ธรรมชาติลงโทษ


[ 13 ธ.ค. 2562 ] - [ 18261 ] LINE it!

ธรรมชาติลงโทษ
การสร้างสรรค์ของมนุษย์นั้นทำให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นมากมาย แต่ก็เป็นการทำลายไปด้วย จนกระทั่งธรรมชาติทนไม่ไหวเกิดการลงโทษขึ้นมา 
 
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN
 
    
 
ปัจจัยอะไรบ้าง ที่ทำให้โลกถูกทำลาย?
          ปัจจัยที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ต่อทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ 

 
          1.การเพิ่มขึ้นของประชากร โดยเฉลี่ยมีการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างรวดเร็ว แม้ว่าบางประเทศจะมีการเจริญเติบโตของประชากรน้อยก็ตาม คนที่เพิ่มขึ้นแปลว่าต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้น ใช้อาหารมากขึ้น ใช้น้ำ ใช้อากาศทุกอย่างมากขึ้น มีพื้นที่การเกษตร พื้นที่อุตสาหกรรม โรงงานต่างๆ ก็เพิ่มตาม เพราะมนุษย์เป็นคนบริโภค ดังนั้นจึงเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณประชากรโลก
 
          2.การขยายตัวของเมือง ที่เพิ่มขึ้นจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมีเมืองต้องมีถนน มีถนนก็ต้องขยาย แล้วก็มีรถยนต์เพิ่ม มีฝุ่นละอองที่เกิดจากควันไอเสียเพิ่มขึ้น สิ่งแวดล้อมเป็นพิษมากขึ้น ต้องตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่ม เพื่อเอาปัจจัยมาหล่อเลี้ยงเมือง ยิ่งเมืองใหญ่เท่าไหร่อุตสาหกรรมต่างๆจะเพิ่มขึ้นตามเมือง เมืองขยายอุตสาหกรรมก็ขยาย ก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 
          3.การเปลี่ยนจากระบบเลี้ยงตนเองไปสู่ภาคอุตสาหกรรมเลี้ยงคนจำนวนมาก สมัยก่อนเป็นสังคมเกษตรกรรมเลี้ยงตัวคือ ปลูกข้าวแล้วก็เอาข้าวมาทาน ข้าวที่เหลือก็เอาไปขาย แล้วไปซื้อคนที่ปลูกอย่างอื่น แต่ปัจจุบันนี้เป็นระบบอุตสาหกรรม พื้นที่ขนาดใหญ่เป็น 10,000 ไร่ แล้วใส่เคมีเข้าไป เพราะพื้นที่เยอะ แมลงมาทีมาหลาย 100,000 ตัว ก็ต้องใช้ปุ๋ยใช้ยาฆ่าแมลง เพราะฉะนั้นระบบนิเวศก็เสียสิ่งแวดล้อมก็เสีย สารโลหะหนัก สารพิษต่างๆก็ตกอยู่ในดิน
 
          4.การปลุกสิ่งก่อสร้างต่างๆโดยเฉพาะตึกระฟ้า ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ต้องมีโรงงานเพิ่มขึ้น มีถนนตัดใหม่ การทำอ่างเก็บน้ำ การสร้างเขื่อน ล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม เมื่อต้องใช้พลังงานเพิ่มจึงต้องไปดัดแปลงสิ่งแวดล้อม ก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
 
 
          5.สงคราม เพราะสงครามมีการใช้ทรัพยากรเพื่อผลิตอาวุธ แล้วเอามาประหัตประหารกัน เกิดความสูญเสีย  สงครามไม่เคยให้อะไรกับใครเลย เป็นการสูญเสียทั้งสองฝ่าย เริ่มต้นสงครามเป็นแนวคิดที่แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม อย่างเช่น อิรัก ทรัพยากรธรรมชาติและบ่อน้ำมันถูกทำลาย ซึ่งกว่าจะมีน้ำมันขึ้นมาได้ขนาดนั้นใช้เวลาเป็น 1,000,000 ปี แต่สามารถทำลายได้วันเดียว จะเห็นว่าสงครามอนุภาพมหาศาลในการทำลายทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นมา
 
ภัยธรรมชาติที่มนุษย์ โดยเฉพาะปีพ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา เจออะไรบ้าง?

 
          1.เรื่องของแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย ในเดือนสิงหาคมเจอแผ่นดินไหวสามครั้งในสัปดาห์เดียว เสียชีวิต 321 ราย บาดเจ็บ 1000 กว่าคน ไร้ที่อยู่ 270,000 คน แล้วก็บ้านเรือนกลายเป็นซากปรักหักพัง ถัดมาอีกเดือนเดียว กันยายนเจอสึนามิเสียชีวิตไปอีก 1,200 คน เป็นปีที่หนักสำหรับประเทศอินโดนีเซีย
 
          2.ภัยทางน้ำ อุทกภัยปีนี้เขื่อนแตก สปป.ลาว เสียชีวิตไป 34 คนในเดือนกรกฎาคม แล้วก็สูญหายไป 101 คือ 134 คนนั่นเอง ประมาณ 6,000 คน กลายเป็นคนไร้บ้าน ผลกระทบก็ตามมาอีกนาน เพราะน้ำท่วมยาวเป็นเดือน แล้วในเดือนสิงหาคม อินเดียเกิดน้ำท่วมดินถล่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในช่วงที่ผ่านมาก็รวมกันประมาณ 700 - 20,000 คน ไร้ที่อยู่ต้องกระจายไปตามส่วนอพยพหลาย 100 ศูนย์เพราะจำนวนคน 20,000 ที่จะต้องดูแลกลายเป็นผู้เสียหาย

 
          3.ภัยจากไฟ ที่แคลิฟอร์เนียถือว่าร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นไฟ Mendocino complex ซึ่งเผาไปพื้นที่เกือบเท่าลอสแองเจลีส เป็นไฟป่าครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ California นอกจากนี้ยังมีไฟป่า โฮลีไฟร์เออร์ (Holy Fire) ต้องอพยพ 20,000 กว่าคน 
 
          4.ในแง่ของวาตภัยหรือลมซึ่งเป็นพวกไต้ฝุ่น พายุโซนร้อน เฮอริเคนต่างๆมีก็หลายที่ เช่นญี่ปุ่นมีพายุ cimaron มีทั้งผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บด้วย นอกจากนี้มีไต้ฝุ่นมังคุด มีฮอริเคนฟอร์เรนในเดือนกันยายน กวาดถล่มสองซีกโลก เป็นพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในปี 2561 ญี่ปุ่นเจออีกรอบในเดือนตุลาคมคือไต้ฝุ่นจามี ในเขตคันไซบาดเจ็บ 100 กว่าราย เสียชีวิตด้วย ส่วนที่อิตาลี เกิดพายุถล่มที่เวนิซ 75% ของเมือง ก็ถูกน้ำท่วมเสียหายหนักที่สุดในรอบ 10 ปี 
 
ทันธรรม...โดยพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ 
 

          จากการที่มนุษย์มีมากขึ้น เทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้มนุษย์แต่ละคน สร้างมลภาวะให้กับโลกได้มากขึ้น ดินฟ้าอากาศแปรปรวน รถยนต์ โรงงาน ต่างปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ ป่าไม้ที่เคยมีมากก็ถูกทำลาย อุณหภูมิจะร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำมหาสมุทรก็ท่วม หลายเมืองจะจมบาดาล พายุจะเกิดขึ้นมาเยอะ ถ้าไม่แก้สิ่งเหล่านี้ จะเห็นภัยธรรมชาติเกิดขึ้นมากขึ้น เรื่อยๆ อนาคตของมนุษยชาติก็จะลำบาก ถามว่าจะแก้ แก้อย่างไร

 
          พระพุทธเจ้าพระองค์ระลึกชาติมาบอกแล้ว โลกถูกทำลายด้วยกิเลสมนุษย์ หากกิเลสตระกูลโทสะท่วมโลก ก็จะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก กิเลสโลภะ หรือราคะ ท่วมโลกก็จะเกิดน้ำบรรลัยกัลป์ล้างโลก กิเลสตระกูลโมหะ ท่วมโลกก็จะเกิดลมบรรลัยกัลป์ล้างโลก ผสมกันทั้งโลภะโทสะ โมหะ ก็เลยเกิดทั้งดิน น้ำ ไฟ ลม ต่างๆสารพัด 

 
          การหาทางแก้อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ทั้งโลก เราคนเดียวคงไม่มีผล ถ้าคิดอย่างนี้คงไม่ต้องทำอะไรทุกอย่างก็จะแย่ไป สำคัญต้องมีคนเริ่มต้น มีผู้กล้า และไม่ต้องนึกให้ใครเริ่ม เริ่มที่เราลดการบริโภค ที่เชิญชวนกันลดการใช้ถุงพลาสติก หรือพยายามดูแลขยะการรีไซเคิล จะได้ไม่มีขยะท่วมโลก 
 
          การบริโภคก็พยายามสนับสนุนในเรื่องของการปลูกพืชชนิดออร์แกนิค ราคาจะแพงหน่อยก็ยินดีซื้อเพราะดีต่อสุขภาพ พอคนมีค่านิยมอย่างนี้มากขึ้นจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกษตรกรพยายามผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหารแบบปลอดสารพิษ 

 
          ส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สีเขียวขึ้นมาทุกหัวระแหง ที่สาธารณะกลางถนนริมถนนปลูก ไม่ไปจุดไฟเผาป่า เพื่อหนูนา หมูป่าวิ่งหนีไฟออกมาจะได้ยิงแล้วเอาไปกินหรือพอไหม้เสร็จผ่านไป 1-2 สัปดาห์ หญ้าเขียวเริ่มงอกจะได้เอาวัวไปกินหญ้า เผาป่าเพื่อจะได้หญ้าอ่อนๆ ให้วัวกิน หมดป่าไปเป็นพันไร่น่าเสียดาย เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คนอื่นยังไงเราไม่สนใจ 
 
          ให้เริ่มต้นที่ตัวเรา เริ่มปลูกพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น แล้วจะเป็นแรงขับเคลื่อน ให้การออกกฎระเบียบกฎหมายราชการเข้มแข็งขึ้น แล้วการบังคับใช้กฎหมายจะแข็งแรงขึ้น ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นไปโดยเริ่มจากจิตสำนึกของตัวเราเอง
 
 

รับชมคลิปวิดีโอธรรมชาติลงโทษ : ทันโลกทันธรรม
ชมวิดีโอธรรมชาติลงโทษ : ทันโลกทันธรรม   Download ธรรมะธรรมชาติลงโทษ : ทันโลกทันธรรม



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
วิกฤติมารยาทวิกฤติมารยาท

ความเป็นส่วนตัวบนพื้นที่ส่วนรวมความเป็นส่วนตัวบนพื้นที่ส่วนรวม

พฤติกรรมลดเสน่ห์พฤติกรรมลดเสน่ห์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทันโลกทันธรรม