ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2556
กรณีศึกษา คุณปู่กระจ่าง ใจวงศ์ ตอนที่ 3
กรณีศึกษา คุณปู่กระจ่าง ใจวงศ์ ตอนที่ 3
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ที่ออกอากาศทางช่อง DMC
เมื่อตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น ได้เข้าไปกราบและสอบถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเผยแผ่ธรรมะในต่างแดนกับพระภิกษุหนุ่ม ที่ประสบความสำเร็จในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแคว้นรูปนั้นแล้ว พระภิกษุรูปนั้นก็ได้เมตตาถ่ายทอด และเล่าถึงประสบการณ์การเผยแผ่ธรรมะในต่างแดนให้ตัวลูกในภพชาตินั้น ได้รับฟังอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ หรือเรื่องของวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีในดินแดนต่างๆ ที่ตัวท่านได้ไปทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นต้น ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ ล้วนมีความแตกต่างไปจากแคว้นที่ตัวลูกในภพชาตินั้นอาศัยอยู่ทั้งสิ้น
พระภิกษุรูปนั้นได้เล่าการเผยแผ่ธรรมะในต่างแดนให้ตัวลูกฟังอย่างเต็มที่
ไม่เพียงแค่นั้น พระภิกษุหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแคว้นรูปนั้น ยังได้เล่าถึงเทคนิควิธีการการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่ตัวท่านได้ปรับประยุกต์ใช้ให้สอดคล้อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ในต่างแดน จนเป็นผลทำให้การเทศน์สอนของตัวท่าน สามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ที่เห็นผิด ให้กลับมาเห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สนุก ถูกใจและโดนใจตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น อย่างที่สุด ในใจของสามเณรบอกกับตัวเองว่า ท่านผู้นี้แหละ ใช่เลย
ท่านได้เล่าถึงเทคนิควิธีการการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแดน
ยิ่งไปกว่านั้น พระภิกษุหนุ่มรูปนี้ยังได้มอบคำสอนอันทรงคุณค่าให้กับตัวลูก หรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น ในทำนองที่ว่า “ถ้าหากน้องสามเณรมีความปรารถนาอยากที่จะเจริญรุ่งเรืองในเส้นทางธรรม เหมือนอย่างที่ตัวท่านเป็นอยู่นี้ น้องสามเณรก็จะต้องตั้งใจขวนขวายศึกษาร่ำเรียนธรรมะทั้งภาคปริยัติ, ปฏิบัติ และให้มีประสบการณ์ภายใน หรือที่เรียกว่าปฏิเวธ เพราะธรรมะทั้งภาคปริยัติ, ปฏิบัติและการมีประสบการณ์ภายในนี้ จะเป็นประดุจธรรมาวุธ ที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ตัวน้องสามเณร มีสมณะสัญญาและเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนาสืบไป
พระภิกษุหนุ่มรูปนี้ได้มอบคำสอนอันทรงคุณค่าให้กับสามเณรน้อย
ไม่เพียงแค่นั้น ธรรมะทั้งภาคปริยัติ, ปฏิบัติ และการมีประสบการณ์ภายใน หรือที่เรียกว่าปฏิเวธนี้ ยังจะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยทำให้ตัวน้องสามเณร สามารถที่จะตอบทุกข้อสงสัย และทุกข้อซักถามของมหาชนทั้งหลายได้องอาจกล้าหาญ ซึ่งจะเป็นผลทำให้การเผยแผ่ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถแผ่ขยายเข้าไปสู่ดวงใจของมหาชนได้อย่างกว้างขวางอีกด้วย”
เมื่อตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น ได้รับฟังคำสอนที่ดีงามจากพระภิกษุหนุ่มเช่นนั้นแล้ว ตัวลูกในภพชาตินั้น ก็เกิดความรู้สึกปลื้มปีติและประทับใจ ในตัวพระภิกษุหนุ่มรูปนี้เป็นอย่างมาก และจากจุดนี้เอง มันก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ที่ทำให้ตัวลูก หรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น เกิดความมุ่งมั่นอยากที่จะเป็นอย่างพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ ที่ประสบความสำเร็จในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแคว้น จนเป็นที่ชื่นชมอนุโมทนาของพระเถระและมหาชนทั้งหลายในยุคนั้น เรียกได้ว่าพระภิกษุรูปนี้ได้กลายเป็นต้นบุญต้นแบบในดวงใจของตัวลูกในภพชาตินั้นเลยทีเดียว
พระภิกษุรูปนี้ได้กลายเป็นต้นบุญต้นแบบในดวงใจของตัวลูกในภพชาตินั้น
และนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น จะสั่งสมบุญอะไรก็ตาม ตัวลูกก็มักจะชอบอธิษฐานจิตตอกย้ำอยู่เสมอๆ ว่า “ขอให้ตัวลูกเป็นผู้ที่สามารถรองรับงานพระศาสนาในทุกๆ ด้าน ได้ตามที่พระเถระปรารถนา และขอให้ตัวลูกเป็นที่ชื่นชมอนุโมทนาของพระเถระและมหาชนทั้งหลาย”
ตัวลูกมักจะชอบอธิษฐานจิตตอกย้ำอยู่เสมอๆ
นอกจากนี้ ตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น ยังได้ตั้งใจศึกษาร่ำเรียนธรรมะทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติ ด้วยความทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจอย่างเต็มที่เต็มกำลังเรื่อยมา ด้วยใจมุ่งมั่นว่า จะต้องเป็นดาวดวงเด่นในพระพุทธศาสนาดวงหนึ่งให้ได้
โดยทางภาคปริยัตินั้น ตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น ก็ได้ตั้งใจศึกษาร่ำเรียนธรรมะ และหัวข้อธรรมต่างๆ จากในพระไตรปิฎก และคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาต่างๆ และเมื่อตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น เกิดข้อสงสัยอะไรขึ้นมา ตัวลูกก็จะหมั่นเข้าไปหาพระอาจารย์พระพี่เลี้ยง หรือพี่เณรเก่งๆ ด้วยความเคารพนอบน้อม เพื่อสอบถามข้อข้องใจและข้อสงสัยต่างๆ เหล่านั้นอยู่เสมอๆ
ตัวลูกเป็นสามเณรที่มีความเป็นพหูสูตรูปหนึ่งในยุคนั้น
ไม่เพียงแค่นั้น ตัวลูกยังชอบฟังเทศน์ฟังธรรมจากพระอาจารย์ และพระพี่เลี้ยงเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวลูกในภพชาตินั้น มีความแตกฉานในธรรมะภาคปริยัติอย่างที่สุด เรียกได้ว่าตัวลูกเป็นสามเณรที่มีความเป็นพหูสูตรูปหนึ่งในยุคนั้นเลยทีเดียว
นอกจากตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น จะมีความแตกฉานในธรรมะภาคปริยัติเป็นอย่างดีแล้ว ในภาคปฏิบัติ ตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น ยังได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม และหมั่นประกอบความเพียร ด้วยการเจริญสมาธิภาวนาตามคำสอนของพระเถระ และพระอาจารย์พระพี่เลี้ยงเป็นอย่างดี อย่างเสมอต้นเสมอปลายอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเป็นผลทำให้ตัวลูก หรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี คือได้เข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายที่ชัดใสสว่างได้ในที่สุด
สามเณรน้อยในภพชาตินั้นได้เข้าถึงดวงธรรมภายในกลางกายที่ชัดใสสว่าง
และเมื่อตัวลูกหรือสามเณรน้อยในภพชาตินั้น ได้เจริญวัยเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นหรือเติบใหญ่ จนกลายเป็นสามเณรหนุ่มรูปงามแล้ว ตัวลูกก็ยิ่งมีความเชี่ยวชาญ และแตกฉานในธรรมะภาคปริยัติเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดที่ว่า ไม่ว่าใครจะตั้งคำถามที่พิเศษพิสดารขึ้นมาขนาดไหนก็ตาม ตัวลูกก็สามารถที่จะอธิบาย เทศน์สอน และไขความกระจ่างให้เกิดขึ้นกับผู้ที่มาถามได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเลยทีเดียว
ตัวลูกสามารถอธิบาย เทศน์สอน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ กิตติศัพท์อันดีงามของตัวลูกหรือสามเณรหนุ่มในภพชาตินั้น ได้เลื่องลือออกไปสู่สังคมโดยกว้าง จนเป็นผลทำให้มีสาธุชนเป็นจำนวนมาก อยากที่จะมาพบและมาสนทนาธรรมกับตัวลูก และเมื่อสาธุชนเหล่านั้น ได้มีโอกาสมาพบและสนทนาธรรมกับตัวลูก หรือสามเณรหนุ่มในภพชาตินั้นแล้ว พวกเขาก็ยิ่งเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในตัวลูกเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังได้พากันกล่าวขาน ยกย่องสรรเสริญ และชักชวนหมู่ญาติ รวมถึงสาธุชนท่านอื่นๆ ให้มาถวายปัจจัยไทยธรรมที่ประณีตแด่ตัวลูกอยู่เป็นประจำอีกด้วย
มีสาธุชนจำนวนมากที่อยากมาพบและมาสนทนาธรรมกับตัวลูก
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวลูก หรือสามเณรหนุ่มในภพชาตินั้น เริ่มเกิดความประมาท คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ดีแล้ว และก็ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติธรรมน้อยลง เมื่อตัวลูกหรือสามเณรหนุ่มในภพชาตินั้น ปฏิบัติธรรมน้อยลง จึงเป็นผลทำให้ตัวลูกในภพชาตินั้น เริ่มลืมความตั้งใจและมโนปณิธานดั้งเดิมที่ดีงาม ที่ตัวลูกมีความปรารถนาว่า สักวันหนึ่ง ตัวลูกจะต้องเป็นผู้ที่สามารถรองรับงานพระศาสนาในทุกๆ ด้าน ตามที่พระเถระท่านปรารถนาให้ได้
สามเณรหนุ่มในภพชาตินั้น อยากออกไปใช้ชีวิตอย่างชาวโลกทั่วๆ ไป
นอกจากตัวลูกหรือสามเณรหนุ่มในภพชาตินั้น จะเริ่มลืมความตั้งใจและมโนปณิธานดั้งเดิมที่ดีงามไปแล้ว ตัวลูกในภพชาตินั้น ยังเริ่มเห็นดีเห็นงาม และอยากที่จะออกไปใช้ชีวิตอย่างชาวโลกทั่วๆ ไปอีกด้วย
และเมื่อความคิดอยากที่จะออกไปใช้ชีวิตอย่างชาวโลก ได้วนเวียนอยู่ภายในใจของตัวลูกในภพชาตินั้น มากเข้า มากเข้า ในที่สุด ตัวลูกหรือสามเณรหนุ่มในภพชาตินั้น ก็ได้ลาสิกขาออกไปใช้ชีวิตอย่างชาวโลกตามที่ตัวลูกได้ตั้งใจเอาไว้นั่นเอง
ตัวลูกได้ลาสิกขาออกไปใช้ชีวิตอย่างชาวโลกและหลงไปคบคนพาล
ภายหลังจากที่ตัวลูกในภพชาตินั้น ได้ลาสิกขาออกมาแล้ว ตัวลูกในภพชาตินั้น ก็ได้หลงไปคบกับเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นคนพาล ซึ่งเพื่อนของลูกคนนี้ จะชอบชักชวนให้ตัวลูกไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข และใช้ชีวิตให้สนุกสนานเพลิดเพลินไปวันๆ โดยเปล่าประโยชน์ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวลูกค่อยๆ ห่างจากการสั่งสมบุญสร้างบารมี แล้วก็ห่างจากหมู่คณะออกไปทีละน้อย ทีละน้อย
แต่พอวันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป บุญในตัวของลูกในภพชาตินั้น ก็พลันได้ช่องตามมาส่งผล และกระตุ้นเตือนให้ตัวลูกได้คิด เมื่อได้คิด ตัวลูกก็คิดได้ว่า “โอ้..ตัวเรามัวมาทำอะไรอยู่นี่ ความจริงตัวเราก็ได้ศึกษาเรียนรู้มาแล้วว่า ชีวิตทางโลกมันเป็นชีวิตที่คับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี และยากที่จะสั่งสมบุญกุศลให้ได้ตลอดเวลา อีกทั้งสิ่งที่ตัวเรากำลังทำอยู่ในตอนนี้ มันก็ผิดไปจากความตั้งใจและจุดประสงค์ดั้งเดิมที่ตัวเราเองเคยตั้งใจเอาไว้มาก เพราะความประมาทของเราแท้ๆ จึงทำให้ตัวเราหลงผิดมาได้ถึงขนาดนี้ เราควรที่กลับไปบวชครองเพศสมณะที่สูงส่งและประเสริฐที่สุดดีกว่า”
บุญในตัวของลูกกระตุ้นเตือนให้ตัวลูกคิดได้
เมื่อตัวลูกในภพชาตินั้นคิดได้เช่นนี้แล้ว ตัวลูกก็เกิดความสลดใจเป็นอย่างมาก กับการกระทำที่ผ่านๆ มา แล้วในที่สุด ตัวลูกในภพชาตินั้น ก็ตัดสินใจที่จะออกบวชเพื่อกลับเข้ามาสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้ตัวลูกมีความตั้งใจ และมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าว่า ตัวลูกจะไม่ลาสิกขาออกมาอีกแล้ว ทำให้ลูกมีความรู้สึกแช่มชื่นในใจว่า วันนี้ดีใจที่ได้บวช
ส่วนว่าเมื่อตัวลูกในภพชาตินั้น ได้กลับมาบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ชีวิตการบวชของตัวลูกในภพชาตินั้นจะเป็นอย่างไร และจะมีอุปสรรคอันใดมาทำให้ตัวลูกต้องกลับไปอยู่ทางโลกอีกหรือไม่ อย่างไรนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในตอนต่อไป