เธอ...ต้องอดทน


[ 12 ก.พ. 2551 ] - [ 18271 ] LINE it!

CASE STUDY
เธอ...ต้องอดทน
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียน อนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2549
 
 
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
 
    ครอบครัวของลูก เข้ามาสร้างบารมีที่วัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 และสร้างบารมีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยทำบุญทุกบุญที่คุณครูไม่ใหญ่บอกให้ทำทุกบุญไม่เคยขาดเลยคะ และยังเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน ที่ดีของคุณครูไม่ใหญ่มาโดยตลอด ลูกกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ให้ช่วยฝันในฝันให้ดังนี้คะ
 
    คุณพ่อ-คุณแม่ของลูก มาจากเมืองจีน มีลูกทั้งหมด 10คน ลูกเป็นลูกสาวคนโต คุณพ่อจึงไม่ให้เรียนหนังสือ ตามความเชื่อของคนจีนที่ว่า ลูกสาวจะต้องคอยช่วยพ่อ-แม่ทำงาน ทำให้ลูกต้องเป็นกำลังหลักคอยช่วยเหลืองานทางบ้าน ตั้งแต่อายุ 4ขวบ
 
    ลูก ต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด ช่วยคุณแม่ทำกับข้าวให้ทุกๆคนในครอบครัวกิน รวมถึงต้องช่วยเลี้ยงดูน้องๆอีก 9คน และทำงานบ้านทุกอย่าง จนกระทั่งลูกอายุได้ 20ปี ก็เริ่มมีหนุ่มๆหลายๆคน แวะเวียนมาหา และพูดคุยกับลูกที่บ้าน แต่ก็ถูกคุณพ่อไล่กลับไปทุกราย เพราะคุณพ่อเป็นคนดุ โมโหร้าย ทำให้ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้าใกล้ลูกเลย
 
    ต่อมา คุณพ่อก็มาบอกกับลูกว่า อยากให้ลูกแต่งงานกับคนที่คุณพ่อหามาให้ ซึ่งคุณพ่อบอกว่า ผู้ชายคนนี้เขาเป็นคนดี ขยัน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทั้งๆที่ตัวลูกก็ไม่เคยรู้จักและเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นมาก่อน ลูกรู้สึกไม่พอใจคุณพ่อมาก จึงได้มีปากเสียงกับท่านอยู่หลายครั้ง
 
    แต่ในที่สุด ลูกก็ต้องยอมแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น ทั้งๆที่ไม่เต็มใจ ก็เพราะทนความโมโหร้ายของคุณพ่อไม่ไหว และไม่อยากทำให้คุณพ่อต้องเสียใจ เมื่อลูกแต่งงานแล้วก็ได้ย้ายไปอยู่กับครอบครัวของสามี
 
    คุณพ่อของสามี เป็นคนขยัน มีน้ำใจ แต่เป็นคนดุ โมโหร้าย ชอบทำบุญไหว้พระตามศาลเจ้า และทำบุญแบบสังคมสงเคราะห์ทั่วไป ต่อมา คุณพ่อของสามีได้ป่วยเป็นโรคความดันสูง แต่ท่านไม่ยอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ได้แต่ซื้อยาตามร้านขายยามากินเองที่บ้าน เป็นเวลาหลายปี จนอายุได้ 62ปี ร่างกายซีกขวาก็เริ่มหมดแรงใช้การไม่ได้ และไม่สามารถเดินได้อีก ต้องนอนอยู่เฉยๆ ให้ลูกหลานคอยดูแลเป็นเวลาถึง 5ปี และเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 67ปี
 
    คุณแม่ของสามี เป็นคนใจดี แต่มีนิสัยตระหนี่ ทำบุญบ้างตามประเพณี ส่วนใหญ่ก็จะชอบทำบุญตามศาลเจ้า และทำบุญแบบสังคมสงเคราะห์ เหมือนคุณพ่อของสามี คุณแม่ของสามีเสียชีวิตด้วยโรคชรา รวมอายุได้ 86ปี
 
    ครอบครัวของสามีนั้น มีพี่น้องทั้งหมด 6คน สามีของลูกเป็นลูกคนที่สาม ทางบ้านของสามีอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ประกอบอาชีพทำขนมปังปี๊บส่งขาย ไม่มีการจ้างลูกจ้างมาทำงาน แต่จะให้ลูกๆมาช่วยทำงานแทน และไม่มีเงินให้ลูกๆในการช่วยงาน เพราะถือว่าอยู่กินกันภายในบ้านก็เพียงพอแล้ว
 
    สามีของลูก เป็นกำลังหลักในการทำงานภายในครอบครัว เช่น ยกปี๊บขนมปัง ขายของ ส่งของให้ลูกค้าเอง ซึ่งในแต่ละวัน สามีของลูกดูเหนื่อยมาก เพราะพี่ชายของสามีไม่ยอมช่วยงาน และมักเอาเปรียบสามีของลูกเสมอๆ แต่เขาก็ไม่เคยบ่นให้คนในครอบครัวฟัง ในช่วงที่คุณพ่อของสามีป่วยเป็นอัมพฤกษ์ พี่ๆของสามีพากันแยกตัวออกไปอยู่ที่อื่น เพราะกลัวที่จะต้องรับภาระหนี้สินที่คุณพ่อของสามีหยิบยืมมา เพื่อเป็นเงินหมุนเวียนในการค้าขาย รวมทั้งภาระที่ต้องส่งน้องๆเรียน จึงทำให้สามีของลูกต้องรับภาระหนักมากๆแต่เพียงผู้เดียว
 
    ในตอนนั้น ลูกและสามีทุกข์ใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากต้องสู้กับปัญหาเหล่านั้นให้ได้ คิดเพียงแต่ว่าในตอนนั้นถ้าหากเราไม่สู้ก็ต้องตาย ก็เลยคิดว่า อดทนสู้ดีกว่า เพราะอย่างน้อย ถ้าสู้ก็ยังจะพอมีโอกาสชนะบ้าง...ในเวลาต่อมา การค้าขายก็เริ่มดีขึ้น ได้กำไรมากขึ้น จึงทำให้สามีของลูกสามารถชำระหนี้สินของพ่อได้หมดสิ้น และสร้างฐานะได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
 
    ถึงแม้ทุกอย่างกำลังจะไปได้ด้วยดี แต่ลูกและสามีก็ยังต้องทำงานหนักเหมือนเดิม จึงปรึกษากันว่า ถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะหาช่องทางประกอบอาชีพใหม่ ที่ไม่ต้องเหนื่อย และทำงานหนักอย่างนี้ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นจะไม่มีเรี่ยวแรงทำงาน และไม่อยากให้ลูกๆต้องมาทำงานหนักอย่างนี้ด้วย
 
    ต่อมาไม่นาน ลูกและสามีจึงตัดสินใจเลิกอาชีพเดิม และได้ย้ายครอบครัว มาอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มาเซ้งโรงงานทำน้ำแข็ง เพื่อประกอบอาชีพทำน้ำแข็งส่งขาย ทำได้อยู่เพียง 4ปีก็ต้องเลิกกิจการ เนื่องจากคนงานทะเลาะกัน และพากันลาออกไปหมด ในช่วงดังกล่าวนั้น บ้านของลูกก็ได้ถูกขโมยยกเค้าไปอีก รวมทรัพย์สินที่ถูกยกเค้าไปหลายหมื่นบาท ตัวลูกและสามีรู้สึกทุกข์ใจมากเหมือนผีซ้ำด้ามพลอย แต่มันเป็นความชินชาในชีวิตไปแล้วค่ะ เพราะลูกคิดว่าที่ผ่านมาหนักกว่านี้เรายังทนมาได้ ปัญหาแค่นี้จะเป็นไรไป
 
    แต่ในที่สุด เราก็ได้อาชีพขายน้ำแข็งและน้ำหวาน ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา ซึ่งอาชีพใหม่นี้ค่อนข้างสบายกว่าเดิม เพราะตัวลูกและสามี ไม่ต้องทำงานหนัก และมีลูกจ้างมาคอยช่วยงานอย่างดีเสมอมา
 
    วันหนึ่ง ในขณะที่ตัวลูกและสามีได้ช่วยกันเปิดร้าน สามีก็ไปเปิดเตาแก๊สเพื่อที่จะต้มน้ำเอาไว้ชงน้ำหวานขาย แต่ไฟที่หัวเตาแก๊สก็ไม่ยอมติด สามีจึงได้ไปถอดหัววาล์วของถังแก๊สออกมาเช็คดู ในขณะที่สามีกำลังถอดหัววาล์วของถังแก๊สออกมา
 
    ตัวลูกซึ่งไม่ทันมองสามีว่ากำลังทำอะไรอยู่นั้น ก็ได้เดินไปเปิดสวิทช์ที่หัวเตาจึงทำให้เกิดประกายไฟขึ้น และไปติดกับแก๊สที่พุ่งออกมาจากถัง เนื่องจากสามีของลูก ปิดหัววาล์วถังแก๊สยังไม่สนิท เปลวไฟจึงลุกท่วมทั่วบริเวณร้าน ทำให้ตัวลูกถูกไฟเผาที่แขนและขา แต่สามีของลูกถูกไฟเผาตั้งแต่ใบหน้า แขน ลำตัวมาจนถึงขา ทำให้ลูกและสามีต้องพักรักษาตัวเป็นเวลาหลายเดือน แต่ทั้งเราสองไม่คิดยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต...ยังคงยิ้มสู้เป็นกำลังใจให้กันและกันค่ะ
 
    ลูกชายคนสุดท้องของลูก ขณะเรียนอยู่ปีหนึ่งของมหาวิทยาลัย เขาได้มีโอกาสเข้ามาอบรมธรรมทายาท รุ่นที่24 เมื่อปี พ.ศ.2539 โดยการชักชวนของชมรมพุทธฯ ในมหาวิทยาลัย และหลังจากเสร็จสิ้นการอบรม เขาก็ได้ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร คอยชักชวนตัวลูก และสามีทำบุญเสมอมา
 
    ตอนที่เขาเรียนอยู่ปีสุดท้าย ในปี พ.ศ.2543 ที่จังหวัดสงขลาเกิดมีพายุเข้า ทำให้ฝนตกติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน เช้าวันหนึ่งขณะที่ลูกและสามีออกจากบ้านไปตั้งแต่ตี5 เพื่อไปขายของกันตามปกติ ลูกชายตื่นขึ้นมาพร้อมตัวลูก เพื่อลงมาปิดประตูที่ชั้นล่าง ในขณะนั้นน้ำก็เริ่มท่วมเข้ามาในบ้านถึงระดับข้อเท้าแล้ว แต่ก็เป็นธรรมดาของที่นี่เมื่อมีฝนตกหนัก ก็จะมีน้ำท่วมเข้ามาในบ้านเป็นประจำ และเขาก็ได้เดินกลับขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อนอนต่อ
 
    จนกระทั่งเวลา 8โมงเช้า เขากำลังเตรียมตัวออกจากบ้านเพื่อไปเรียนที่มหาวิทยาลัย เขาได้ลงมาที่ชั้นล่างก็ปรากฏว่า น้ำได้ท่วมสูงขึ้นมาถึงระดับเอว และในเวลาต่อมาก็ท่วมสูงถึงบริเวณชั้นสองของบ้านอย่างรวดเร็ว เขาจึงติดอยู่บนชั้นสองของบ้านออกไปไหนไม่ได้เลย การจราจรขนส่ง ก็ถูกตัดขาด โทรศัพท์ก็ใช้การไม่ได้ เรือกู้ชีพของทางการก็ไม่สามารถเข้าไปถึงบริเวณบ้านของลูกได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงและท่วมสูงมาก
 
    เขาติดอยู่ที่บนชั้นสองของบ้านเป็นเวลา 2วัน ได้กินเพียงแค่ขนมปัง 3ชิ้นที่เพื่อนให้มาในวันเกิดของเขาเท่านั้น ไม่มีน้ำและอาหารใดๆเลย พอเริ่มเข้าวันที่สาม ด้วยความเบื่อหน่าย ที่จะต้องนั่งรอความช่วยเหลือ เขาจึงตัดสินใจขึ้นไปบนดาดฟ้าของบ้าน เพื่อไปเอาห่วงยางซึ่งไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว แต่ยังพอมีลมอยู่ข้างในบ้าง ทำให้ห่วงยางนั้นพอที่จะลอยน้ำได้
 
    เขาเกาะติดกับห่วงยางแฟบๆนั้น ลอยน้ำออกมาจากบ้านในเวลา 9โมงเช้า พยายามเอาขาตีน้ำพยุงตัวลอยน้ำมาเรื่อยๆ เพื่อที่จะไปให้ถึงบ้านของพี่ชายของลูก ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของลูกประมาณ 10กิโลเมตร เขาลอยน้ำมาพร้อมกับห่วงยาง ลัดเลาะตามกระแสน้ำมาเรื่อยๆ จนมาถึงช่วงที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวและแรงมากที่สุด เขาก็เริ่มรู้สึกอ่อนล้า ไม่ค่อยมีแรง เนื่องจากอดอาหารและน้ำมาถึง 2วัน แต่ถ้าไม่ข้ามไปก็ต้องหมดแรงจมน้ำตายอยู่ตรงนี้
 
    เขาตัดสินใจ พาตัวเองเข้าไปในกระแสน้ำเชี่ยว พร้อมกับห่วงยางแฟบๆ และใช้แรงทั้งหมดที่มีเหลืออยู่ ฝ่ากระแสน้ำอันเชี่ยวกรากไป แต่เขาถูกกระแสน้ำพัดไปกระแทกกับก้อนหินใหญ่และแหลมคม ทำให้ขาข้างซ้ายของเขาเป็นแผลยาวตั้งแต่ต้นขาลงมาจนถึงน่อง เลือดก็ไหลออกมาก เกิดความเจ็บปวดที่ขาขึ้นมาทันที แรงก็หมด แล้วขาก็ยังเจ็บอีก
 
    เขาคิดเพียงแต่ว่าต้องรอด ต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้ จะต้องไม่ตายแบบนี้ เขาจึงรวบรวมกำลัง ใช้ขาทั้งสองข้างตีฝ่ากระแสน้ำออกไป โชคดีที่เขาข้ามมาถึงอีกฝั่งได้ เขาลอยน้ำลัดเลาะไปด้วยอาการที่อ่อนล้าและสะบักสะบอม จนกระทั่งมาถึงที่บ้านของพี่ชายของลูกในเวลา บ่าย 4โมงเย็น รวมระยะเวลาที่เขาลอยอยู่ในน้ำเป็นเวลาถึง 7ชั่วโมง
 
    เมื่อเรียนจบแล้ว เขาก็เริ่มทำงานและได้สร้างบารมีควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง ต่อมาได้มีพระอาจารย์รูปหนึ่ง มาคอยเป็นกัลยาณมิตรให้กับลูกชายคนสุดท้องของลูก จนกระทั่งเขาได้เป็นคนรุ่นใหม่ ที่สามารถเข้ามาสร้างบารมีเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในวัดพระธรรมกายค่ะ
 
    น้องชายของลูก เป็นคนที่มีนิสัยค่อนข้างเกเร ชอบคบเพื่อนที่เป็นคนพาล ชอบสูบบุหรี่ และถึงขั้นติดยาเสพติด ทำให้ญาติๆทุกข์ใจและเป็นห่วงเขามาก ต่อมาน้องสาวของลูกก็ได้ชวนให้มาเขามาบวชที่วัดพระธรรมกาย ในที่สุดเขาก็ยอมมาบวช โดยได้บวชในรุ่นเข้าพรรษา ปี พ.ศ.2547 และได้อยู่สร้างบารมีจนถึงปัจจุบัน
 
คำถาม
 
1.บุพกรรมใด ที่ทำให้ลูกถูกคุณพ่อบังคับให้แต่งงานกับสามี โดยที่ลูกไม่เต็มใจ ทั้งๆที่น้องๆของลูกที่เหลือ ไม่ได้ถูกบังคับให้แต่งงานเลยค่ะ
 
2.คุณพ่อของลูกเสียชีวิต เพราะกระเพาะปัสสาวะแตกกะทันหัน คุณแม่ของลูกเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน ท่านทั้งสองตายแล้วไปอยู่ที่ไหน บุญที่ลูกได้สร้างองค์พระธรรมกาย และบุญทุกบุญที่ลูกหลานทำให้ ท่านทั้งสองได้รับหรือไม่ และมีสภาพเป็นอย่างไรคะ
 
3.คุณพ่อและคุณแม่ของสามี ตายแล้ว ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน บุญที่ลูกได้สร้างองค์พระธรรมกาย และบุญทุกบุญที่ลูกหลานทำให้ ท่านทั้งสองได้รับหรือไม่ และมีสภาพเป็นอย่างไรคะ    
 
4.ลูกทำกรรมใดมา จึงต้องทำงานหนักมาตั้งแต่เด็กๆ และไม่ได้เรียนหนังสือ แต่พอถึงวัยกลางคนชีวิตจึงเริ่มดีขึ้น ต้องทำอย่างไรจึงจะพ้นจากวิบากกรรมนี้ได้คะ
 
5.กรรมใด ที่ทำให้ตัวลูกและสามีต้องถูกไฟเผาตามร่างกาย และทำอย่างไรจึงจะพ้นจากวิบากกรรมนี้ได้คะ
 
6.กรรมใด ทำให้สามีของลูกมักจะถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนในครอบครัวของเขา และกรรมใดที่ทำให้บ้านของลูกถูกขโมยยกเค้า ต้องทำอย่างไรจึงจะพ้นจากวิบากกรรมนี้คะ
 
7.บุพกรรมใด ที่ทำให้ลูกชายคนสุดท้องต้องติดอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว ในขณะที่น้ำท่วม รวมทั้งต้องอดอาหารและน้ำ และเขารอดชีวิตมาได้ด้วยบุพกรรมใดคะ
 
8.ลูกชายคนสุดท้องของลูก จะสามารถสร้างบารมีอยู่ในวัดได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เขาเคยสร้างบารมีมาอย่างไร จะมีโอกาสได้บวชตลอดชีวิต อย่างที่เขาตั้งใจได้หรือไม่คะ
 
9.พระอาจารย์ที่คอยเป็นกัลยาณมิตร ให้กับลูกชายคนสุดท้อง ได้เข้ามาสร้างบารมีที่วัด มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรคะ และเคยสร้างบารมีมาอย่างไรกับหมู่คณะ
 
10.น้องชายของลูก ก่อนบวชทำไมจึงมีนิสัยเกเร ชอบคบเพื่อนที่เป็นคนพาล ติดยาเสพติด เป็นเพราะบุพกรรมใด และเขาเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร และจะสร้างบารมีได้ตลอดรอดฝั่งในเพศสมณะหรือไม่คะ
 
11.ตัวลูกและสามี รวมถึงลูกทั้ง 4คน เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรบ้าง ทำไมลูกสาวคนที่สอง และลูกชายคนที่สาม จึงไม่ค่อยสนใจ ในเรื่องการสร้างบารมีกับหมู่คณะ และจะทำอย่างไรให้พวกเขากลับมาสร้างบารมีกับหมู่คณะได้อีกคะ
 
    สุดท้ายนี้ ลูกกราบขอบพระคุณอย่างสูง ในความเมตตาของคุณครูไม่ใหญ่ ขอให้คุณครูไม่ใหญ่มีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวสองร้อยซาวปี๋ค่ะ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยาปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.ลูกถูกคุณพ่อบังคับให้แต่งงานกับสามี โดยที่ลูกไม่เต็มใจ ทั้งๆที่พี่น้องทุกคนไม่ถูกบังคับ เพราะกรรมในอดีต ลูกได้เคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้เคยบังคับลูกหลานให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก
 
  • อีกทั้งได้เคยเป็นสามี-ภรรยากัน และได้สร้างบุญร่วมกัน มาส่งผล
  • ส่วนพี่น้องทุกคนไม่ได้มีวิบากกรรมดังนี้ จึงไม่ได้โดนบังคับเหมือนตัวลูก
 
2.คุณพ่อเสียชีวิตด้วยโรคกระเพาะปัสสาวะแตกกะทันหัน เพราะในอดีตเป็นคนเจ้าโทสะ ได้มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนบ้าน จึงทำร้ายเขาจนร่างกายของเขาบอบช้ำ กระเพาะปัสสาวะแตก มาส่งผล
 
  • ตายแล้ว ไปเป็นภุมมเทวาสายยักษ์ ระดับธรรมดา ด้วยความมักโกรธ
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็ทำให้มีสภาพดีขึ้น
  • คุณแม่เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน เพราะกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งอดีตและปัจจุบัน มาส่งผล
  • ตายแล้วก็ไปเป็นภุมมเทวาที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง คนละแห่งกับคุณพ่อ เพราะความตระหนี่ และชอบไหว้เจ้าตามประเพณี
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็ทำให้มีสภาพดีขึ้นทุกด้าน
 
3.คุณพ่อคุณแม่ของสามี ตายแล้วก็ไปเป็นภุมมเทวาทั้งคู่ ที่ศาลเจ้า อยู่ด้วยกัน
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วในทุกบุญ ก็ทำให้มีสภาพดีขึ้นทุกด้าน ดูเป็นหนุ่ม-สาวขึ้น มีเสื้อผ้า อาหารทิพย์ ที่อยู่ ที่ดีขึ้น
 
4.ลูกทำงานหนักมาแต่เด็ก และไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะกรรมตระหนี่ในอดีต มาส่งผล
  • รวมทั้งเคยอยู่ในสังคมที่มีความเชื่อว่า ลูกผู้หญิงไม่ต้องเรียนหนังสือ ให้ช่วยงานอย่างเดียว และได้บังคับลูกหลานผู้หญิงให้ทำดังนี้ด้วย อีกทั้งขาดบุญเรื่องการสนับสนุนการศึกษา
  • แต่วัยกลางคนเริ่มดีขึ้น เพราะบุญที่เคยทำเอาไว้อยู่บ้างในอดีต ได้เริ่มส่งผลในวัยกลางคน
  • จะแก้ไขวิบากกรรมนี้ ลูกก็ต้องทำบุญทุกบุญให้สม่ำเสมอ และให้มีปีติยินดีในการทำบุญทั้ง ก่อนทำ กำลังทำ และภายหลังจากทำแล้ว ในทุกครั้ง
 
5.ตัวลูกและสามีถูกไฟเผาตามร่างกาย เพราะเศษกรรมในอดีต ที่เคยปิ้ง ย่าง สัตว์เป็นๆ มาทำเป็นอาหาร มาส่งผล โดยทั้งตัวลูกและสามีก็มีกรรมคล้ายๆกัน
 
  • จะแก้ไขวิบากกรรมนี้ ก็ให้หมั่นทำบุญทุกบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา รวมทั้งปล่อยสัตว์ปล่อยปลาบ่อยๆ แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้สัตว์เหล่านั้น อีกทั้งอย่าได้ทำกรรมแบบนี้อีก
 
6.สามีของลูกมักถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนในครอบครัวของเขา เพราะกรรมในอดีต ก็ได้เคยเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น อีกทั้งขาดบุญสงเคราะห์ญาติ วิบากกรรมนี้มาส่งผล
 
  • บ้านของลูกถูกขโมยยกเค้า เพราะเป็นวจีกรรมในอดีต ที่ญาติของลูกซึ่งลูกไม่ชอบ ได้ถูกขโมยยกเค้า ลูกได้พูดจาเยาะเย้ยถากถางซ้ำเติม สมน้ำหน้าเขา อีกทั้งยังแช่งเขาให้โดนอีกหลายครั้ง มาส่งผล
  • จะแก้ไข ให้สั่งสมบุญทุกบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น แล้วอธิษฐานให้พ้นจากวิบากกรรมนี้
7.ลูกชายคนสุดท้อง ต้องติดอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว ในขณะที่น้ำท่วมและต้องอดอาหารและน้ำ เพราะกรรมในอดีต ได้เคยเลี้ยงสัตว์ไว้ในกรง แล้วลืมให้อาหารสัตว์หลายวัน จนมันอดอาหารและน้ำ
 
  • กับเคยโยนลูกหมาลงไปในแม่น้ำ เพื่อให้มันหัดว่ายน้ำ แต่ก็แกล้งให้มันทรมาน จนมันถูกน้ำในแม่น้ำพัดไปติดกอสวะ ตัวเองจึงได้ไปช่วยมันกลับมาได้ วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผล
  • แต่ไม่ได้ทำให้มันตายจึงรอดชีวิตได้
 
8.ลูกชายคนสุดท้อง เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้เป็นทหารหนุ่มและไม่ได้ทำการออกรบ เพราะอยู่ในช่วงที่พระราชาได้ออกบวช จึงออกบวชตามจนตลอดชีวิต มีหน้าที่เผยแผ่
 
  • มีผลการปฏิบัติธรรม ได้เข้าถึงพระธรรมกาย ประคองตัวกลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษได้
  • ผังบวชตลอดชีวิต เขามีอยู่ ถ้าเขาตั้งใจจริงในปัจจุบัน และไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ก็สามารถบวชได้ตลอดชีวิต
 
9.พระอาจารย์ องค์ที่คอยเป็นกัลยาณมิตร ให้ลูกชายคนสุดท้องได้เข้ามาสร้างบารมีที่วัดนั้น พุทธันดรที่ผ่านมา ก็ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ออกบวชตามพระราชา และได้ออกบวชก่อนทหารหนุ่มนั้น และได้เป็นพระอาจารย์คอยแนะนำพระบวชใหม่ พระอาจารย์ได้ออกบวชตลอดชีวิต ได้ทำหน้าที่เผยแผ่
 
  • มีผลการปฏิบัติธรรม ได้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน กลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษได้
 
10.น้องชายของลูก ก่อนบวชมีนิสัยเกเร ชอบคบเพื่อนที่เป็นคนพาล ติดยาเสพติด เพราะกรรมในอดีต ชอบคบคนพาล และมีนิสัยเป็นนักเลงข้ามชาติติดมา จึงทำให้มาตกอยู่ในวงจรของคนพาล
 
  • ได้เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง แต่ประมาทในการดำเนินชีวิต ดังนั้นบางชาติก็เจอกัน บางชาติก็ไม่เจอกันกับหมู่คณะ อีกทั้งเคยพลัดไปอบายก็หลายครั้ง
  • ดังนั้นเมื่อบวชแล้ว ก็ให้ตั้งใจบำเพ็ญสมณะธรรมให้เต็มที่ และประคับประคองตัวให้ดี จะได้ไม่ตกไปในอบายอีก เพราะอบายรอคอยอยู่ อย่าได้ถอยหลังในการสร้างบารมี จะได้กลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษกับหมู่คณะ
 
11.ตัวลูก, สามี และลูกทั้ง 4คน เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะแบบกองเสบียง ลูกสาวคนที่สอง และลูกชายคนที่สาม ก็มีสายบุญกับหมู่คณะ เมื่อถึงเวลาพวกเขาก็จะกลับมาเจอกับหมู่คณะอีก ตอนนี้ก็ให้ลูกคอยประคับประคองพวกเขาให้ดี
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม