ความประทับใจการเดินธุดงค์ธรรมชัย ตอน พระฝรั่งมาแล้วครับ


[ 6 ก.พ. 2556 ] - [ 18276 ] LINE it!

 
ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556
ความประทับใจการเดินธุดงค์ธรรมชัย 
 
 
 
ตอน พระฝรั่งมาแล้วครับ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
 
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
      
        กระผมชื่อ พระ RUBEN (รู-เบ้น) ฉายา วิสาโล อายุ 31 ปี เป็นชาวเบลเยี่ยม เรียนจบวิศวะเคมี ก่อนมาบวชทำงานทางด้าน Food science คือวิทยาศาสตร์การอาหาร ในห้องแล็บของบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศเบลเยี่ยมครับ อีกทั้งยังสามารถพูดได้หลายภาษา อาทิเช่น ภาษาดัช ฝรั่งเศส อังกฤษ ไทย ครับ
 
พระรูเบ้น (RUBEN) วิสาโล
พระรูเบ้น (RUBEN) วิสาโล
 
 
        หลวงพ่อครับ เดิมผมไม่ได้นับถือศาสนาพุทธหรอกครับ แต่สนใจการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนามาก เพราะศาสนาเดิมของผมคือคริสต์-คาทอลิก ไม่ได้เน้นด้านนี้ อีกทั้งบอกให้เชื่อโดยไม่มีวิธีการพิสูจน์อะไรใดๆ ให้เลย แต่เนื่องจากผมเป็นคนเชื่อหลักเหตุและผล เพราะเรียนมาทางสายวิทย์ ผมจึงเป็นคนชอบอะไรที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นจะๆ ได้ด้วยตัวเอง จนกระทั่งปี พ.ศ.2550 ได้มีกัลยาณมิตรชาวเบลเยี่ยมแนะนำให้ไปฝึกสมาธิที่ศูนย์เบลเยี่ยม และก็มารู้จักกับพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนารูปแรกในชีวิต ซึ่งก็คือ หลวงพ่อทัตตชีโวครับ จึงทำให้ผมเกิดความสนใจพระพุทธศาสนาอย่างจริงจังนับตั้งแต่นั้นมา ด้วยเหตุนี้ผมจึงลงทุนบินมาดูลาดเลาที่วัดพระธรรมกาย และทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมชาวพุทธอยู่ประมาณ 1 ปี และในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าโครงการบวชพระนานาชาติ หรือ IDOP ในปี พ.ศ.2551
 
        หลวงพ่อครับ กว่าฝรั่งข้ามชาติสักคนจะยอมมาบวชเป็นพระในประเทศไทยนี่เป็นสิ่งที่ยากมากๆ นะครับ เพราะต้องปรับตัวมาก เนื่องจากเรามีความแตกต่างกันสูงเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อในศาสนาเดิม ภาษา อาหาร อากาศ ภูมิประเทศ วัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิต แต่หลวงพ่อครับ ฝรั่งมาบวชก็ว่ายากแล้ว แถมบวชแล้วยังมาเดินธุดงค์ไกลถึง 446 กิโลเมตร ก็ยิ่งยากใหญ่ เพราะฉะนั้นหากใครสักคนที่เป็นพระฝรั่งแล้วมาเดินธุดงค์บนกลีบดาวรวยครั้งนี้ได้ ผมถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกก็ว่าได้ครับ
 
ขณะเดินในขบวนธุดงค์
ขณะเดินในขบวนธุดงค์
 
 
        เพราะการที่จะทำให้ฝรั่งยอมทนต่อสภาพอากาศร้อนนั้น เป็นเรื่องยากครับ เนื่องจากตอนผมอยู่เบลเยี่ยมหน้าร้อนที่สุดก็เฉลี่ยแค่ 25 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง แต่นี่ร้อนกว่าเยอะมากๆ ดังนั้นถ้าผมจะใช้ร่างกายเดินธุดงค์ฝ่าแดดร้อนจัดขนาดนี้ ด้วยวิธีธรรมดาๆ คงไม่มีทางเดินได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องใช้เทคนิคพิเศษ คือ หนึ่ง ต้องเริ่มที่ใจก่อน คือ ไม่คิดร้อน ให้คิดเย็น โดยนึกถึงดวงแก้วอันใสเย็นเหมือนดวงจันทร์ นึกว่าศูนย์กลางกายของเรา เป็นศูนย์กลางแห่งความเย็นสบาย แล้วก็ขยายดวงแก้วคลุมตัวเราและสาธุชนไปในรัศมี 2-3 เมตร
 
ภาพที่ผมเอาใจจรดศูนย์กลางกาย แล้วขยายดวงแก้วคลุมตัวขณะเดินธุดงค์
ภาพที่ผมเอาใจจรดศูนย์กลางกาย แล้วขยายดวงแก้วคลุมตัวขณะเดินธุดงค์
 
 
        แต่หลวงพ่อครับ แดดเผาจนจะสุกอยู่แล้ว อยู่ๆ จะให้แผ่กระแสเย็นออกจากตัวนี่ มันขัดแย้งกันมากนะครับ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำไม่ได้ แต่พอทำได้ปุ๊บ มันก็ดับร้อนได้ทันทีเลยครับ เลยทำให้ผมได้ข้อคิดว่า ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจจริงๆ ผมเลยเข้าใจแล้วว่า ทำไมใจถึงเปลี่ยนโลกได้ ส่วนเทคนิคข้อ 2 คือ อย่าเผลอ เพราะเผลอเป็นเสร็จ คือ ผมไม่มองโยมเลย เพราะถ้ามองโยมแล้ว ใจเราจะหลุดไปอยู่นอกตัว และเมื่อใจหลุดไปอยู่นอกตัว ใจก็จะไม่มีพลัง เดินต่อไปไม่รอด ดังนั้นผมทำตามที่หลวงพ่อบอกเป๊ะๆ คือ มองทาง มองกลางอย่างเดียวจริงๆ มองจนรู้สึกว่าเราหลุดไปอยู่อีกโลกใบหนึ่ง เหมือนเดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบเหลือเกิน เหมือนเดินอยู่คนเดียวในโลกใบนี้ โดยไม่เกาะ ไม่เกี่ยว ไม่เหนี่ยว ไม่รั้ง จนดื่มด่ำเข้าไปในความสงบระดับลึก จนผมไม่กังวลเลยว่า ระยะทางข้างหน้าจะเหลืออีกสักกี่กิโลเมตร ความสงบสุขเช่นนี้ ทำให้ผมรู้สึกชอบเดินมากกว่ากลับมาจำวัตรรวมกันในแต่ละคืนเสียอีก เพราะขณะเดินธุดงค์มันเหมือนผมได้อยู่ในโลกที่ไม่วุ่นวาย ทั้งๆ ที่รอบตัววุ่นวาย เพราะมีโยมเยอะ รถเยอะ ตลอดจนเสียงเครื่องยนต์ เสียงแตรรถที่ดังมาก และไหนจะเหม็นควันท่อไอเสียอีก แถมแดดก็ร้อนจัด แต่หลวงพ่อเชื่อไหมครับ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำอะไรผมได้เลย จนผมคิดว่าการเดินธุดงค์ในเมือง มันยากกว่าการเดินธุดงค์ในป่ามากๆ เพราะมันเป็นบทฝึกตบะขั้นเทพ เพราะในป่ามีสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่า แต่ในเมืองมีความวุ่นวายเข้ามาให้เราได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้สัมผัสความร้อนระอุของแดด แต่หากทำได้ สมาธิเราจะก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดอย่างเหลือเชื่อ ส่วนเทคนิคข้อที่ 3 คือ นึกถึงบุญที่ทำผ่านมาทั้งหมดแบบสบายๆ แล้วอธิษฐานขอบารมีจากหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ให้เรามีกำลังใจและมีพลังเดินให้สำเร็จจนจบโครงการ แล้วในที่สุดด้วยบารมีของมหาปูชนียาจารย์ ผมก็ทำได้จริงๆ
 
        หลวงพ่อครับ ชีวิตพระต่างกับตอนที่ผมเป็นฆราวาสอย่างสิ้นเชิง ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย เพราะต้องฝึกตัวมาก อดทนมาก แต่พอมีคนมาถามผมว่า รู้ว่าลำบากขนาดนี้แล้วทำไมยอมมาบวช ผมก็อยากจะตอบว่า ก็เพราะชีวิตพระ ทำให้เรามีความสุขสงบทางใจ มากกว่าตอนเป็นฆราวาสมาก อีกทั้งยังเป็นเพศภาวะเดียว ที่ทำให้เราเข้าถึงความบริสุทธิ์ทางกาย วาจา ใจ สูงสุดได้ เพราะวันๆ ตื่นมาก็คิดแต่เพียงว่า เราจะทำความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจให้เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างไร และเราจะฝึกตัวอย่างไร เพื่อให้หมดกิเลส แล้วเวลาผมไปนำชาวฝรั่งนั่งสมาธิ ก็ทำให้ผมมีความสุขมาก
 
        สุดท้ายนี้ผมอยากจะสรุปว่า ภาคฤดูร้อนนี้ มาบวชกันเถิดครับ ผมว่าการบวชนั้นเป็นสิ่งสากลที่แมนๆ ทุกคนทำได้ ขนาดฝรั่งอย่างผมยังมาบวชเลย ดังนั้นอย่าให้โอกาสผ่านไปอีกเลยครับ เพราะโอกาสเหมือน“ไอติม” ผ่านไปมันจะละลายครับ
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
พิธีอัญเชิญรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนีประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ วัดสองพี่น้องพิธีอัญเชิญรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนีประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ วัดสองพี่น้อง

กว่าจะเป็นธุดงค์ธรรมชัย ตอน รวมพลซุปเปอร์วี-ฝ่ายสนับสนุนกว่าจะเป็นธุดงค์ธรรมชัย ตอน รวมพลซุปเปอร์วี-ฝ่ายสนับสนุน

ความประทับใจการเดินธุดงค์ธรรมชัย ตอน อดีตมือปราบ แบกกลด จรดธรรมะ ชนะมารความประทับใจการเดินธุดงค์ธรรมชัย ตอน อดีตมือปราบ แบกกลด จรดธรรมะ ชนะมาร



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน