อายุสั้น ไม่ทันเห็นกรรม
ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/Dhammavipulo
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ในยามกลางของคืนวันตรัสรู้ของพระมหาบุรุษ พระองค์ทรงบรรลุจุตูปปาตญาณ คือ เห็นการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทรงเห็นการส่งผลของกรรม ที่เป็นตัวกำหนดรูปกาย และสถานที่อยู่ของสัตว์ที่ตายไปแล้ว
แต่ละชีวิตทำกรรมมามากมาย เพราะต่างก็เกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ทุกๆ กรรมที่ทำมา ไม่ได้มาส่งผลได้ในเวลาเดียวกัน แต่ทยอยกันมาส่งผล
พระบรมศาสดาจึงตรัสแยกแยะ การส่งผลของกรรม ตามกาลเวลาเอาไว้ 4 ประเภท คือ
1. กรรมที่ส่งผลในชาตินี้
แต่ละชีวิตทำกรรมมามากมาย เพราะต่างก็เกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ทุกๆ กรรมที่ทำมา ไม่ได้มาส่งผลได้ในเวลาเดียวกัน แต่ทยอยกันมาส่งผล
พระบรมศาสดาจึงตรัสแยกแยะ การส่งผลของกรรม ตามกาลเวลาเอาไว้ 4 ประเภท คือ
1. กรรมที่ส่งผลในชาตินี้
2. กรรมที่ส่งผลในชาติหน้า
3. กรรมที่ส่งผลในชาติถัดๆ ไป
4. กรรมที่เลิกให้ผล
1. กรรมที่ส่งผลในชาตินี้ทันที ไม่ต้องรอชาติหน้า อุปมาเหมือนชาวนาหว่านต้นกล้า ประมาณเดือนมิถุนายน ก่อนเข้าพรรษา ฝนเริ่มตก พอออกพรรษา ประมาณเดือนตุลาคม ก็ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวปลูกข้าวใช้เวลาประมาณ 3 เดือนครึ่ง ปลูกปีนี้ ปีนี้ก็ได้ผล ไม่ต้องรอปีหน้า อุปมาเหมือนกับกรรมที่ส่งผลในชาตินี้
2. กรรมที่ส่งผลในชาติหน้า อุปมาเหมือนชาวสวนปลูกกล้วย ปลูกเดือนมิถุนายน กลางปี ให้ฝนช่วยรดน้ำ ปลูกปีนี้ ปีนี้ไม่ได้กินกล้วย ไปได้กินกล้วยปีหน้า เพราะกล้วยใช้เวลาประมาณ 10-12 เดือน จึงออกผล อุปมาเหมือนกับกรรมที่ให้ผลในชาติหน้า
3. กรรมที่ส่งผลในชาติถัดๆ ไป อุปมาเหมือนชาวสวนปลูกไม้ยืนต้น เช่น ลำไย ทุเรียน ลิ้นจี่ เงาะ มะม่วง ปลูกปีนี้ ปีนี้ไม่ได้กิน ปีหน้าก็ไม่ได้กิน เพราะไม้ยืนต้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีไปแล้ว จึงออกผล อุปมาเหมือนกับกรรมที่ให้ผลในชาติถัดๆไป
4. กรรมที่เลิกให้ผล เลิกให้ผลในชาติที่ผ่านมาแล้วก็มี เลิกให้ผลในชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติถัดๆ ไปก็มี ซึ่งสาเหตุที่เลิกให้ผลมี 3 ประการใหญ่ๆ คือ
4.1 วิบากกรรมส่งผลจนหมดกำลัง ก็เลิกให้ผล
4.2 ขอขมา อโหสิกรรมซึ่งกัน และกัน กรรมก็เบาบางลง หรือเลิกให้ผล
4.3 บุญกุศลที่สั่งสมมาได้ช่อง ตามมาส่งผล ตัดรอนวิบากกรรมให้เลิกส่งผล (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่อง วิบากกรรมจะเบาบางลงเมื่อใด?)
คนทั่วไปไม่เข้าใจเรื่องกรรม ก็เพราะอายุสั้น ไม่ทันเห็นกรรม แต่กรรมเห็นเรา มีอุปมาเอาไว้ว่า กรรมดีติดตามบุคคลไป เหมือนเงาที่ติดตามตัว ส่วนกรรมชั่วติดตามบุคคลไป เหมือนล้อเกวียนที่ตามบดขยี้รอยเท้าโค
เพราะกรรมที่ทำมาในอดีต มากมายเหลือเกิน ไม่ได้ตามมาส่งผลพร้อมกันได้ทุกๆ กรรม และทุกๆ กรรมก็ไม่ได้ส่งผลในชาตินี้ แต่อายุของคนสั้นเกินไป ที่จะรอเห็นกรรมทุกๆ กรรมตามมาส่งผล จึงเป็นเหตุประการหนึ่ง ที่ทำให้คนไม่เข้าใจเรื่องกรรม... เวรกรรม!!!
1. กรรมที่ส่งผลในชาตินี้ทันที ไม่ต้องรอชาติหน้า อุปมาเหมือนชาวนาหว่านต้นกล้า ประมาณเดือนมิถุนายน ก่อนเข้าพรรษา ฝนเริ่มตก พอออกพรรษา ประมาณเดือนตุลาคม ก็ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวปลูกข้าวใช้เวลาประมาณ 3 เดือนครึ่ง ปลูกปีนี้ ปีนี้ก็ได้ผล ไม่ต้องรอปีหน้า อุปมาเหมือนกับกรรมที่ส่งผลในชาตินี้
2. กรรมที่ส่งผลในชาติหน้า อุปมาเหมือนชาวสวนปลูกกล้วย ปลูกเดือนมิถุนายน กลางปี ให้ฝนช่วยรดน้ำ ปลูกปีนี้ ปีนี้ไม่ได้กินกล้วย ไปได้กินกล้วยปีหน้า เพราะกล้วยใช้เวลาประมาณ 10-12 เดือน จึงออกผล อุปมาเหมือนกับกรรมที่ให้ผลในชาติหน้า
3. กรรมที่ส่งผลในชาติถัดๆ ไป อุปมาเหมือนชาวสวนปลูกไม้ยืนต้น เช่น ลำไย ทุเรียน ลิ้นจี่ เงาะ มะม่วง ปลูกปีนี้ ปีนี้ไม่ได้กิน ปีหน้าก็ไม่ได้กิน เพราะไม้ยืนต้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีไปแล้ว จึงออกผล อุปมาเหมือนกับกรรมที่ให้ผลในชาติถัดๆไป
4. กรรมที่เลิกให้ผล เลิกให้ผลในชาติที่ผ่านมาแล้วก็มี เลิกให้ผลในชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติถัดๆ ไปก็มี ซึ่งสาเหตุที่เลิกให้ผลมี 3 ประการใหญ่ๆ คือ
4.1 วิบากกรรมส่งผลจนหมดกำลัง ก็เลิกให้ผล
4.2 ขอขมา อโหสิกรรมซึ่งกัน และกัน กรรมก็เบาบางลง หรือเลิกให้ผล
4.3 บุญกุศลที่สั่งสมมาได้ช่อง ตามมาส่งผล ตัดรอนวิบากกรรมให้เลิกส่งผล (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่อง วิบากกรรมจะเบาบางลงเมื่อใด?)
คนทั่วไปไม่เข้าใจเรื่องกรรม ก็เพราะอายุสั้น ไม่ทันเห็นกรรม แต่กรรมเห็นเรา มีอุปมาเอาไว้ว่า กรรมดีติดตามบุคคลไป เหมือนเงาที่ติดตามตัว ส่วนกรรมชั่วติดตามบุคคลไป เหมือนล้อเกวียนที่ตามบดขยี้รอยเท้าโค
เพราะกรรมที่ทำมาในอดีต มากมายเหลือเกิน ไม่ได้ตามมาส่งผลพร้อมกันได้ทุกๆ กรรม และทุกๆ กรรมก็ไม่ได้ส่งผลในชาตินี้ แต่อายุของคนสั้นเกินไป ที่จะรอเห็นกรรมทุกๆ กรรมตามมาส่งผล จึงเป็นเหตุประการหนึ่ง ที่ทำให้คนไม่เข้าใจเรื่องกรรม... เวรกรรม!!!
Desktop Version
