บทสวดมนต์


[ 20 มี.ค. 2556 ] - [ 18276 ] LINE it!

บทสวดมนต์

บทสวดมนต์ทำวัตรเช้า - เย็น
บทสวดมนต์
การสวดมนต์มีความหมายอย่างไร


     การสวดมนต์ในพระพุทธศาสนามีมาตั้งแต่สมัยพุทธกา

     การสวดมนต์ในพระพุทธศาสนามีมาตั้งแต่สมัยพุทธกา เป็นการสวดในสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้เพื่อไม่ให้ลืมในคำสอนนั้นๆ และทบทวนในสิ่งที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้ว เพราะในครั้งพุทธกาลยังไม่มีพระไตรปิฏก จึงต้องใช้การท่องจำ หลังพุทธปรินิพพานมีการสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่ 1 ก็ยังใช้การท่องจำสืบทอดต่อกันมา เรียกว่า "มุขปาฐะ" (หมายถึง การท่องด้วยปาก การกล่าวด้วยปาก การจดจำต่อเนื่องกันมาด้วยการสอนแบบปากต่อปาก) ดังนั้น จึงมีการคัดเอาคำสอนที่สำคัญมาสวดสาธยายกันอย่างเนืองนิตย์ คำสอนสำคัญเหล่านี้จึงกลายเป็นบทสวดมนต์ในที่สุด  ในบางคราวพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอาพาธได้มีพระภิกษุมาสาธยายพุทธมนต์ให้พระพุทธองค์ฟัง เช่น บทโพชฌงค์ 7 ทำให้พระองค์อาการอาพาธทุเลาลง ฉะนั้นบทสวดมนต์จึงมีอานุภาพมาก  นับแต่นั้นมาทั้งพระภิกษุและฆราวาสก็สวดมนต์เรื่อยมาเพื่อเป็นการทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้า

บทสวดมนต์และคาถามีความแตกต่างกันอย่างไร


บทสวดมนต์ หนังสือสวดมนต์ วิดีโอบทสวดมนต์ อานิสงส์ของการสวดมนต์
     บทสวดมนต์มีอานุภาพมากทั้งพระภิกษุและฆราวาสก็สวดมนต์เรื่อยมา
เพื่อเป็นการทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้า
 
 
     คำว่า "คาถา"  แปลว่า ร้อยกอง คำสอนของพระพุทธเจ้ามีทั้งบท ร้อยแก้ว และ ร้อยกอง 1 คาถา มี 2 บรรทัด 4 วรรค รวมกันเป็น 1 คาถา

     คำว่า "อาคม" แปลว่า พระสูตรในหลายๆ ครั้งเราจะได้ยิน 2 คำ นี้รวมกันเป็นคำว่า "คาถาอาคม"

     ในสมัยก่อนมีคาถาบทหนึ่งเอาไว้สวดให้ผู้หญิงที่คลอดยาก ชื่อว่า "คาถาพระปริตร" ที่มาของคาถานี้มาจาก "พระองคุลีมาล" ในครั้งนั้นท่านได้เดินไปเจอหญิงท้องแก่คนหนึ่ง ด้วยความกลัวหญิงท้องแก่นี้พยายามจะหนีเพราะกลัวพระองคุลีมาลจะทำร้ายตน (พระองคุลีมาลในตอนนี้ทรงบวชแล้ว) หญิงคนนี้ตั้งครรภ์มานานไม่ยอมคลอดได้รับความทรมานอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนั้น พระองคุลีมาลจึงเข้าไปโปรดด้วยการตั้งสัตยาธิษฐาน ว่า "ตั้งแต่ข้าพเจ้าออกบวชในสำนักของพระพุทธเจ้านี้ไม่เคยเลยที่จะปลงสัตว์จากชีวิตแม้ด้วยความคิดด้วยอานุภาพแห่งสัจวาจาขอความสวัสดีจงมีแด่น้องหญิงและทารกในครรภ์เทอญ"  สิ้นเสียงพระองคุลีมาลทารกในครรภ์ก็คลอดออกมาอย่างง่ายดายด้วยอานุภาพแห่งสัจวาจาของท่าน  นี้คือที่มาของ "คาถาทำคลอด" นันเอง (บทสวดมนต์ที่เราคุ้นเคยและได้ยินกันบ่อยนันก็คือ บทสวดมนต์ทำวัตร เช้า - เย็น, บทสวดพระปริตร บทให้พรของพระก็ถือว่าคาถาอย่างหนึ่งเช่นกัน) 
 
ความแตกต่างของบุญพิธีในที่ต่างๆ
 
หลายท่านอาจเคยสงสัยกันว่า ทำไมในแต่ละวัดจึงไม่เหมือนกัน บางที่มีพรมน้ำมนต์
บางที่มีสายสิญจน์ แต่บางที่ไม่มี เมื่อเป็นเช่นนี้ความศักดิ์สิทธิ์ต่างกันหรือไม่ 
 

บทสวดมนต์

 
     หลายท่านอาจเคยสงสัยกันว่า ทำไมในแต่ละวัดจึงไม่เหมือนกัน บางที่มีพรมน้ำมนต์ บางที่มีสายสิญจน์ แต่บางที่ไม่มี เมื่อเป็นเช่นนี้ความศักดิ์สิทธิ์ต่างกันหรือไม่   
   
     คำตอบ  สาระสำคัญหรือแก่นของบุญพิธีต่างๆ คือ "บทสวด" ที่สวดออกไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัย เป็นต้น ส่วนพิธีกรรมต่างๆ เช่น การพรมน้ำมนต์, การโยงสายสิญจน์  นี้เป็นส่วนประกอบ โดยที่สาระสำคัญยังคงเป็นบทสวดมนต์ เป็นการเสริมความศรัทธาความเชื่อมั่นและกำลังใจ ดังนั้น สามารถใช้ได้ เช่นกัน
 

     การไปร่วมงานสวดภาณยักษ์ เป็นบทสวดที่ธรรมดาไม่คุ้นเคย บางคนที่ไปร่วมงานต่างมีอาการแปลกๆ แสดงออกมา และสวดภาณยักษ์ไปเพื่ออะไร
 

     บทสวดภาณยักษ์ คือ เนื้อบทสวดภาณยักษ์เป็นบทสวดทางพระพุทธศาสนา เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องยักษ์ แต่สังเกตว่าจังหวะไม่เหมือนกัน พระไทย พระพม่า พระลังกา สวดมนต์บทเดียวกันเสียงไม่เหมือนกัน จังหวะ ทำนองของแต่ละท้องถิ่นก็ต่างไปได้แต่เนื้อหาสาระเหมือนกัน เช่น พระภาคกลางกับภาคเหนือจังหวะสวดก็ต่างกัน ความนิยมของแต่ละท้องที่ บทสวดภาณยักษ์อาจคิดว่าเกี่ยวข้องกับยักษ์จึงสวดแบบเสียงดุดัน จึงสวดเสียงดัง กระแทกกระทั้น สำหรับคนที่มาแล้วเกิดปฏิกิริยาท่าทางต่างๆ บางคนที่มาใจพร้อมจะแสดงออกมามีอายตนะ เมื่อเจอบทสวดบวกกับใจพร้อมจะเตลิดออกจากตัวเหมือนมีทรงหรือองค์เข้าต่างๆ นานา สิ่งเหล่านี้เป็นไปตามอายตนะ แต่ถ้าเป็นคนปกติหรือคนดีๆ ไม่เป็นแต่ต้องดูว่าคนดีก็อาจจะมีเชื้ออยู่ในใจ เช่นอาจจะมีอยู่แค่ 10-20% จึงไม่ออกอาการ และประเภทพวกนี้ชอบทางนี้ 70-80% สั่งสมมาข้ามชาติ
 
        เพราะฉะนั้นคนที่ไม่เป็นอาจจะเป็นได้ เกิดจากการเหนี่ยวนำจากสิ่งแวดล้อมต่อไปก็จะเป็นอีก จึงไม่แนะนำให้ไปอยู่ในพิธีกรรมที่ทำให้เราขาดสติ การฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ดีกว่า เพราะเป็นการตั้งสติระลึกถึงพระรัตนตรัย การสวดมนต์หรือฟังสวดต้องเป็นไปในทางที่ดีแต่ถ้าไปฟังเพื่อให้ขาดสติเหมือนเข้าทรงไม่ดี เพราะฉะนั้นเราหลีกเลี่ยงแต่รู้พอให้เป็นเกร็ดความรู้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปอยู่ในพิธีแบบนั้น เพราะเสียเวลา เสียภูมิธรรม บางครั้งอาจไปเหนี่ยวนำสิ่งไม่ดีที่มีอยู่ในตัวเราออกมา
 
 
     การสวดมนต์ควรสวดทุกวันหรือไม่ เป็นหน้าที่ที่เราต้องปฏิบัติหรือเป็นหน้าที่ของพระภิกษุสงฆ์

บทสวดมนต์
     การสวดมนต์เป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคน 

บทสวดมนต์


     การสวดมนต์เป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคน ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น เดิมแล้วเนื้อหาแต่ละท้องถิ่นมีหลากหลาย ระลึกนึกถึงพระรัตนตรัยหรือสวดมนต์ในบทที่แตกต่างกันไป ก่อนที่รัชกาลที่ 4 ขึ้นครองราชย์พระองค์ทรงออกผนวชอยู่ 20 กว่าพรรษาและมีพระปัญญามาก พระองค์จึงวางรูปแบบการทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็นทั้งประเทศให้เป็นแบบแผนเดียวกัน รูปแบบการสวดมนต์ การอาราธนาศีล พิธีกรรมสงฆ์ต่างๆ เช่น การถวายสังฆทาน การเจริญพระพุทธมนต์ สวด 7 ตำนาน 12 ตำนาน เป็นต้น ก็ปรับเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อความเป็นเอกภาพของพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นให้รู้ว่า มิใช่หน้าที่ของพระภิกษุเท่านั้น ชาวพุทธทุกคนอย่างน้อยทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ใช้เวลาไม่มากและเป็นประโยชน์ต่อเรา
 
 
     การสวดมนต์แบบเข้าใจความหมายกับไม่เข้าใจความหมาย อานิสงฆ์ที่ได้แตกต่างกันหรือไม่ และจะช่วยกันสืบต่อวัฒนธรรมนี้ต่อไปอย่างไร
 

ถ้าตั้งใจจริงสามารถบรรลุธรรมได้ใจจดจ่อนิ่งทำให้เข้าถึงธรรมได้
 
      ภาษาบาลี มี สระ คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ แค่ 8 ตัว ไม่เยอะเหมือนภาษาไทย เพราะฉะนั้นเวลาผสมเสียงออกมาจากในตัวได้ดี เพราะฉะนั้นเราสวดมนต์แม้จะไม่รู้ความหมายกมีประโยชน์ รู้โดยรวมว่าเป็นการสวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย สวดเพื่อตอกย้ำความเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นประโยชน์มาก การมีศรัทธาเป็นยอดทรัพย์ เมื่อมีศรัทธาในพระรัตนตรัยจะทำให้เรามีโอกาสสร้างบุญกุศลอื่นๆ อีกมากมาย  เหมือนดังในอดีตมีพระภิกษุท่านสาธยายพุทธมนต์ มีค้างคาวฟังอยู่แต่ค้างคาวไม่รู้เรื่องว่าพระสวดอะไร แต่ฟังภาษาบาลีฟังแล้วสบายใจเลื่อมใสในเสียงสวดมนต์ที่ไม่รู้แม้แต่น้อย จดจ่อกับเสียงสวดมนต์เมื่อตายได้ไปเกิดเป็นเทวดา จากสัตว์เดรัจฉานไม่ได้เกิดเป็นคนแต่ไปเป็นเทวดา
 
       เพราะฉะนั้นแค่การฟังเสียงสวดมนต์โดยไม่รู้ความหมายแท้จริงยังมีบุญขนาดนี้ แต่เราเป็นคนรู้เรื่องมากกว่าค้างคาว รู้ว่ากำลังสรรเสริญพระรัตนตรัยอยู่ ยิ่งถ้าได้สวดมนต์เองยิ่งกว่าการฟังบุญยิ่งเกิด และควรหาเวลาสวด หนังสือสวดมนต์มีคำแปลบอกแต่ไม่ต้องสวดบาลีคำไทยคำเพราะระบบไวยากรณ์ จะทำให้มีสมาธิมากกว่าหลังจากสวดเป็นภาษาบาลีจึงมาดูคำแปลทีหลังจะดีกว่า การสวดมนต์ถือเป็นการภาวนาอย่างหนึ่ง เราสวดมนต์ไปทำสมาธิไปด้วย ถ้าตั้งใจจริงสามารถบรรลุธรรมได้ใจจดจ่อนิ่งทำให้เข้าถึงธรรมได้ แต่ถ้ายังไม่บรรลุธรรมการสวดมนต์ช่วยเคลียร์ใจให้นิ่งระดับหนึ่ง เป็นพื้นฐานอย่างดีต่อการทำสมาธิ
 
        เพราะฉะนั้น โดยทั่วไปจะสวดมนต์ก่อนการนั่งสมาธิ ใจก็สบายถึงเวลานั่งสมาธิจึงนั่งได้ดี การสวดมนต์ให้ประโยชน์ทุกสถานแม้ไม่รู้ความหมายฟังสวดมนต์ก็ได้บุญ สวดมนต์เองบุญยิ่งเยอะ รู้ความหมายด้วยบุญยิ่งทับทวี รู้ความหมายด้วยทำสมาธิไปด้วยบุญมหาศาลถูกต้องตามหลักวิชา

รับชมวิดีโอ
  

รับชมคลิปวิดีโอข้อคิดจากบทสวดมนต์
ชมวิดีโอข้อคิดจากบทสวดมนต์   Download ธรรมะข้อคิดจากบทสวดมนต์

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูดวงเนื้อคู่ เนื้อคู่อยู่ไหน เนื้อคู่มีจริงหรือไม่ดูดวงเนื้อคู่ เนื้อคู่อยู่ไหน เนื้อคู่มีจริงหรือไม่

นิยามความรักนิยามความรัก

การสื่อสารไร้สายสมัยพุทธกาล ตอนที่ 1การสื่อสารไร้สายสมัยพุทธกาล ตอนที่ 1



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ข้อคิดรอบตัว