ยิ่งใหญ่ในรายละเอียด
ความยิ่งใหญ่ในทุกๆเรื่อง ล้วนมีส่วนสำคัญเป็นองค์ประกอบเล็กๆอยู่เสมอ รายละเอียดเล็กๆสำคัญอย่างไร
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC
คนที่ทำงานหยาบกับคนที่ทำงานละเอียดมีความแตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไร?
ต่างกันอย่างมหาศาล คนแต่ละคนมีสิทธิ์มีคุณค่าในความเป็นคนเท่ากัน แต่ศักยภาพของคนต่างกันมาก คนที่มีความละเอียดจนสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆได้ คนเดียวสามารถพลิกโลกได้ที่เราคุ้นชื่อกันอย่างสตีฟ จอบส์มีความละเอียดถี่ถ้วน มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น เขาสามารถสร้างอะไรใหม่ๆจนเปลี่ยนวิถีชีวิตคนทั้งโลก
ตั้งแต่มีสมาร์ทโฟน iPhone ขึ้นมาต่อมามี Samsung ทำ Galaxy และเจ้าอื่นอีกมากมายชีวิตเราเปลี่ยนไปเยอะมากและไม่เฉพาะ iPhone อย่างเดียวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและสตีฟ จอบส์ก็เป็นคนบุกเบิก แต่ก่อนคอมพิวเตอร์มีแต่ตัวใหญ่ๆ ใช้งานลำบากไม่มีอินเตอร์เน็ตไม่มีเว็บไซต์ ไม่มี Google ไม่มี Facebook ไม่มีโซเชียลมีเดีย แต่สตีฟ จอบส์เป็นคนที่ทำให้เกิดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แล้วคอมพิวเตอร์ก็แพร่หลาย จึงทำให้เกิดสมาร์ทโฟนกลายเป็นยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล กลายเป็นมือถือติดตัวไปทุกแห่งเหมือนมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดตัว แล้วก็ทำสิ่งต่างๆได้มากมาย จนขาดไม่ได้ สั่งของ จ่ายเงินค่าน้ำค่าไฟ สั่งซื้อของออนไลน์ จองตั๋วรถไฟ จองตั๋วเครื่องบิน ติดต่อกับเพื่อนทุกอย่างอยู่ในมือถือทั้งหมดเลย จะดูสภาพดินฟ้าอากาศอยากจะรู้เรื่องอะไรหาข้อมูลอะไรเหมือนห้องสมุดเคลื่อนที่ เพราะมือถือสามารถเชื่อมตัวเรากับแหล่งข้อมูลทั้งโลก เนื่องจากสตีฟ จอบส์เป็นคนละเอียด แล้วทำให้เห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ดังนั้นสตีฟ จอบส์คนหนึ่ง กับคนขยันทำงานแต่ไม่ละเอียด 10 คน 100 คน 1,000 คน จึงต่างกันมาก เพราะคนคนนี้คนเดียว สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตคนทั้งโลกได้
เมื่อสั่งงานกับช่างที่มีฝีมือที่ละเอียดมักจะต้องรอนาน การจะได้งานที่สวยจะต้องรอจริงหรือไม่?
จะเห็นว่าในสังคมคนส่วนใหญ่ อยากจะหางาน พนักงานเองต้องไปสมัครงาน ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีบางทีตกงานเป็นเดือนๆ บางทีเป็นปีๆ แม้ในญี่ปุ่นอเมริกาคนตกงานมากกว่าเมืองไทยและบางคนที่ตกงานบางทีทำงานจนอายุ 40-50 ปี เป็นผู้จัดการแล้ว พอตกงานก็ต้องหางานระดับใกล้เคียงผู้จัดการ จะไปเป็นกรรมกรก็ไม่ได้ เพราะรู้สึกเสียศักดิ์ศรี แม้บริษัทต่างๆก็ต้องการงาน ต้องง้อลูกค้า แต่หากเป็นบุคคลที่ละเอียด คนจะวิ่งเข้ามาหา ทุกบริษัทต้องการคนที่ละเอียดและมีฝีมือ เพราะอยู่และเป็นประโยชน์กับบริษัท เช่น คือ Lee Iacoca ที่สามารถพลิกชะตาองค์กรใหญ่ๆ ได้ทั้งองค์กร หรือได้ผู้นำประเทศเก่งๆ มาคนเดียวพลิกชะตาประเทศทั้งประเทศได้ เติ้งเสี่ยวผิง พลิกชะตาชีวิตชาวจีน 1,000 กว่าล้านคนได้ทั้งประเทศ แล้วพลิกโลกทั้งโลกด้วย พอจีนโตขึ้นมา ส่งผลต่อทุกด้านของโลก ทั้งเศรษฐกิจ การทหาร การเมือง สังคม เทคโนโลยี ดุลอำนาจของโลกเปลี่ยน ด้วยคนตัวเล็กๆคนเดียวที่ชื่อว่า เติ้งเสี่ยวผิง ดังนั้นคนที่ละเอียดแล้วเก่งไม่ว่าในวงการไหนก็แล้วแต่ มีค่ามากแล้วสามารถส่งผลสะเทือนได้อย่างมหาศาล
คนที่ใช้แรงงาน เช่น คนแบกหาม แบกข้าวสาร จำเป็นต้องใช้ความละเอียดในการทำงานหรือไม่?
จำเป็น ถ้าจับกัง คนใดคนหนึ่งที่กำลังขนข้าวสารลงเรือ ทำแบบใส่ใจรายละเอียด รู้จักคิด ความคิดเขาอาจจะเปลี่ยนเขากลายเป็นเศรษฐีใหญ่เลยก็ได้ มหาเศรษฐีได้หลายๆ คนมาจากการสังเกตเห็นรายละเอียดบางอย่าง เช่น สตีฟ จอบส์ เป็นเด็กนุ่งกางเกงปะ แสนจน เรียนหนังสือไม่จบมหาวิทยาลัยอายุ 20 ปีเศษ เป็นเศรษฐีตั้งบริษัทแอปเปิ้ลได้ เพราะเขาละเอียด และคิดว่าต่อไปคอมพิวเตอร์ควรจะสำคัญ ทุกคนควรจะมีคอมพิวตอร์ติดตัว ขนาดไอบีเอ็มเป็นยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลกทั้งในด้านคอมพิวเตอร์ เรียกว่ายักษ์ใหญ่สีฟ้า ผู้บริหารไอบีเอ็มบอกไร้สาระ คอมพิวเตอร์มีไว้คิดเรื่องซับซ้อน ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีสักตัวหนึ่ง เมืองหนึ่งมีสัก 2-3 ตัวก็เพียงพอ เครื่องราคาแพงเป็นล้าน แต่ละคนจะเอาคอมพิวเตอร์ติดตัวทำไม ไม่มีประโยชน์และมันเก่งเก่งเกินไปกว่าที่คนแต่ละคนจะใช้ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง 10 ปีต่อมา เด็กหนุ่ม อย่างสตีฟ จอบส์ซึ่งไม่ได้ดีกว่าจับกังมากนัก เรียนมหาวิทยาลัยไม่จบ มีวุฒิแค่ม.ปลาย กลายเป็นเศรษฐีมีชื่อเสียงคนทั้งโลกรู้จัก แต่ไอบีเอ็มยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจทรุดฐานะการเงินทรุด ต้องฟื้นฟูกิจการ เปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ด้วยวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง เด็กตัวเล็กๆ ก้าวมาเป็นยักษ์ใหญ่ แต่ยักษ์ใหญ่จะกลายเป็นยักษ์เล็ก เพราะฉะนั้นจะทำอาชีพอะไรต้องใส่ใจรายละเอียด และละเอียดถี่ถ้วน ชีวิตเราเองจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน อย่าไปคิดว่าใช้แรงงานก็ต้องอยู่อย่างนี้
ทุกเรื่องมีรายละเอียดทั้งสิ้น หากไม่ทำอะไรแบบหยาบๆผ่านๆ ทำให้ละเอียดจะพบว่า มีอะไรให้ปรับอีกมาก เอาหนังเหมือนกันเอาผ้าเหมือนกัน เอามาเย็บกระเป๋าด้วยฝีมือช่างหยาบๆขายได้ใบละ 500 บาท แต่หากทำให้ละเอียด จนกระทั่งเป็นที่ยอมรับในคุณภาพแบรนด์เป็นที่รู้จัก อย่างกระเป๋า Hermès ขายได้ใบละ 5 แสน ต่างกันเป็น 100 เท่า 1,000 เท่า เพราะความละเอียดต่างกัน ต่อให้วัตถุดิบเหมือนกัน แต่เมื่อใส่ความละเอียดต่างกันคุณค่าก็ต่างกัน ทั้งที่เป็นของที่ใช้ประโยชน์คล้ายๆกันก็ตาม
วิธีการฝึกเพื่อให้ทำงานได้อย่างละเอียดรอบคอบ
1.ทำอย่างเป็นเจ้าของงาน ให้ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ อย่าทำเพราะถูกบังคับให้ทำ คนเป็นลูกจ้างกับเป็นเถ้าแก่ ใส่ใจไม่เท่ากัน ลูกจ้างทำงานก็ทำๆไป แต่เถ้าแก่รู้สึกว่านี่คืองานของฉัน ถ้าทำดีฉันได้ ทำไม่ดีฉันไม่ได้ แต่ลูกจ้างรู้สึกว่า ทำอย่างไรก็ได้เงินเท่าเดิมเพราะฉะนั้นก็ทำแค่นี้ สำหรับลูกจ้างที่คิดสั้นจะคิดอย่างนั้น แต่ลูกจ้างที่คิดยาวจะจะทำแบบใส่ใจ เหมือนตัวเองเป็นเจ้าของงาน เมื่อทำแบบเป็นเจ้าของงานเถ้าแก่เห็นว่ามีแววไว้ใจได้ จากแรงงานธรรมดาให้มาเห็นหัวหน้างาน จากหัวหน้างานขยับขึ้นมาเป็นหลงจู๊ แล้วสุดท้ายคนคนนี้อนาคตจะเป็นเถ้าแก่ เพราะทำงานด้วยหัวใจของเถ้าแก่ ทำด้วยความใส่ใจ เป็นเจ้าของงาน ทำให้เห็นรายละเอียดปรับปรุงทุกอย่างดีขึ้นทักษะเลยติดตัวตลอด แล้วก็เป็นเถ้าแก่ได้ในที่สุด
2.ให้ใส่ใจในรายละเอียด ทำอะไรดูให้ดี ทำให้ละเอียดถี่ถ้วน อย่าทำแบบพอผ่านๆ ต้องทำงานให้ละเอียดจนเคย กระทั่งชิน ตรงไหนถูกตรงไหนผิด จะเห็นจุดที่จะต้องปรับปรุง จะต้องแก้ไข จะเห็นเมื่อเป็นคนใส่ใจรายละเอียด ทำอย่างเป็นเจ้าของงานเป็นต้นทุนเบื้องต้น และทำแบบสุดฝีมือทำให้ดีที่สุด ถ้าฝีมือมี 100 ใช้แค่ 80 ทำพอผ่าน ต่อไปฝีมือจะค่อยๆ ลดลงมาเหลือ 80 แต่คนไหนฝีมือมีร้อย ทำให้ได้ 120 สุดๆ จริงๆ ดูแล้วดูอีกจริงๆแทบจะเกินความสามารถตัวเอง ผ่านไปไม่นานฝีมือเขาจะขยับ จาก 100 เป็น 110 เป็น 120 แล้วพอเขาทำสุดๆ ไปถึง 140 ฝีมือจะขยับจาก 120 เป็น 130 140 ฝีมือจะขยับดีขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นอย่างนี้ คนที่ละเอียด จะชนะ ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล เป็นบริษัทหรือเป็นประเทศก็ตาม ละเอียดกว่า ดีกว่า ชนะ
คนที่ทำงานด้วยใจที่ละเอียด หรือทำงานละเอียดจะเป็นที่ต้องการของเจ้านายบริษัทต่างๆการฝึกตนให้มีความละเอียดในการทำงานนั้น มี 2 ข้อ คือ 1.คิดว่างานนั้นเป็นงานของเราเอง 2. คือต้องทำงานให้เต็มที่ เพราะยิ่งฝึกก็ยิ่งเก่ง ยิ่งมีความเชี่ยวชาญในสายงานนั้นๆ และในฐานะที่เป็นชาวไทยชาวพุทธ มีความโชคดีคือการฝึกความละเอียดในการทำงาน สามารถฝึกได้จากความละเอียดของใจที่เกิดจากสมาธินั่นเอง
Desktop Version
