เสยยชาดก ชาดกว่าด้วยคบคนประเสริฐก็ประเสริฐ


[ 27 ธ.ค. 2562 ] - [ 18268 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

เสยยชาดก-ชาดกว่าด้วยคบคนประเสริฐก็ประเสริฐ

แคว้นโกศลเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข

แคว้นโกศลเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข
  
     ณ แคว้นโกศลในอดีตกาลเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านชาวเมืองต่างดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ด้วยการปกครองบ้านเมืองอย่างดีของพระเจ้าโกศล งานบริหารบ้านเมือง
ของพระเจ้าโกศลนั้น จะดำเนินไปได้ด้วยดีไม่ได้เลยหากขาดอำมาตย์ผู้หนึ่งซึ่งเป็นผู้ทำกิจการทั้งปวงถวายพระเจ้าโกศล
 
อำมาตย์ผู้ทรงศีลซึ่งคอยดูแลงานถวายพระเจ้าโกศล
 
อำมาตย์ผู้ทรงศีลซึ่งคอยดูแลงานถวายพระเจ้าโกศล
 
     “ ปีนี้ราษฎรมีผลผลิตจากเรือกสวนไร่นาเยอะขึ้นดีหนิ พวกเจ้าจงไปสังเกตการณ์ด้วยว่า เราสามารถสนับสนุนส่วนใดให้ราษฎรได้อีก อ้อ แล้วก็ส่งทหารไปตระเวรตามชายแดนให้ดีด้วยนะ
เมื่อเจ้าเมืองอื่นเห็นแคว้นของเราอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ก็อาจอยากจะทำสงครามแย่งชิงเมืองของเราไปได้ ” “ ขอรับท่านอำมาตย์ ”
 
พระเจ้าโกศลทรงประทานยศใหญ่ให้แก่อำมาตย์ผู้ทรงศีล
 
พระเจ้าโกศลทรงประทานยศใหญ่ให้แก่อำมาตย์ผู้ทรงศีล
 
     พระเจ้าโกศลเห็นว่าอำมาตย์ผู้นี้มีอุปการะคุณต่อพระองค์มาก จึงพระราชทานยศยิ่งใหญ่แก่เขา ทำให้อำมาตย์อื่น ๆ เกิดความอิจฉาริษยาขึ้น “ เราขอมอบตำแหน่งนี้ให้กับท่าน
ท่านจงรับไว้เถอะ ” “ ขอบพระทัย พะย่ะค่ะ ” “ ฮึ วันนี้ข้าจะยอมให้แกก่อน วันหลังข้าจะต้องได้ตำแหน่งนี้ของแกแน่ ”

เหล่าบรรดาอำมาตย์น้อยใหญ่ต่างพากันอิจฉาอำมาตย์ผู้ทรงศีล
 
เหล่าบรรดาอำมาตย์น้อยใหญ่ต่างพากันอิจฉาอำมาตย์ผู้ทรงศีล
 
      “ พวกท่านคิดว่าอย่างไร เราจะยอมให้อำมาตย์นั่น ได้ดิบได้ดีอยู่คนเดียวเชียวหรือ ” “ เฮ้ย ไม่มีวันสะหรอก พวกเราจะต้องทำอะไรสักอย่างให้อำมาตย์นั้นตกกระป๋องให้ได้ ”
“ ถ้าพวกท่านคิดเช่นนั้นเราก็มีแผน ” “ แผนอะไร ท่านว่ามาเลย ”
 
บรรดาอำมาตย์ผู้อิจฉาต่างทูลความเท็จให้ร้ายอำมาตย์ผู้ทรงศีล
 
บรรดาอำมาตย์ผู้อิจฉาต่างทูลความเท็จให้ร้ายอำมาตย์ผู้ทรงศีล
 
      อำมาตย์อื่น ๆ อิจฉาริษยาที่อำมาตย์ผู้นั้นได้ครองตำแหน่งสูง จึงคิดวางแผนใส่ร้าย จนในที่สุดพระเจ้าโกศลก็หลงเชื่อถ้อยคำของอำมาตย์ผู้ริษยานั้น “ หม่อมฉันได้ยินมากับหู
เลยพระเจ้าค่ะ ว่าอำมาตย์ที่พระองค์ทรงเชื่อใจอยู่นั้น ได้คิดทรยศวางแผนกับทหารคนอื่น ๆ ก่อกบฏหวังฮุบสมบัติของพระองค์พะยะค่ะ ”
 
อำมาตย์ผู้ทรงศีลถูกจองจำในคุก
 
อำมาตย์ผู้ทรงศีลถูกจองจำในคุก
 
     “ เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เหรอ ” “ จริงพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน ” “ บังอาจมาก เสียแรงที่ข้าอุตส่าห์ไว้ใจ มอบตำแหน่งสูงสุดให้ ฮึ ” พระเจ้าโกศลหลงเชื่อถ้อยคำอำมาตย์ชั่ว
จึงสั่งให้จองจำอำมาตย์ผู้ทรงศีลนั้น “ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นยังไงละ ได้ตำแหน่งสูง ๆ อยู่ในห้องทำงานหรูได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องมาอยู่ในคุกสะแล้ว เฮอะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
 
อำมาตย์ขี้อิจฉาทั้งหลายต่างเยอะเย้ยถากถางอำมาตย์ผู้ทรงศีลที่ถูกจองจำ
 
อำมาตย์ขี้อิจฉาทั้งหลายต่างเยอะเย้ยถากถางอำมาตย์ผู้ทรงศีลที่ถูกจองจำ
 
     “ เชิญท่านอยู่ในนี้ตามสบายเลยนะ ถือสะว่าพักผ่อน เดี๋ยวพวกข้าจะทำงานแทนท่านเอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” “ พวกเราขอตัวไปทำงานก่อนนะ ตั้งแต่ท่านมาอยู่ในคุก พวกเราต้องเสวยสุข
ทำงานในตำแหน่งท่านแทน ” อำมาตย์ผู้โดนใส่ร้าย แม้จะถูกโซ่ตรวนขังอยู่ในเรือนจำ แต่ก็ยังคงรักษาศีล

อำมาตย์ผู้ทรงศีลนั่งสมาธิในคุกจนบรรลุโสดาปัตติผล
 
อำมาตย์ผู้ทรงศีลนั่งสมาธิในคุกจนบรรลุโสดาปัตติผล
     
     ปฏิบัติธรรมจนบรรลุโสดาปัตติผล “ อืม นั่งสมาธิอยู่ในเรือนจำอย่างนี้ ทำให้เรามีสมาธิดีแท้ ๆ ” ภายหลังพระเจ้าโกศลทรงทราบความจริงที่อำมาตย์ทรงศีลโดนใส่ร้าย จึงโปรดให้ถอด
เครื่องจองจำและอวยยศให้สูงขึ้นกว่าเดิม ส่วนอำมาตย์ชั่วคนอื่น ๆ ก็ถูกจับใส่โซ่ตรวน ขังอยู่ในเรือนจำ
 
พระเจ้าโกศลทรงอภัยโทษหลังจากทราบความจริงว่าอำมาตย์ผู้ทรงศีลถูกใส่ความ
 
พระเจ้าโกศลทรงอภัยโทษหลังจากทราบความจริงว่าอำมาตย์ผู้ทรงศีลถูกใส่ความ
 
      “ เราได้เข้าใจท่านผิดไปแท้ ๆ ต้องขอโทษด้วย ” “ มิเป็นไรพระเจ้าค่ะ การนั่งอยู่ในเรือนจำ ทำให้หม่อมฉันมีสมาธิมากขึ้น ” เมื่ออำมาตย์ผู้นี้ได้มีโอกาสไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา
พระพุทธองค์จึงตรัสถามถึงการถูกใส่ร้ายจนต้องราชทัณฑ์
 
ความจริงเปิดเผยอำมาตย์ชั่วต่างถูกจับอำมาตย์ผู้ทรงศีลได้เพิ่มยศ
 
ความจริงเปิดเผยอำมาตย์ชั่วต่างถูกจับอำมาตย์ผู้ทรงศีลได้เพิ่มยศ
 
     “ แม้หม่อมฉัน จะถูกจองจำใส่โซ่ตรวน แต่สิ่งนี้กลับทำให้หม่อมฉันได้รับประโยชน์ คือได้โอกาสปฏิบัติธรรม จนได้เห็นดวงตาแห่งธรรมพะยะค่ะ ” “ บัณฑิตในปางก่อน
ก็ได้เคยทำประโยชน์จากสิ่งที่ไม่มีประโยชน์มาแล้วเช่นกัน ”
 
พระพุทธองค์ทรงตรัสถามถึงเหตุที่อำมาตย์ผู้ทรงศีลได้ถูกจองจำ
 
พระพุทธองค์ทรงตรัสถามถึงเหตุที่อำมาตย์ผู้ทรงศีลได้ถูกจองจำ
  
     เมื่อกล่าวเสร็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงนำอดีตนิทานเสยยชาดก มาสาธกโปรดแก่พุทธบริษัทดังนี้ ณ กรุงพาราณสี เมื่อพระเจ้าพรหมทัตได้สิ้นพระชน รัชทายาทจึงรับตำแหน่ง
ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน พระเจ้ากังสะมหาราชแห่งพาราณสี ทรงปกครองบ้านเมืองโดยทศพิศราชธรรม
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำอดีตนิทาน เสยยชาดก มาตรัสเล่าแก่เหล่าพุทธบริษัท    

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำอดีตนิทาน เสยยชาดก มาตรัสเล่าแก่เหล่าพุทธบริษัท
 
     บำเพ็ญทาน รักษาศีลเป็นนิจ ครั้งหนึ่ง อำมาตย์ผู้หนึ่งคิดการร้ายถูกจับได้ พระองค์จึงเรียกมาทรงสอบสวน “ ท่านได้คิดการร้ายจริงหรือไม่ ” “ จริงพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันผิดไปแล้ว
ขอประทานอภัยด้วยพระเจ้าค่ะ ” เมื่ออำมาตย์ผู้ก่อการร้ายได้สารภาพความผิดทั้งหมด

กรุงพาราณสี ภายใต้การปกครองของพระเจ้าพรหมทัต
 
กรุงพาราณสี ภายใต้การปกครองของพระเจ้าพรหมทัต
  
     พระเจ้ากังสะมหาราชจึงรับสั่งให้ปลดจากตำแหน่งแล้วปล่อยตัวไป “ ฮึ ข้าไม่อยู่แคว้นนี้ก็ได้ มีที่อื่นให้อยู่เยอะแยะไป คอยดูเถอะสักวันข้าจะกลับมาแก้แค้น ” อำมาตย์ชั่วคนนั้น
เมื่อถูกปล่อยตัวไป ก็ไปสวามิภัคอยู่กับพระเจ้าสามนตราชราชาอีกเมืองหนึ่ง
 
พระเจ้ากังสะมหาราชทรงขึ้นครองราชหลังจากที่พระเจ้าพรหมทัตทรงสิ้นพระชน
 
พระเจ้ากังสะมหาราชทรงขึ้นครองราชหลังจากที่พระเจ้าพรหมทัตทรงสิ้นพระชน
 
     “ หม่อมฉันถูกขับไล่มา พระเจ้าค่ะ บัดนี้ขอมอบชีวิตหม่อมฉันไว้กับพระเจ้าสามนตราช หากพระองค์ทรงให้ความช่วยเหลือ รับหม่อมฉันไว้ หม่อมฉันมีแผนเด็ด ๆ ที่จะทำให้พระองค์
ครองเมืองพาราณสีได้พระเจ้าค่ะ ” “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถ้าเจ้าทำเช่นนั้นได้ก็ดี ข้าจะยอมรับเจ้าอยู่ในวังก็ได้ ”
 
อำมาตย์ผู้คิดร้ายถูกพระเจ้ากังสะเรียกมาสอบสวน
 
อำมาตย์ผู้คิดร้ายถูกพระเจ้ากังสะเรียกมาสอบสวน
 
     อำมาตย์ชั่วยุยงให้พระเจ้าสามนตราช ยกทัพมายึดราชสมบัติของกรุงพาราณสี พระเจ้าสามนตราชก็ทรงหลงเชื่อ จึงยกกองทัพมาล้อมกรุงพาราณสีไว้ “ พระเจ้ากังสะมหาราช
แห่งกรุงพราราณสี มีจิตใจอ่อนแอไม่มีทางที่จะรับมือกับพระองค์ได้หรอกพระเจ้าค่ะ

อำมาตย์ชั่วถูกถอดยศและถูกขับไล่ออกจากเมืองพาราณสี
 
อำมาตย์ชั่วถูกถอดยศและถูกขับไล่ออกจากเมืองพาราณสี
 
     หากพระองค์ทรงส่งทหารไปทำศึกสงคราม หม่อมฉันเชื่อว่า พระองค์จะต้องได้รับชัยชนะแน่ๆ ” “ เป็นเช่นนั้นดอกหรือ ได้เลยคราวนี้เมืองพาราณสีจะต้องตกเป็นของข้าแน่ ๆ เฮอะ ๆ ๆ ๆ ”
“ เฮอะ ๆ ๆ หากพวกเจ้าแน่จริงก็ยกกองทัพออกมาสู้กันสิ หรือว่าไม่กล้า
 
อำมาตย์ชั่วมาขอพักอาศัยอยู่กับพระเจ้าสามนตราช
 
อำมาตย์ชั่วมาขอพักอาศัยอยู่กับพระเจ้าสามนตราช
 
     ถ้าไม่อย่างนั้น ก็ต้องยกราชสมบัติมาให้เราแต่โดยดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” “ เกิดเรื่องใหญ่แล้วพระเจ้าค่ะ อำมาตย์ชั่วได้คบคิดกับพระเจ้าสามนตราช ยกทัพมาล้อมเมืองเราไว้หมดแล้ว
พระเจ้าค่ะ พระองค์จะให้หม่อมฉันยกกองทัพไปจับตัวพระเจ้าสามนตราชเลยหรือไม่พระเจ้าค่ะ ”
 
อำมาตย์ชั่วได้ยุยงให้พระเจ้าสามนตราชยกทัพไปตีเมืองพาราณสี
 
อำมาตย์ชั่วได้ยุยงให้พระเจ้าสามนตราชยกทัพไปตีเมืองพาราณสี
 
     เมื่อพระเจ้าสามนตราชยกกองทัพมาล้อมเมืองพาราณสีไว้ พระเจ้าพาราณสีผู้ทรงธรรมมิได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใด รับสั่งให้ทหารเปิดประตูเมืองคอยท่าไว้ “ ช้าก่อน ราชสมบัติของเรานี้
มิได้มาจากการเบียดเบียน ท่านไปเปิดประตูเมืองคอยท่าไว้เถิด ”

พระเจ้าสามนตราชได้ยกทัพไปล้อมเมืองพาราณสีไว้
 
พระเจ้าสามนตราชได้ยกทัพไปล้อมเมืองพาราณสีไว้
 
     “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า สงครามครั้งนี้มันช่างง่ายดาย เหมือนท่านอำมาตย์พูดไว้จริง ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยังไม่ทันเหนื่อยก็ได้สมบัติมาง่าย ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ” เมื่อพระเจ้าสามนตราชเข้าเมืองพาราณสีได้
ก็จับพระราชาพาราณสีไปจองจำ พร้อมอำมาตย์ราชบริพารทั้งหลายอีก ๑๐๐ คน
 
ทหารได้มารายงานพระเจ้ากังสะถึงการถูกข้าศึกล้อมเมือง
 
 
ทหารได้มารายงานพระเจ้ากังสะถึงการถูกข้าศึกล้อมเมือง
 
      พระเจ้ากังสะมหาราชแม้จะถูกจับขังคุก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนแต่อย่างใด พระองค์กลับทำเมตตาภาวนาแก่พระเจ้าสามนตราช ด้วยอำนาจแห่งเมตตาภาวนาของพระองค์
พระเจ้าสามนตราชเกิดเร่าร้อนทั้งกายใจ ราวกับถูกเพลิงในนรกลวกตน

พระเจ้ากังสะสั่งให้ทหารเปิดประตูให้ข้าศึกผ่านเข้าเมืองมาแต่โดยดี
 
พระเจ้ากังสะสั่งให้ทหารเปิดประตูให้ข้าศึกผ่านเข้าเมืองมาแต่โดยดี
 
     “ โอ้ย ทำไมข้าถึงรู้สึกร้อนอย่างนี้ ยังกับถูกน้ำร้อนลวก โอ้ยร้อน ” พระเจ้าสามนตราชทนทรมานไม่ไหว จึงรับสั่งให้ปุโรหิตเข้าเฝ้าเพื่อถามถึงสาเหตุของความทรมาน
“ ที่พระองค์เป็นเช่นนี้ เนื่องจากพระองค์ได้จำขังพระราชาผู้ทรงศีลไว้ในเรือนจำ
 
พระเจ้าสามนตราชยึดเมืองพาราณสีได้โดยง่ายไม่มีการสู้รบ
 
พระเจ้าสามนตราชยึดเมืองพาราณสีได้โดยง่ายไม่มีการสู้รบ
 
      ด้วยเหตุนี้ความทุกข์จึงเกิดแก่พระองค์พระเจ้าค่ะ ” “ เฮ้ย ข้าไม่น่าหลงเชื่อคำยุยงของอำมาตย์ชั่วนั้นเลย โอ้ย ร้อน ๆ ทหารไปปล่อยตัวพระเจ้ากรุงพาราณสีและอำมาตย์ทหาร
เดี๋ยวนี้ และจับอำมาตย์ชั่วนั้นขังคุกแทน ” “ พระเจ้าค่ะ ”
 
พระเจ้ากังสะแม้จะถูกจับขังคุกแต่ท่านก็ทรงแผ่เมตตาให้กับพระเจ้าสามนตราช
 
พระเจ้ากังสะแม้จะถูกจับขังคุกแต่ท่านก็ทรงแผ่เมตตาให้กับพระเจ้าสามนตราช
 
      พระเจ้าสามนตราชเสด็จไปขอขมาและถวายราชสมบัติคืนแก่พระเจ้ากังสะมหาราชแห่งพาราณสีผู้ทรงธรรม “ เราต้องขออภัยท่านเป็นอย่างยิ่ง ในภายภาคหน้า หากมีข้าศึก
มารบกวนพระเจ้าพาราณสีแล้ว เราจะรับเป็นภาระรบให้ ”
 
พระเจ้าสามนตราชเกิดอาการรุ้มร้อนกายเหมือนโดนน้ำร้อนลวกตัว
 
พระเจ้าสามนตราชเกิดอาการรุ้มร้อนกายเหมือนโดนน้ำร้อนลวกตัว
 
    “ ไม่เป็นไรหรอกท่าน ที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป เราไม่คิดโกรธแค้นท่านหรอก ” พระเจ้าสามนตราชรับสั่งให้ทหารลงอาญาแก่อำมาตย์สอพลอผู้ประทุษร้าย แล้วเสด็จกลับพระนคร
ของพระองค์เอง “ ทหาร จับอำมาตย์ชั่วนี้ไปลงอาญา ปลดตำแหน่งออกให้หมด ”
 
ปุโรหิตได้บอกถึงสาเหตุที่พระเจ้าสามนตราชเกิดอาการร้อนในกายเหมือนโดนน้ำร้อนลวก
 
ปุโรหิตได้บอกถึงสาเหตุที่พระเจ้าสามนตราชเกิดอาการร้อนในกายเหมือนโดนน้ำร้อนลวก
 
     “ โอ้ย โดนปลดตำแหน่งอีกแล้วหรือเรา เฮ้ย คราวนี้โดนหนักกว่าเดิมแน่ ๆ เลย ” พระเจ้ากังสะมหาราชแห่งพาราณสีประทับบนบัลลังก์ภายใต้เศวตฉัตร ณ ท้องพระโรง
พร้อมหมู่อำมาตย์ทั้งปวง พร้อมกับตรัสสอนว่า

 
พระเจ้าสามนตราชได้ถวายราชสมบัติคืนแก่พระเจ้ากังสะมหาราช
 
พระเจ้าสามนตราชได้ถวายราชสมบัติคืนแก่พระเจ้ากังสะมหาราช
 
     “ ผู้ใดคบหาบุคคลผู้ประเสริฐ ย่อมเป็นผู้ประเสริฐด้วย เราสมานไมตรีกับพระราชาโจรเพียงคนเดียว ก็ปลดเปลื้องท่านทั้งหลายที่ต้องโทษได้ตั้ง ๑๐๐ คน ” เมื่อฟังรับสั่งจบแล้ว
ทหารและอำมาตย์ต่างเห็นว่าการรักษาศีลและปฏิบัติธรรม
 
พระเจ้าสามนตราชสั่งให้ลงอาญาแก่อำมาตย์ชั่วแล้วพระองค์ก็เสด็จกลับเมืองของตน
 
พระเจ้าสามนตราชสั่งให้ลงอาญาแก่อำมาตย์ชั่วแล้วพระองค์ก็เสด็จกลับเมืองของตน
 
     ทำกุศลธรรมให้เจริญย่อมทำประโยชน์ได้เช่นพระราชา ถูกจองจำ แต่กลับเจริญเมตตาแก่ผู้ทำร้าย จนในที่สุดก็สามารถช่วยตนเองทั้งบริวารและบ้านเมืองได้
พระเจ้ากังสะมหาราชแห่งกรุงพาราณสี
 
พระเจ้ากังสะมหาราชทรงตรัสสอนหมู่อำมาตย์ในเรื่องคุณของศีล การภาวนาและการประพฤติธรรม
 
พระเจ้ากังสะมหาราชทรงตรัสสอนหมู่อำมาตย์ในเรื่องคุณของศีล การภาวนาและการประพฤติธรรม
 
    สั่งสอนอำมาตย์ราชบริพารและประชาชนด้วยการพรรณาคุณของการถือศีล ประพฤติธรรม แผ่เมตตาภาวนา แล้วก็ทรงสละราชสมบัติเสด็จเข้าป่าหิมพานต์ บวชเป็นฤาษีตราบจนสิ้นอายุขัย 
 
 
พระเจ้าสามนตราช ได้มาเป็น พระอานนท์ในบัดนี้
พระเจ้ากังสมหาราชแห่งพาราณสีในครั้งนั้น ได้มาเป็น ตถาคตนี้แล

 
 

 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
กุกกุฏชาดก ชาดกว่าด้วยว่าด้วยผลของการไม่เชื่อง่ายกุกกุฏชาดก ชาดกว่าด้วยว่าด้วยผลของการไม่เชื่อง่าย

กายนิพพินทชาดก ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกายกายนิพพินทชาดก ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย

กุททาลชาดก ชาดกว่าด้วยความชนะที่ดีกุททาลชาดก ชาดกว่าด้วยความชนะที่ดี



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ