ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 16 พฤษภาคม 2556กรณีศึกษา คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 19
คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 19เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ที่ออกอากาศทางช่อง DMCฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะเมื่อพระราชาทรงตัดสินพระทัยอย่างแน่วแน่แล้วว่า “พระองค์จะทรงสละราชสมบัติทั้งหมดแล้วก็เสด็จออกผนวช” พระองค์ก็ทรงนำราชสมบัติส่วนพระองค์ทั้งหมด มาแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน จากนั้นพระองค์ก็ทรงนำราชสมบัติของพระองค์ส่วนที่ 1 มาแจกจ่ายเป็นมหาทานให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในแคว้นของพระองค์พระราชาทรงตัดสินพระทัยสละราชสมบัติทั้งหมดเพื่อเสด็จออกผนวชส่วนราชสมบัติของพระองค์ส่วนที่ 2 นั้น พระองค์ก็ทรงนำมาแจกจ่ายให้กับบรรดานายทหารและเหล่าข้าราชบริพารทั้งหลาย ผู้จงรักภักดีและสนองงานรับใช้พระองค์มาโดยตลอด สำหรับราชสมบัติของพระองค์ส่วนสุดท้ายนั้น พระองค์ทรงมอบหมายให้ข้าราชการคนสนิทที่ดูแลท้องพระคลัง เป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติในส่วนนี้ เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบต่อไปภายหลังจากที่พระราชาทรงแจกจ่าย และจัดการเกี่ยวกับราชสมบัติส่วนพระองค์ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็ทรงมีพระประสงค์ที่จะเสด็จออกผนวชแบบเงียบๆ แต่เมื่อบรรดานายทหารและเหล่าข้าราชบริพารทั้งหลาย ได้ทราบถึงพระประสงค์ของพระองค์ พวกเขาทั้งหมดต่างก็ได้ร่วมกันกราบทูล ขอที่จะจัดงานพระราชพิธีเสด็จออกผนวชให้ยิ่งใหญ่ และสมพระเกียรติของพระองค์ เพื่อให้ประชาชนทั้งหลายได้ร่วมอนุโมทนากับการเสด็จออกผนวชของพระองค์ไปด้วยพระราชามีพระประสงค์จะเสด็จออกผนวชแบบเงียบๆเมื่อพระราชาทรงได้เห็นถึงความตั้งใจอันดีงาม ของบรรดานายทหารและเหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายแล้ว พระองค์จึงทรงอนุมัติ และอนุญาตให้พวกเขาทุกคนได้จัดงานให้กับพระองค์อย่างยิ่งใหญ่แต่ให้เรียบง่ายที่สุดเมื่อบรรดานายทหารและเหล่าข้าราชบริพารทั้งหลาย ได้รับการอนุมัติและอนุญาตจากพระราชาแล้ว พวกเขาทุกคนต่างก็ได้ร่วมกันป่าวประกาศข่าวอันเป็นมงคล เกี่ยวกับงานพระราชพิธีเสด็จออกผนวชของพระราชานี้ ให้ประชาชนทั้งหลายได้รับรู้อย่างทั่วถึงกันเหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายได้ป่าวประกาศข่าวอันเป็นมงคลให้ประชาชนได้รับรู้ทันทีที่ประชาชนทั้งหลายได้ทราบข่าวอันเป็นมงคลเช่นนั้นแล้ว แต่ละคนต่างก็เกิดความรู้สึกที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น บางส่วนก็เกิดความรู้สึกปลื้มปีติยินดี และอนุโมทนากับการเสด็จออกผนวชของพระราชาเป็นอย่างมาก หรือบางส่วนก็เกิดความรู้สึกเสียดายกับการตัดสินพระทัยเสด็จออกผนวชของพระราชา ที่พวกเขาเกิดความรู้สึกเช่นนี้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะพวกเขา อยากที่จะให้พระราชาพระองค์นี้ ซึ่งเป็นผู้ที่เพียบพร้อมด้วยพระปรีชาสามารถ และตั้งอยู่ในธรรมเสมอมา ปกครองแผ่นดินผืนนี้ต่อไปนานๆ เป็นต้นแม้ว่าประชาชนแต่ละคน จะมีความรู้สึกที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไปก็ตาม แต่ถึงกระนั้น ประชาชนทุกๆ คน ก็อยากที่จะมาร่วมอนุโมทนาในงานพระราชพิธีเสด็จออกผนวชของพระราชาด้วยกันทั้งนั้นประชาชนทุกๆ คน มาร่วมอนุโมทนาในงานพระราชพิธีเสด็จออกผนวชของพระราชาไม่เพียงแค่นั้น ข่าวอันเป็นมงคลนี้ยังได้แพร่สะพัด และขจรขจายไปถึงแคว้นเพื่อนบ้านข้างเคียงอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ เมื่อถึงวันงานพระราชพิธีเสด็จออกผนวชของพระราชา ประชาชนทั้งหลาย ทั้งที่อาศัยอยู่ภายในแคว้นและภายนอกแคว้น ต่างก็ได้หลั่งไหลพากันมาร่วมงานนี้อย่างมากมาย แบบสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียวและเมื่อถึงช่วงเวลาอันสำคัญ พระราชาทรงออกผนวชโดยอาศัยพาหนะคือ ช้าง พระราชาซึ่งประทับนั่งอยู่บนหลังช้างมงคล พร้อมด้วยขบวนเสด็จอันยิ่งใหญ่ ที่ประกอบด้วยช้าง ม้า และบรรดาขุนพลนายทหารทั้งหลาย ก็ได้เคลื่อนขบวนผ่านมวลหมู่ประชาชน ทั้งที่อาศัยอยู่ภายในแคว้นและภายนอกแคว้น ที่มารอคอยต้อนรับพร้อมกับโปรยดอกไม้หอมนานาพรรณตลอดเส้นทาง จากพระราชวังไปจนถึงวัดของพระมหาเถระ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของแคว้น และทันทีที่พระราชาได้เสด็จไปถึงที่บริเวณหน้าวัดของพระมหาเถระแล้ว พระองค์ก็ได้เสด็จลงมาจากหลังช้าง เพื่อไปเปลี่ยนพระภูษาทรงให้เป็นชุดขาวที่ดูสะอาดและเรียบง่าย ก่อนที่จะเสด็จเข้าไปยังวัดของพระมหาเถระพระราชาทรงออกผนวชโดยอาศัยพาหนะคือช้างมงคลและเมื่อพระราชาได้เสด็จเข้าไปอยู่ภายในวัดของพระมหาเถระแล้ว พระองค์ก็ทรงประกอบพิธีถวายอัฐบริขารและเครื่องไทยธรรมต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมมาเป็นอย่างดีแด่คณะสงฆ์ทั้งหมด ที่อยู่ภายในวัดแห่งนั้น จากนั้นพระราชาก็ได้ตรัสปวารณาแด่พระมหาเถระ และคณะสงฆ์ทั้งหมดในทำนองที่ว่า “ถ้าหากพระคุณเจ้ามีความปรารถนาอยากที่จะใช้จ่ายทรัพย์เพื่องานสำคัญทางพระพุทธศาสนาแล้ว ก็ขอให้พระคุณเจ้าไปแจ้งบอกกับทางข้าราชการคนสนิท ที่ดูแลท้องพระคลังของพระองค์ได้เลย เพราะเขาจะคอยดูแลและจัดการเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อยู่ตลอดเวลา”พระราชาถวายอัฐบริขารและเครื่องไทยธรรมต่างๆ แด่คณะสงฆ์เมื่อพระราชาได้ตรัสปวารณาแด่พระมหาเถระและคณะสงฆ์ทั้งหมด ที่อยู่ภายในวัดแห่งนั้นเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็ทรงออกผนวชอย่างยิ่งใหญ่ แต่เรียบง่ายอยู่ภายในวัดแห่งนั้น และหลังจากที่พระราชาทรงออกผนวชแล้ว พระองค์ก็ทรงตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม และศึกษาเรียนรู้ธรรมะภายในกับพระมหาเถระ ด้วยใจที่จดจ่อและมุ่งมั่น ที่จะทำความบริสุทธิ์ภายในให้ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไปแต่เพียงอย่างเดียว โดยที่ใจของพระองค์ไม่ได้ไปเกาะเกี่ยวในเรื่องใดๆ เลย เพื่อที่จะได้เข้าไปกำจัดต้นตอแห่งกิเลสทั้งหลาย ที่คอยบังคับสรรพสัตว์ทั้งปวง เปรียบเสมือนพระราชาผู้เข้าสู่สมรภูมิรบภายใน สมดังเป็นผู้กล้าที่แท้จริงพระองค์ทรงตั้งใจปฏิบัติธรรมและศึกษาเรียนรู้ธรรมะภายในกับพระมหาเถระส่วนผู้ที่มาสืบทอดราชบัลลังก์ต่อจากพระราชาในยุคนั้น ก็คือพระราชโอรสของพระเจ้าอา ซึ่งมีพระชนมายุน้อยกว่าพระองค์นั่นเอง ภายหลังจากที่พระราชาได้เสด็จออกผนวชไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ข่าวการเสด็จออกผนวชของพระองค์ ก็ได้แพร่สะพัดออกไปอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งไปถึงทั่วทุกแคว้นบนโลกในยุคนั้นเลยทีเดียวพระราชโอรสของพระเจ้าอามาสืบทอดราชบัลลังก์ต่อจากพระราชาในยุคนั้นส่วนสาเหตุที่ทำให้ข่าวการเสด็จออกผนวชของพระองค์ ได้แพร่สะพัดออกไปอย่างกว้างขวางเช่นนี้นั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะการที่พระราชาในยุคนั้น จะตัดสินพระทัยสละทิ้งความสะดวกสบาย และความเพียบพร้อมในทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็เสด็จออกผนวชเช่นนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยข่าวการเสด็จออกผนวชของพระองค์ได้แพร่สะพัดออกไปอย่างกว้างขวางกอปรกับในยุคสมัยนั้น ผืนแผ่นดินของแต่ละแคว้น ก็เชื่อมต่อถึงกันเป็นผืนใหญ่ อีกทั้งผู้คนก็มีรูปร่างหน้าตา และภาษาที่คล้ายคลึงกันทั่วทั้งโลก ซึ่งถ้าจะอุปมาให้เห็นภาพง่ายๆ ก็จะคล้ายๆ คนไทยกับคนลาว ที่มีรูปร่างหน้าตาและภาษาที่คล้ายคลึงกันนั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ข่าวการเสด็จออกผนวชของพระองค์ เป็นที่เลื่องลือและกลายเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วทุกแคว้นในยุคนั้นนั่นเองส่วนตัวเธอหรือนายทหารราชองครักษ์หนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ทันทีที่ตัวเธอได้ทราบข่าวการเสด็จออกผนวชของพระราชาแล้ว ตัวเธอก็เกิดความรู้สึกที่ประหลาดใจ และมีคำถามเกิดขึ้นมาภายในใจอย่างมากมาย ซึ่งตัวเธอก็ได้แต่เก็บงำความรู้สึกสงสัยต่างๆ เหล่านั้นเอาไว้อยู่ภายในใจของเธอเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อพระราชาได้เสด็จออกผนวชไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น จึงได้มีโอกาสเดินทางไปกราบและฟังธรรมะจากพระเถระหรืออดีตพระราชาในยุคนั้นนายทหารหนุ่มได้เดินทางไปกราบและฟังธรรมะจากพระเถระหรืออดีตพระราชาในยุคนั้นและเมื่อตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ได้ฟังธรรมะจากพระเถระหรืออดีตพระราชาในยุคนั้นแล้ว ตัวเธอก็เกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจในรสพระธรรม ที่พระเถระได้เมตตาแสดงเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่นั้น ความรู้สึกสงสัยต่างๆ ที่ติดค้างอยู่ภายในใจของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต หรือเรื่องราวการเสด็จออกผนวชของพระราชาเป็นต้น ยังได้คลี่คลายและมลายหายไปจากใจของเธอจนหมดสิ้นอีกด้วยนายทหารหนุ่มได้ฟังธรรมะจากพระเถระและซาบซึ้งใจในรสพระธรรมและยิ่งตัวเธอหรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมร่วมกับพระเถระหรืออดีตพระราชาในยุคนั้น พร้อมกับสาธุชนผู้มีบุญทั้งหลายแล้ว ตัวเธอก็สามารถปล่อยใจไปตามเสียงของพระเถระได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ใจของเธอ สามารถกลับมารวมหยุดนิ่งจนได้เข้าถึงความสว่างไสวภายใน ที่มาพร้อมกับความสุขใจแบบที่ตัวเธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลยในชีวิต และในตอนนี้ตัวเธอมีใจที่แย้มแล้วนายทหารหนุ่มมีโอกาสปฏิบัติธรรมร่วมกับพระเถระจนเข้าถึงความสว่างภายในได้ส่วนว่าภายหลังจากที่ตัวเธอ หรือนายทหารหนุ่มรูปหล่อในภพชาตินั้น ได้เข้าถึงความสุขและความสว่างภายในแล้ว ชีวิตของตัวเธอจะเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน เราก็คงจะต้องมาอดใจรับฟังกันต่อในวันถัดไปกรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
กรณีศึกษา คุณพ่อตายแล้วไปเป็นภุมมเทวา ตอนที่ 19
[ 18 พ.ค. 2556 ] - [ 18273 ]
Desktop Version
