อานุภาพพระรัตนตรัย


[ 10 พ.ค. 2557 ] - [ 18282 ] LINE it!

อานุภาพพระรัตนตรัย

     มนุษย์ที่เกิดมาภพชาติหนึ่งนั้น ก็เพื่อแสวงหาที่พึ่งที่ระลึกอันแท้จริง แสวงหาสิ่งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นสุขได้ด้วยตัวเอง และเป็นตัวตนที่แท้จริง สิ่งที่เราต้องการนี้ รวมประชุมอยู่ในธรรมกายทั้งหมด ธรรมกายคือแก่นของชีวิต เป็นชีวิตในระดับลึกที่อยู่ภายในตัวของเรา ที่ทุกคนมีสิทธิ์จะเข้าถึงได้ หากฝึกใจให้หยุดนิ่ง ถ้าหยุดได้มากเมื่อไร ก็เข้าถึงได้เมื่อนั้น โดยไม่จำกัดด้วยกาลเวลา ถ้าเราเข้าถึงธรรมกายแล้ว ชีวิตเราจะอยู่อย่างมีความหมายและอยู่อย่างมีเป้าหมาย มีความมั่นคงของชีวิต เป็นชีวิตที่มีสันติสุขที่แท้จริง เป็นชีวิตที่มีความสุขอย่างไม่มีประมาณ  

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน รตนสูตร ว่า

“วโร วรญฺญู วรโท วราหโร
  อนุตฺตโร  ธมฺมวรํ อเทสยิ
  อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ
  เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ

     พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ทรงรู้ธรรมอันประเสริฐ ประทานธรรมอันประเสริฐ เป็นผู้นำมาซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ ไม่มีใครยิ่งกว่า ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ รัตนะแม้นี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธเจ้า ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสุขสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด”

     พระธรรมกายคือรัตนะอันประเสริฐ เป็นเป้าหมายชีวิตของมวลมนุษยชาติ เราเกิดมาแต่ละภพแต่ละชาติมีเป้าหมายเพียงประการเดียว คือขจัดความทุกข์ให้หมดสิ้นไป ตราบใดที่ยังไม่พบหนทางขจัดทุกข์ทั้งหลายได้ เราก็ยังเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่ร่ำไป ธรรมกายซึ่งเป็นตัวพุทธรัตนะ สถิตอยู่ภายในตัวเรานี่แหละ ท่านเป็นผู้หลุดพ้นแล้วจากทุกข์ทั้งปวง เข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะ เป็นกายที่มีความสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือเลย   

     ธรรมกายนี่แหละ คือหลักของชีวิต เป็นหลักของพระพุทธศาสนา อีกทั้งเป็นหลักสากล ถ้าใครเข้าถึงได้ก็จะพ้นจากทุกข์ทั้งหลายได้ เข้าถึงธรรมกายได้ ชื่อว่าเข้าถึงตัวพระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานที่แท้จริง แม้พระองค์จะดับขันธปรินิพพานนานแล้ว แต่กายธรรมของพระองค์ยังคงอยู่ ทำให้เกิดความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในชีวิต การตรึกระลึกถึงและหมั่นสวดสรรเสริญพระพุทธคุณเป็นประจำ จะทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ มีความสุขใจ ความทุกข์ยากที่บังเกิดขึ้น ก็สามารถถูกขจัดให้หมดสิ้นไปได้

     * เหมือนดังในสมัยพุทธกาล กรุงเวสาลีเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล พวกมนุษย์พากันล้มตายเพราะความอดอยาก เกิดโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วเมือง เนื่องจากล้มตายกันไปมาก ไม่สามารถนำไปเผาหรือฝังให้หมดได้ ใครตายก็จะนำศพออกไปทิ้งนอกเมือง ศพของชาวเมืองจึงเกลื่อนกลาดไปทั่ว พวกอมนุษย์ได้กลิ่นศพของมนุษย์ก็พากันเข้ามาหากิน

     ชาวกรุงเวสาลีจึงถูกภัย ๓ อย่างนี้คุกคามเอา คือภัยเกิดจากความอดอยาก ภัยจากอมนุษย์เบียดเบียน และภัยจากโรคระบาด ชาวเมืองจึงได้ประชุมปรึกษาหารือกัน แล้วได้กราบทูลพระราชาว่า “ขอเดชะ ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ ภัย ๓ ประการนี้ เกิดขึ้นแก่บ้านเมืองแล้วพระเจ้าข้า ตั้งแต่สมัยโบราณนับได้ ๗ ราชวงศ์ ไม่เคยมีภัยเช่นนี้เกิดขึ้นเลย”

     พระราชาทรงเรียกประชุมเจ้าลิจฉวี ตรัสในท่ามกลางที่ประชุมว่า “ขอได้โปรดพิจารณาตรวจสอบ หาสาเหตุที่เราไม่ตั้งอยู่ในธรรมเถิด” พวกเจ้าลิจฉวีพิจารณาทบทวนถึงขนบธรรมเนียมประเพณีทุกอย่าง ก็ไม่เห็นข้อบกพร่องใดๆ ของพระราชาเลย จึงพากันคิดหาวิธีที่จะขจัดภัยนี้ให้หมดสิ้นไป ในที่ประชุมของสภา ต่างก็ได้แสดงความคิดเห็นของตน แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้

     มีอยู่กลุ่มหนึ่ง เสนอความคิดในท่ามกลางที่ประชุมว่า “ได้ทราบข่าวมาว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นในโลกแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ปวงสัตว์ทั้งหลาย ทรงมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก” พระเจ้าลิจฉวีได้ฟังดังนั้นทรงมีพระหฤทัยโสมนัสยิ่งนัก ตรัสถามว่า “ก็บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ไหนเล่า”

     เมื่อทราบว่าพระพุทธองค์ประทับอยู่ในกรุงราชคฤห์ จึงส่งเครื่องราชบรรณาการ พร้อมทั้งข้อความอาราธนานิมนต์พระผู้มีพระภาคเจ้า ให้เสด็จมาโปรดในเมืองเวสาลี พระเจ้าพิมพิสารเมื่ออ่านข้อความแล้ว  เสด็จเข้าเฝ้าสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยคณะทูต แล้วกราบทูลเรื่องราวทั้งหมดให้ทรงทราบ

     พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพิจารณาว่า เมื่อเรากล่าวรัตนสูตรในกรุงเวสาลี การอารักขาจักแผ่ไปแสนโกฏิจักรวาล เมื่อจบพระสูตร สรรพสัตว์ประมาณ ๘๔,๐๐๐ จักได้บรรลุธรรมาภิสมัย เมื่อทรงใคร่ครวญด้วยอนาคตังสญาณ เห็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่อย่างนี้แล้วก็ทรงรับนิมนต์

     พระเจ้าพิมพิสารทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารจัดแจงหนทาง ทำพื้นที่ประมาณ ๕ โยชน์ให้ราบเรียบ แล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าก็เสด็จไปพร้อมกับภิกษุอีก ๕๐๐ รูป พระราชาทรงให้นำเอาดอกไม้ ๕ สี โปรยหนทาง ๕ โยชน์ ให้ยกธงชัยคอยต้อนรับทุกโยชน์ ให้กั้นเศวตฉัตร ๒ ชั้นสำหรับพระผู้มีพระภาคเจ้า ฉัตรชั้นเดียวสำหรับภิกษุแต่ละรูป นอกจากนี้พระองค์ยังทรงทำการบูชาด้วยดอกไม้ และของหอมต่างๆ อีกมากมาย จนกว่าพระบรมศาสดาจะเสด็จข้ามไปยังเมืองเวสาลี   

     ฝ่ายพวกเจ้าลิจฉวี เมื่อทราบว่าพระเจ้าพิมพิสารทรงทำการบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยสักการะที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น จึงช่วยกันตกแต่งหนทางถวายการรับเสด็จพระพุทธองค์ยิ่งใหญ่เป็นสองเท่า ขณะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนพุทธอาสน์บนเรือพระที่นั่ง เหล่าเทวดาตั้งแต่ชั้นภุมเทวา จนถึงพรหมชั้นอกนิษฐะ ได้พากันทำการบูชา เหล่านาคที่อาศัยอยู่ใต้แม่น้ำคงคา ก็ได้พากันทำการบูชาพระองค์เช่นเดียวกัน

     เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จถึงฝั่งแม่น้ำคงคาที่เป็นเขตแดนของเจ้าลิจฉวี มหาเมฆได้ตั้งเค้าขึ้น ส่งเสียงคำรามดังไปทั่วสารทิศ พอพระผู้มีพระภาคเจ้ายกพระบาทแรกวางลงริมฝั่งแม่น้ำคงคา ฝนโบกขรพรรษก็โปรยเม็ดลงมา ผู้ต้องการให้เปียกก็เปียก ผู้ไม่ต้องการให้เปียกก็ไม่เปียก ซากศพของพวกมนุษย์ที่หมักหมมอยู่ในพระนคร ถูกกระแสน้ำพัดลงแม่น้ำคงคาจนหมดสิ้นจนกระทั่งภาคพื้นสะอาด เป็นการต้อนรับการเสด็จมาเยือนของพระผู้มีพระภาคเจ้า

     เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จถึงกรุงเวสาลี ก็ตรัสเรียกพระอานนท์มารับสั่งว่า “ดูก่อนอานนท์ เธอจงเรียนรัตนสูตรนี้ แล้วเดินสาธยายไประหว่างกำแพงในกรุงเวสาลีกับพวกเจ้าลิจฉวี ทำพระปริตรไปเถิด” เนื้อความพระปริตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้มีเนื้อความบ่งถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ว่า

     ยงฺกิญฺจิ รตนํ โลเก ทรัพย์เครื่องปลื้มใจ อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์เครื่องปลื้มใจและรัตนะนั้นที่เสมอด้วยพระตถาคตเจ้าไม่มีเลย แม้สิ่งนี้ก็เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธเจ้า

     พระอานนท์เรียนพระปริตรแล้ว ถือบาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตักน้ำให้เต็มบาตร สาธยายพระปริตรไปพลาง ประพรมน้ำไปพลาง เมื่อหยาดน้ำกระเซ็นไปกระทบพวกอมนุษย์ ก็พากันหนีออกไปทางประตูทั้ง ๔ ของพระนคร พวกมนุษย์ที่ป่วยก็หายจากโรค ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาลตามเดิม เมืองเวสาลีจึงมีความสงบร่มเย็นสืบมา

     เราจะเห็นว่าอานุภาพพระปริตรที่เพียงสวดสรรเสริญพระรัตนตรัย ยังมีอานุภาพถึงเพียงนี้ ไม่ต้องพูดถึงการเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในเลยว่า จะมีอานุภาพขนาดไหน การที่เราเกิดมาในภพชาติหนึ่ง ก็ต้องการแสวงหาที่พึ่ง ที่นำความปลอดภัยมาให้แก่ชีวิต แสวงหาสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง มีสันติสุขด้วยตัวของตัวเอง ไม่ต้องไปพึ่งวัตถุภายนอก สิ่งที่เราปรารถนาคือรัตนะภายในนี่เอง

     รัตนะภายในก็คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะนี่แหละ พระธรรมกายคือพุทธรัตนะ เป็นรัตนะอันทรงคุณค่าสูงสุด เราจะเข้าถึงได้ต่อเมื่อเราฝึกใจให้หยุด ให้นิ่ง ให้สงบระงับ เพราะใจที่หยุดอย่างดีแล้วเท่านั้น จึงจะเข้าถึงพระธรรมกายภายใน ความสุข ความบริสุทธิ์ และความปลอดภัยทั้งมวล รวมประชุมอยู่ในธรรมกายนี้เท่านั้น ดังนั้น หมั่นฝึกใจให้หยุดนิ่งกันให้ได้ทุกวัน จะได้เข้าถึงรัตนตรัยภายในกันทุกคน

 

พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี

นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)  
 
* มก. เล่ม ๔๗ หน้า ๑๑


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ผลแห่งการยึดมั่นในพระรัตนตรัยผลแห่งการยึดมั่นในพระรัตนตรัย

ถึงพระรัตนตรัย ไม่ไกลนิพพานถึงพระรัตนตรัย ไม่ไกลนิพพาน

เส้นทางไปของผู้มีรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเส้นทางไปของผู้มีรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน