การสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแต่ละพระองค์ก็สร้างบารมีกันมายาวนาน ทรงเกิดในภพต่างๆ เป็นอันมาก และด้วยการเวียนว่ายตายเกิด ด้วยการฝึกฝนอดทน มุ่งมั่นตั้งใจอย่างมาก จึงเป็นเหตุให้พระพุทธองค์ทรงมีปัญญากว้างขวาง เป็นพระสัพพัญญูรอบรู้ทุกสิ่งทั้งปวง เพราะพระองค์ได้สะสมปัญญามาจากการเกิดในแต่ละชาติ จึงทำให้พระองค์เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่า โลกนี้มีแต่ความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นทุกข์ที่เกิดจากตนเองและที่เกิดมาจากคนอื่น เมื่อมีความคิดอย่างนี้เกิดขึ้น จึงมีความคิดที่จะกำจัดทุกข์ออกไปอย่างถาวร นอกจากนี้ยังตั้งใจที่จะนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากวงจรแห่ง ความทุกข์นี้ไปด้วย พระองค์จึงได้เริ่มสร้างบารมี ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ด้วยความเพียรพยายามและด้วยความอดทนเป็นเวลายาวนานหลายกัป จนเมื่อบารมีเต็มเปี่ยมบริบูรณ์แล้ว ก็จะเสด็จมาอุบัติขึ้นยังมนุสสภูมิที่ชมพูทวีป และจะทรงเสด็จอุบัติขึ้นเฉพาะอสุญกัปเท่านั้น เพื่อมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำพระสัทธรรมมาสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากวงจรทุกข์ไปสู่พระ นิพพาน ด้วยเหตุนี้ประกอบกับระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้ง 3 ประเภท จึงทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นได้ยาก บนโลกนี้ แต่ก็ได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้แล้วหลายพระองค์อุปมาเหมือนเม็ด ทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง 4 มากมายเพียงนั้น
แต่ด้วยการสั่งสมบารมีและฝึกฝนตนเองที่ใช้เวลายาวนานไม่เท่ากัน และด้วยผลกรรมที่ได้กระทำไว้ในอดีตทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรม จึงทำให้บารมีของแต่ละพระองค์มีไม่เท่ากัน และต้องได้รับผลจากที่ได้กระทำไว้ในอดีตที่แตกต่างกัน จึงทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีความแตกต่างกันในชาติสุดท้ายที่เสด็จมา ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น บุคคลใดก็สามารถที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ เพราะตำแหน่งนี้มิได้ผูกขาดแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง แต่ทุกคนสามารถที่จะเป็นได้ทั้งนั้น ถ้ามีใจปรารถนาแล้วสั่งสมบุญบารมีในทุกบุญไม่ได้ขาดเลยในทุกเวลานาทีของทุก วันตามอย่างของพระพุทธองค์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และตั้งใจฝึกฝนตนเองในมีนิสัยที่ดีเกิดขึ้น โดยการละเว้นจากอกุศลกรรมทุกอย่าง ไม่ว่าใครจะรู้เห็นหรือไม่ก็ตาม แล้วมีใจปรารถนาที่มั่นคงแน่วแน่ ต่อเป้าหมายที่ตนต้องการ ไม่ทอดถอนหรือหมดกำลังใจเสียก่อน เมื่อถึงที่สุดแล้ว ผลแห่งกุศลกรรมก็จะส่งผลให้เรา ทั้งในระดับที่ทำให้จิตใจงาม รูปร่างลักษณะดี มีบุคลิกน่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจ น่าเกรงขามและเป็นผู้มีชื่อเสียงดี มีคนอยากที่จะคบค้าสมาคมด้วย เมื่อถึงคราวที่ปฏิบัติธรรมก็เข้าถึงธรรมกาย คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่อยู่ภายในตัวของทุกคนได้ง่ายหมดกิเลสเข้าพระนิพพาน ตามอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในหลายๆ พระองค์ที่ได้ทำมาแล้ว
พุทธประวัติ - พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือใคร
เมื่อกล่าวถึงความหมายของคำว่า “ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” จะมีความหมายที่สำคัญอยู่ 2 นัย คือ
กายเนื้อที่ประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษนี้ มีความไม่เที่ยงเป็นทุกข์และเป็นอนัตตา จึงมีความแก่ความเจ็บและความตาย เหมือนบุคคลทั่วไป แต่กายนี้เป็นร่างกายของบุคคลผู้ประเสริฐสูงสุด เพราะได้ทรงสั่งสมบ่มบารมีมาหลายภพหลายชาติจนบารมีเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ จึงได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า และเมื่อเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ร่างกายนี้ย่อมสูญสิ้นไป
ดังที่นิยามมาข้างต้น พอสรุปในความหมายที่สองได้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระธรรมกายที่อยู่ภายในร่างกายของพระพุทธเจ้า ที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะที่มีกายเนื้ออันประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ ดังมีพุทธพจน์ยืนยันไว้ว่า
และที่ทรงกล่าวไว้ว่า
จากที่กล่าวมาทั้งหมดพอจะสรุปนิยามของคำว่า “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ว่ามีความหมายอยู่ 2 นัย ในความหมายแรก คือ ร่างกายพระสมณโคดมพุทธเจ้า เป็นกายมนุษย์ที่ถึงพร้อมด้วยลักษณะมหาบุรุษผู้เป็นศาสดาเอกของโลก ส่วนความหมายที่ 2 คือ กายธรรมหรือธรรมกาย หมายถึง พระธรรมกายที่ซ้อนอยู่ภายในร่างกายของพระองค์ ที่ทำให้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างสมบูรณ์
หากจะกล่าวความหมายโดยสรุปจากในนัยสำคัญทั้ง 2
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระมหาบุรุษ ผู้ประกอบด้วยกายลักษณะมหาบุรุษอันมีพระธรรมกายซ้อนอยู่ภายใน เป็นผู้ห่างไกลจากกิเลส ผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นครูของมนุษย์และเทวดา เป็นศาสดาเอกของโลก
พุทธประวัติ - การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นการยาก
พุทธประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
การมาบังเกิดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน มาก เพื่อฝึกฝนอบรมตนเองให้สะอาดบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา และใจ สั่งสมบารมีให้บรรลุถึงความสมบูรณ์ทุกประการ สั่งสมความเป็นครูของโลก เพื่อจะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นไปด้วย เพราะพระองค์ไม่ได้เกิดมาเพื่อตนเองเพียงคนเดียว แต่เกิดมาเพื่อที่จะยกตนและสรรพสัตว์ให้พ้นจาก วัฏสงสารนี้ให้ได้ ดังพุทธดำรัสที่ว่า
“ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เป็นเอกเมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก…. เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย…. ความปรากฏแห่งบุคคลผู้เป็นเอกหาได้ยากในโลก …. บุคคลเป็นเอกเมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้น เป็น อัจฉริยมนุษย์…. กาลกิริยาของบุคคลผู้เป็นเอกเป็นเหตุแห่งความเสียใจของคนเป็นอันมาก …. บุคคลผู้เป็นเอก…. ย่อมเกิดขึ้นเป็นผู้ไม่มีที่สอง ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ…. เป็นผู้เลิศกว่าสัตว์ทั้งหลาย…. ความปรากฏแห่งบุคคลผู้เป็นเอกเป็นความปรากฏแห่งจักษุใหญ่ แห่งแสงสว่างใหญ่ แห่งความรุ่งโรจน์ใหญ่ แห่งอนุตตริยะ 6 เป็นการกระทำให้แจ้งปฏิสัมภิทา 4 เป็นการแทงตลอดธาตุเป็นอันมากและธาตุต่างๆ เป็นการทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล บุคคลเป็นผู้เอกเป็นไฉน คือพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า”
ทัสสนานุตตริยะ การเห็นยอดเยี่ยม คือ การได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สวนานุตตริยะ การฟังยอดเยี่ยม คือ การได้ฟังพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ลาภนุตตริยะ การได้ยอดเยี่ยม คือ การได้ศรัทธาเชื่อในคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สิกขานุตตริยะ การศึกษายอดเยี่ยม คือ การได้ฝึกหัดตนตามหลักไตรสิกขา
ปาริจริยานุตตริยะ การรับใช้ยอดเยี่ยม คือ การได้รับใช้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการฝึกหัดตนตามหลักไตรสิกขา
อนุสสตานุตตริยะ การหมั่นระลึกถึงยอดเยี่ยม คือ การหมั่นระลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พุทธประวัติ - ประเภทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
1. พระปัญญาธิกพุทธเจ้า คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงสร้างบารมีชนิดปัญญาแก่กล้า ทรงมีพระปัญญามาก แต่มีพระศรัทธาน้อย โดยมีระยะเวลาในการสร้างบารมี 20 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป ซึ่งมีระยะเวลาในการสร้างบารมีแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ทรงดำริในพระทัย โดยไม่ได้เอ่ยปากบอกใคร ใช้เวลา 7 อสงไขย
ระยะที่ 2 เปล่งวาจา คือการออกปากบอกบุคคลอื่น พร้อมๆ กับสร้างบารมีไปด้วย ใช้เวลา 9 อสงไขย
ระยะที่ 3 เมื่อได้รับพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งแรกว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้เวลาอีก 4 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป
2. พระสัทธาธิกพุทธเจ้า คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงสร้างบารมีชนิดศรัทธาแก่กล้า มีศรัทธามาก แต่มีพระปัญญาปานกลาง โดยมีระยะเวลาในการสร้างบารมี 40 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป ซึ่งมีระยะเวลาในการสร้างบารมีแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ทรงดำริในพระทัย โดยไม่ได้เอ่ยปากบอกใคร ใช้เวลา14 อสงไขย
ระยะที่ 2 เปล่งวาจา ใช้เวลา 18 อสงไขย
ระยะที่ 3 เมื่อได้รับพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งแรกว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้เวลาอีก 8 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป
3. พระวิริยาธิกพุทธเจ้า คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงสร้างบารมีชนิดมีความเพียรแก่กล้า ทรงมีพระวิริยะมาก แต่มีพระปัญญาน้อยกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเภทอื่น โดยมีระยะเวลาในการสร้างบารมี 80 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป ซึ่งมีระยะเวลาในการสร้างบารมีแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ทรงดำริในพระทัย ใช้เวลา 28 อสงไขย
ระยะที่ 2 เปล่งวาจา ใช้เวลา 36 อสงไขย
ระยะที่ 3 เมื่อได้รับพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งแรกว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้เวลาอีก 16 อสงไขย กับอีกแสนมหากัป
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 3 ประเภท เมื่อจะได้รับคำพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นครั้งแรกนั้น ถ้าหากพระพุทธองค์ทรงกลับใจไม่ปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่มีความประสงค์ที่จะเป็นพระสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ก็สามารถบรรลุเป็นพระอรหันตสาวกได้ทันที ดังนี้
พระโพธิสัตว์ประเภทปัญญาธิกะ มีปัญญามาก หากปรารถนาเป็นพระสาวก เพียงฟังพระธรรมเทศนา ไม่ทันจบบาทคาถาที่ 3 ก็จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้ง 4
พระโพธิสัตว์ประเภทศรัทธาธิกะ มีศรัทธามาก เพียงแค่ฟังพระธรรมเทศนาไม่ทันจบบาทคาถาที่ 4 ก็จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้ง 4
พระโพธิสัตว์ประเภทวิริยาธิกะ มีความเพียรมาก เพียงแค่ฟังพระธรรมเทศนาจบบาทคาถาที่ 4 ก็จะบรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้ง 4
พุทธประวัติ ตอน ประสูติ |
พุทธประวัติ ตอน ตรัสรู้
|
พุทธประวัติ ตอน : สละชีวิตเป็นเดิมพันสร้างบารมี พุทธประวัติ ตอน : เลือกเกิดได้ด้วยพระบารมี พุทธประวัติ ตอน : นั่งขัดสมาธิอยู่ในครรภ์พระมารดา พุทธประวัติ ตอน : ได้ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ พุทธประวัติ ตอน : ได้รับพยากรณ์ พุทธประวัติ ตอน : พระราชบิดาทำความเคารพด้วยความเลื่อมใส พุทธประวัติ ตอน : 7 ขวบ เรียนจบ 18 สาขา ภายใน 7 วัน พุทธประวัติ ตอน : ชีวิตสุขสบายดังอยู่ในสรวงสวรรค์ |
พุทธประวัติ ตอน : มีทุกอย่างที่ชาวโลกต้องการ แต่สละเพื่อเสด็จออกผนวช
พุทธประวัติ ตอน : ออกบวชช่วยชาวโลกให้พ้นทุกข์ พุทธประวัติ ตอน : อธิษฐานเป็นบรรพชิต พุทธประวัติ ตอน : เรียนจบสุดความรู้ของอาจารย์ พุทธประวัติ ตอน : แสวงหาทางพ้นทุกข์ พุทธประวัติ ตอน : บำเพ็ญเพียรทางจิต พุทธประวัติ ตอน : ชนะมารตั้งแต่ยังไม่ตรัสรู้ พุทธประวัติ ตอน : ตรัสรู้ด้วยตนเองโดยการทำสมาธิภาวนา พุทธประวัติ ตอน : ค้นพบสุดยอดแห่งความรู้ พุทธประวัติ ตอน : บรมครูผู้ยิ่งใหญ่ |
พุทธประวัติ ตอน ประกาศพระศาสนา |
พุทธประวัติ ตอน ปรินิพพาน
|
พุทธประวัติ ตอน : ใครปฏิบัติตามคำสอนก็จะบรรลุธรรมได้
พุทธประวัติ ตอน : ประกาศพระศาสนานำพาสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ พุทธประวัติ ตอน : เวฬุวันมหาวิหาร..วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา พุทธประวัติ ตอน : สอนได้ทุกระดับชั้น ทั้งมนุษย์ เทวดา และพรหม พุทธประวัติ ตอน : โอวาทปาฏิโมกข์ หัวใจพระพุทธศาสนา พุทธประวัติ ตอน : โปรดพุทธบิดา พุทธมารดา พุทธประวัติ ตอน : เปิดโลกทั้งสามด้วยพุทธานุภาพ พุทธประวัติ ตอน : ไปโปรดยักษ์ พุทธประวัติ ตอน : ไปโปรดโจรองคุลิมาล พุทธประวัติ ตอน : ไปโปรดพรหม พุทธประวัติ ตอน : พระพุทธศาสนา ศาสนาแห่งปัญญา พุทธประวัติ ตอน : พระพุทธศาสนา ศาสนาแห่งสันติภาพ พุทธประวัติ ตอน : พระพุทธศาสนา ศาสนาแห่งการดับทุกข์ |
พุทธประวัติ ตอน : ทรงปลงอายุสังขาร พุทธประวัติ ตอน : ทำหน้าที่ครูเป็นครั้งสุดท้าย พุทธประวัติ ตอน : เสด็จดับขันธปรินิพพาน พุทธประวัติ ตอน : แบ่งพระพรมสารีริกธาตุ พุทธประวัติ ตอน : วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก |