7 สิ่งที่จะได้จากการบวช
หลายๆ คนคงเคยพบเห็นผู้ที่ปลีกวิเวกตัวเองออกจากสังคม เช่น พระสงฆ์ แม่ชี หรือบางคนก็อยากจะหลบไปอยู่เงียบๆ คนเดียว เพื่อสงบจิตสงบใจ แสวงหาหนทางแห่งความชุ่มเย็นของจิตใจ และยิ่งท่ามกลางโลกที่หมุนเร็วและเร่าร้อนเช่นนี้ ทุกคนก็ย่อมมีโมเม้นของชีวิต ที่อยากจะมีสักช่วงหนึ่งที่ปลีกตัวเองออกจากสังคมดูบ้าง บางทีคุณอาจได้ค้นพบมุมมองในชีวิตใหม่ๆ และ “การบวช” นี่เอง ก็เป็นคำตอบที่ดีของการปลีกวิเวกที่แท้จริง
7 สิ่งที่คุณจะได้รับจากการบวช มีดังนี้
1. “ได้สงบจิตสงบใจ” เมื่อคุณได้ออกบวชคุณจะต้องปลีกตัวออกจากสังคม และเมื่อคุณออกมาอยู่เงียบๆ คนเดียว สิ่งที่คุณจะได้อันดับแรกคือ ความสงบใจจากความหว้าวุ่นในสังคม และเมื่อคุณบวชพระอุปัชฌาย์หรือพระอาจารย์ก็จะสอนกรรมฐาน ซึ่งเป็นวิธีการในการทำจิตใจให้สงบ นอกจากนั้นคุณยังจะได้ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ซึ่งจะทำให้ใจของคุณเย็นลงและผ่อนคลายจนสามารถวางปัญหาต่างๆได้ออกจากใจของคุณได้
2. “ได้ทบทวนตัวเอง” เมื่อคุณออกบวชได้เริ่มสวดมนต์นั่งสมาธิ จิตใจของคุณจะเริ่มเย็น นิ่ง สงบ จิตใจของคุณจะเริ่มอยู่กับตัวเองมากขึ้น และคุณจะเริ่มหันกลับมามองตัวเอง ว่าชีวิตที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีสิ่งใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข และมีสิ่งใดที่ทำดีอยู่แล้วและต้องทำให้ดีขึ้นไปอีก
3. “ได้มองโลกตามความเป็นจริง” เมื่อก่อน จิตใจของคุณอาจวุ่นวายสับสน คุณอาจมองหรือตัดสินสิ่งต่างๆรอบตัวด้วยอคติหรือความลำเอียง แต่เมื่อคุณออกบวช จิตใจของคุณสงบเย็นลง มีใจเป็นกลาง จิตใจของคุณจะเริ่มเปิดกว้างและมีเมตตายอมรับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น คุณจะเริ่มมองเห็นโลกที่หมุนไปในมุมมองใหม่ๆ ที่มีอคติน้อยลง และเข้าใจสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงได้มากขึ้น
4. “ได้จัดระเบียบชีวิต” ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วนี้ หลายๆ ครั้งคุณอาจถูกเร่งหรือบีบคั้นจากสังคมรอบตัว ต้องวิ่งตามโลกให้ทัน จนคุณไม่มีเวลาในชีวิตเป็นของตัวเองเลย และหลายครั้งที่กิจวัตรในชีวิตมันช่างสับสนและไม่ลงตัว เช่น ตื่นนอน ขับถ่าย กินข้าว อาบน้ำ ไม่เป็นเวลา จนสุดท้ายก็ส่งผลต่อสุขภาพชีวิตและสุขภาพจิตของคุณ แต่ถ้าคุณได้ออกบวช ชีวิตคุณจะลงตัว เพราะกิจวัตรของเมื่อออกบวช ต้องตื่นทำวัตรเช้า ออกบิณฑบาต สวดมนต์ นั่งสมาธิ ศึกษาธรรมะ อยู่เป็นประจำทุกวัน คุณจะได้ฝึกฝนระเบียบวินัยในตนเอง ทำให้คุณสามารถจัดระเบียบชีวิตได้อย่างลงตัว ดำเนินชีวิตและใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าอย่างมีประสิทธิภาพ
5. “ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่” พ่อแม่คือผู้ให้กำเนิดเรามา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของเราเกิดจากเลือดเนื้อของคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นหากเราใช้ร่างกายนี้ทำสิ่งใด ย่อมส่งผลถึงคุณพ่อคุณแม่ของเราด้วย หากเราทำความดี คุณพ่อคุณแม่ย่อมได้ผลบุญแห่งความดีนั้นด้วย
การตอบแทนพระคุณพ่อแม่นั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า หากนำบุพพการีไว้บนบ่าทั้งสองข้าง เลี้ยงดูท่านจนตลอดชีวิตก็ตอบแทนคุณท่านไม่หมด หรือเราจะหาเงินมอบให้ท่านจนท่านเป็นมหาเศรษฐี ก็ยังตอบแทนคุณท่านไม่หมด แต่การที่ลูกแท้ๆ ได้ออกบวช ได้ชวนท่านเข้าวัด ทำให้คุณพ่อคุณแม่มีศีล นี้จึงตอบแทนคุณท่านได้หมดสิ้น ดังนั้นการที่ลูกแท้ๆ ออกบวชจึงชื่อว่า ตอบแทนคุณของพ่อแม่อย่างแท้จริง
6. “ได้บุญ” ทันทีที่คุณออกบวช คุณจะต้องละสิ่งไม่ดีที่เคยทำ เช่น ต้องเลิกดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน ออกห่างจากอบายมุข เมื่อออกบวชคุณจะได้ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ ได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ซึ่งนั่นจัดว่าเป็นบุญใหญ่มากๆ ทีเดียว และหากคุณได้ปฏิบัติธรรมจนค้นพบสัจจะธรรม ได้บรรลุธรรมขั้นต่างๆ สามารถหลุดพ้นจากกิเลสได้ นั่นเท่ากับว่าคุณได้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์
7. “ได้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา” ในสิ่งแวดล้อมของโลกที่ดึงดูดผู้คนมากมายให้ไปสู่หนทางของอบายมุข นับวันคนยิ่งจะไปตามกระแสกิเลสมากขึ้น ผู้คนทำบาปอกุศลได้อย่างไม่ละอาย ละทิ้งต่อความดี ละทิ้งบุญกุศลมากขึ้น การที่คนหนึ่งคน คิดจะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในเส้นทางบุญกุศล โดยเฉพาะการออกบวชนั้น เป็นสิ่งที่น่ายกย่องสรรเสริญเป็นอย่างมาก และเมื่อมีผู้เข้ามาบวชศึกษาพระธรรมและตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองเป็นพระแท้มากยิ่งขึ้น ก็เท่ากับช่วยฟื้นฟูและยืดอายุพระพุทธศาสนา ที่เป็นเหมือนน้ำทิพย์คอยช่วยชโลมจิตใจของผู้คนมากมายที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในปัจจุบันนี้
และหากสนใจจะบวช บวชฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย บวชฟรี ตั้งใจดี บุญเยอะ 02-831-1234 www.บวช.com
Desktop Version
