ธรรมะคู่ชีวิต


[ 6 ก.พ. 2557 ] - [ 18306 ] LINE it!

" ธรรมะคู่ชีวิต "
 
 


       ความรัก คนรัก คู่รัก... ไปจนถึง คู่ครอง และ...คู่ชีวิต การที่หนึ่งชีวิตจะมีใครสักคนอยู่เคียงข้างแม้ยามสุขและยามทุกข์ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การที่จะรักษาความรักนั้นไว้ให้คงอยู่ยาวนานยากยิ่งกว่า พบกับวิธีการถนอมความรักให้ชีวิตคู่ราบรื่น รุ่งเรือง และไม่ร่วงโรยได้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงแบ่งประเภทของภรรยาไว้ 7 ประเภท

     1. วธกาภริยา = ภรรยาเสมอด้วยเพชฌฆาต ข่มสามี ต้องอยู่ในอำนาจ ทำร้ายสามี ปากถึงมือถึง

     2. โจรีภริยา = ภรรยาเสมอด้วยโจร ไม่รักษาทรัพย์ที่สามีหามา ใช้จ่ายสิ้นเปลือง เหมือนกับล้างผลาญทรัพย์ให้หมดไป
 
     3. อัยยาภริยา = ภรรยาเสมอด้วยนาย สามีต้องค่อยรับใช้ทุกอย่าง ภรรยาอยู่สบายทุกอย่าง

     4. มาตาภริยา = ภรรยาเสมอด้วยมารดา มีความรักต่อสามีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไม่มีข้อแม้ เจ็บไข้ก็ดูแลทุกอย่างเหมือนความรักที่มารดามีต่อบุตร
 
     5. ภคินีภริยา = ภรรยาเสมอด้วยน้องสาว เจ้าแง่เจ้างอนบ้าง  ขี้งอนบ้าง ขี้อ้อนบ้าง ชนบ้าง เหมือนกับน้อง
 
     6. สขีภริยา = ภรรยาเสมอด้วยเพื่อน เหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดกัน มีอะไรก็ปรึกษาหารือกัน เรียกว่าร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน หารือกันได้ ช่วยเหลือกันได้ ช่วยกันคิดช่วยกันทำ
 
     7. ทาสีภริยา = ภรรยาเสมอด้วย คนใช้ ค่อยปรนนิบัติรับใช้สามีทุกอย่าง พูดง่ายๆ ว่ายอมตัวให้ค่อยดูแลรับใช้อย่างเต็มที่

      ในชีวิตจริงมักจะไม่มีใครเป็นแบบใดแบบหนึ่งแบบเด็ดขาด  แบบไหนเด่น แบบไหนลองลักษณะแบบผสม พอพูดแล้วก็เหมือนกับรู้อยู่ พอนึกออก แต่ว่าการที่พระพุทธเจ้าให้เราเองเห็นอย่างนี้ชัดจะมีประโยชน์คือ ทำให้ภาพตัวเราเองมันแจ่มขึ้นมาในใจ พอแจ่มแล้วเราจะเห็นช่องทางในการพัฒนาตัวเองในอีกหลายอย่าง ฝ่ายสามีเองมีกี่ประเภทก็ต้องล้อกันตามนี้ เราก็รองเช็คดูว่าเป็นแบบไหน แล้วควรจะปรับยังไง แบบไหนควรจะลด ควรจะเพิ่ม ถ้าตัวเราเองเห็นภาพ เราจะเห็นช่องทางในการปรับปรุงตัวเองได้ชัดเจนขึ้น

คุณสมบัติของคู่สร้างคู่สม

สมชีวิธรรม 4 ประการ (คู่สร้าง คู่สม)

1. สมสัทธา มีศรัทธาเสมอกัน

     เช่นว่า ชอบเข้าวัดเข้าวาเหมือนกัน ธรรมะ ธรรมโมเหมือนกัน มีความเชื่อคล้ายๆกัน จะไปด้วยกันได้ดี ซึ่งมีศรัทธาไม่ใช้เรื่องทางศาสนาอย่างเดียว แม้กระทั่งว่าแนวคิดทางการเมืองๆ ในเรื่องราวต่างๆ ก็มีความเชื่อคล้ายๆ  เรียกว่าไปไหนด้วยกัน ก็จะเข้ากันได้ดี

2. สมสีลา มีศีลเสมอกัน


     ถ้าคนหนึ่งมีศีลอีกคนหนึ่งไม่มี อีกคนบอกรักษาศีลอีกคนบอกกินเหล้า บี้มด ตบยุ่ง ทุกอย่างอีกฝ่ายหนึ่งเห็นก็อึดอัดมันก็จะทำให้การเป็นอยู่ไม่ราบรื่น ถ้าเกิดศีลเสมอกันแล้วก็ ทุกอย่างก็จะราบรื่น บ้างคนอาจเริ่มมีคำถามในใจว่าถ้าอย่างนี้ไม่มีศีลเหมือนกันได้ไหม ชอบบี้มดตบยุ่งฆ่าสัตว์เหมือนกัน สามีกินเหล้าภรรยาทำกับแก้มให้ มันก็พอได้ในเบื้องต้น แต่ว่าจะมีปัญหาเรื่องอื่นตามมาอีกเยอะ จะทำให้ปวดหัว แล้วพอละโลกไปแล้วก็ กอดคอกันลงอบายไปเลยถ้าจะเป็นคู่สร้างคู่สมกันจริงๆ แล้วก็ ให้มีศีลแบบเสมอกัน ศีลพื้นฐานก็คือศีล 5

3. สมจาคา มีจาคะเสมอกัน

     คือมีความเสียสระเสมอกัน มีน้ำใจที่จะบริจาคก็มีเหมือนกัน ไม่ใช้ว่าอีกคนใจกว้าง อีกคนตระหนี่อีกคนเริ่มหงุดหงิดเพราะใจคอไม่กว้างไม่เท่ากัน  แต่ถ้ามีจิตอาสาเท่ากัน ความสามัคคีก็จะเกิดขึ้น และจะทำแบบเต็มอกเต็มใจทำไปด้วยกัน

4. สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน

      จะคิดจะอ่านก็รับรู้กันได้ ไม่ใช้ว่าคุยกันไม่รู้เรื่องเลย อีกฝ่ายคุยอีกฝ่ายได้แต่นั่งอมยิ้ม ไม่รู้จะให้ความคิดเห็นยังไงเพราะมีปัญญาไม่เท่ากัน ถ้ามีปัญญาเสมอกันก็สามารถช่วยกันคิดช่วยกันทำได้ แล้วในโลกนี้การที่เราจะหาใครที่จริงใจและหวังดีกับเราจริงๆ มีอะไรเกิดขึ้นสามารถฝากชีวิตไว้ได้ หาไม่ง่ายการที่จะมีใครสักคนอยู่เคียงข้างเราเวลาตกทุกข์ได้ยากนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เช่น ในประวัติศาสตร์ของจีนก็มีอยู่ว่าสามคนมาเจอกันและถูกอัธยาศัยเลยสาบานเป็นพี่น้องกัน ก็คือ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย คำสาบานในส่วนนี้ เป็นคำสาบานที่ลือลั่นมาก เมื่อสาบานเป็นพี่น้องกันแล้วไม่ทิ้งกันจริงๆ ร่วมหัวจมท้ายกันจริงๆ พี่ใหญ่คือ เล่าปี่ เป็นเชื้อพระวงศ์แบบปลายแถว แต่ว่าห่างไกลมาก มีอาชีพทอเสื่อขาย จนมาก คนกลางคือกวนอู ตัวใหญ่ หน้าใหญ่  กำลังเยอะขี้โมโห และก่อปัญหาเพราะความขี้โมโหพอสมควร ส่วนน้องเล็ก เตียวหุย มีอาชีพเป็นพ่อค้าหมู แรงเยอะ  ขี้เหล้า ขี้เมา เมาทีไรก่อเรื่องทุกที พอตอนจับมือเป็นสามพี่น้องก็เป็นสปอนเซอร์เพราะพ่อค้าหมูรวยสุด พอสาบานเป็นพี่น้องกันแล้วเขาก็รักษาคำสาบานไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่ละคนก็มีข้อบกพร่องกันทั้งนั้น มีจุดเด่นของตัวเอง กว่าจะได้เมืองมาเมืองหนึ่งเป็นเมืองใหญ่ เมืองชีจิ๋ว เล่าปี่ดีอกดีใจมีฐานะที่มั่นเกิดขึ้น แต่ต้องเดินทางไปต่างเมืองฝากเตียวหุยให้ช่วยดูเมือง เผลอแบบเดี่ยวความที่เป็นขี้เมานั้นเองยังไม่ทันจะรบอะไรยกนิ้วโป้งเขาเมืองยึดเมืองไปได้แล้ว มาเจอพี่ยิ้มๆ บอกว่าเค้าเอาเมืองไปแล้ว ฐานที่มั่นทั้งเมืองเขาเอาไปเฉยๆ เลย เล่าปี่ก็ไม่ว่ากันเสียแล้วก็เสียไป หาทางแก้กันใหม่ข้างหน้า มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ให้อภัยกันได้ คนที่ผิดก็รู้ว่าผิด แต่อีกฝ่ายก็พร้อมให้อภัย ปรับปรุง แล้วเดินหน้ากันต่อไป
 


      แต่ข้อดีคือว่าจะลำบากลำบน แสนเข็ญเท่าไร เอาลาภ เอายศ เอาสรรเสริญอะไรมาล่อ ไม่เคยแปรพันความจงรักภักดีความซื่อสัตย์ที่มีต่อกันเลย เมื่ออย่างตอนที่เล่าปี่ตกยากลำบากมากๆ ภรรยาถูก โจโฉ จับไป ทำให้กวนอูต้องไปอยู่กับ โจโฉเพราะจะดูแลพี่สะใภ้ โจโฉรักฝีมือของกวนอูมาก อยากจะได้เอาไว้เป็นขุนพลคู่บารมี ทุกอย่างทำเต็มที่ว่างแผนอย่างเช่นว่าให้กวนอูอยู่ใกล้พี่สะใภ้เพื่อว่าใจแตกไปล่วงเกินพี่สะใภ้ ก็จะต้องแตกกับเล่าปี่ ที่ไหนได้โจโฉให้อยู่กะพี่สะใภ้ชอบเลย ยืนเฝ้าหน้าห้องทั้งคืนไม่นอนเลย ใครอย่ามายุ่งกะพี่สะใภ้ฉัน วางตัวทุกอย่าง อย่างดีไม่มีใครตำหนิได้เลย จนคนจีนสร้างศาลเจ้าจนถึงปัจจุบัน เขายกว่าเป็นเทพพระเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ เรื่องอื่นบกพร่องก็มีแต่เรื่องความซื่อสัตย์สุดยอด ขนาดที่ว่าคนที่ตัวเองซื่อสัตย์ด้วย อยู่ไหนเป็นหรือตายก็ไม่รู้ ถูกกองทัพตีไปคนละทิศละทาง ไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งพิงคนเราส่วนใหญ่จะดีต่อกันก็หวังประโยชน์ แต่นี้เขาไม่มีทางให้ประโยชน์อะไรเลยตายแล้วหรือยังก็ไม่รู้ แต่คนที่มาพยายามเอาใจคือโจโฉสิ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน สามารถให้ได้ทั้งลาภ ยศ สรรเสริญสุข ให้ทุกอย่างได้หมดพยายามเอาอกเอาใจเต็มที่ แต่กวนอูไม่แปรผัน อยู่อย่างนั้น ดูแลพี่สะใภ้ทุกอย่างอย่างดี โจโฉ มาทำดีด้วยก็โอเค อะไรที่ทำให้โจโฉเป็นการตอบแทนยินดีทำ แต่บอกชัดๆ ว่าเงื่อนไขมีอย่างเดียวว่าวันใดที่ข้าพระเจ้ารู้ว่าเล่าปี่ยังมีชีวิตอยู่แล้วอยู่ ณ ที่ใดวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ข้าพระเจ้าจะอยู่กับท่าน จะไปหาพี่ทันทีถ้ารู้ว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วก็จริงพอรู้ว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่พาพี่สะใภ้ไปทันทีต่อให้ตั้งด่าน ทหารขวางเอาไว้เป็นกองทัพกวนอูคนเดียวพาพี่สะใภ้ตีฝ่าทุกด่านไปจนกระทั้งไปเจอเล่าปี่ได้ในที่สุด แค่สามพี่น้องซึ่งแต่ละคนก็ไม่สมบูรณ์อะไรเลย แต่แพ็คกันแน่นจริงต่อกันเท่านั้นเองตั้งแผ่นดินได้

     เล่าปี่ขึ้นเป็นฮ่องเต้ของจ๊กก๊กได้การที่เป็นคนจริงต่อกันได้มีประโยชน์มากๆ แล้วคนที่มีโอกาสสูงมากก็คือคู่ชีวิตของเราเอง แต่ต้องไม่ใช้ วธกาภริยา โจรีภริยา อัยยาภริยา ต้องจริงใจต่อกันจะเป็น มาตาภริยา ภคินีภริยา สขีภริยา ทาสีภริยา แต่ที่สำคัญคือความจริงใจต่อกัน การตระหนักในคุณค่าซึ่งกันและกัน แล้วก็ทะนุถนอมน้ำใจซึ่งกันและกัน อันนี้สำคัญมากๆ

     ดังนั้นจะให้เป็นคู่สร้างคู่สมได้ต้องปรับ ปรับไปในทางที่ดี เราต้องดึงศรัทธาขึ้นมา ดึงศีลขึ้นมาให้เสมอกัน และมีความเสียสละเหมือนกันเห็นประโยชน์ของการเสียสละ และปรับให้มีปัญญา ซึ่งปัญญา ไม่จำเป็นต้องสามีดอกเตอร์ภรรยาต้องดอกเตอร์เหมือนกัน อันนั้นคือปัญญาที่เกิดจากการศึกษา แต่ในโลกเขาบอกว่าคอมมอนเซนส์ไม่ต้องจบปริญญาเลยก็ได้ ถ้าคอมมอนเซนส์ดีเห็นความสุขุมรอบคอบ สิ่งเหล่านี้สามารถฝึกฝนกันได้ อยู่ในบ้านพอเกิดอุบัติเหตุเกิดโรคภัยไขเจ็บสามีเกิดจากโลกนี้ไปแต่สามารถยืนหยัดบริหารงานทุกอย่างแทนได้อย่างดีอยู่ก็มีอยู่
 
     เพราะฉะนั้นการที่มีปัญญาเสมอกันว่า การสุขุมรอบคอบ นิ่ง สามารถเป็นคู่คิดกันได้ ช่วยกันมองแง่มุม ดูกันให้รอบคอบ อันนี้ก็มีประโยชน์สามารถเป็นคู่คิดและหมั่นศึกษาเรียนรู้สามีทำอะไร ภรรยาทำอะไร ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้กันพยายามปรับให้ตนเองเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อคู่ชีวิต สิ่งเหล่านี้สามารถฝึกและปรับกันได้

หลักปฏิบัติให้ความรักยั่งยืน

สังคหวัตถุ 4

       1. ทาน คือ การให้ปันแก่กัน เอื้อเฟื้อ และมีน้ำใจต่อกัน คนเราจะอยู่ด้วยกันถ้าเห็นแก่ตัวมันจบแล้ว มันประสานไม่ลง ได้แต่ทนกล้ำกลืน ฝืนอยู่ในใจมันจะแห่งเพราะว่าน้ำใจที่จะพรมลงมาให้ชุ่มมันน้อยไป ถ้าจะรักกันให้ยั่งยืนผูกไมตรีสนิทเริ่มต้นต้องมี การให้โบราณสร้างคำไว้ดี คือ ครอบครัว คือครัวเดียวกันอยู่ในครอบเดียวกัน อิ่ม อิ่มด้วยกัน อด อดด้วยกัน โบราณเศรษฐกิจเงินตราต่างๆ มีผลน้อยจะดูว่าอยู่ดีมีสุขหรือเปล่า ดูว่าข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ไหมในน้ำมีปลาในนามีข้าว ถ้าเกิดว่าทำมาหากินได้ก็โอเคแล้ว ถึงยุคปัจจุบันธุรกิจ เศรษฐกิจมีความสับซ้อน มากขึ้นแต่พื้นฐานสำคัญก็คือ การมีน้ำใจต่อกัน ถ้าทำได้อย่างดีเลยคือว่ากระเป๋าเดียวกัน แต่บางคนบอกว่าก็อยากมีอิสระนิดหน่อยนะ แต่ก็ต้องการมีส่วนตัวบ้างแต่ ยังไงก็แล้วแต่แยกกระเป๋าเด็ดขาดนี้กับไม่ดี ยังไงก็ต้องมีรวมกันตรงนี้ ของญี่ปุ่นธรรมเนียมเข้มกว่าไทย แต่ก่อนสามีจะต้องเป็นคนทำงานส่วนภรรยาดูแลบ้าน เขาจะมีคำศัพท์คำหนึ่งว่า ถามภรรยาว่าทำงานอะไรหรอ ซุฟุเซงเงียว แปลว่าทำอาชีพแม่บ้าน เขาถือว่าการดูแลบ้านเป็นงานที่ใหญ่เหมือนกัน แต่ว่าสามีไปทำงานก็ทำแบบหัวตำดินเลย คนญี่ปุ่นเขาขยันพอเลิกงาน 5 โมง 6 โมงยังไม่ได้เลิก หรอเพราะเพื่อนรวมงานยังไม่กลับเขาไม่กล้ากลับ ไม่สบายไม่เข้าโรงพยาบาลจริงๆ ต้องไปทำงาน เขาบอกว่าถ้าเราไม่ไปงานในส่วนของเราคนอื่นก็จะมาทำเขาจะหนักขึ้น เป็นการรบกลัวคนอื่น เพราะฉะนั้นต้องพยายามไป ฝ่ายสามีทำงานกลับดึกๆ ฝ่ายภรรยาแทบจะรับกระเป๋า ดูแลทุกอย่าง เรียกว่าสามีกับถึงบ้านเรียกว่าเป็นพระราชา ทุกอย่างภรรยาเตรียมให้หมด ความสะอาดบ้าน ข้าวปลาอาหาร เสียผ้า หรือว่ามีลูก ลูกไปโรงเรียน ภรรยาดูแลหมด พ่อบ้านมีหน้าที่หาทำงานหาเงินเข้าบ้าน แต่แม่บ้านเขาบอกว่ามีฮิคาวะ มิคพาวเวอร์ พอเงินเดือนพ่อบ้านออกนะ แม่บ้านให้บริษัทโอนเข้าบัญชีแม่บ้านเลย แม่บ้านเป็นคนถือ ATM
 
 
     เพราะฉะนั้นเงินทั้งหมดก็อยู่ กับแม่บ้าน ถึงเวลาพ่อบ้านไปทำงานแม่บ้านก็จะรู้ว่าต้องเองเงินใสกระเป๋าไว้ให้ เขาก็แบ่งหน้าที่กันอย่างนี้ แต่หลังๆ ทำงานกันทั้งคู่ เหมือนกัน แม่บ้านเขาทำบัญชีละเอียดมาก ต้องมีการวางแผนการใช้เงินฝ่ายพ่อบ้านไม่ต้องคิดเรื่องนี้เลยคิดเรื่องงานอย่างเดียว เขาก็มีความร่วมแรงร่วมใจกันอีกแบบหนึ่งในแง่มุมหนึ่งมันก็สอดคล้องกับหลักเรื่องทานเหมือนกัน ขอเราเองดูให้พอเหมาแล้วกัน ไม่ต้องถึงกับต้องเทกระเป๋ารวมกัน แต่ว่าความมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อต่อกันต้องมี ไม่ใช่ว่าของใครของมัน ฉันเธอแยกกันขาดการประสานในมันยากจะสนิท 100% ได้

      2. ปิยวาจา คือ พูดกันด้วยวาจาที่ไพเราะ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผม คุณ ครับ ค่ะ อันนี้เป็นแค่เปลือกของปิยวาจา แต่ว่าแก่นของปิยวาจาคือ การให้เกียรติกัน ภรรยาให้เกียรติสามีสามีให้เกียรติภรรยา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถ้าอย่างนี้แล้วก็ความอบอุ่นใจมันเกิดการประสานใจกันเต็มที่ คนเราเรื่องให้เกียรตินี้สำคัญ พอไม่ให้เกียรติ คนไทยมีศักดิ์ศรีมาก ค่อนข้างจะถือ จะเป็นใครก็ตามในโลกนี้ศักดิ์ศรีเขามีอยู่ไม่ควรไปดูหมิ่นศักดิ์ศรี การให้เกียรติ อันนี้สำคัญสุด จะทำให้สมานไมตรีกันได้ ให้ชินเป็นนิสัยของเราเองเลย จริงแล้วไม่จำเป็นต้องเฉพาะครอบครัวหรอในสังคมภายนอกที่ไหนก็ตามการให้เกียรติกันก็เป็นเรื่องสำคัญ มีค่ามีประโยชน์มากทำให้บุคคลผู้นั้นมีเสน่ห์ เป็นที่รักของทุกๆ คน

      3. อัตถจริยา เราต้องฝึกตนเองให้มีประโยชน์และบำเพ็ญประโยชน์ให้กับผู้อื่นเราต้องทำตนให้เป็นคนมีประโยชน์ ก่อนที่จะบำเพ็ญประโยชน์เราต้องทำตนให้เป็นคนมีประโยชน์ก่อน ถ้าใครเป็นคนไม่มีประโยชน์ไม่พัฒนาตัวเอง ทำตัวไรสาระ ทำอะไรก็ไม่เป็น เสน่ห์ก็จะลดลงไป คนจะมีเสน่ห์ในตัวได้จะต้องฝึกให้ตังเองเป็นคนมีประโยชน์มีความรู้มีความสามารถในด้านใดด้านไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่อง อย่างน้อยสักอย่างให้เราเก่งและชำนานเราก็จะเป็นคนมีค่าในตังเอง แล้วสามารถเอาค่าเอาประโยชน์ที่เราฝึกดีแล้วไปสร้างประโยชน์ได้ถ้าสามีภรรยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำตัวไม่มีประโยชน์ อะไรก็ไม่ทำ หน้าที่ตัวเองก็ไม่ทำ ฝ่ายสามีมีหน้าที่ต้องทำงานเป็นหลักของครอบครัว ถ้าเกิดไม่ทำงานถามว่าครอบครัวจะอบอุ่น สามัคคียืนยาวได้ยาก ถ้าเกิดภรรยาบ้านไม่ดูแลลูกไม่ดูแล อะไรต่างๆ นานาแล้วมันจะไปได้ไหม ยากอีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นแต่ละคนต้องฝึกตัวเอง เราเป็นคนมีประโยชน์มีความรู้ความสามารถยิ่งพัฒนาได้มากเท่าไร ยิ่งดี แล้วเอาความสามารถที่เรามีนั้นมาสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับครอบครัว สร้างประโยชน์แก่กัน ถ้าอย่างนี้แล้วความรักจะยืนยาว ตรงนี้อย่าดูว่าถ้ารักกันจริงแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กนั้นเป็นความรักในอุดมคติที่เลื่อนลอยในชีวิตจริงไม่ค่อยเจอหรอก ยามรักรักน้ำต้มผักเรียกว่าหวานแบบนั้นถ้าอยู่กันจริงๆ ไม่มีข้าวกินเลยนะ น้ำต้มผักมันจะหวานได้ไม่นาน มันจะมีปัญหา

     เพราะฉะนั้นการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำให้ตัวเองมีประโยชน์แล้วก็จะทำให้เสน่ห์เราเพิ่มขึ้น ความผูกพัน ความรู้สึกว่าพึ่งพิงกัน มันจะเต็มที่ขึ้น ส่วนว่าในกรณีที่ป่วยไข้อยู่บนเตียงเป็นเหตุสุดวิสัยที่ต้องพึงพากันแล้ว ถ้าเกิดอยู่ไนกรณีที่ว่าสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อยู่ในวัยทำงาน แต่ไม่ยอมทำ ทำตัวไร้สาระทำตัวเป็นภาระของอีกฝ่ายนอกจากไม่เป็นประโยชน์ แล้วยังทำโทษอีก ไปยุ่งกับอบายมุข ไปกินเหล้าเมายาเที่ยวเตร่ งานการไม่ทำ ผลาญทรัพย์ที่มีอยู่ให้หมดไป ถ้าอย่างนี้ความรักไม่ยืนยาว ประสานไม่ติด เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นโทษเอาออก แล้วก็ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถ้าอย่างนี้ก็จะอยู่กันยืด ความสมานไมตรีก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น

      4. สมานัตตา คือ การวางตัวได้เหมาะสม อย่างสม่ำเสมอ
จะเป็นฝ่ายพ่อบ้านฝ่ายแม่บ้านวางตัวได้เหมาะสมพอดีๆ สม่ำเสมอจนกระทั่งรู้ว่าดียังไง ไม่ใช้วันนี้อารมดีไม่มีปัญหาพรุ่งนี้อารมไม่ดีเป็นเรื่อง แล้วแต่อารม แล้วแต่ว่าตอนนั้นกำลังมึนหรือเปล่า ตอนนั้นกำลังมีเรื่องเรียดหรือเปล่า มีเหตุมากระทบอารมอาจขึ้นๆลงบ้างเป็นธรรมดาขอมนุษย์ เรียนกว่าต้องอยู่ในเกณฑ์ปกติความสม่ำเสมอที่รับได้  ร่างกายคนเราถ้าวัตรจริงๆ มีขึ้นมีลงเหมือนกันนะ แต่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ขึ้นลงก็ไม่เกินเกณฑ์ปกติ ถ้าเกิดเกินเกณฑ์ปกติอุณหภูมิส่งก็จะเป็นไข้ ต่ำไปก็ป่วย เหมือนกันเราเองการวางตัวต้องเหมาะสมไม่หวือหวา เดี่ยวก็หวานเจี๊ยบ เดียวก็ร้อนเป็นไฟ แบบนั้นคนก็ไม่รู้จะเอาไงดี เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาความสม่ำเสมอ ทบทวนดูสถานะต่างอยู่เสมอแม้กระทั่งว่าตอนที่เรากำลังออกเรือนใหม่อายุ 20 30 กว่า ตอนนั้นก็แบบหนึ่ง แต่พอต่างฝ่ายต่างก็มีอายุ มากขึ้นเติบโตในหน้าที่การงานมากขึ้นความเป็นไปในครอบครัว มีลูก ลูกก็เติบโตขึ้น การปรับบทบาทสถานะก็มีความสำคัญ จะทำเหมือนตอนหนุ่มสาวก็ไม่ได้ ทุกอยากต้องมีการปรับให้เหมาะกับอายุ ฐานะ ในขณะนั้น ๆ แล้วก็มีความสม่ำเสมอ เราก็ค่อยๆ ปรับ อีกฝ่ายภาวะเปลี่ยนไปมีการมีงานมากขึ้น ต้องมีการปรับให้พอดี การพอดีตรงนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องใช้ปัญญาประกอบถ้าทำได้ดีละก็จะประสานไมตรีทุกอย่างได้อย่างดี จะทำให้ความรักยั่งยืนก็อยู่ในสี่ข้อนี้ละให้เราไปตรวจเช็คดูให้ดีถ้าทำได้สังคหวัตถุ 4 ได้แล้วเรียกว่าไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรผูกไมตรีได้กันได้ตลอดชีวิตอย่างสนิทเลยทีเดียว และก็เป็นคู่สร้างคู่สมคู่บุญบารมี ผูกไมตรีไม่เกื้อกูลไม่ใช้เฉพาะชาตินี้ละโลกไปแล้วศรัทธาเหมือนกัน ศีลเหมือนกัน เสียสละเหมือนกัน ปัญญา เหมือนกันละโลกก็ปิดอบายเปิดสวรรค์ สร้างบุญผูกพันกันมาอย่างนี้ไปอยู่สรรค์วิมานก็ติดกันอีก บุญก็พอๆกันก็ไปอยู่สวรรค์ชั้นเดียวกัน ด้วยความผูกพันกันวิมารจะอยู่ด้วยกัน อยู่ใกล้กัน แบบนี้เป็นคู่สร้างคู่สมทั้งพบนี้และสัมปรายภพด้วย ฝากเตียนไว้นิดหนึ่งว่า ใครที่กำลังหนุ่มๆ ความพึงพอใจกำลังมาแรงอย่างไปอธิษฐานว่า ให้เราเองไปผูกพันกันไปตลอดทุกภพทุกชาติเพราะยังไม่แน่ว่า ศรัทธา ศีลเสมอกันหรือป่าว ไม่ใช่ว่าไปๆ แล้วอีกฝ่ายมีศีล อีกฝ่ายไม่มีศีล แย่เหมือนกันนะ คำอธิษฐานเป็นตัวล็อคทำให้เกิดสิ่งไม่ดีขึ้นมา
 
คำคมความรัก


      มีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล พระนางมัลลิกาเทวี มเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล จริงๆ พระนางดีทุกอย่างแต่พลาดไปอธิฐานจิตในภพอดีตว่าให้ผูกพันกันไปทุกภพทุกชาติ สามีในอดีตไปผิดศีลเกิดมาชาติมีเป็นสัตว์ พอพระนางเจอพระนางก็ใจอ่อนไปมีอะไรกับสัตว์ ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลเห็นเข้า ดุว่าพระนางอย่างหนัก โกรธมาก ภรรยาเป็นคนมีปัญญามากกว่าสามี หาทางแก้ไว้โดย บอกว่าพูดเรือง อะไรไม่เป็นรู้เรื่องเลย ให้สามีรองเข้าไปในห้องนั้นสิพอเข้าไปถึงภรรยาก็ว่าใหญ่เลย ว่าไปมีอะไรกับเจ้าสัตว์ตัวนั้น พระนางเลยออกอุบายว่าสงใสของนี้มีอาถัน อย่างนั้นทุบทิ้งดีกว่าห้องนี้ แล้วก็เลิกแล้วต่อกัน แต่ด้วยวิบากกรรมนี้พอพระนางละโลก 7 วันแรงไปอยู่ที่ อเวจีมหานรกเพราะอธิษฐานผิด ต่อมาบุญช่วย ไปอยู่บนสรรค์
      เพราะฉะนั้นเราอย่างไปอธิษฐานแบบสุ่มสีสุ่มห้า กับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ เวลาอธิฐานต้องอธิฐานให้รัดกุมถูกต้อง คำอธิษฐานเป็นเหมือนหลักที่ล็อคตัวเราเอง แล้วก็ฝากพวกเราไว้หน่อยว่าจะปรับให้ศีลเสมอกัน จาคะ เสนมอกัน บางทีอยู่ด้วยกันก็พูดได้บ้างไม่บ้าง ความคุ้นเคยบ้างที่ก็แก้ไม่ง่าย เกิดจากความคุ้นเคยบ้างทีแก้ได้วันสองวัน กลับมาทำอย่างเก่าอีกแล้ว ถ้าเกิดเราพูดอีก สองครั้ง สามครั้ง เขาก็หาว่าเราขี้บ่น แม้แต่ตัวเราเองก็ตามถ้าพ่อบ้านมาพูดให้เราปรับแก้พูดบ่อยๆ เราก็รำคาญ ถ้าจะให้ดีมีวิธี ให้ชวนกันมาวัดฟังพระเทศเสร็จไม่ต้องไปพูดอะไร ต่างคนต่างฟังกลับมามีเรื่องคุยกันต่อมีประเด็นให้คุยกัน แบบนี้สบายเลยเราไม่ต้องพูดอะไร ได้รับฟังตอนที่ใจนิ่งๆ ใจสบายอยู่ในบุญ ใจจะเปิดรับฟังได้มากกว่ารวมทั้งว่าพระท่านพูดไม่ได้เจอะจงเรา ถ้าเกิดสามีไม่แนะนำภรรยา ภรรยาไปแนะนำสามี เรื่องข้อบกพร่อง บ้างคนก็รับไม่ค่อยได้ เห็นทั้งเห็นรู้ทั้งรู้เพราะว่าคนเราดีชั่วรู้หมดแต่มันอดไม่ได้ ทุกอย่างที่เธอพูดรู้หมดแล้วไม่ต้องพูดแทนก็ได้ มันก็จะลำบาก แต่พอมาถึงวัดฟังพระพูดทุกคนจะรู้เลยว่าท่านไม่ได้เจอะจงเราท่านก็พูดในแง่หลักการ

        เพราะฉะนั้นแรงกระทบของเรื่องศักดิ์ศรีมีไม่มากแล้วใจกำลังอยู่ในบุญนิ่งๆ ใจเปิดโอกาสที่จะปรับปรุงตัวเองมันง่ายกว่า เดียวพระท่านก็สอนเรื่องนั้นสอนเรื่องนี้ และพออยู่นิ่งๆ ความคิดที่อยากจะปรับปรุงตัวเองก็มีขึ้นมาเรื่อยๆอย่างนี้ก็เสริมส่งกันไปเป็นคู่บุญคู่บารมีได้อย่างดีเลย เพราะฉะนั้นใครอยากให้เป็นคู่สร้างคู่สมครอบครัวสงบรมเย็นและก็วิธีที่ดีสุดก็คือการชวนกันเข้าวัดดีที่สุดเลย
 



รับชมคลิปวิดีโอธรรมะคู่ชีวิต
ชมวิดีโอธรรมะคู่ชีวิต   Download ธรรมะธรรมะคู่ชีวิต
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เหตุแห่งความมีอายุยืนเหตุแห่งความมีอายุยืน

รับมือกับตัวป่วนที่ทำงานรับมือกับตัวป่วนที่ทำงาน

กุศลกรรมบถ ศีล..มารดาแห่งความดีกุศลกรรมบถ ศีล..มารดาแห่งความดี



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ