลรักษาอยู่ตลอดเวลา
ภายในบ้านของลูกมีเหล่าภุมมะเทวาระดับล่างหรือพวกผีบ้านผีเรือน คอยดูแลรักษาอยู่ตลอดเวลา
 
 
        แต่ก่อนที่เราจะมารับฟังรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นภายในบ้านของลูกนั้น เรามาทำความเข้าใจและศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของผีบ้านผีเรือนกันก่อน ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับผีบ้านผีเรือนนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่าศึกษาเรียนรู้มากๆ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวของพวกเราทุกคนแบบคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว
 
ผีบ้านผีเรือน
ผีบ้านผีเรือน
 
        คำว่า “ผีบ้านผีเรือน” นั้น ในความเป็นจริงแล้วก็คืออดีตมนุษย์ที่หลังจากละโลกไปแล้ว ได้ไปบังเกิดเป็นภุมมะเทวาระดับล่าง ที่อาศัยเรือนหยาบหรือบ้านของมนุษย์เป็นที่อาศัยอยู่ ซึ่งโดยทั่วๆ ไปแล้วพวกผีบ้านผีเรือนที่มีกำลังบุญไม่มาก ก็จะอาศัยโครงสร้างของเรือนหยาบหรือบ้านของมนุษย์ทั่วๆ ไปอยู่เลย แต่ถ้าพวกผีบ้านผีเรือนตนไหนมีกำลังบุญที่มากขึ้นมาหน่อย ก็จะมีห้องพิเศษที่ต่อเติมเพิ่มออกมาจากเรือนหยาบ หรือบ้านของมนุษย์ ซึ่งส่วนที่เป็นห้องพิเศษนี้จะเป็นส่วนละเอียดที่มนุษย์มองไม่เห็น
 
        แม้ว่าพวกผีบ้านผีเรือนเหล่านี้จะอาศัยโครงสร้างของเรือนหยาบหรือบ้านของมนุษย์เป็นที่อาศัยอยู่ก็ตาม แต่ถึงกระนั้นรูปแบบการตกแต่งภายในบ้าน รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้และอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ของพวกผีบ้านผีเรือนก็จะมีลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเอง ที่เกิดขึ้นตามกำลังบุญของแต่ละตน โดยพวกเขาจะไม่ได้ใช้ข้าวของต่างๆ ร่วมกับมนุษย์เลย
 
พวกผีบ้านผีเรือนจะอาศัยโครงสร้างของเรือนหยาบหรือบ้านของมนุษย์ทั่วๆ ไปอยู่
พวกผีบ้านผีเรือนจะอาศัยโครงสร้างของเรือนหยาบหรือบ้านของมนุษย์ทั่วๆ ไปอยู่
 
 
        สำหรับคำว่า “เรือนหยาบหรือบ้านของมนุษย์ที่พวกผีบ้านผีเรือนอาศัยอยู่นั้น” จะมีความหมายรวมไปถึงพวกตึก คอนโด แฟลท อพาร์ทเม้นต์ คฤหาสน์ โรงเรียน โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งกระต๊อบและบังกะโล เป็นต้น (คือสิ่งก่อสร้างอะไรก็ตามที่มีหลังคามุงบัง ล้วนสามารถเป็นที่อยู่อาศัยของพวกผีบ้านผีเรือนได้ทั้งสิ้น ส่วนว่าผีบ้านผีเรือนแต่ละตน จะได้อยู่ในสถานที่ที่มีอาณาเขตกว้างขวางมากน้อยขนาดไหนนั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังบุญที่ผีบ้านผีเรือนแต่ละตนได้เคยสั่งสมเอาไว้ สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ คือถ้าหากสั่งสมบุญเอาไว้มาก ก็จะได้อยู่ในสถานที่ที่มีอาณาเขตกว้างขวางมาก แต่ถ้าหากสั่งสมบุญเอาไว้น้อย ก็จะได้อยู่ในสถานที่ที่มีอาณาเขตน้อย หรือมีอาณาเขตที่ไม่กว้างขวางสักเท่าไหร่
 
สิ่งก่อสร้างที่มีหลังคามุงบัง สามารถเป็นที่อยู่อาศัยของพวกผีบ้านผีเรือนได้ทั้งสิ้น
สิ่งก่อสร้างที่มีหลังคามุงบัง สามารถเป็นที่อยู่อาศัยของพวกผีบ้านผีเรือนได้ทั้งสิ้น
 
 
        และโดยส่วนใหญ่แล้ว ผีบ้านผีเรือนแต่ละตนก็มักจะไปบังเกิดอยู่ในสถานที่ หรือบ้านเรือนที่มีคน สัตว์ สิ่งของ ที่พวกเขาคุ้นเคยในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ เช่น เคยเป็นบ้านเดิมของตัวเอง หรือเป็นบ้านของคนที่ตัวเขารักและผูกพันเป็นอย่างมาก เช่นบ้านของคุณแม่ หรือเป็นบ้านของญาติ เป็นต้น
 
พวกผีบ้านผีเรือนมักจะย้ายที่อยู่ตามเจ้าของบ้านที่ตนรัก
พวกผีบ้านผีเรือนมักจะย้ายที่อยู่ตามเจ้าของบ้านที่ตนรัก
 
        และถ้าหากวันใดเจ้าของบ้านที่พวกผีบ้านผีเรือนรักและผูกพันเป็นอย่างมาก ย้ายไปอยู่ที่อื่น พวกผีบ้านผีเรือนเหล่านั้น ก็จะย้ายตามไปอยู่กับเจ้าของบ้านที่พวกเขาผูกสมัครรักใคร่ด้วย แต่ก่อนที่พวกเขาจะย้ายไปได้นั้น พวกเขาก็จะต้องขออนุญาตจากท่านเทพบุตรภุมมะเทวาที่เป็นหัวหน้าเขตแห่งนั้นเสียก่อน
 
        ถ้าหากวันใดเรือนหยาบหรือบ้านของมนุษย์ ที่พวกผีบ้านผีเรือนเหล่านั้นอาศัยอยู่ถูกรื้อถอน หรือถูกทำลายไป พวกผีบ้านผีเรือนเหล่านั้นก็จำเป็นที่จะต้องย้ายไปหาที่อยู่อาศัยใหม่ ตามกำลังแห่งบุญของผีบ้านผีเรือนแต่ละตน ซึ่งหัวหน้าเขตก็จะเป็นผู้ที่จัดสรรที่อยู่ใหม่ให้กับผีบ้านผีเรือนเหล่านั้นตามความเหมาะสม แต่ถ้าหาก ณ ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่ผีบ้านผีเรือนตนนั้นจะต้องไปเกิดใหม่พอดี ผีบ้านผีเรือนตนนั้นก็จะไปบังเกิดใหม่ตามกำลังแห่งบุญและบาปที่ตัวเขาได้เคยกระทำเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ 
 
หัวหน้าเขตจะเป็นผู้ที่จัดสรรที่อยู่ใหม่ให้กับผีบ้านผีเรือนที่มีที่อยู่อาศัยถูกรื้อถอนตามความเหมาะสม
หัวหน้าเขตจะเป็นผู้ที่จัดสรรที่อยู่ใหม่ให้กับผีบ้านผีเรือนที่มีที่อยู่อาศัยถูกรื้อถอนตามความเหมาะสม
 
 
        สำหรับการบังเกิดขึ้นของพวกผีบ้านผีเรือน หรือภุมมะเทวาระดับกลางและล่างนั้น ก็จะมีลักษณะที่คล้ายๆ กับการบังเกิดขึ้นของเทวดาทั่วๆ ไป นั่นก็คือ มีการบังเกิดขึ้นแบบ “โอปปาติกะ หรือเกิดแบบ เกิดปุ๊บโตปั๊บ” เพียงแต่การเกิดแบบ “โอปปาติกะ” ของพวกผีบ้านผีเรือนนั้น จะมีลักษณะที่แตกต่างจากพวกเทวดาที่อยู่บนสวรรค์ทั่วๆ ไปตรงที่ เวลาที่พวกผีบ้านผีเรือนบังเกิดขึ้น พวกเขาจะเกิดมามีรูปร่างลักษณะหน้าตาและอายุ ที่ละม้ายคล้ายกับตอนที่พวกเขาใกล้จะเสียชีวิต เช่น ถ้าหากพวกเขาเสียชีวิตในช่วงวัยเด็ก พวกเขาก็จะเกิดมาเป็นผีบ้านผีเรือนที่อยู่ในวัยเด็ก หรือถ้าหากพวกเขาเสียชีวิตในช่วงสูงวัย พวกเขาก็จะเกิดมาเป็นผีบ้านผีเรือนสูงวัย เป็นต้น ซึ่งจะแตกต่างและไม่เหมือนกับการบังเกิดขึ้นของเทพบุตรเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ ที่เกิดมาพร้อมกับความเป็นหนุ่มเป็นสาวนั่นเอง

การบังเกิดขึ้นของพวกผีบ้านผีเรือน
การบังเกิดขึ้นของพวกผีบ้านผีเรือน
 
        ส่วนการเจริญเติบโต หรือพัฒนาการทางกายภาพของผีบ้านผีเรือนนั้น ผีบ้านผีเรือนแต่ละตนก็จะมีการเจริญเติบโต หรือมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ หรือลักษณะภายนอกที่คล้ายๆ กับมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเกิดมาเป็นผีบ้านผีเรือนในตอนวัยเด็ก เมื่อกาลเวลาผ่านไป ผีบ้านผีเรือนที่เป็นเด็กน้อย ก็จะเจริญเติบโตเป็นผีบ้านผีเรือนวัยรุ่น ไล่เรื่อยไปจนกระทั่งผีบ้านผีเรือนตนนั้นกลายเป็นผีบ้านผีเรือนสูงวัยนั่นเอง เป็นต้น
 
การเจริญเติบโตของผีบ้านผีเรือน
การเจริญเติบโตของผีบ้านผีเรือน
 
        แต่ถ้าหากผีบ้านผีเรือนตนไหน ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่หมู่ญาติอันเป็นที่รักได้ทำแล้วก็อุทิศส่งมาให้ ผีบ้านผีเรือนตนนั้น ก็จะสามารถย้อนวัย หรือกลับคืนความเป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้นมาได้อีกครั้ง
 
        ส่วนลักษณะชีวิตความเป็นอยู่ของพวกผีบ้านผีเรือน หรือภุมมะเทวาระดับกลางและล่างนั้น ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีการทำมาหากิน หรือประกอบอาชีพต่างๆ เหมือนอย่างมนุษย์ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังต้องรับประทานอาหาร เข้าสังคม และยังต้องพักผ่อนนอนหลับเหมือนอย่างมนุษย์นั่นเอง
 
ลักษณะชีวิตความเป็นอยู่ของพวกผีบ้านผีเรือน
ลักษณะชีวิตความเป็นอยู่ของพวกผีบ้านผีเรือน
 
        ไม่เพียงเท่านั้น ลักษณะอาหารของพวกผีบ้านผีเรือนยังมีลักษณะที่คล้ายๆ กับอาหารบนโลกมนุษย์อีกด้วย แต่จะต่างกันตรงที่ว่า อาหารของพวกผีบ้านผีเรือนนั้นจะเป็นอาหารทิพย์ที่เกิดขึ้นด้วยกำลังบุญของแต่ละตน ดังนั้นโอชารสหรือความเอร็ดอร่อย และความประณีตของอาหารของพวกผีบ้านผีเรือนแต่ละตน จึงแตกต่างกันไปตามกำลังบุญนั่นเอง
        นอกจากพวกผีบ้านผีเรือนจะมีลักษณะชีวิตความเป็นอยู่หลายๆ อย่างคล้ายๆ กับมนุษย์แล้ว พวกผีบ้านผีเรือนยังมีลักษณะการแบ่งเขตการปกครองออกเป็นส่วนๆ คล้ายๆ กับในเมืองมนุษย์อีกด้วย โดยในแต่ละเขตการปกครองนั้น ก็จะมีภุมมะเทวาระดับไฮโซที่เป็นหัวหน้าเขตต่างๆ เป็นผู้ดูแลพวกผีบ้านผีเรือนเหล่านั้นอยู่
 
พวกผีบ้านผีเรือนมีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็นส่วนๆ
พวกผีบ้านผีเรือนมีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็นส่วนๆ
 
        และถ้าหากผีบ้านผีเรือนตนไหน มีความต้องการที่จะเดินทางข้ามไปยังเขตการปกครองอื่น ผีบ้านผีเรือนตนนั้นก็จะต้องขออนุญาตทั้งหัวหน้าเขตการปกครองของตัวเอง และหัวหน้าเขตการปกครองที่ตัวเขาต้องการจะไปก่อน และเมื่อผีบ้านผีเรือนตนนั้นได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเขตการปกครองทั้งสองแล้ว ผีบ้านผีเรือนตนนั้นจึงจะสามารถเดินทางไปยังเขตการปกครองดังกล่าวได้ แต่โดยปกติแล้วพวกผีบ้านผีเรือน มักจะไม่ค่อยชอบเดินทางไปไหน เพราะชอบที่จะอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน สมดังชื่อที่พวกเขาได้รับว่า “ผีบ้านผีเรือน” นั่นเอง
 
        ส่วนลักษณะความเชื่อของพวกผีบ้านผีเรือนแต่ละตนนั้น ก็จะมีความแตกต่างหลากหลายกันไปคล้ายๆ กับพวกมนุษย์ เช่น บางพวกก็นับถือพระพุทธศาสนา บางพวกก็นับถือศาสนาอื่น หรือบางพวกก็ไม่นับถือศาสนาอะไรเลย เป็นต้น
 
ลักษณะความเชื่อของพวกผีบ้านผีเรือนแต่ละตน
ลักษณะความเชื่อของพวกผีบ้านผีเรือนแต่ละตน
 
        ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว พวกผีบ้านผีเรือนแต่ละตน ก็มักจะนับถือลัทธิความเชื่อแบบเดิมหรือแบบเดียวกันกับในสมัยที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็มีพวกผีบ้านผีเรือนบางส่วนที่พอกาลเวลาผ่านไป ความเชื่อของพวกเขาก็ค่อยๆ ซึมซับและแปรเปลี่ยนไปตามความเชื่อของมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นๆ หรือพูดง่ายๆ ว่า อยู่ใกล้คนเช่นไร ก็มักจะเป็นคนเช่นนั้น
 
        แต่ไม่ว่าพวกผีบ้านผีเรือนแต่ละตนจะนับถือลัทธิความเชื่ออะไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดก็จำเป็นที่จะต้องอาศัยบุญด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งบุญที่มาหล่อเลี้ยงชีวิตหลังความตายของพวกผีบ้านผีเรือนนั้นก็คือ บุญที่ผีบ้านผีเรือนแต่ละตนได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นหลัก และบุญที่หมู่ญาติอันเป็นที่รักได้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งมาให้พวกเขา รวมไปถึงบุญที่พวกเขาได้อนุโมทนาบุญกับมนุษย์ที่ทำความดี เช่น ทำบุญใส่บาตรหรือถวายสังฆทาน เป็นต้น
 
ผีบ้านผีเรือนแต่ละตนจำเป็นต้องอาศัยบุญมาหล่อเลี้ยงชีวิตหลังความตายด้วยกันทั้งสิ้น
ผีบ้านผีเรือนแต่ละตนจำเป็นต้องอาศัยบุญมาหล่อเลี้ยงชีวิตหลังความตายด้วยกันทั้งสิ้น
 
        นอกจากบุญต่างๆ จะหล่อเลี้ยงชีวิตของผีบ้านผีเรือน ให้มีความสุขความสบายในปรโลกแล้ว ก็ยังมีบุญพิเศษอีกบุญหนึ่งที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตของผีบ้านผีเรือนได้
 
        ส่วนว่าบุญพิเศษดังกล่าวนั้นจะเป็นบุญอะไร และจะมีผลต่อชีวิตของพวกเขามากขนาดไหนนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อในตอนต่อไป
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เกาะติดบรรยากาศเดินธุดงค์ธรรมชัยปีที่ 2 วันที่ 18 มกราคม 2556เกาะติดบรรยากาศเดินธุดงค์ธรรมชัยปีที่ 2 วันที่ 18 มกราคม 2556

กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 6กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 6

เกาะติดบรรยากาศเดินธุดงค์ธรรมชัยปีที่ 2 วันที่ 19 มกราคม 2556เกาะติดบรรยากาศเดินธุดงค์ธรรมชัยปีที่ 2 วันที่ 19 มกราคม 2556



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน