Affiliate Marketing ทำอย่างไร


[ 16 มิ.ย. 2560 ] - [ 18335 ] LINE it!

Affiliate Marketing
การตลาดในยุคไอที (Information Technology)

สาระดีๆทันโลกโดยผศ.ดร.สุวัฒน์ อธิชนากร และชุลีพร ช่วงรังษี

      ถ้าพูดถึงนายหน้าผู้คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึง นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ หรือนายหน้าหุ้น แต่ในโลกยุคนี้ซึ่งเป็นโลกยุคธุรกิจออนไลน์และ แน่นอนนายหน้าก็เข้าไปอยู่ในธุรกิจออนไลน์ด้วย วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องหารายได้จากนายหน้าในธุรกิจออนไลน์ ที่เรียกว่า  Affiliate Marketing เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปเรียนถามคุณหมอกัน
 
 
Affiliate Marketing คืออะไร
 
      คำนี้อาจจะฟังดูใหม่ แต่ก็มีมาพร้อมๆ กันยุค E-commerce คือยุคการซื้อสินค้าออนไลน์ เพราะว่าทางผู้ผลิตหรือผู้ขายสินค้าออนไลน์ ต่างเห็นตรงกันว่าถ้าให้มีคนช่วยขายเยอะๆ โอกาสที่จะขายสินค้า เข้าถึงสินค้ามากขึ้น เพราะว่ามีกลุ่มคนที่ชี้นำได้ คือเป็นคนที่มีคนติดตามเยอะ คือ ผู้แล้วคนฟัง ให้เขาทำการวิเคราะห์สินค้า ไม่ได้ขาย แต่ว่าเป็นการวิเคราะห์สินค้า ถ้าสนใจก็ลองไปดูสิ แล้วมีลิ้งค์ให้ ถ้าสนใจ ถ้ามีคนกดลิ้งค์เข้าไปทางบริษัทสินค้าก็จะบันทึกไว้แล้วก็จ่ายเงินไป เพราะฉะนั้น คำว่า Affiliate Marketing ความจริงมันก็คือการขายสินค้าออนไลน์จากสินค้าของผู้อื่น ไม่ใช่ของเราแต่เราโปรโมทสินค้านั้น ผ่านช่องทางที่เรามีอยู่เช่น facebook, Instagram, social media ต่างๆ ที่เราใช้อยู่ หรือการเอาแบนเนอร์ หรือการเอาลิ้งค์ไปไว้ในบล็อกของเรา หรือในเว็บเพจของเราเอง เสร็จแล้วเราก็จะได้ผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่น 
 
 

     ข้อดีของ Affiliate Marketing มันดีกว่าการทำการตลาดวิธีอื่นอย่างไร Affiliate Marketing ก็ถือว่าได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เจนมี เจนซี ทั้งหลาย พวกเขาอยากเป็นเจ้าของธุรกิจโดยส่วนหนึ่งโดยภาวะยังไม่มีทุน เขาก็จะหาอะไรทำโดยที่ไม่เสียเวลาอะไรมาก ตัวเองอาจจะยังทำงานอยู่ มีงานประจำอยู่ เพราะว่า Affiliate Marketing ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องมีอะไรเป็นของตัวเอง มีเพียงพื้นที่ออนไลน์เป็นของตัวเอง บล็อก facebook, Fan Page, twitter, Line, social media ต่างๆ Instagram แล้วก็มีคนติดตามเยอะพอสมควร ก็จะมีโอกาสทำธุรกิจแนวนี้ได้ง่าย เหตุผลก็คือเป็นอะไรที่เริ่มต้นง่าย แล้วก็ไม่ได้ใช้ทุน อาจจะใช้เวลาว่างจากการทำงานมาทำได้
 
    ถ้าโอกาสมันดีขึ้นก็อาจเป็นแหล่งทุนอย่างหนึ่ง อาจจะไปต่อยอดธุรกิจอื่นหรือเอาดีด้านนี้ไปเลย ไม่มีงานประจำก็ได้ เข้าใจเลยว่าคนสมัยนี้ทำไมต้องโปรโมทตัวเองให้เป็นเน็ตไอดอลให้ได้ เพราะว่าหารายได้ได้อย่างนี้ นี่เอง แล้วเว็บไซต์ไหนบ้าง ที่เราสามารถไปร่วมมือกันเขาทำ Affiliate Marketing เว็บไซต์ขายของออนไลน์ E-commerce  ดังๆ มีหมด เช่น  Amazon ที่ทุกคนรู้จัก lazada ซึ่งตอนนี้คนไทยเราก็ชอบซื้อสินค้า lazada มาก Trendyday OfficeMate ก็ต้องถือว่าไม่ว่าจะเป็นสินค้าเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ หนังสือ แม้กระทั่งวิตามินอาหารเสริม ก็เข้าไปอยู่ใน Affiliate Marketing หมดแล้ว  เพราะฉะนั้นเราก็หาได้ไม่ยากเกินไป ถ้าเกิดว่าเราเป็นคนที่อยากหารายได้จาก Affiliate Marketing 
 
 
ขั้นตอนการสร้างรายได้จาก Affiliate Marketing 

1. สมัครสมาชิก - Affiliate ID - Affiliate Link 
2. ย่อ Link 
3. นำ Link ไปโพสต์ 

ตัวอย่างเช่น amazon ที่เขาขายสินค้า มีคนซื้อทีวีเครื่องละ 20,000 บาท แล้วมี amazon จ่ายค่าคอมมิชชั่นสัก 7% ก็แปลว่าทุกๆ 20,000 บาทที่ลูกค้าซื้อแต่ Link ไปจากเรา เราก็จะได้ 1,400 บาท สมมุติหนึ่งเดือนเราขายได้ 300,000 บาท ค่าคอมมิชชั่น 7%  ก็จะได้ 21,000 ต่อเดือน อันนี้คือตัวอย่างง่ายๆ
 
 
ข้อแนะนำการทำ Affiliate Marketing 
 
1. การติดตามทุ่มเทปรับปรุงแก้ไขให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง 
2. ไม่แนะนำหรือโฆษณาจนเกินจริง 
3. ไม่เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูง 
4. การเปรียบเทียบให้ผู้บริโภคเห็นภาพ 
 
 
     ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองด้วย ไม่สักแต่โปรโมทอย่างเดียว โดยลืมความจริง ฝากเตือนคนรุ่นใหม่ไว้ด้วยว่าอย่าไปโกงเขา เพราะว่ามีมาแล้วในต่างประเทศ เขาเรียกกว่าการหลอกลิ้ค์ ซึ่งมีคนทำไปแล้วซึ่งได้เงินจาก ammzon เดือนละ ล้านเหรียญ และถูก ammzon ฟ้องไปแล้วด้วย เราทำตรงไปตรงมาดีกว่า การทำ Affiliate Marketing ดูเหมือนจะง่ายแต่อะไรก็ตามที่ดูเหมือนจะง่ายคนก็จะเข้าไปทำกันเยอะ ดังนั้นการแข่งขันก็เลยสูง จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายาม ต่อเนื่อง ทำอย่างสม่ำเสมอ ลองผิดลองถูก ฝึกฝีมือของเราไป คำนึงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค และที่สุด ต้องมีความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ถ้าเกิดว่าบล็อกของเรา รีวิวของเรา ไม่น่าเชื่อถือสักพักเดียวคนก็เลิกติดตาม ความซื่อสัตย์สำคัญที่สุด เป็นหัวใจเลย
 
 
Affiliate Marketing มุมมองธรรมะทันธรรมโดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ
 
     วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง Affiliate Marketing ฟังชื่ออาจจะเข้าใจยาก เอาเป็นว่า การตลาดในยุคไอที ก็แล้วกันนะ จริงๆ ในการทำตลาด ถ้าเราสังเกตเราจะพบว่า มันมีการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ ไปตามวิถีชีวิตของเรา เช่น สมัยก่อนอยู่ในสังคมชนบท เงินทองไม่ใช้กันเลย บ้านนี้ทำนา บ้านนี้ทอผ้า บ้านนี้เลี้ยงสัตว์ ถึงคราวต้องการอะไรก็เอาของที่มีไปแลกกัน ที่ทำนาก็เอาข้าวสารไป ถังหนึ่ง ไปแลกเอาผ้ามา สมัยก่อนเป็นอย่างนั้นเลยไม่ต้องใช้เงิน
 
     แต่พอสังคมใหญ่ขึ้นเป็นสังคมเมือง การแลกเปลี่ยนข้าวของมันเป็นไปอย่างกว้างขวาง มันจำเป็นต้องมีสื่อกลาง เพื่อความสะดวก เงินตราก็เลยเกิดขึ้นมาจากยุคก่อน เป็นเงินพดด้วง ตอนหลังๆ ก็ต้องเป็นแบงก์ เป็นเงินเหรียญ อะไรต่างๆ ที่เราใช้กันในปัจจุบันมันเป็นไปตามสภาวะสังคมที่เปลี่ยนไป
 
 
Affiliate marketing ทําอย่างไร
 
     ในสังคมเมืองอย่างนี้การตลาดก็คือ ใครจะขายอะไรก็เปิดร้านขาย ขายข้าวสารก็ได้ ขายผ้าก็ได้ ขายโชห่วย ร้านขายของชำ มีข้าวของสารพัดอย่างมีอะไรก็ต่างเอามาขาย คนที่ต้องการก็มาหาเลือกเอา เลือกซื้อเอา มันก็เป็นการตลาดแบบง่ายๆ บางคนก็จัดหน้าร้านให้ดูดีหน่อย ก็เป็นสิ่งที่เราคุ้นๆ
 
     พอยุคต่อมาเพิ่งเริ่มไม่นานเท่าไร ในยุคที่เรายังมีชีวิตอยู่อาจ 40 - 50 ปีนี้ ก็เริ่มเกิดการตลาดอีกแบบหนึ่งคือ ขายตรง คือ ไม่ต้องมีหน้าร้านขายของ ใช้วิธีการว่าเอาสินค้าไปเสนอ จำนวนสินค้าอาจจะไม่มากเหมือนกับร้านค้า ร้านโชห่วย บางทีสินค้าเป็นพันเป็นหมื่นชิ้นเลย แต่ขายตรงสินค้าไม่ได้มากขนาดนั้น  ส่วนใหญ่เขามีไม่กี่สิบ อย่างเยอะๆ หน่อยก็เป็นหลักร้อย ไปนำเสนอว่ามันดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ พอขายมีคนเขาสั่งซื้อมา เราก็ได้ส่วนแบ่งตามที่เขาปันมาให้ว่าให้กี่ %
 
     ต่อมายิ่งเป็นยุคที่ใหม่มากพึงแค่ 10 - 20 ปี เท่านั้น พอเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตมีการพัฒนาขึ้นมาก็เลยมีคนหัวใส่ว่า อย่างนี้เราทำเป็น E-commerce ดีกว่าคือการตลาดทางอินเตอร์เน็ตอย่างที่มีชื่อเสียง
 
 
      เช่น  ammzon ขายสารพัดอย่างเริ่มจากหนังสือ ต่อมาก็ขายทุกสิ่งทุกอย่างเลย บางคนบอกว่าซื้ออยู่ในนี้ยังได้เลยนะ บางทีมีการซื้อบริการด้วยว่า กําจัดวัชพืชทำไว้ดี มีบริการเอาแพะมากินหญ้าก็มี ก็เป็นการกําจัดวัชพืชให้โดยไม่ต้องตัด พอสั่งไปเขาก็จะมาสำรวจ ตกลงราคากันเสร็จ กันที่ล้อมเป็นรั้วไว้ให้แพะเข้ามากิน แบบนี้ก็มีนะ มีบริการแปลกๆ หลายรูปแบบทางด้านอินเตอร์เน็ต
 
      ของจีนก็อย่างอารีบาบา (Alibaba) กำลังดัง ขายดิบขายดีอันนี้เรียก  E-commerce พอ E-commerce พัฒนาไปก็มีคนหัวใสคิดว่า ปกติคนแต่ละคนในสมัยก่อนเขาก็จะมีแวดวงคนรู้จักอยู่จำนวนหนึ่ง มีเพื่อนฝูงอยู่จำนวนหนึ่ง แล้วมีคนหัวใสเอาตรงนี้มาเป็นการตลาดขายตรงไปหาคนรู้จัก แนะนำต่อๆ กันไปเพื่อให้ขายสินค้า แต่ตอนนี้เมื่อมีโซเซี่ยลเกิดขึ้น คนจำนวนมากมี Facebook ตัวเอง มี Line ตัวเอง มี WhatsApp ตัวเอง มีช่องทางการติดต่อผ่านโซเซี่ยลเยอะมาก Instagram ก็มี มีสารพัดแอปพลิเคชั่น ทำยังไงจะเอาตรงนี้มาใช้ประโยชน์ การตลาด ก็เลยนำเสนอว่าคนทำ E-commerce ก็นำเสนอว่าแต่ละคนที่มีแวดวงคนรู้จัก มีเพื่อนใน Facebook อยู่อาจจะ 300 คน 500 คน 1000 คน อย่าทิ้งไว้เปล่าๆ เอามาทำเป็นการตลาด ดีกว่า
 
 
     โดยเอาสินค้าที่ขายในอินเตอร์เน็ตของแต่ละเจ้าที่ตกลงกันไว้ เอามาโปรโมทในเว็บไซต์ตัวเอง มันก็คล้ายๆ ขายตรง แต่ไม่ต้องไปพูดด้วยตัวเองทุกๆคำ กับทีละคนทีละคน เอาสินค้านั้นมาใสไว้ใน Facebook ตัวเอง หรือว่าส่งวง Line ตัวเอง WhatsApp ตัวเอง  Instagram ตัวเอง เป็นต้น พอมันกระจายไปแล้วมีคนมาเปิดดูแล้วสนใจก็เลยสั่งซื้อผ่านโซเซี่ยลของเรา เราก็ได้ส่วนแบ่ง กี่ % แล้วแต่ตกลงกันไว้ บางที่ก็ให้ 10% 15% บ้างแล้วแต่ๆละเจ้า นี้คือการตลาดแบบใหม่ที่เรียกว่า Affiliate Marketing
 
     อันนี้คือหลักการคร่าวๆ ที่มาที่ไปของมัน ซึ่งรายละเอียดใครสนใจก็ไปศึกษาหาวิธีการทำเอา แต่สิ่งที่จะฝากพวกเราเอาไว้ว่า การตลาดทุกรูปแบบจริงๆก็คือว่า มันคลุมถึงการทำงานทุกอย่างด้วยเราทำแล้วมันจะประสบความสำเร็จมากๆ สามารถตั้งเนื้อตั้งตัวเป็นเศรษฐีได้ หัวใจสำคัญคือ เราต้องมีความใส่ใจ ต้องทุ่ม ต้องเอาจริง ถึงจะสำเร็จ ถ้าเพียงแต่ว่า เห็นเขาทำกันก็เลยทำตามเขา เห็นเขาทำเขารายได้ดีเราเอามาทำบ้าง ถ้าอย่างนี้มันก็พอได้เหมือนกัน แต่ว่าเรื่องที่ว่าจะสำเร็จถึงกับร่ำรวยยาก
 
 
      ถามว่าคนทำ  E-commerce ประสบความสำเร็จมีไหม มี ที่ไม่สำเร็จเลิกไปกลางคันมีไหม มี อันไหนเยอะกว่า ไม่สำเร็จเยอะกว่า บางที 10 ต่อ 1  100 ต่อ 1 ด้วยซ้ำไป คนจะสำเร็จแบบรายได้เป็นกอบเป็นกำ เดือนหนึ่งเป็นแสนเป็นล้านจริงๆ มีไม่กี่คน ไปดูว่าทำไมเขาถึงทำสำเร็จ พบเหมือนกันว่าหัวใจสำคัญคือ ทุ่ม คำว่าทุ่มในที่นี้คือว่า เอาใจใส่ไ ม่ได้ทำแบบว่าเห็นเขาทำก็ทำๆ ไปอย่างนั้น ตามแห่เท่านั้นเอง เอาใจใส่ดูแลรายละเอียดหมดเลย ว่าสินค้าอะไร คนสนใจมีปฏิกิริยาตอนรับ เป็นยังไงแบบไหนจะดี ได้ตัวสินค้าที่เหมาะสม  ราคาสินค้าก็เหมาะสมด้วย วิธีการโปรโมทก็เหมาะสม ยาวไปคนไม่อ่านอีก สั้นไปคนก็ไม่รู้เรื่อง แบบไหน ยังไงดี ต้องเสนอแบบไหนถึงจะดี ใส่ใจทุกรายละเอียดพอเขาสนใจสั่งมา บางคนเขาก็จะถามมาก่อน จะต้องตอบยังไง ประสานยังไงเขาถึงเกิดความประทับใจ นำไปสู่การซื้อจริงได้ กระบวนการแพ็คสินค้า การส่งยังไง มีบริการหลังการขายเพื่อสร้างความเชื่อมั่น รักษาไว้ให้เป็นลูกค้านาน ไม่ใช่ครั้งเดียวขายทีเดียวก็เลิกกัน ต้องใส่ใจรายละเอียดทั้งหมด จึงจะประสบความสำเร็จได้ เราดูใครทำแล้วได้ดี อย่าไปเลียนแบบเขาแค่เปลือกๆ ผิวๆ ต้องดูไปถึงแก่น คนที่เขาสำเร็จ สำเร็จได้เพราะอะไร แล้วจะพบว่าเจอสิ่งที่เป็น ขายอะไรก็ตาม สำเร็จได้ก็เพราะใส่ใจในรายละเอียด ทุ่มเท ปรับปรุงพัฒนาต่อเนื่องตลอด เวลา จึงจะประสบความสำเร็จ
 
 
     การบริการ การนำเสนอ ที่ดีกว่าชาวบ้านเขาแค่ 10 20 % ส่งผลของความสำเร็จรายได้ อาจจะมากกว่าเขาเป็นพันเป็นหมื่นเท่า สินค้าสองตัวราคาเท่ากัน ถ้าตัวหนึ่งคุณภาพดีกว่า 10 % ถามว่าผลลัพธ์ของยอดขายระยะยาวจะเป็นยังไง ถ้าอย่างอื่นเท่าๆ กัน คำตอบคือตัวที่มีคุณภาพดีกว่า 10% แต่ราคาเท่ากัน ยอดขายอาจจะได้เป็น 10 เป็น 100 เป็น 1,000 ล้าน แต่ตัวที่ดรอปกว่าเขา 10% อาจเจ๊งไปเลยก็ได้ มันไม่ใช่กำไรจะมากกว่ากัน 10 % มันจะมากกว่ากันเป็นร้อยเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนเท่า เพราะใครๆ จ่ายเงินเท่ากันเรื่องอะไรจะไปเอาของคุณภาพแย่กว่า เขาก็เอาของคุณภาพดีกว่า ใครๆก็แห่มาซื้ออันนี้หมดเขาก็รวย หรือว่าถ้าคุณภาพเท่ากันแต่ชิ้นนี้ราคาถูกกว่า 10% เดี๋ยวคนก็แห่มาซื้อตรงที่ราคาถูกกว่า 10% ถ้าเงื่อนไขอื่นเหมือนกันนะ จริงๆแฟกเตอร์มีหลายตัวอันนี้ เปรียบเทียบ อย่างอื่นเหมือนกันหมดแต่อันนี้มันถูกกว่า 10% ใครๆ ก็แห่มาซื้อยอดขายจะมากกว่ากันเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นเท่า มันจะชนะ ก็ 5%10% นี้ละ ถามว่าทำอย่างไรเราจะประหยัดกว่าเขาได้ ของเราถึงจะถูกกว่าเขาได้หรือดีกว่าเขาได้
 
 
     มันอยู่ที่การใส่ใจในรายละเอียด คือต้องทุ่ม ทำอะไรแบบผิวๆ พอผ่านนะยากจะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในชีวิต จะได้แบบพอผ่าน ก็พอไปได้ ก็พออยู่ได้ ก็พอมีรายได้ก็พออยู่ได้ ถ้าเกิดต้องการรวยเป็นเศรษฐีใหญ่ประสบความสำเร็จในชีวิตต้องทุ่มศึกษาดูรายละเอียดทั้งหมด ดูลักษณะการเอาสินค้ามาขายศึกษาเป็นการผลิตดูทุกขั้นตอนการผลิต จะประหยัดขั้นตอนการผลิตให้กระชับเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างไรทุกกระบวนการทำยังไงจะลดรายจ่ายได้ เพิ่มคุณภาพได้ ถ้าทุ่มจริงๆ มันจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นเขามองไม่เห็น สามารถปรับปรุงโฆษณาได้ นี้จะเป็นต้นทุนสำคัญนำเราไปสู้การประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่มีอะไรทำแบบหมูๆง่ายๆ แล้วก็รวยเอาๆ มันไม่ได้ฟลุ๊คขนาดนั้น เราต้องการความสำเร็จต้องทุ่ม เอาจริง เอาใจใส่ ศึกษา ปรับปรุง พัฒนา แรกๆ จะมีปัญหาแน่นอน ไม่ย่อท้ออดทน ทำแล้วทำอีกปรับปรุงแล้วปรับปรุงอีกให้ดีขึ้นๆ แล้วสุดท้าย ผลลัพธ์จะส่ง ไม่ว่าจะเป็นการตลาดแผนไหนก็ตาม หรือว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม เราจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ..
 

รับชมคลิปวิดีโอAffiliate Marketing
ชมวิดีโอAffiliate Marketing   Download ธรรมะAffiliate Marketing



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำถูกหลักวิชชา นำพาสู่สวรรค์ทำถูกหลักวิชชา นำพาสู่สวรรค์

นกน้อยผู้มีจิตเลื่อมใสนกน้อยผู้มีจิตเลื่อมใส

ทุกข์โทษภัยของวจีกรรมทุกข์โทษภัยของวจีกรรม



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ