กูฏวาณิชชาดก ชาดกว่าด้วยหนามยอกเอาหนามบ่ง


[ 24 เม.ย. 2564 ] - [ 18278 ] LINE it!

ชาดก 500 ชาติ

กูฏวาณิชชาดก-ชาดกว่าด้วยหนามยอกเอาหนามบ่ง

เมืองสาวัตถี

เมืองสาวัตถี
  
       พ่อค้าสองคนในเมืองสาวัตถีร่วมทุนกันทำการค้า คุมขบวนเกวียนสินค้าไปสู่ชนบท เมื่อค้าขายจนหมดแล้วก็เดินทางกลับบ้าน เมื่อกลับถึงสาวัตถี
แทนที่จะได้ทำการตกลงแบ่งทรัพย์อันเกิดจาการค้าขาย พ่อค้าคนหนึ่งเกิดคิดไม่ซื่อ คิดเอาทรัพย์ทั้งหมดมาเป็นของตนเอง
 
พ่อค้าขี้โกงวางแผนคิดที่จะเอาทร้พย์จากการขายสินค้าไว้เพียงคนเดียว
 
พ่อค้าขี้โกงวางแผนคิดที่จะเอาทร้พย์จากการขายสินค้าไว้เพียงคนเดียว
 
        จึงคิดอุบายนำอาหารมาเลี้ยงพ่อค้าอีกคนและลูกขบวนทั้งหมด “ เอาเลย เชิญกินกันตามสบายเลยน่ะ พวกเราเหนื่อยยากกันมาตั้งนานแล้วสหายเอ๋ย
ตอนนี้พวกเราก็ค้าขายจบสิ้นแล้ว นำทรัพย์ที่ได้มาแบ่งกันเถิด ” “ โอ้ย เจ้าจะรีบแบ่งทำไมกัน นี่ชิมนี่สะก่อน อาหารรสเลิศอย่าบอกใคร ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

พ่อค้าขี้โกงเลี้ยงอาหารหวานคาวเพื่อนของตนด้วยอาหารรสเลิศ
 
พ่อค้าขี้โกงเลี้ยงอาหารหวานคาวเพื่อนของตนด้วยอาหารรสเลิศ
 
        อาหารมีตั้งเยอะแยะ เจ้าอย่าคิดแต่เรื่องแบ่งทรัพย์เลย เอาไว้ที่หลังเถิด ” พ่อค้าโกงบ่ายเบี่ยงที่จะแบ่งทรัพย์ทุกครั้งที่พ่อค้าสหายถามถึง เขาจัดอาหารรสเลิศ
และจัดสถานที่นอนให้กับสหายอย่างดีเยี่ยม เพราะคิดว่าพ่อค้าผู้เป็นสหายของเขาตรากตร่ำในการค้าขายมาหลายวัน

พ่อค้าอติบัณฑิตจัดที่หลับที่นอนให้กับเพื่อนสหายของเขาอย่างดีเยี่ยม
 
พ่อค้าขี้โกงจัดที่หลับที่นอนให้กับเพื่อนสหายของเขาอย่างดีเยี่ยม
 
        การกินไม่ดี การนอนก็ลำบากหากเขาจัดโภชนดี ๆ ด้วยรสเลิศต่าง ๆ ในเรือนของเขาจนพอใจ พ่อค้าผู้เป็นสหายก็จะตายด้วยโรคอาหารไม่ย่อย “ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
กินอิ่มแล้ว นอนหลับปุ๋ยอย่างนี้ ไม่พ้นเดือนแน่ ๆ ฮิ ฮิ แล้วทรัพย์ที่เราก็จะแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ของเด็ก ๆ ส่วนหนึ่งแล้วที่เหลือ ๒ ส่วนก็เป็นของเรา ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
 
บัณฑิตพ่อค้าได้ทวงถามเงินส่วนแบ่งจากการค้าของตนจากสหาย
 
บัณฑิตพ่อค้าได้ทวงถามเงินส่วนแบ่งจากการค้าของตนจากสหาย
 
        วันแล้ววันเล่าผ่านไปแม้พ่อค้าผู้เป็นสหายจะถามถึงส่วนแบ่งสักกี่ครั้ง แต่ละครั้งก็ถูกพ่อค้าโกงบ่ายเบี่ยงทุกครั้งไป แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะปล่อย
ให้พ่อค้าโกงหลอกเอาได้ ครั้งหนึ่งจึงคาดคั้นให้แบ่งจนได้ “ เจ้าจะรีบแบ่งไปทำไมกัน อยู่ที่นี่ให้สบายก่อนเถิด อาหารการกินก็ดี จะนอนก็สบาย
 
พ่อค้าบัณฑิตได้ทวงถามเงินส่วนแบ่งจากการค้าจนสหายของเขายอมแบ่งให้
 
พ่อค้าบัณฑิตได้ทวงถามเงินส่วนแบ่งจากการค้าจนสหายของเขายอมแบ่งให้
 
        ทรัพย์มันไม่บูดเสียหรอก แบ่งกันตอนไหนก็ได้ ” “ สหายเอ๋ย บัดนี้เราลิ้มรสอาหารจนเบื่อแล้ว เจ้าอย่าบ่ายเบี่ยงอีกเลย แบ่งทรัพย์ของข้ามาเถิด ยังไงวันนี้
เราก็ต้องแบ่งทรัพย์ในส่วนของเราให้ได้ ” เมื่อแบ่งทรัพย์กันแล้วพ่อค้าผู้เป็นบัณฑิตก็ไปสู่พระวิหาร ถวายบังคมพระศาสดาได้รับปฏิสันถารที่ทรงกระทำ

พ่อค้าบัณฑิตได้เดินทางมาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา
 
พ่อค้าบัณฑิตได้เดินทางมาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา
 
       เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งถามว่า เหตุใดจึงเข้าเฝ้าพระองค์ช้านัก พ่อค้าบัณฑิตจึงกราบทูลเรื่องทั้งหมดแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าให้ทรงทราบ
“ ดูกร อุบาสกมิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นที่นายพาณิชย์นั้นเป็นพาณิชย์โกง แม้ในกาลก่อนก็เคยเป็นพาณิชย์โกงมาแล้วเหมือนกัน แต่ในครั้งนี้มุ่งจะล่วงท่าน
แม้ในครั้งก่อนก็ไม่อาจจะหลอกลวงบัณฑิตได้
 
พระศาสดาทรงนำอดีตนิทานชาดกมาตรัสเล่าแก่พ่อค้าบัณฑิต
 
พระศาสดาทรงนำอดีตนิทานชาดกมาตรัสเล่าแก่พ่อค้าบัณฑิต
     
        ” เมื่ออุบาสกกราบทูลอาราธนาแล้วจึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาทกดังต่อไปนี้ เมื่อกาลก่อนในเมืองพาราณสีมีพ่อค้าชื่อว่าบัณฑิตได้เข้าหุ้นทำการค้ากับพ่อค้า
ผู้เป็นสหายชื่อว่า อติบัณฑิต เขาทั้งสองชวนกันบรรทุกสินค้าด้วยเกวียน ๕๐๐ เล่มไปขายสินค้าที่ชายแดนแห่งหนึ่งได้กำไรกลับมาอย่างงาม

พ่อค้าสองคนได้นำสินค้าบรรทุกเกวียนไปขายยังชายแดน
 
พ่อค้าสองคนได้นำสินค้าบรรทุกเกวียนไปขายยังชายแดน
 
        เมื่อค้าขายเสร็จสิ้นและได้เดินทางมาถึงบ้านแล้ว ถึงเวลาแบ่งเงินตามที่ได้ตกลงกันในครั้งแรก “ มาเถิดสหายเราเอาทรัพย์ที่ได้มาแบ่งกันเถิด กำไรครั้งนี้งามนัก
ส่วนแบ่งของเราคงได้มากโขอยู่ ” “ ใช่ เราควรจะได้ เราควรจะได้ ๒ ส่วน ส่วนเจ้าเอาไป ๑ ส่วน ” “ ทำไมล่ะ เพราะเหตุใด เจ้าจึงได้ถึง ๒ ส่วน เหตุใดเราถึง
ได้ไม่เท่ากันล่ะ ”
 
พ่อค้าทั้งสองกลับจากการค้าขายและได้มาพักยังบ้านของพ่อค้าอติบัณฑิต
 
พ่อค้าทั้งสองกลับจากการค้าขายและได้มาพักยังบ้านของพ่อค้าอติบัณฑิต
 
       “ ก็เพราะเจ้าชื่อบัณฑิตเฉย ๆ ควรได้ส่วนเดียว ส่วนเราชื่ออติบัณฑิตก็ควรได้ ๒ ส่วน ” “ จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก ถึงทุนรอนพาหนะและข้าวของเราสองคน
ก็ออกเท่า ๆ กัน แล้วเวลาแบ่งกำไรถึงได้ไม่เท่ากันละ ข้าไม่เข้าใจ ” “ เจ้าจะให้เราอธิบายสักกี่ที ก็บอกแล้วไงว่าเป็นเพราะชื่อ ยังไงก็แล้วแต่ เจ้าควรได้รับ
แค่ส่วนเดียวเท่านั้นแหละ

พ่อค้าทั้งสองคนไม่สามารถตกลงแบ่งกำไรจากการที่ค้าขายด้วยกันได้
 
พ่อค้าทั้งสองคนไม่สามารถตกลงแบ่งกำไรจากการที่ค้าขายด้วยกันได้
  
        แต่หากเจ้าจะดึงดันแบ่งเท่ากันละก็ เพื่อความเป็นธรรมเรามาหาคนกลางตัดสินกันดีกว่า ” เมื่อทั้งสองตกลงกันไม่ได้ พ่อค้าอติบัณฑิตจึงเสนอให้รุกขเทวดา
ที่สถิตอยู่ต้นไม้ใหญ่ในป่าให้เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งนั่นก็เป็นอีกแผนที่เขาได้วางไว้โกงเอาทรัพย์ของพ่อค้าผู้เป็นสหายเช่นกัน
 
พ่อค้าขี้โกงได้วางแผนกับพ่อของตนที่จะเอาเงินกำไรในการค้าขายจากเพื่อนของตน    

พ่อค้าขี้โกงได้วางแผนกับพ่อของตนที่จะเอาเงินกำไรในการค้าขายจากเพื่อนของตน
 
        “ พ่อพรุ่งนี้ท่านจงไปแอบอยู่ใต้โพรงไม้ใหญ่ต้นนั้นเถิด ช่วยปลอมเป็นรุกขเทวดาให้ลูกด้วย ลูกได้นัดหมายให้สหายไปพบรุกขเทวดา เพื่อขอให้ตัดสิน
ส่วนแบ่งให้แล้ว ” “ ได้สิลูกเอ๋ย อะไรที่ทำให้เจ้าได้ส่วนแบ่งมากขึ้น พ่อก็ยินดีทำให้ งานนี้สบายมากอยู่แล้ว ยังไงๆ เจ้าบัณฑิตนั่นก็คงไม่รู้แผนของเราหรอก ”

พ่อค้าทั้งสองคนเดินทางไปหารุกขเทวดายังต้นไม้ใหญ่
 
พ่อค้าทั้งสองคนเดินทางไปหารุกขเทวดายังต้นไม้ใหญ่
  
       “ ใช่จ๊ะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วเราก็จะได้ส่วนแบ่งตั้ง ๒ ส่วน ที่นี่ไม่ว่าพ่อจะปรารถนาสิ่งใด ข้าก็จะหามาให้ เหอะ ๆ ฮะ ฮ่า ฮ่า ” “ ดี ๆ ดี ๆ พ่ออยากจะได้ผ้าสักผืน
ไว้ใส่ไปงานบุญอยู่แล้ว ” “ โอ้ย แค่นี้จิ๊บจ๊อยนะพ่อ ถ้าแผนสำเร็จจริง ๆ เดี๋ยวลูกจัดให้สัก ๕ ชุดเป็นยังไงล่ะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ”

พ่อของนายอติบัณฑิตได้เข้าไปแอบในโพรงไม้ปลอมตัวเป็นรุกขเทวดา
 
พ่อของนายอติบัณฑิตได้เข้าไปแอบในโพรงไม้ปลอมตัวเป็นรุกขเทวดา
 
        รุ่งขึ้น เมื่อถึงเวลานัดหมาย พ่อค้าทั้งสองก็ออกเดินทางไปต้นไม้ใหญ่แห่งหนึ่งที่ท้ายหมู่บ้าน ที่พ่อค้าอติบัณฑิตได้นัดแนะให้พ่อของตนไปแอบอยู่
“ อุ๊ย ๆ ๆ ใกล้ถึงเวลาแล้ว ต้องรีบซ่อน ดีนะที่บทไม่ยาวมาก ไม่งั้นข้าจำไม่ได้แน่ ๆ เลยความจำยิ่งสั้นอยู่ด้วย ”
 
พ่อค้าทั้งสองได้สอบถามรุกขเทวดาว่าควรจะแบ่งผลกำไรจากค้าขายกันเช่นไร
 
พ่อค้าทั้งสองได้สอบถามรุกขเทวดาว่าควรจะแบ่งผลกำไรจากค้าขายกันเช่นไร
 
       พ่อค้าทั้งสองเดินมาถึงต้นไม้ใหญ่ ก็จุดธูปกราบไหว้ขอให้รุกขเทวดาช่วยตัดสินปัญหาให้ “ พวกเจ้ามีเรื่องอะไรให้เราช่วยตัดสินเหรอ สีหน้าพวกเจ้า
เคร่งเครียดนัก ” “ ท่านรุกขเทวดาเรื่องมันมีอยู่ว่า เราทั้งสองคนได้ร่วมทุนกันทำมาค้าขาย โดยทั้งพาหนะและลูกหาบเราทั้งสองคนก็มีเท่า ๆ กัน
 
พ่อค้าบัณฑิตได้อธิบายเหตุผลให้กับรุกขเทวดาได้ฟัง
 
พ่อค้าบัณฑิตได้อธิบายเหตุผลให้กับรุกขเทวดาได้ฟัง
 
        เมื่อค้าขายได้กำไรกลับมาแล้วท่านรุกขเทวดาเห็นว่าเราควรจะแบ่งกันเช่นไรจึงจะยุติธรรม ” “ ผมกับสหายตกลงกันไม่ได้สักที จริง ๆ แล้วผมมีชื่ออติบัณฑิต
ส่วนสหายผมชื่อบัณฑิต การแบ่งทรัพย์ผมก็น่าจะได้ส่วนแบ่ง ๒ ส่วน ส่วนสหายผมชื่อบัณฑิตเฉย ๆ ก็น่าจะได้แค่ส่วนเดียวเท่านั้นท่านรุกขเทวดาท่านว่าถูกไหมขอรับ ”
 
พ่อค้าอติบัณฑิตได้ชี้แจงเหตุผลของตนเองให้กับท่านรุกขเทวดาได้ฟัง
 
พ่อค้าอติบัณฑิตได้ชี้แจงเหตุผลของตนเองให้กับท่านรุกขเทวดาได้ฟัง
 
        “ อืม จากที่ได้ฟังเจ้าทั้งสองเล่ามานี่นะ พ่อค้าที่ชื่ออติบัณฑิตควรได้สองส่วนจริง ส่วนพ่อค้าที่ชื่อบัณฑิตควรได้แค่ส่วนเดียวเท่านั้น ” “ นั่นไงล่ะ ข้าว่าแล้วเชียว
ว่าที่ข้าพูดมันต้องถูก เห็นไหมสหายบัณฑิตเจ้าควรได้ส่วนแบ่งแค่ส่วนเดียวจริง ๆ ด้วย ”  
 
พ่อค้าอติบัณฑิตได้จุดไฟให้ควันเข้าไปในโพรงไม้
 
พ่อค้าอติบัณฑิตได้จุดไฟให้ควันเข้าไปในโพรงไม้
 
       นายบัณฑิตนั้นไม่ใช่คนโง่ เขาสังเกตเห็นพิรุจหลายอย่างจึงคิดพิสูจน์ว่ารุกขเทวดาที่ต้นไม้นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ “ สหายจะให้เราเชื่อเช่นนั้นก็ได้ แต่เรา
ขอพิสูจน์ให้แน่ใจก่อนนะ ” นายบัณฑิตได้เดินไปเก็บฟืนแล้วนำกองไว้ที่โคนต้นไม้ จุดไฟเผาในโพรงไม้นั้น
 
พ่อของนายอติบัณฑิตหนีออกมาจากโพรงไม้เพราะทนความร้อนไม่ไหว
 
พ่อของนายอติบัณฑิตหนีออกมาจากโพรงไม้เพราะทนความร้อนไม่ไหว

        “….เดี๋ยวเถอะจะได้รู้กันว่าเทวดาจริงหรือเทวดาปลอมกันแน่...” เมื่อฟืนติด ไฟก็ลุกลามเข้าไปในโพรง ควันลอยพุ่งขึ้น “ โอ้ย ๆ ๆ ร้อนจังทำไงดีล่ะ
อันนี้ไม่ได้อยู่ในแผนนี่น่า โอ๊ะ ๆ ทนไม่ไหวแล้ว ร้อน ๆ ” 

มานพผู้ปัญญาทึบบอกอาจารย์ของตนไปว่าช้างมีลักษณะเหมือนงอนไถ
 
พ่อค้าบัณฑิตได้รู้ความจริงว่าพ่อของสหายปลอมตัวมาเป็นรุกขเทวดา

       พ่อของนายอติบัณฑิตรีบหนีตายออกมาจากโพรงไม้แทบไม่ทันเนื้อตัวดำสกปรกน่าตลก “ โอ้ย โอ๊ะ โอ๊ะ ร้อน ๆ ๆ ๆ ร้อนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย โอ้ยจะเผาข้า
ให้ตายอยู่ในนั้นหรือไง โอ้ย ร้อน ร้อนจนเกือบถูกเผาแล้วซิเรา โอ้ย ทนไม่ไหวแล้ว ร้อน ๆ ๆ ๆ ๆ ” “ ไหนล่ะ รุกขเทวดาที่เจ้าว่า ข้าเห็นแต่พ่อของเจ้ามิใช่รึ

พ่อค้าอติบัณฑิตต้องยอมจำนนด้วยหลักฐานในเรื่องที่ตนวางแผนไว้
 
พ่อค้าอติบัณฑิตต้องยอมจำนนด้วยหลักฐานในเรื่องที่ตนวางแผนไว้
 
       เจ้าอย่าได้คิดโกงอีกเลยแบ่งให้เท่ากันเถอะ ” “ โอ้ย พ่อนะพ่อเสียแผนหมด ” แล้วคนทั้งสองก็แบ่งทรัพย์กันคนละครึ่งถือเอาส่วนเท่า ๆ กัน แล้วต่างก็ไป
ตามยถากรรม 
พระศาสดาทรงนำเรื่องในอดีตนี้มาสารทกว่า แม้ในครั้งก่อนนายพาณิชย์นั้นก็เป็นนายพาณิชย์โกงเหมือนกัน แล้วทรงประชุมชาดกว่า
 
พ่อค้าขี้โกงจำต้องยอมแบ่งกำไรที่ได้จากการค้าคนละครึ่งกับสหายของตน
 
พ่อค้าขี้โกงจำต้องยอมแบ่งกำไรที่ได้จากการค้าคนละครึ่งกับสหายของตน

      

 พ่อค้าโกงในครั้งนั้น ได้มาเป็นพ่อค้าโกงในปัจจุบันนี้แหละ 
ส่วนพ่อค้าผู้เป็นบัณฑิต ได้เสวยพระชาติเป็น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระคาถาประจำชาดก
“ คนชื่อบัณฑิตดีแน่ ส่วนอติบัณฑิตไม่ดีเลย เพราะ เจ้าอติบัณฑิตลูกเราเกือบเผาเราเสียแล้ว ”

 
 
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
อนุสาสิกชาดก ชาดกว่าด้วยเรื่องดีแต่พูดอนุสาสิกชาดก ชาดกว่าด้วยเรื่องดีแต่พูด

สุราปานชาดก ชาดกว่าด้วยโทษของการดื่มสุราสุราปานชาดก ชาดกว่าด้วยโทษของการดื่มสุรา

สกุณีคติชาดก ชาดกว่าด้วยไม่หากินไกลถิ่นสกุณีคติชาดก ชาดกว่าด้วยไม่หากินไกลถิ่น



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

นิทานชาดก 500 ชาติ