วัดพระธรรมกาย ปฏิเสธกรณีข่าวโยงโกตี๋
และกรณีมีอาวุธในอาคารบุญรักษา
1. กรณีมีข่าวโกตี๋โยงกับวัดพระธรรมกายที่ปรากฏในสื่อมวลชนนั้น วัดพระธรรมกายขอชี้แจงว่า "ไม่ เกี่ยว กัน เลย !!!"
2. กรณีหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 21 มี.ค. 60 ลงข่าวว่า “แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ข้อมูลการข่าวเชื่อว่าในอาคารบุญรักษา และพื้นที่โดยรอบบริเวณดังกล่าวมีอาวุธซุกซ่อนอยู่ ซึ่งการเจรจาขอเข้าค้นพื้นที่ดังกล่าวได้ถูกต่อต้านและขัดขวางมาตลอด โดยแกนนำการชุมนุมปี 53 เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจไม่นำกำลังเข้าค้น เนื่องจากเกรงว่าจะมีเหตุปะทะรุนแรง จนกระทั่งมีการเคลื่อนไหวนำอาวุธออกนอกพื้นที่ จึงสามารถเข้าค้นในพื้นที่ต้องสงสัยได้ โดยทางการสืบสวนเชื่อว่าของกลางที่ยึดได้ส่วนหนึ่งถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากพื้นที่ต้องสงสัย” นั้น วัดพระธรรมกายขอปฏิเสธข่าวดังกล่าว และขอชี้แจงลำดับเหตุการณ์ ดังนี้
15 ก.พ. 60 กลางดึก คสช.ออก ม.44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจประมาณ 4,200 นาย ปิดล้อมวัดพระธรรมกายไว้ทุกประตู รวมทั้งรอบอาคารบุญรักษา ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 15 ก.พ. 60 โดยห้ามผู้คนสัญจรผ่านถนนเลียบคลองแอลที่ผ่านอาคารบุญรักษาด้วย
16 -17- 18 ก.พ. 60 ดีเอสไอนำกำลังเข้าตรวจค้นทุกพื้นที่ของวัดพระธรรมกาย รวมทั้งอาคารบุญรักษา โดยเฉพาะอาคารบุญรักษานั้น เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำกำลังเข้าไปตรวจค้นอย่างรวดเร็วและละเอียด โดยไม่อนุญาตให้ พระ ศิษย์วัด และสื่อมวลชนเข้าพื้นที่ จนเจ้าหน้าที่ตรวจค้นเป็นที่พอใจแล้ว จึงอนุญาตให้พระ ศิษย์วัด และสื่อมวลชน เข้าดูในพื้นที่อาคารได้
23 ก.พ. 60 ทหารนำกองกำลังพยายามบุกเข้าไปที่อาคารบุญรักษา แต่พระสงฆ์และคณะศิษย์ ขอร้องไม่ให้เข้าพื้นที่ เนื่องจากไม่มีการเจรจาแจ้งล่วงหน้ามาก่อน
6 มี.ค. 60 ทหารตรึงกำลังในพื้นที่ 196 ไร่ และอาคารบุญรักษา หลังอ้างว่ามีการขุดคลองและมีถังน้ำมัน (สอดคล้องกับที่มีผู้ให้ร้ายว่า วัดเตรียมน้ำมันเอาไว้จุดไฟสกัดเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ความจริงเป็นถังเปล่าเก่าๆ ไม่มีน้ำมันสักหยด)
10 มี.ค. 60 พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พร้อมพระวินยาธิการ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมถึงสื่อมวลชนทุกสำนักเข้าตรวจค้นพื้นที่อาคารบุญรักษาเป็นครั้งที่ 2 และ “ไม่พบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด”
หลังจากตรวจเสร็จแล้ว อธิบดี DSI แถลงว่า อนุญาตให้เข้าออกวัดพระธรรมกายได้ และลดกำลังเจ้าหน้าที่ลง โดยมีการสั่งให้ทหารส่วนหนึ่งพักค้างอยู่ในพื้นที่อาคารบุญรักษา เพื่อเฝ้าระวังต่อไป และอีกส่วนหนึ่งตรึงกำลังอยู่ด้านนอก รวมทั้ง ยังคงตรึงกำลังเอาไว้รอบๆวัด เพื่อป้องกันมือที่ 3 และยังคง ม.44 ไว้ จนถึงวันนี้ 21 มี.ค. 60 ก็ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ยังอยู่โดยรอบวัด
ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่มีการขนอาวุธเข้าออกดังข่าวที่ระบุ เพราะแม้พระภิกษุบิณฑบาตมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอก็มีการ “ตรวจค้นบาตร” และอนุญาตให้ได้เฉพาะภัตตาหารในบาตรโดยปริมาณฉันได้เพียงมื้อเดียว หรือแม้แต่ศิษย์วัดที่เป็นมนุษย์ธรรมดามือเปล่า ยังต้องมีการตรวจบัตรประชาชนและจดทะเบียนรถไว้หมด พร้อมตรวจค้นของอย่างละเอียด
วัดพระธรรมกาย จึงขอปฏิเสธข่าวกรณี ความเชื่อว่าในอาคารบุญรักษา และพื้นที่โดยรอบบริเวณดังกล่าวมีอาวุธซุกซ่อนอยู่ และยืนยันว่า ที่ผ่านมา ให้ความร่วมมือและเจรจากับเจ้าหน้าที่ด้วยดีเสมอมาโดยตลอด
สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย
21 มีนาคม 2560