21 กันยายน วันสันติภาพโลก


[ 21 ก.ย. 2559 ] - [ 18276 ] LINE it!

21 กันยายน วันสันติภาพโลก
International Day of Peace หรือ World Peace Day


     วันที่ 21 กันยายน ของทุกปีเป็นวันสันติภาพสากล องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันนี้เป็น "วันสันติภาพสากล" (The International Day of Peace)
แต่เดิมวันสันติภาพโลกไม่ได้มีวันที่แน่นอนอย่างในปัจจุบัน โดยในปี ค.ศ. 1981 คณะกรรมการสหประชาชาติได้ประกาศมติที่รับรองโดยคอสตาริกา ให้ทุกวันอังคารที่ 3 ของเดือนกันยายน ซึ่งเป็นวันเปิดประชุมสามัญ เป็นวันสันติภาพโลกหรือวันสันติภาพสากล เพื่อให้ความสำคัญกับสันติภาพ

     หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2001 หรืออีก 20 ปีต่อมา ก็มีมติใหม่จากสหราชอาณาจักรและคอสตาริกา กำหนดให้วันที่ 21 กันยายนของทุกปี เป็นวันยุติการสู้รบและประกาศให้เป็น "วันสันติภาพโลกหรือวันสันติภาพสากล" (The International Day of Peace) เพื่อขอให้ประชาชนทุกประเทศหยุดยิง ลดใช้ความรุนแรงกันทั่วโลกและหยุดการทำสงครามตลอดทั้งวัน รวมทั้งมีการเชิญประเทศสมาชิก หน่วยงานต่าง ๆ มางานเฉลิมฉลองและร่วมมือกันสร้างสันติภาพทั่วโลก และกำหนดให้ ค.ศ. 2001-2010 เป็นทศวรรษสากลเพื่อวัฒนธรรมสันติภาพและความไม่รุนแรงเพื่อเด็กของโลก

สูตรสำเร็จของสันติภาพ...เริ่มจากสันติสุขที่ใจคุณ

     ความสุข คือสิ่งที่มนุษยชาติทุกคนต่างแสวงหา แม้จะมีนักปรัชญาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ให้นิยามของความสุขไว้หลายแนวคิดหรือหลายทฤษฎี แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความสงสัยใคร่รู้ ใคร่สัมผัส หรือได้พบกับสิ่งที่เรียกว่าเป็นความสุขที่แท้จริงของมนุษย์ไม่ เราเชื่อว่า หากเราลองมองย้อนมาที่ตัวของแต่ละบุคคลแล้วจะพบว่า เราทั้งหลายล้วนประกอบขึ้นด้วยส่วนที่เรียกว่า “กาย” และ “จิตใจ” แม้กายเราจะได้รับการสนองให้ได้ดื่ม ได้กิน ได้สัมผัสในสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากจิตใจยังวุ่นวายรุ่มร้อน ก็ยากจะเรียกว่าเป็นความสุขที่แท้จริงไม่ หรือแม้จิตใจจะได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน กับเรื่องราวหรือสิ่งอันเป็นเครื่องบันเทิงใจ แต่หากร่างกายยังเจ็บ ยังถูกคุกคามด้วยโรคภัย ก็ยากจะเรียกว่าความสุขที่แท้จริงเช่นกัน
               
     แต่เมื่อใดที่เราได้เรียนรู้และปฏิบัติให้เกิดความสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ มนุษย์จะสามารถค้นพบความสุขภายในตัวเองได้ และสามารถบอกกับตนเองว่าสิ่งนี้เองคือความสุขที่แท้จริง และการที่มวลมนุษยชาติทั้งหลาย ได้พบกับความสุขที่แท้จริง ได้พบกับความหมายของชีวิตที่สูงส่ง สามารถประพฤติปฏิบัติตนให้ดำเนินไปในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม ตลอดจนการได้พบกับสันติสุขภายในตนเองอย่างถาวรของประชาชาติทั่วโลก คือรากฐานแห่งสันติภาพอันเป็นเป้าหมายที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์กำลังมุ่งมั่นสร้างสรรค์ให้ปรากฏให้เป็นจริง  

ถ้ารู้จัก “ใจ” คุณกำลังพบต้นทางแห่งสันติสุข

     ถ้าจะมีใครมาถามคุณถึงเรื่องการทำธุรกิจเชิงยุทธศาสตร์ คุณอาจจะสามารถตอบคำถามคนทั้งหลายได้อย่างละเอียดทุกขั้นตอนที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพและผลกำไร หรืออาจจะมีใครมาถามความเห็นคุณถึงการบริหารงานที่ควรจะเป็นของผู้นำประเทศที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้ง คุณอาจจะสามารถอธิบายได้ ประดุจเป็นนักการเมืองมืออาชีพ หรือแม้อาจจะมีใครมาขอคำแนะนำที่จะเลือกหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คุณอาจจะสามารถบอกเขาเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนในทุกมุมโลกว่ามีสถานที่ใดที่ราคาถูก น่าไป แต่...คุณจะตอบว่าอย่างไร ถ้าหากมีคำถามว่า “ใจ”ของคุณอยู่ไหน และจะยิ่งฉงนขึ้นไปอีก ถ้าหากมีคำถามคุณต่ออีกว่า “ใจคุณเป็นอย่างไร” อ้า...คุณมีคำตอบในเรื่องที่แสนจะใกล้ตัวคุณเช่นนี้แล้วหรือยัง

คุณยังไม่รู้จักใจของคุณเอง สันติสุขจะเกิดได้อย่างไร

    ภารกิจหน้าที่ในชีวิตประจำวัน กำลังดึงดูดใจของคุณให้เกาะเกี่ยวผูกพันกับสิ่งภายนอกตัวคุณมาโดยตลอด เพราะคุณอาจจะกำลังมุ่งมั่นคาดหวังกับผลกำไรก้อนใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นจากการลงทุน หรือคุณอาจจะกำลังเคร่งเครียดจดจ่อกับการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์บ้านเมือง ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่กำลังไปได้ดีของคุณ และในที่สุด คุณก็ยังตอบไม่ได้อยู่ดีว่า “ใจของคุณอยู่ไหน” หรือ “ใจคุณเป็นอย่างไร” ทั้งนี้ เพราะความรู้สึกของคุณมุ่งอยู่แต่กับสิ่งภายนอกตัว ยังไม่เคยมองย้อนมาดูตัวคุณเอง และไม่เคยเอาความรู้สึกมาสนใจในตัวคุณ ทั้งๆที่ “กาย” และ “ใจ” เป็นสิ่งคู่กันในตัวมนุษย์ทุกเชื้อชาติทุกเผ่าพันธุ์ ...รวมทั้งตัวคุณเอง เพราะความจริงมีว่า.... ถ้า “กาย” ไม่มี “ใจ” คุณก็คือซากศพที่เดินได้ร่างหนึ่งเท่านั้นเอง
 
 


การค้นหาใจไม่ใช่เรื่องยาก

     คุณลองเอนกายกับพนักเก้าอี้อย่างสบายๆ แล้วหลับตาเบาๆ  อา...ใช่แล้ว คุณกำลังรู้สึกว่าความคิดต่างๆ กำลังผ่านเข้ามาในตัวคุณเรื่องแล้วเรื่องเล่า ทั้งเรื่องที่คุณกำลังภูมิใจ และเรื่องที่เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก เรากำลังจะบอกว่า สิ่งนี้ช่างเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์แทบทั้งโลกก็กำลังเป็นอยู่ เพราะเราไม่ได้อยู่ลำพังคนเดียวในโลก และเราก็มิได้มีเพียงภารกิจเดียวของการมีชีวิต ดังนั้น เมื่อเรายอมรับว่าเรากำลังอยู่ในท่ามกลางกระแสความคิดอันหลากหลาย คุณลองพยายามทำใจให้สงบ เยือกเย็น แม้จะต้องแข็งใจบ้าง และแม้จะเป็นความสงบเพียงชั่วครู่ ก็ขอให้พยายาม เรียงลำดับความคิด จนกระทั่งเหลือความคิดจดจ่ออยู่เพียงเรื่องเดียว ...ถ้าคุณทำได้ คุณกำลังจะเข้าใกล้แหล่งพลังอันมีอานุภาพยิ่งใหญ่ภายใน เป็นแหล่งพลังอันบริสุทธิ์ และเป็นแหล่งที่จะทำให้คุณรู้จัก “ใจ” ของคุณเองเข้าแล้ว

สันติสุขพบได้หากรู้จักวิธีฝึกควบคุมใจ

     การจะรู้จัก “ใจ” ของเราด้วยการทำความพยายามที่จะให้เหลือความคิดจดจ่ออยู่เพียงเรื่องเดียว ดูเหมือนเป็นเรื่องที่กล่าวได้ง่ายๆ แต่พอกระทำแล้ว คุณคงพบว่ามันไม่ใช่จะกระทำได้ทันทีและจะสามารถรักษาความสงบอย่างนี้ไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพราะความคุ้นอยู่กับสิ่งที่อยากจะได้ อยากจะมี อยากจะเป็น ตลอดจนการต่อสู้ขวนขวายของคุณเพื่อจะให้ได้มาในสิ่งนั้น มันยังคุกรุ่นเกิดความพร่องอยู่ในความคิดอยู่ตลอดเวลา บางเกิดความรู้สึกหงุดหงิด รำคาญ หรือแทบจะระเบิดออกมาให้คนได้รู้ได้เห็นความรู้สึกที่มันเก็บซ่อนอยู่ภายใน หรือในทางตรงข้าม บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกเพลิดเพลิน สนุกสนาน และพอใจในความเคลิบเคลิ้มกับอารมณ์หรือฝันหวานที่ไร้ขอบเขต และในที่สุด สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็สลาย แปรเปลี่ยนเวียนย้อนกลับมาให้คุณพบกับสภาพที่ปรากฏในความเป็นจริงของชีวิต ทำให้คุณยอมจำนนว่า บางครั้งดูเหมือนคุณมีความสุข บางครั้งก็ระทมทุกข์ ขมขื่น และมันก็คงจะเป็นเช่นนี้ร่ำไป หากคุณไม่ลองลดสิ่งที่มันเป็นอยู่อย่างนี้ให้พอดี จนสามารถควบคุมความรู้สึกต่างๆเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าคุณสามารถทำได้ หากคุณรู้จัก “ใจ” และรู้วิธีฝึกควบคุม “ใจ” ของคุณ

การฝึกควบคุมใจที่ศูนย์กลางกาย

     เมื่อสักครู่ขณะที่คุณหลับตา ขอให้คุณลืมเรื่องราวต่างๆไว้ชั่วคราว ทำความรู้สึกเหมือนห้วงความคิดของคุณว่างเปล่า โล่งๆ แล้วลองหายใจลึกๆ เบาๆ คุณจะสังเกตว่า ตรงบริเวณที่สุดลมหายใจในกลางท้องคุณ เป็นจุดที่สบายที่สุด ปลอดโปร่งโล่งที่สุด จุดดังกล่าวนี้แหละ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่คุณจะพบใจของคุณ ซึ่งที่แท้จริงก็คือจุดศูนย์กลางกายที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน จากนั้นคุณลองนึกสมมติว่ามีดวงแก้วกลม ใส สว่าง เหมือนดวงพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ หรือแสงเปล่งประกายใสสว่างเหมือนดวงดาวในยามค่ำคืน ให้มาปรากฏลอยอยู่ในศูนย์กลางกายหรือกลางท้องของคุณตรงนี้ พอคุณลองนึกแล้ว อาจจะฟุ้งคิดถึงเรื่องต่างๆอยู่บ้าง ขอให้ทำใจเย็นๆ ค่อยๆนึกพร้อมกับท่องประโยคใดประโยคหนึ่งที่สั้นๆ เบาๆ คล้ายๆกับดังออกมาจากกลางท้องหรือกลางดวงสว่างในกลางท้องของคุณ เช่น ประโยคสั้นๆว่า “สัมมา อะระหังๆ ๆ” หรือ “หยุด นิ่ง สบาย” หลายๆครั้ง จนกว่าคุณจะรู้สึกว่าคุณเริ่มปลอดจากความคิดอื่นใด นอกจากความรู้สึกที่เริ่มสัมผัสกับความสว่าง และสงบภายใน
 
 


ฝึกฝนสม่ำเสมอ แล้วจะพบเจอการเปลี่ยนแปลง

     วิธีการฝึกนี้ แม้ดูเหมือนจะเป็นบทฝึกเบื้องต้น แต่เราสามารถฝึกฝนได้ตลอด ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ โดยขอให้กำหนดนึกถึงภาพดวงแก้วใสสว่าง และท่องเบาๆในใจอย่างนี้ อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง จนกลายเป็นอุปนิสัย แล้วคุณจะพบว่า คุณกำลังพบกับสิ่งมหัศจรรย์และเริ่มพบกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจ ที่เริ่มมีการพัฒนาในทางที่ดีของชีวิตทีละน้อยๆ แม้จะยังไม่รู้สึกได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน แต่ขอให้คุณทำต่อไป เพราะคุณยังต้องใช้เวลาที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอ เสมือนดังเช่น ต้นไม้ที่คุณกำลังเพาะเมล็ดพันธุ์ แล้วเริ่มงอกงาม จากต้นกล้าเล็กๆ จนเติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่ความเจริญงอกงามมันค่อยๆเป็นค่อยๆไป โดยที่เราไม่อาจจะไปกำหนดวัดได้ว่า มันเจริญงอกงามวันละกี่เซนติเมตร

สันติสุขภายใน จะแผ่ขยายสู่สันติภาพภายนอก

     จากหลากหลายความคิดที่วุ่นวายแล้วเริ่มหายไปเหลือเพียงหนึ่ง และในที่สุดความรู้สึกได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับความสว่างของดวงแก้วใสกระจ่างในกลางกาย เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณก็จะพบกับความสุขสงบอันบริสุทธิ์และเป็นความสุขที่คุณสัมผัสได้ด้วยตัวคุณเอง และสามารถบอกได้อีกว่าเป็นความสุขที่ใครๆก็ทำได้ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะมีเชื้อชาติ ภาษาหรือยังนับถือความเชื่อในศาสนาใด เพราะนี่เป็นความสุขสากลของมนุษยชาติ และเป็นความสุขที่ไม่ต้องไปแสวงหาหรือไขว่คว้ามาจากสิ่งภายนอก และที่สำคัญคือ มนุษย์ต่างล้วนมีกายและใจเหมือนกันทั้งโลก ขอให้ได้ลงมือทำเท่านั้น แต่ละชีวิตจะเริ่มรู้ “ใจ” ตัวเอง และรู้จักการควบคุม “ใจ”ตนเองให้มีการแสดงออกในสิ่งที่ดีงามและเหมาะสม นอกจากนี้ ย่อมจะเกิดความเข้าใจในความรู้สึกของคนอื่น รู้จักยับยั้งชั่งใจ แยกแยะได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ถูก อะไรคือสิ่งที่ผิด และอะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว และถ้าหากคนในครอบครัว ในสังคม และทั่วทั้งโลกได้ลองฝึกฝนเช่นนี้แล้ว ทุกคนก็จะสัมผัสและบอกกับตนเองว่านี่คือความสุขที่แท้จริง สิ่งนี้มิใช่หรือที่เรียกว่า “สันติสุขภายใน” ที่จะทำให้เกิด “สันติภาพภายนอก” อันเป็นสันติภาพบริสุทธิ์ที่มิใช่ได้มาด้วยการใช้กำลังอาวุธ หรือการมีชัยชนะจากสงคราม

มโนปณิธานสานสันติธรรม นำสู่สันติสุข

     บทฝึกใจดังได้กล่าวมาในเบื้องต้น ก็คือการปฏิบัติ “สมาธิ” อันเป็นแนวทางที่จะสร้างสรรค์ให้เกิดสันติภาพแก่สังคมมนุษย์ได้ สิ่งนี้เองเป็นมโนปณิธานของพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ที่ปรารถนาจะนำเอาวิธีการปฏิบัติสมาธิออกเผยแผ่ให้ชาวโลกได้ค้นพบความมหัศจรรย์ในตัวของแต่ละคน เพราะความรู้ดังกล่าวนี้ มิใช่เป็นทฤษฎีที่เพ้อฝัน แต่เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้จริง และสามารถเห็นผลได้จริง และนำไปสู่สันติภาพได้จริง เพราะใจของมนุษย์นั้นมีอานุภาพอย่างมหาศาล แต่ตราบใดที่ใจของมนุษย์ ยังถูกครอบงำด้วยความโลภ ความโกรธ และความหลง เมื่อนั้น มนุษย์ก็ย่อมที่จะต่อสู้ แก่งแย่งและเบียดเบียนมนุษย์ด้วยกัน ดังเช่นในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมวลมนุษย์ชาติในประเทศต่าง ๆ มักจะพบว่ามีแต่ความขัดแย้งและสงครามมาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย อะไรเล่า เป็นสาเหตุที่แท้จริงของสงครามและการทำลายโลก ถ้าไม่ใช่ “ใจ” ของมนุษย์ที่ยังไม่พบแหล่งแห่งสันติสุข อันจะก่อให้เกิดสันติภาพแก่มวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง ดังที่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า “ใจของมนุษย์เรานั้น สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของทั้งสงครามและสันติภาพได้ ถ้าใจของผู้คนเต็มไปด้วยความเร่าร้อน อันเกิดจากความโลภ ความโกรธ หรือความหลงก็ตาม ความรู้สึกนึกคิดที่เป็นชนวนของความขัดแย้งก็เกิดขึ้น สงครามและการต่อสู้ที่ระเบิดมาทางปากกระบอกปืนซึ่งระบาดไปทั่วโลกและทำให้เกิดความทุกข์ทรมานของชีวิต ล้วนเริ่มต้นจากไฟในใจคน เปรียบเสมือนประกายไฟของหัวไม้ขีดก้านเล็กๆที่ลุกลามเผาไหม้บ้านเมืองให้ย่อยยับได้ ในขณะเดียวกัน เมื่อใดที่ใจของเหล่ามวลมนุษย์สงบเยือกเย็น เต็มเปี่ยมไปด้วยสติและปัญญา ความสุขที่ไม่มีประมาณย่อมก่อเกิดขึ้น ยังผลเป็นสันติภาพที่แวดล้อมตัวบุคคล ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และประชาคมโลก กลายเป็นสันติภาพโลกที่เกิดขึ้นจากสันติสุขภายใน เพราะฉะนั้น ใจจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่อาจนำมาได้ทั้งสงครามโลก หรือสันติภาพโลก เฉกเช่นเดียวกัน”
 
จะดีกว่าไหม..? หากโลกนี้ยังมีความเชื่อที่แตกต่าง
แต่ทุกคนก็อยู่ร่วมกันได้ อย่างมีความสุข...
สมานฉันท์ และมีความเอื้ออาทรต่อกันตลอดไป
รากเหง้าของปัญหาอยู่ที่ใจเป็นเหตุ
เมื่อเกิดตรงไหน ก็ต้องแก้ตรงนั้น
เมื่อปัญหาเริ่มที่ใจ ก็ต้องไปแก้ที่ใจ
ต้องแก้ด้วยวิธีที่ลัด ตรง และเร็วที่สุด ก็คือ การเจริญสติปัฏฐาน 4
สิ่งที่ยากที่สุด แก้ได้ด้วยวิธีง่ายที่สุด
“สันติภาพภายนอกเริ่มจากสันติสุขภายใน”
 
บทความที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพ



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
สัจจบารมี ยอมตายไม่ยอมคด สัจจบารมี ยอมตายไม่ยอมคด

อธิษฐานบารมี ยอมตายไม่ยอมทิ้งเป้าหมายอธิษฐานบารมี ยอมตายไม่ยอมทิ้งเป้าหมาย

"ธัมมัสสวนมัย" ฟังธรรมเป็นนิจจิตแจ่มใส



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ