เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน จุดจบที่เหลือเชื่อของการเป็นเนื้องอกในสมอง

สมาธิ

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559

เล่าเรื่องคุณยายฯ

ตอน จุดจบที่เหลือเชื่อของการเป็นเนื้องอกในสมอง !

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ

ผมชื่อ โกศณ ปลื้มใจ ปัจจุบันเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง และเป็นผู้นำบุญ จ.สงขลาครับ

กัลฯ โกศณ ปลื้มใจ

ผมและภรรยาเข้าวัดตอนปี 2547 ซึ่งครอบครัวเราก็เหมือนชีวิตมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไป จนกระทั่งช่วงต้นเดือนเมษายน พ.ศ.2557 ที่ผ่านมา เรื่องเลวร้ายที่สุดก็ได้เข้ามาสู่ชีวิต เพราะภรรยาผู้เป็นที่รักของผม คุณอุษารัตน์

ภรรยาของผม คุณอุษารัตน์ ปลื้มใจ

อยู่ๆ เธอก็มีอาการปวดหัวขั้นรุนแรง จนตาพร่าเห็นภาพซ้อน และหนังตาก็ปิดลงไปข้างหนึ่ง ซ้ำร้ายยังไม่สามารถกรอกตาข้างที่ปิดได้

ภรรยาตอนเริ่มป่วยเข้าโรงพยาบาล

ซึ่งพอคุณหมอให้สแกนสมอง ก็พบเนื้องอกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตรกดทับเส้นประสาทอยู่ และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ พบเส้นเลือดโป่งพองในสมองที่กำลังจะแตกหมอจึงให้รีบผ่าตัดด่วนที่สุด เพราะถ้าเส้นเลือดเกิดแตกขึ้นมา หากช่วยไม่ทันก็จะตายสถานเดียว อีกทั้งหมอยังบอกให้ผมและภรรยาทำใจไว้ว่า..หลังผ่าตัดแล้ว จะให้เป็นปกติเหมือนเดิมคงไม่ได้ เพราะอาจจะพิการ หรือพักฟื้นนาน..กว่าจะหาย ซึ่งพอผมและภรรยาทราบข่าวร้ายขนาดนี้ ก็เศร้ามากเลยครับ เพราะตอนนั้นภรรยาผมอายุแค่ 41 ปีเอง ซึ่งหากเธอตายหรือพิการไปตลอดชีวิต ผมก็ไม่รู้จะทำใจอย่างไรและช่วงที่เราเจอเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ ผมก็ได้ข่าวว่าที่วัดพระธรรมกายจะมีการหล่อคุณยายฯองค์ที่ 2 ด้วยทองคำในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2557

ด้วยเหตุนี้..ผมจึงตัดสินใจ รวมเงินทั้งหมด 2 หมื่นบาท แล้วรีบโอนเงินมาทำบุญในชื่อของภรรยาทันที โดยอธิษฐานขอบุญนี้ทำให้ภรรยารอดปลอดภัย จากนั้นหมอก็รีบเตรียมการผ่าตัด โดยครั้งนี้จะจัดการกับเส้นเลือดที่โป่งพองก่อน ส่วนเนื้องอกนั้นหมอบอกว่า เดี๋ยวค่อยมาผ่าตัดเนื้องอกอีกรอบนะ เพราะถ้าทำพร้อมกันคนไข้อาจเสียชีวิตได้ จากนั้นหมอจึงเอาภรรยาผมไปฉีดสีเข้าเส้นเลือด แล้วสแกนสมองเพื่อให้เห็นตำแหน่งของเส้นเลือดที่โป่งพองชัดๆอีกครั้งก่อนผ่าตัด แต่ทันทีที่ผล X-RAY ออกมา หมอก็ตะลึงสุดขีดครับ เพราะเส้นเลือดที่โป่งพองมันยุบหายไปแบบเหลือเชื่อ จนหมอต้องระงับการผ่าตัดไปแบบงงๆ จากเหตุการณ์นี้ เล่นเอาผมอึ้งและทึ่งในอานุภาพบุญที่ทำกับคุณยายฯมากๆ เพราะแค่ทำบุญไป 1 บาททอง พอวันรุ่งขึ้น..เส้นเลือดที่กำลังโป่งพองพร้อมแตก กลับหยุดพองแล้วยุบตัวลงทันที นับว่าปาฏิหาริย์มากๆ แต่ทว่า..ผมก็ยังกลุ้มใจอยู่ดีแหละครับ เพราะยังต้องยอมรับสภาพกับการผ่าตัดเนื้องอกในสมองเร็วๆ นี้อย่างไม่รู้ชะตากรรม

ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงบอกภรรยาว่า ให้เขาเอาทองส่วนตัวที่มีอยู่ 1 บาท มาทำบุญหล่อคุณยายฯเพิ่ม และผมเองก็ไปบอกบุญญาติพี่น้องให้มาทำบุญให้ภรรยาอีก เพราะระหว่างที่รอคิวผ่าตัด ผมได้ตั้งใจจะโอนเงินมาหล่อทองให้ภรรยาทุกวัน จนกว่าจะถึงวันที่ 22 เมษายน ซึ่งเป็นวันหล่อจริง และแม้เงินผมจะหมดแล้ว ผมก็ยังไป OD มาเพื่อหล่อทองให้ภรรยาเพิ่มอีก โดยคิดว่า ณ เวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของคนที่ผมรักที่สุด ผมขอเอาบุญช่วยเธอให้ถึงที่สุด เพราะชีวิตคนที่เรารักมีค่ามากกว่าทรัพย์ใดๆในโลก และพอถึงวันที่ 22 เมษายน ผมก็ทำบุญรวมแล้วเกือบ 2 แสนบาทครับ จากนั้นผมก็บินจากสงขลามาร่วมงานหล่อคุณยายฯที่วัดแทนภรรยา

ผมมาร่วมงานหล่อทองคุณยายฯองค์ที่ 2 ในวันที่ 22 เมษายนปี 2557ครับ

หลวงพ่อครับ…บอกตรงๆเลยนะครับว่า การหล่อทองครั้งนั้น ครอบครัวผมทำอย่างสุดกำลังและตั้งใจอย่างแรงกล้า เพื่อเอาบุญให้ภรรยาหายป่วย ทั้งๆที่ก็รู้ว่า..เป็นไปได้ยากมาก เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า..จุดจบของการเป็นเนื้องอกในสมองนั้นคืออะไร !!! และหลังร่วมพิธีหล่อทองเสร็จ ผมก็รีบบินกลับสงขลาทันทีด้วยความเป็นห่วงภรรยา และพอผมเอาบุญไปฝากเธอ เธอก็บอกผมด้วยความตื่นเต้นว่า.. “นี่ๆ จะให้ดูอะไร” แล้วภรรยาก็ลืมตาข้างที่ลืมไม่ได้ขึ้นให้ดู แถมยังกลอกลูกตาไปมาได้ตามปกติ ซึ่งเป็นอะไรที่ผมดีใจสุดชีวิตเลยครับ จากนั้นพอหมอมาตรวจดูอาการก็บอกว่า..เหลือเชื่อมาก..ทีแรกยังไงก็ต้องผ่าตัดเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์รอด แต่ทำไมอยู่ๆ อาการเกิดพลิกล็อกดีขึ้นพรวดพราด เพราะก้อนเนื้อเกิดเคลื่อนตัวเปลี่ยนตำแหน่งโดยไม่ไปกดทับเส้นประสาทแล้ว ทำให้คนไข้สามารถลืมตาและหายปวดหัวเป็นปลิดทิ้ง อีกทั้งยังปราศจากความผิดปกติใดๆ อีกด้วย

ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ หมอก็เลยสรุปว่า..เคสนี้ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว เพราะถ้าผ่าอาจพิการไปจริงๆ ให้รอให้เกิดอาการผิดปกติก่อนแล้วค่อยมาหาหมอใหม่ดีกว่า หลวงพ่อครับ ..ภรรยาผมไม่ต้องผ่าอะไรสักอย่างครับ แถมหายอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งงานนี้ถ้าไม่ใช่เพราะอานุภาพบุญก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาอธิบายแล้วครับ ดังนั้นมาหล่อคุณยายฯกันเถิดครับ