เลิกราอย่างเข้าใจ

เลิกราอย่างเข้าใจ

โดย ผศ.ดร.สุวัฒน์ อธิชนากร - ชุลีพรช่วงรังษี

เมื่อคนเราเริ่มต้นความสัมพันธ์กันด้วยความรักก็มักจะคาดหวังว่าความรักนั้นจะอยู่ยืนยาวชั่วชีวิตซึ่งบางคู่ ก็ทำได้แต่ บางคู่ก็ทำไม่ได้ต้องเลิกรากันไป และการเลิกรานั้น บางครั้งก็จบลงด้วยความเจ็บปวดและมีการใช้ความรุนแรง เราจึงพูดเรื่อง เลิกราอย่างเข้าใจเผื่อจะได้ทราบถึงวิธีการตัดความสัมพันธ์ จบความสัมพันธ์เจ็บปวดน้อยที่สุดและจากกันด้วยดี

คิดว่าเป็นเรื่องปกติระหว่างที่สร้างความสัมพันธ์เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ถ้าความสัมพันธ์นั้นไปต่อไม่ได้เข้ากันไม่ได้ก็ต้องยุติลง หรือการเลิกรา สุภาษิตไทยก็บอกอยู่ว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ เมื่อเลิกราไปแล้วก็อาจทำให้เกิดความทุกข์เกิดขึ้น ต้องพยายามแก้ปัญหานี้ให้ได้ ปัจจุบันนี้เลิกรากันไปมักจะใช้ความรุนแรงไม่ทำร้ายตัวเองก็ทำร้ายอดีตคนรักหรือคนอื่นที่เกี่ยวข้อง

วิธีบอกเลิกอย่างเข้าใจ

1.หาเวลาที่เหมาะสม

คือเวลาที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เสียใจอยู่ ตัวอย่างเช่น ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งกำลังโกรธอยู่ แล้วเราไปบอกเลิกเขาตอนกำลังโกรธอยู่ จะทำให้เขามีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธมากขึ้นและอาจมีความรุนแรงเกิดขึ้น หรือว่าไปบอกตอนอีกฝ่ายหนึ่งกำลังเสียใจ เขาก็จะยิ่งเสียใจหนักขึ้น อาจจะทำให้เขาน้อยใจ คิดสั้น คิดฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายตัวเองก็ได้

2. บอกด้วยความจริงใจตรงไปตรงมา

ใช้เหตุผลพูดคุยกัน ประนีประนอมกัน ใช้ถ้อยคำที่สุภาพ แล้วก็ถนอมน้ำใจอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นการบอกเลิกกันว่ามาเป็นเพื่อนกันดีกว่าที่จะคบกันไป จะเป็นการถนอมน้ำใจของอีกฝ่ายได้ดีที่สำคัญไม่ควรพูดว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ควรพูดกลางๆ ว่าเราเข้ากันไม่ได้ ไปต่อไม่ได้

3.เป็นการตกลงกันทั้งสองฝ่ายโดยไม่คาดคั้น

ทั้งสองฝ่ายต้องมีความเห็นรวมกัน อย่าไปบีบคั้น ให้อีกฝ่ายหนึ่งให้ตัดสินใจในขณะนั้น ตอนนี้เราอาจพูดไปก่อนว่าเราเลิกกันดีไหม แล้วก็พูดคุยกันอย่าไปบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งตัดสินใจทันทีทันใด อาจจะกระตุ้นให้อีกฝ่ายหนึ่งโกรธ หรือว่าทำให้อีกฝ่ายเกิดอารมณ์เศร้า ก็ทำให้อารมณ์รุนแรงขึ้น ทำอะไรโดยไม่ใช้เหตุผลขึ้นได้

4. ไม่บอกเลิกทางโซเชียลมีเดีย

เคยมีเคสที่ปรากฏในประเทศไทย ก็คือประกาศบอกเลิกในเฟสบุ๊คซึ่งเป็นการทำร้ายจิตใจและเป็นการไม่ให้เกียรติอีกฝ่ายหนึ่งมากๆ เลย อาจนำไปสู่ความแค้นอาฆาตพยาบาทได้ การบอกเลิกควรบอกโดยตัวต่อตัวนัดคุยกัน ทำความเข้าใจกันดีกว่าที่จะบอกเลิกโดยสื่อโซเชียลมีเดีย

5. ไม่หาแฟนใหม่ในทันที

ไม่หาแฟนใหม่ในทันทีทันใด หรือไม่เปิดตัวแฟนใหม่ เราควรถนอมน้ำใจของอีกฝ่ายหนึ่งให้เวลาเป็นฝ่ายเยียวยาให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ก้าวข้ามผ่านความรู้สึกเศร้าออกไปได้ในการเลิกราทุกครั้งทุกคนเจ็บปวด คนบอกเลิกก็ต้องเจ็บปวดก่อนถึงจะบอกเลิก แต่คนถูกบอกเลิกมันจะได้ไม่ได้ตั้งตัว จึงเจ็บปวดมากกว่า

เทคนิคการคลายปวดร้าวใจ

1. ทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น

เพราะว่าสิ่งๆนั้นเกิดขึ้นไปแล้ว จะกลับไปแก้ไขก็ค่อนข้างยากการทำใจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด คือทำใจยอมรับ ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แล้วก็ขณะเดียวกันเราอาจจะบอกตัวเองว่าสิ่งใหม่ๆ ดีๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ มองโลกในแง่ดี การเลิกกับคนเดิมก็มีโอกาสที่จะเจอคนใหม่ๆ คนที่ดีและเหมาะสมกับเราให้เข้ามาในชีวิตของเรา

2. เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น

ว่าอะไรเป็นสาเหตุของการเลิกรา อะไรเป็นสาเหตุของการเข้ากันไม่ได้ เรามีอะไรที่จะต้องปรับปรุงตัวไหม การที่เราทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้น ด้วย

3. พยายามไม่อยู่คนเดียวให้หากิจกรรมทำ

เพราะว่าการอยู่คนเดียวจะทำให้เราเศร้าใจ ถ้าเราหาเรื่องอื่นมาทำก็ทำให้เราสามารถพักจากความเศร้าของเราไปได้ เราควรไปทำกิจกรรมกับเพื่อนสนิท หรือว่าครอบครัวของเรา หาโอกาสปรับทุกข์กับคนสนิทของเราก็ได้เป็นการเยียวยาเราไปในตัว ด้วย

4. หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้นึกถึงความสัมพันธ์เก่าๆ

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ๆ เคยไป พักผ่อนด้วยกันไปเที่ยวด้วยกัน หรือว่าร้านอาหารที่เคยไปทานด้วยกัน โรงภาพยนตร์ที่เคยไปดูด้วยกัน สิ่งเหล่านี้เราควรจะหลีกเลี่ยง ถ้าเกิดเราไปกระตุ้นภาพเก่าที่เราเคยมีความสัมพันธ์ ก็จะทำให้เหมือนเราขุดหลุมฝังตัวเราเอง ไม่ก้าวไปไหนจมอยู่กับความเศร้า นึกถึงแต่ความหลังวันก่อนๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเลี่ยง คือ ทั้งเพลง ทั้งหนัง ที่เศร้าทั้งหลาย เพราะว่าหนังและเพลงเศร้ามันเรียกน้ำตา เมื่อเรียกน้ำตาให้เราเศร้า จนจมอยู่กับความหลัง เราจะไม่สามารถมองอนาคตได้ แค่จมอยู่กับอดีตก็หมดเวลาแล้ว การเลิกรากันไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต มันเป็นสิ่งที่คนบางคนที่เขาเลิกรักเราแล้ว แล้วเขาทิ้งเราไป เราไม่ได้สูญเสียความรักค่ะ เราไม่ได้สูญเสียคนที่เรารักด้วย เราแค่เสียคนที่เขาไม่ได้รักเรา ไปเท่านั้น ขอให้เริ่มต้นใหม่มองคุณค่าในตัวเอง พัฒนาตัวเอง เพื่อจะได้เจอสิ่งที่ดีๆ คนดีๆ ที่ดีกว่าเดิม

โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)

คงไม่มีใครอยากจะพบกับคำนี้ แต่ละคนถ้ามีความรักใคร่ชอบคอกับใครแล้ว จริงใจลึกๆก็อยากจะให้อยู่กันไปยาวๆ ตลอดชีวิตได้ก็ได้ ถ้าเกิดหากมีความจำเป็นจะต้องเลิกรากันแล้ว ทำยังไงไม่ให้ตกอยู่ในอาการที่ว่า อกหัก แต่สามารถจากกันด้วยดีด้วยความเข้าใจ เราเองก็ไม่ทุกข์จนเกินไป เขาเองก็ไม่ทุกข์จนเกินไป สามารถจากกันด้วยดี ไม่ได้เป็นคู่ชีวิตกันอีกแล้ว แต่ก็อาจจะเป็นเพื่อนกัน ต่อไปได้ ก่อนอื่นให้เราเข้าใจ แฟกเตอร์ สำคัญอย่างหนึ่งของความรู้สึกว่าจะทุกข์มากหรือทุกข์น้อยคือคำว่าศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตัวเอง ตรงนี้สำคัญมากๆเลย คนที่อกหัก แล้วก็รู้สึกว่าทุกข์มากเพราะไปกระทบกับศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตัวเอง ถ้าในกรณีที่ไม่กระทบกับศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตัวเอง ผลกระทบรู้สึกเศร้าเสียใจจะไม่สูงเท่าไร ยกตัวอย่าง เช่น

แฟนไปบวชอาจจะรู้สึกผูกพันอาลัย คิดถึง แต่ไม่เท่าไร เพราะรู้สึกเขาไปบวช ถ้าเกิดเขาทิ้งเราไปมีคนใหม่ความเสีย อกหัก ความอาลัยอาวรณ์ต่างๆ ความเศร้ามันเทียบกันไม่ติดเลย อาการอกหักเกิดขึ้นมาอย่างมากเลย ถามว่าทำไม่ ?

ก็เพราะว่าตอนที่เขาทิ้งเราไปมีคนใหม่ มันแสดงว่า เราสู้คนนั้นไม่ได้ สู้คนใหม่ของเขาไม่ได้เหรอ เรามันแย่ตรงไหนหน้าตาสู้เขาไม่ได้ความรู้สู้เขาไม่ได้ กิริยามารยาทสู้เขาไม่ได้ สวยสู้เขาไม่ได้ ทุกสิ่งอย่างสู้เขาไม่ได้ใช่ไหม เขาถึงทิ้งเราไป สิ่งที่เราภูมิใจว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ มีความสามารถ แต่ว่าไม่สวยมาก เราก็กิริยามารยาทดีนะ หรือว่าเราก็เป็นคนพูดจ่ามีเสนห์นะ เราเคยภูมิใจ แต่พอถูกเขาทิ้งไปแล้ว ไปมีคนใหม่มันกระทบต่อความมั่นใจในตัวเอง ความภูมิใจในตัวเอง กระทบศักดิ์ศรีของตัวเรา อย่างมากๆ เลยเพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ผสมผสานขึ้นมาเรียกว่า อกหัก แล้วก็ซึมเศร้า เสียใจ บางคนถึงขนาดฆ่าตัวตาย

เป็นเลยก็มีเพราะคำว่าศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ แล้วเราจะจัดการกับกรณีนี้อย่างไร

หัวใจสำคัญอยู่ที่ประเด็นนิดเดียวว่า เราอย่าเอาศักดิ์ศรีและความภูมิใจของเราไปฝากไว้กับคนอื่น เขาอาจไม่ได้เป็นคนที่มาตรฐานเลยแต่เราควรจะฝากศักดิ์ศรีและความภูมิใจของเรา ไว้กับตัวของเราเอง ลิงไปได้แก้วมามันบอกไร้ค่าโยนทิ้ง ถ้าแก้วมีชีวิตแล้วควรจะน้อยใจไหม ทำไมเราภูมิใจเราสวยๆ มีค่า ดูสิลิงมันโยนเราทิ้งไม่ใยดีเลยเรารู้สึกหมดอะไรตายอยากแล้ว อกหัก ถูกลิงทิ้ง ควรจะคิดอย่างนั้นไหม หรือว่า ไก่ได้พลอย พลอยเคยภูมิใจเป็นอัญมณีที่มีค่า แต่ปรากฏว่า ไก่มันคุ้ยแล้วเอาขาเขี่ยทิ้งพลอยทิ้ง แล้วไปจิกหนอนกิน พลอยควรจะน้อยใจตัวเองไหมว่า เรามันแย่เต็มทน ดูสิไก่มันไม่สนใจเราเลย ตัวเราเป็นพลอยคุณค่าสู้หนอนยังไม่ได้ ควรจะคิดอย่างนั้นไหม

คำตอบคือ หาควรไม่ ดังนั้นท่านทั้งหลาย หากยังมีอารมณ์อกหักอยู่ ให้ตระหนักว่าเราเป็นแก้วเราเป็นพลอยแต่คนที่อยู่กับเราเขาไม่เห็นค่า เพราะปัญญาเขายังตรองไม่ถึงอยู่หรือป่าว อย่าเอาความรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และศักดิ์ศรีของเราไปฝากอยู่ที่ท่าทีของเขา ให้เราสำรวจตัวเราเองแล้วมั่นใจในคุณค่าของตัวเราเอง ถ้าเป็นแบบนี้ เงื่อนไขจะสุข จะทุกข์ จะภูมิใจในตัวเอง มันอยู่กับเงื่อนไขภายใน ปัจจัยภายนอกก็จะมีโอกาสมากระทบกับเราน้อยลง ไม่ไปผูกกับเงื่อนไขข้างนอก บางคนเรียนสูงๆ จบปริญญารี ปริญญาโท เกียรตินิยม รูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้ อะไรก็ดีหมด แต่พอแฟนทิ้ง ไปหาคนใหม่ ที่จริงแล้วเทียบกันไม่ได้ ทั้งสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ หน้าตา อาจจะเด็กกว่านิดหนึ่ง บางคนขาดความเชื่อมันในตัวเอง ถึงขนาดว่า นั่งรถไปมองเห็นคนอยู่ข้างถนน หนุ่มสาว อาจจะจบ ป.4 ป.6 ม.ต้น เป็นคนใช้แรงงานอะไรก็แล้วแต่ แล้วพูดคุยกระหนุงกระหนิงกันเห็นแล้วยังอิจฉา ดูเขาชั่งเหนือกว่าเรา ยังมีคนมาให้ความรักความใจใส่ แต่เราไม่มีใครเอาใจใส่เลย ในอารมณ์ที่กำลัง อกหัก มันจะมองตัวเองว่าไร้ค่า และแย่ ยิ่งรู้สึกอย่างนี้มากเท่าไร อารมณ์เศร้าก็จะมากไปตามส่วน เพราะฉะนั้นเราต้องฟื้นขึ้นมาใหม่เลย เปลี่ยนใหม่ แล้วอย่าเอาใจผูกกับอารมณ์ตรงนี้ แต่ว่าให้ดึงใจหลุดออกมาเสียแล้วเสียไปหาใหม่ดีกว่า หรือบอกว่าเราเป็นพลอยไก่ไม่รู้ค่าแล้วจะทิ้งพลอยไปหาหนอน ก็ตามสบาย แล้วมั่นใจในคุณค่าของตัวเราเอง แล้วเพิ่มพูนคุณค่าตัวเอง ให้สูงขึ้น เช่น

วิธีคลายเศร้าอย่างมีคุณค่า

- ไปออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ให้อ้วนจนเกินไป

- อะไรที่ทำให้นึกถึงเคลียร์ทิ้งให้หมดไม่ให้ใจกลับไปคิดเรื่องเดิม

- หาทักษะความรู้เพิ่ม

- สวดมนต์นั่งสมาธิ

เพราะฉะนั้นหัวใจอยู่ตรงนี้ ต้องเอาความภูมิใจของเรามาผูกอยู่กับตัวเราเอง อย่าไปฝากไว้กับปฏิกิริยาคนอื่นที่มีต่อเรา เพราะเขาอาจเป็นลิงเป็นไก่ก็ได้ มีของดีอยู่กับตัวแล้วไม่รู้ค่า เราจะไปเศร้าเพราะถูกลิงถูกไก่เขี่ยทิ้งทำไม สุนทรภู่ท่านฝากกล่อนเอาไว้ว่า

จะหักอื่น ขืนหัก ก็จักได้

หักอาลัย นี้ไม่หลุด สุดจะหัก

สารพัด ตัดขาด ประหลาดนัก

แต่ตัดรัก นี้ไม่ขาด ประหลาดใจ

นิราศอิเหนา ประพันธ์โดยสุนทรภู่

อารมณ์รักพอมันผูกพันแล้วถูกทิ้งถูกขว้าง วนๆ เวียนๆ เศร้าๆ อยู่อย่างนั้น เป็นความรู้สึกสากล มีบริษัทจีนในเซี่ยงไฮ้ถึงขนาดออกระเบียบบริษัทว่า ถ้าพนักงานบริษัทเจอภาวะ อกหัก อนุญาตให้ลาพักได้ 2 วัน ถ้าเกิดมีครอบครัวแล้วย่าร้าง อนุญาตให้ลาพักได้ 3 วัน เพราะถือว่าเป็นภาวะป่วยอย่างหนึ่ง ต้องการ การเยียวยา เราเองถ้าอกหักแล้วจะเศร้า เลิกรากับแฟน แฟนทิ้งไป ขอให้เศร้าได้ไม่เกิน 2 วัน บริษัทเซี่ยงไฮ้เขายังให้พักได้สองวันเองเขาไม่ได้ให้พัก 2 เดือน ให้เศร้าได้อย่างมากไม่เกิน 2 วัน แล้วเลิก เอาใจมาอยู่กับตัวเราเอง ทำตัวเราเองใหม่ปรับวิถีชีวิตใหม่ อะไรผ่านแล้วก็คือผ่านไป ให้มั่นใจในคุณค่าของตัวเราเองแล้วพัฒนา ร่างกายออกกำลังกาย แข็งแรง แล้วก็ความรู้ความสามารถ เพิ่มเติม ทุกอย่างเราจะได้ผงาดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ เชื่อมั่น

และก็ภูมิใจในตัวของเราเอง ถ้ายืนหยัดอย่างนี้ได้แล้วก็ อาการซึมเศร้าหาย พอเป็นแบบนี้เราจะเริ่มมีว่าถ้าหากจะต้องเลิกรากันนะก็เลิกราด้วยความเข้าใจ คือ จะอดออมถนอมน้ำใจว่ามันไปไม่ได้จริงๆ จะฝืนอยู่ด้วยกันทั้งชาติแล้วไม่ไหว ก็พูดจากันด้วยเหตุด้วยผล อย่างชัดเจนโดยไม่ไปว่าเขา ไม่ไปดูถูกศักดิ์ศรีของเขา ไม่ใช่เขาดูถูกเรา กดศักดิ์ศรีเรา เราเองก็อย่างไปกดศักดิ์ศรีของใครเขาเป็นอันขาดข้อดีเขามีอยู่เข้าใจ ยอมรับ แต่ข้อบกพร่องที่เขามีปรับไม่ได้ เราเองก็ฝืนไม่ไหวก็พูดคุยกัน ตามตรงข้อดีเขาก็ชม ข้อบกพร่องที่มีอยู่ที่เราไปกันไม่ได้ ก็พูดให้พอเข้าใจ แต่ว่าไม่ไปว่าไปกดศักดิ์ศรีความภูมิใจในตัวของเขา ส่วนเขาเองก็เช่นเดียวกัน แล้วก็ให้จากกันไปด้วยดี ถ้าอย่างนี้แล้วก็เลิกจากกันเป็นคู่ครองคู่ชีวิต แต่ก็อาจเป็นมิตรต่อกันได้ ต่อไป

รับชมคลิปวิดีโอ เลิกราอย่างเข้าใจ