วัดไร่ขิง
วัดไร่ขิง
วัดไทย ในจังหวัดนครปฐม
โสตถิเปโหตุสัพธา ขอจงผาสุขสวัสดิ์พิพัฒน์ผล
วัดไร่ขิงงานปิดทองต้องมายล แสนยิ่งใหญ่ในกระวนคนสามพราน
สร้างโรงเรียนโรงพยาบาลงานกุศล สร้างสะพานตัดถนนชนกล่าวขาน
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ สร้างตำนานฝากไว้ให้แผ่นดิน
วัดไร่ขิง หรือ วัดมงคลจินดาราม
พื้นที่แต่ก่อนเป็นไร่ขิงของชาวจีน
ประวัติความเป็นมาของวัดไร่ขิง
วัดไร่ขิง สร้างในปลายสมัยรัชกาลที่ ๓
โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์พุ๊กเจ้าอาวาสวัดศาลาปูน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ผู้เป็นอธิบดีสงฆ์ ๔ หัวเมือง แต่เดิมเป็นวัดราชตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครไชยศรี
ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พื้นที่แต่ก่อนเป็นไร่ขิงของชาวจีน เมื่อวัดเกิดขึ้นจึงเรียกชื่อวัดตามกลุ่มชุมชนว่า"วัดไร่ขิง" จนกระทั่งในราวปีพุทธศักราช ๒๔๕๖
สมเด็จพระมหาสมณะเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจเยี่ยมวัดในเขตอำเภอสามพราน จึ้งได้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า"วัดคงคาราม" แต่คนทั่วไปยังคงนิยมเรียกกันว่าวัดไร่ขิงแม้ปัจจุบันจะตั้งชื่อใหม่ว่า"วัดมงคลจินดาราม" คนยังเรียกวัดไร่ขิงเหมือนเดิม
กำแพงแก้วล้อมรอบอาคาร
อุโบสถวัดไร่ขิง
พระอุโบสถวัดไร่ขิง มีกำแพงแก้วล้อมรอบ
ตัวอาคารก่ออิฐถือปูนกว้าง ๔ วา ๒ ศอก ยาว ๑๒ วา
หลังคาทรงไทยมุงกระเบื้องซ้อน ๒ ชั้น ชั้นลด ๓ ชั้น มีช่อฟ้าใบระกา
หางหงส์และมุขยื่นหน้าหลัง หน้าบรรณตกแต่งด้วยไม้แกะสลัก
ลงรักปิดทองประดับกระจกสีลายดอกพุฒตาล
หันหน้าไปทางทิศเหนือซึ่งเป็นแม่น้ำนครไชยศรี
เหนือกรอบประตูหน้าต่างตกแต่งด้วยลายปูนปั้น
ลงรักปิดทองประดับกระจกผสมลายไทย จีนและฝรั่ง
ลายกระเช้าดอกไม้แห่งความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งนิยมมากในสมัยปลายรัชกาลที่ ๓
ภาพพุทธประวัติที่งดงามมากในอุโบสถวัดไร่ขิง
ผนังพระอุโบสถวัดไร่ขิง แต่เดิมปล่อยว่าง ในสมัยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์เป็นเจ้าอาวาสได้ให้ช่างเขียนภาพจิตรกรรม พุทธประวัติที่งดงามมาก รวมทั้งภาพการเผยแผ่พระพุทธศาสนาครั้งแรกในสุวรรณภูมิ ภาพพุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ ภาพเจดีย์สามจิ ภาพนาคราชเอราปัต เป็นต้น ด้านหลังพระประธานเป็นภาพเมืองแก้ว ซึ่งอาจหมายถึงพระบรมมหาราชวังหรือกรุงเทพมหานคร เมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยพระพุทธศาสนา
บานประตูและหน้าต่างด้านนอกเป็นภาพเทพยดา
บานประตูและหน้าต่างด้านนอกตกแต่งด้วยลวดลายไทยประดับมุขเป็นภาพเทพยดาแซมอยู่ในลายก้านขดกนกยอดเปลว ฝีมือละเอียดชั้นครูที่น่าชื่นชมมาก บานประตูด้านหลังประดับมุขเป็นรูปสัตว์หิมพานต์ในวงกลม เช่น รูปกินรี หงส์ นาค และราชสีห์เป็นต้น บานประตูด้านในเขียนรูปเสี้ยวกลางหรือทวารบานแบบจีน บานหน้าต่างด้านในเป็นทวารบานแบบไทย ใบเสมาสลักจากหินแกรนิตสีเขียวเข้มเป็นลายนาคสามเศียร ตรงกลางเป็นรูปทับทรวงและสร้อยสังวาลย์ ยอดพระเกี้ยวแบบเดียวกับใบเสมาวัดบวรนิเวศวิหารตั้งอยู่บนฐานย่อมุม
พระประธาน วัดไร่ขิง งดงามสง่าแบบพระสมัยสุโขทัย
พระพุทธรูปเชียงแสนสมัยสุโขทัย
เนื่องจากมีผู้มาทำบุญอยู่
ตลอดเวลาทางวัดจึงสร้างหลังคาคุ้มแดด คุ้มฝนค่อนข้างถาวรไว้
แม้จะลดความงามของพระอุโบสถลงไปบ้างก็ตาม พระประธานเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์
พระวรกายงดงามสง่าแบบพระพุทธรูปเชียงแสน แต่สังฆาฏิ จีวรและพระหัตถ์
เหมือนพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย พระพักตร์ออกสี่เหลี่ยม พระเนตรหลบต่ำ
พระสพละม้ายไปทางสมัยอู่ทอง รูปแบบพุทธศิลป์ต่างยุคสมัยกันเช่นนี้
สันนิษฐานกันว่าเดิมเป็นพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากภาคเหนือ มาไว้ที่หน้าวัดศาลาปูนแต่เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่พระเศียรชำรุด
มาก จึงได้ทำการซ่อมแซมเมื่อแล้วเสร็จได้อัญเชิญใส่แพล่องมาเป็นพระประธานที่วัด
ไร่ขิง ต่อมาที่วัดไร่ขิงก็ได้มีการซ่อมแซมโดยเฉพาะพระเศียรและพระสพขึ้นใหม่อีก และจัดให้มีการปิดทองทุกปี
รับชมวิดีโอ