วัดพิกุลทอง
วัดพิกุลทอง
วัดไทย ในจังหวัดนนทบุรี
พิกุลทองมองเห็นพิกุลสวย ยังชื่นใจเหลือเค้าให้เล่าขาน
บางกอกน้อยเคยลอยเรือเลาะริมทาง แต่ก่อนการนับร้อยปีที่เป็นมา
โอ้วัดเอ๋ยเคยเอกาในป่ารื่น มาครั่นครื้นด้วยเรือนบ้านดูหรรษา
อุโบสถแจ่มกระจ่างกลางธารา เห็นมัจฉาเวียนว่ายในวารี
บางกอกน้อยเคยลอยเรือเลาะริมทาง แต่ก่อนการนับร้อยปีที่เป็นมา
โอ้วัดเอ๋ยเคยเอกาในป่ารื่น มาครั่นครื้นด้วยเรือนบ้านดูหรรษา
อุโบสถแจ่มกระจ่างกลางธารา เห็นมัจฉาเวียนว่ายในวารี
วัดพิกุลทอง
วัดพิกุลทองเป็นวัดเก่าแก่ไม่ทราบประวัติผู้สร้าง
คลองบางกอกน้อยสายน้ำที่ทอดยาวจากแม่น้ำเจ้าพระยาลดเลี้ยวไปถึงจังหวัดนนทบุรี ผ่านวัดต่างๆมากมายรวมทั้งวัดพิกุลทองซึ่งตั้งอยู่ในเขตตำบลวัดชะลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี วัดพิกุลทองเป็นวัดเก่าแก่ไม่ทราบประวัติผู้สร้างได้มีการบูรณะขึ้นใหม่อย่างดีในชั้นหลัง มีพื้นที่ทั้งหมด ๙ ไร่ ๙๐ ตารางวา อาณาเขตติดลำคลองด้านทิศใต้และทิศตะวันตกอีก ๒ ด้านติดพื้นที่ของเอกชน ซึ่งปัจจุบันทางวัดขอใช้เป็นทางเข้า-ออก
พระอุโบสถ
อุโบสถกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๕ เมตร
อุโบสถกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๕ เมตร สร้างขึ้นใหม่เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๙ ตั้งอยู่กลางน้ำโดยสร้างเป็นสระล้อมรอบ มีปลาใหญ่ น้อย จากคลองข้างวัดเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก แต่ทางวัดกำลังจะปรับรากฐานใหม่เพื่อให้มั่นคง ไม่ทรุดตัว ลักษณะอาคารเป็นอาคารทรงไทย หลังคามุงกระเบื้องลด ๓ ชั้น ซ้อน ๒ ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา นาคสะดุ้ง หน้าบรรณด้านหน้าแบ่งลายเป็น ๒ ชั้น ชั้นบนเป็นพระพุทธรูปประทับยืนพร้อมอัครสาวก ถัดลงมาสลักเป็นรูปพระไตรปิฎกตั้งบนพานแว่นฟ้า มีเทพพนมซ้าย-ขวา หน้าบรรณด้านหลังต่างกับด้านหน้าที่เป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑอุโบสถมีประตูทางเข้า ๓ ประตู ซุ้มประตูทรงมงกุฎ บานประตูกลางสลักลายมังกรใหญ่ ๑ ตัว ลูกมังกร ๔ ตัว ซึ่งน่าจะมีความหมายกับผู้สร้าง
พระประธานวัดพิกุลทอง
พระประธานเรียกกันว่า หลวงพ่อขาว
ซุ้มสีมาทรงกูดแสดงว่าผู้สร้างแต่แรกหรือผู้บูรณะคงเป็นระดับเสนาบดีผู้ใหญ่ในบ้านเมือง พระประธานเรียกกันว่า "หลวงพ่อขาว" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างมาประมาณ ๗๕ ปีประทับโดดเด่นอยู่ภายในอุโบสถ พื้นผนังทาสีขาวเรียบตัดกับบานประตูหน้าต่างสีแดง ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์และพระพุทธรูปเป็นที่สักการะของคนทั่วไป เยื้องกับอุโบสถเป็นกุฏิเจ้าอาวาส
หอสวดมนต์
เรือนปั้นหยา ๒ ชั้นทรงโบราณเป็นหอสวดมนต์และอาคารปฏิบัติธรรม
มีทางเดินต่อเนื่องไปยังเรือนปั้นหยา ๒ ชั้นทรงโบราณใช้เป็นหอสวดมนต์และอาคารปฏิบัติธรรมหน้าเรือนได้รับการตกแต่งสวนหย่อมอย่างสวยงาม ภายในยังคงความร่มเย็นตามลักษณะของเรือนไทย เรือนหลังนี้ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของผู้สนใจทั่วไป สามารถมานั่งสมาธิได้ทุกวันทางวัดได้แยกที่นั่งชายหญิงอยู่คนละชั้น มีพระอาจารย์บอกกรรมฐานนำนั่งสมาธิทุกวัน บริเวณโดยรอบพระอารามยังคงความร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่น้อย พร้อมทั้งลำคลองบางกอกน้อยที่ไหลทอดมาทางข้างวัด ทำให้นึกถึงบรรยากาศเมื่อยังใช้ลำคลองเป็นทางบิณฑบาต สัญจรของพระ และชาวบ้าน ซึ่งปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว