เซียมซีหนีรัก


[ 27 มี.ค. 2551 ] - [ 18267 ] LINE it!
View this page in: 中文

CASE STUDY
เซียมซีหนีรัก
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2549
 
   

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
  
    ลูก เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา พันธุ์แท้ค่ะ ลูกมีเรื่องราวที่แปลกประหลาดหลายอย่าง ที่เกินกว่าความคิดและจินตนาการจะไปถึง ลูกจึงเขียน Case Study เพื่อขอความเมตตาจากคุณครูไม่ใหญ่ ได้เฉลยเรื่องราวต่างๆค่ะ
 
    ตอนที่ลูกอายุได้ 12ปี ลูกเห็นพี่ชายนั่งสมาธิในห้องทุกวัน ลูกจึงแอบเอาหนังสือการปฏิบัติธรรมมาอ่าน พอลงมือปฏิบัติ ลูกกลับเห็นภาพปีศาจลอยมาเต็มหน้า จนลูกกลัวมาก แต่สักครู่ภาพนั้นก็หายไป ภาพที่เห็นต่อมา กลับเป็นภาพของพระพุทธรูปลอยมาแทน ตั้งแต่นั้นมาลูกก็ไม่ยอมนั่งสมาธิอีก แต่ว่าตั้งแต่ลูกได้นั่งสมาธิจนเห็นภาพพระ ลูกรู้สึกเหงาๆเหมือนว่ากำลังรอคอยอะไรสักอย่างหนึ่ง
 
    แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกรู้สึกว่า จะได้พบสิ่งที่รอคอย คือ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2536 ขณะนั้นบ้านอยู่แถวบางนา แต่ที่ทำงานอยู่แถวสายใต้ใหม่ ลูกต้องใช้เวลานั่งรถไปทำงาน 2-3ชั่วโมง และกลับอีก 2-3ชั่วโมง เหนื่อยและเสียเวลามาก จนลูกเบื่อและท้อ ลูกจึงเข้าห้องพระ เอาดอกไม้ธูปเทียนมากราบพระประธานในห้อง แล้วอธิษฐานจิตว่า “ถ้ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงในโลกนี้ ขอให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับตัวลูกภายใน 7วัน” ด้วยความดื้อและไม่เข้าใจในศาสนา ทำให้ลูกอธิษฐานขอ 3อย่างภายในเวลาเดียวกัน คือ
 
ข้อที่1.ของานใหม่ใกล้บ้าน โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 5นาที หรือเดินทางไม่เกิน 500เมตร
ข้อที่2.ในที่ทำงานใหม่ ขอให้ลูกได้ตำแหน่งหัวหน้างานและได้เงินเดือนตามที่หวังไว้
ข้อที่3.ขอให้คำอธิษฐาน 2ข้อแรก จงสำเร็จโดยภายใน 7วัน
 
    เมื่อลูกขอไป ใจก็คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้หรอก อย่างมากก็แค่ข้อเดียว จะมาสำเร็จภายใน 7วันได้อย่างไร แต่เมื่อถึงวันที่3 ก็มีพี่คนหนึ่งที่ลูกรู้จักโทรศัพท์มาหาและบอกว่า มีคนแนะนำให้เธอไปทำงานที่แถวบางนา แต่เธอจำได้ว่าบ้านของลูกอยู่ใกล้บริษัทฯนี้มาก ลูกก็รีบไปสมัครงาน และลูกก็ได้แต่ “งง” เพราะบริษัทฯนั้นอยู่ห่างจากบ้านของลูกแค่ซอยเดียว จนสามารถเดินทางไปทำงานได้ในเวลาแค่ 5นาที
 
    ณ ที่ทำงานแห่งนี้ ลูกได้พบกับผู้ชายที่เป็นพนักงานของที่นี่คนหนึ่ง เมื่อได้พบหน้ากับเขาครั้งแรก ลูกมีความรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตามากๆเหมือนเคยรู้จักกับเขามานานแสนนาน เมื่อลูกได้คุยก็มีความรู้สึกว่า เราเคยรู้จักกันมานานแล้ว และยิ่งเมื่อทราบว่าเขาชอบไปวัดปฏิบัติธรรม ในใจลูกเหมือนมีเสียงอะไรบางอย่างบอกว่า คำตอบของสิ่งที่รอคอยใกล้ถูกเฉลยแล้ว
 
    วันอาทิตย์ต้นเดือน เขาพาลูกมาวัดพระธรรมกาย เมื่อลูกได้มาที่นี่ พบผู้คนมากมายในวัด ความรู้สึกของลูกเหมือนคุ้นเคยกับคนเหล่านั้นมาก จนถึงเวลาปฏิบัติธรรมตามเสียงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไม่นานลูกก็พบความสว่างภายในไม่มีประมาณ ความสว่างก็กลายเป็นดวงใสซ้อนกัน ลูกมีความสงบอย่างบอกไม่ถูกจนจบพิธี ใจลูกก็ยังติดในดวงใสตลอดเวลา ประสบการณ์สมาธิเป็นสิ่งที่ง่าย จนลูกอดสงสัยไม่ได้ว่า มันง่ายจริงหรือ
 
    ต่อมา สายตาของลูกเห็นภาพพระสงฆ์ที่คนเข้าไปกราบไหว้ เมื่อเดินเข้าไปใกล้รูปของท่าน ลูกรู้สึกอบอุ่นและปีติที่สุด คำตอบของสิ่งที่รอคอยมานานก็ถูกเฉลย เมื่อลูกถามคนที่อยู่ใกล้กันว่า “ภิกษุในภาพนั้นคือใคร” คำตอบก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯนั่นเอง
 
    ลูกตามเพื่อนรุ่นพี่ที่บริษัทฯเดียวกัน มาวัดพระธรรมกายไม่เคยขาด จนในที่สุด เราก็เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก แต่ในปี พ.ศ.2538 ท่านก็ได้มาบวชที่วัดพระธรรมกาย โดยไม่มีกำหนดลาสิกขา ลูกเสียใจมากที่สุดและดีใจมากที่สุดในเวลาเดียวกัน ในช่วงนั้น ลูกก็เริ่มห่างจากวัดพระธรรมกาย เพราะบางครั้งลูกก็คิดว่า วัดพระธรรมกายเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนของลูกไปบวช ลูกต้องสูญเสียเพื่อนไปให้วัด
 
    จนเมื่อประมาณปี พ.ศ.2540 ลูกได้ไปทอดผ้าป่าที่จังหวัดกระบี่ และได้แวะชมวัดชื่อดังของจังหวัดภูเก็ต วัดนี้ประดิษฐานร่างที่ละสังขารของพระชื่อดังนับร้อยปี โดยที่ไม่เน่าเปื่อยเลย ลูกเข้าไปกราบท่านและถามในใจว่า “ทำอย่างไร ใจที่เศร้าหมองและสับสนของลูกในการบวชของเพื่อนจะหมดไปได้” ลูกได้เดินดูวัดเรื่อยๆ จนเห็นสถานที่เสี่ยงเซียมซี ลูกเข้าไปเสี่ยงเซียมซีด้วยความรู้สึกที่เบื่อ และไม่รู้ว่าจะทำอะไรในวัดนี้ แต่เมื่อลูกได้อ่านข้อความในใบเซียมซีที่เสี่ยงได้ ลูกต้องตะลึงกับข้อความ ทำให้ต้องอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นสิบๆเที่ยวเพื่อความแน่ใจ เพราะข้อความนั้นเขียนว่า...
 
    “คนที่ได้อ่านเป็นผู้หญิง และเธอกำลังเดินหลงทางในป่าด้วยความเศร้าโศก เพื่อตามหาชายหนุ่มที่เธอรักมาก แต่เธอก็ได้เจอกับพระพุทธองค์เข้า เธอจึงไปกราบและพระพุทธองค์จึงตรัสถามเธอว่า เจ้าตามหาอะไรอยู่หรือ หญิงสาวจึงตอบว่า ตามหาชายคนรักอยู่ พระพุทธองค์จึงตรัสว่า เจ้าไม่ต้องตามหาแล้ว เพราะชายหนุ่มที่เจ้ารักนั้น บัดนี้ได้เป็นทหารของตถาคตแล้ว เจ้าจะเสียใจและเศร้าโศกไปใย เจ้าควรเข้าไปหาดอกไม้ธูปเทียนและอาหารให้พร้อม เพื่อนำมาเป็นพุทธบูชาและฟังธรรมกับพระศาสดามิได้ขาด จนหญิงสาวนั้นก็ได้บรรลุธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์ในที่สุด”
 
    ลูกอ่านซ้ำไปซ้ำมา และคิดว่าต้องมีเทวดามาแกล้งให้ลูกเจอข้อความแบบนี้ ลูกฉีกกระดาษออกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนอยากให้ข้อความเหล่านี้สูญหายไปจากโลก เพราะขณะนั้นลูกคิดแต่ว่า ลูกอยากให้ท่านกลับมาค่ะ...ลูกจึงคิดว่า จะต้องเปลี่ยนศาสนา คำพยากรณ์จะได้ผิด แต่ในที่สุด ลูกก็รับเอาคำสอนของศาสนาอื่นไม่ได้เลย แต่ลูกก็ไม่ยอมมาวัดพระธรรมกาย อาศัยแต่นั่งสมาธิที่บ้าน
 
    จนวันอาทิตย์ต้นเดือนในปลายปี พ.ศ.2540 ลูกป่วยมาก แต่ความรู้สึกลึกๆ ลูกอยากมาวัดพระธรรมกายมากเหลือเกิน จนทนไม่ไหว จึงได้มาวัดทั้งๆที่ไข้ขึ้นสูงมากจนแทบประคองตัวเองไม่ได้ ในระหว่างที่ลูกเริ่มปฏิบัติธรรมตามเสียงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในภาคเช้า ลูกคิดถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯมาก คิดว่า ถ้าตายก็ขอตายระหว่างปฏิบัติธรรมเถิด
 
    เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ลูกรู้สึกเหมือนไข้ที่ร้อนในตัวของลูก เริ่มลดลงเองโดยอัตโนมัติ กลายเป็นความสว่างและเย็น ใจขยายออก ดวงใสผุดขึ้นซ้อนกันอย่างนุ่มนวล สว่างเย็นตา ลูกเห็นกายละเอียด ผุดกลางศูนย์กลางกาย หน้าตาเธอเด็กมาก เหมือนแค่อายุ 12-13ปี นั่งในท่านั่งสมาธิใส่ชุดขาว เหมือนลูกมากเพียงแต่เธอเด็กกว่า ลูกมีความรู้สึกใสสว่าง ข้างในลูกเย็นและมีความสุข ไข้ที่ขึ้นจนตัวร้อน, อาการปวดหัว หายไปหมด จนสิ้นการปฏิบัติธรรม ลูกก็รู้สึกสดชื่น หายป่วยโดยทันที กลับบ้านพร้อมกับเริ่มคิดว่า ทุกคนคงมีผังชีวิตที่ถูกกำหนดไว้แล้ว แม้จะปฏิเสธ ก็ต้องถูกกรรมมากำหนด
 
    ลูกหาเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้น พยายามวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลาทุกอิริยาบถ จนศูนย์กลางกายของลูกสว่างตลอดเวลา 24ชั่วโมง แม้ยามนอนศูนย์กลางกายก็สว่างใสจนตื่นนอน ลูกมีความสุขมาก ที่ใจกับกายของลูกแยกส่วนออกจากกัน เมื่อทำงานลูกก็ปฏิบัติหน้าที่ไป แต่ใจกลับละเอียดอยู่ที่ภายในเหมือนแยกส่วนกัน
 
    มีอยู่วันหนึ่ง เจ้านายของลูกได้ไปฝึกพลังลมปราณจักรวาล ซึ่งช่วงนั้นมีคนนิยมไปฝึกกันมาก ท่านฝึกจนชำนาญ โดยการใช้สมาธิถ่ายพลังลงไปยังจักระในร่างกายคน สามารถรักษาคนป่วยให้หายได้ และใครที่ไม่สบาย ปวดหัวเป็นไข้ เจ้านายก็จะมาลองทำจนได้ผล ท่านก็มาปฏิบัติกับตัวลูก
 
    ลูกอยากรู้ว่า วิชชาธรรมกายจะต้านพลังจักรวาลได้หรือไม่ ลูกจึงลองเข้ากลางไปเรื่อยๆ เจ้านายเอาฝ่ามือมากดที่ศีรษะของลูกไว้ สักครู่ลูกก็รู้สึกว่า มีพลังงานอย่างหนึ่งพยายามที่จะเข้ามาที่ศีรษะของลูก แต่พลังงานนั้นไม่สามารถเข้ามาในร่างกายได้เลย และในที่สุดเหมือนมีแรงต้านจากศูนย์กลางกาย จนเจ้านายตกใจต้องชักฝ่ามือออกจากศีรษะของลูก
 
    เจ้านายของลูกบอกว่า รู้สึกว่าเหมือนมีแรงต้านกระแทกออกมาจากร่างกายของลูก เป็นเวลานานมาก จนพลังจักรวาลของท่านเข้ามาไม่ได้ และหมดพลังงานไปในที่สุด ท่านจึงเลิกเรียนพลังจักรวาล เพราะให้เหตุผลว่า "เราสู้เขาไม่ได้ จะฝึกต่ออีกทำไม ไม่มีประโยชน์"
 
    เหตุการณ์นี้ ทำให้ลูกเชื่อว่า สมัยที่คุณครูไม่ใหญ่ ถูกอาจารย์ของนิสิตรุ่นพี่ ยิงปรอทจากฝ่ามือแต่ยิงไม่เข้านั้น...เป็นไปได้ ด้วยอานุภาพของวิชชาธรรมกาย
 
    ใจของลูก ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดตลอด จนกระทั่งแม้เวลานอน กายหยาบนอนไป แต่กายละเอียดไม่ยอมนอน ธรรมะของลูกในช่วงนั้นดีมาก เวลานอนทุกครั้งร่างกายก็พักผ่อนไป แต่กายละเอียดไม่ต้องพักผ่อน บางคืนกายละเอียดก็ทำสมาธิรวมเป็นอันเดียวกับองค์พระ แต่บางคืนกายละเอียดก็ไปสถานที่ต่างๆ ไปรับรู้เรื่องราวภายนอกห้องนอนได้
 
    ลูกจะเห็นภาพการกระทำ และได้ยินการสนทนาเรื่องราวต่างๆ เหมือนตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ได้ หรือบางสถานที่ไกลๆที่อยากไปก็ค่อยๆเริ่มไปได้ ลูกเห็นอย่างนี้เกือบทุกวัน ลูกเริ่มไม่เข้าใจ...ทำไมเห็นทุกวัน แม้แต่ร่างของตัวเองที่นอนอยู่ในห้อง ลูกก็ยังเห็น บางวันขณะหลับ ลูกก็จะเดินไปตามห้องต่างๆ ลงข้างล่างเข้าห้องครัวเห็นภาพการพูดคุยของคุณแม่, พี่ชายและพี่สาว มีอยู่ตอนหนึ่ง พวกเขาคุยถึงลูก
 
คุณแม่ก็บอกว่า “อย่านินทาน้อง เธอจะได้ยิน”
พี่สาวบอกคุณแม่ว่า “เธอหลับไปแล้ว ห้องนอนอยู่ชั้นสาม ไม่มีทางได้ยินหรอก”
 
    แต่ลูกก็สามารถบอกเรื่องราวที่สนทนาได้อย่างละเอียด พี่สาวเป็นงงเอามากๆค่ะ ลูกออกไปหาคนข้างบ้าน ถามเรื่องการสนทนาเมื่อตีสองที่ผ่านมา เพื่อนบ้านบอก “ใช่” ถามว่าทำไมลูกรู้ ทั้งๆที่เขาคุยกันแค่ 2คน
 
    ลูกเริ่มคิดว่า “จะเอาอย่างไรกับตัวเราเองดี เรามีปัญหาหรือเปล่า เพราะเรื่องราวของคนอื่น บางอย่างเป็นสิ่งไม่ควรไปรู้เห็น เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา” ด้วยความสงสัย ประกอบกับเพื่อนบอกว่าอย่าปฏิบัติอีกเลย ทำให้ลูกค่อยๆ ปฏิบัติธรรมน้อยลง ต่อมาเวลานอน กายละเอียดของลูกก็ไปไหนไม่ได้อีกเลย ใจก็ไม่ค่อยติดในศูนย์กลางกาย ธรรมะถอยลง ใช้ชีวิตเหมือนปกติ เที่ยว สนุกสนาน ทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อหาเงินตลอดเวลา
 
ลูกมีคำถามที่จะกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ดังต่อไปนี้
 
1.ลูกกับเพื่อนที่บริษัทฯ ที่ไปบวชพระอย่างไม่มีกำหนดสึก เคยมีวิบากกรรมหรือทำบุญอะไรร่วมกันมาในอดีต จึงทำให้จิตของลูกมีความผูกพันกับท่านมากคะ
 
2.ใบเซียมซีทำนายที่ลูกเสี่ยงทายมา ทำไมจึงทำนายแต่เรื่องทางธรรมและแปลกมาก คำว่า ทหารของพระตถาคต มีจริงด้วยหรือคะ เซียมซีแบบนี้มีได้อย่างไร เหมือนเจาะจงมีขึ้นเพื่อให้ลูกอ่านอยู่คนเดียวค่ะ
 
3.ทำไม คำอธิษฐานของลูกทั้ง 3ข้อ จึงเป็นจริงอย่างง่ายดาย สำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อคะ
 
4.พลังลมปราณและจักระ คืออะไร มีจริงหรือไม่ รักษาคนให้หายป่วยได้อย่างไร ทำไมเจ้านายของลูกจึงเกิดความรู้สึกว่า มีแรงต้านออกจากร่างกายของลูกคะ
 
5.ช่วงที่ในเวลานอน แล้วลูกเห็นภาพไปรับรู้เรื่องของคนอื่น เป็นจริงหรือไม่ และเป็นไปได้อย่างไรคะ ถ้าอยากกลับมาเป็นอย่างนั้นอีก ลูกจะต้องทำอย่างไร เป็นผลเกี่ยวกับการฝีกสมาธิวิชชาธรรมกาย ใช่หรือไม่คะ
 
6.ลูกศึกษาธรรมะแทบทุกสาย แต่ทำไมรักวิชชาธรรมกายมากที่สุดคะ และทำไมเมื่อเริ่มศึกษาเรื่องมารในคำสอนวิชชาธรรมกาย ลูกจึงเข้าใจและเชื่อทันที ทั้งๆที่ปกติลูกไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่มีการพิสูจน์ค่ะ
 
7.ทำไมบางครั้ง ขณะปฏิบัติธรรมอยู่ หรือเดินทางไปปฏิบัติธรรม ลูกจะได้กลิ่นดอกมะลิหอมอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งปฏิบัติธรรมเสร็จกลิ่นนั้นก็จะหายไปคะ
 
8.มีคนชอบให้ลูกทำนายไพ่ยิปซี เพราะเขาบอกว่าลูกดูแม่นมาก บางคนก็มานั่งรอพบ ลูกก็ดูให้โดยคิดเงิน 100บาท แล้วให้เขาอธิษฐานทำบุญให้วัดต่างๆ และปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ทั้งๆที่ลูกไม่เคยเรียนดูไพ่ แต่เขาบอกกันว่า “ลูกแม่นมาก” จนมีแต่คนมาขอให้ดู จะมีผลต่อการปฏิบัติธรรมอย่างไรหรือไม่คะ
 
9.ทำไม เมื่อลูกเห็นผู้หญิงสวย ลูกจึงชอบมองและคิดอยากเข้าใกล้ ทั้งๆที่ตัวลูกเองก็มีบุคลิกเป็นหญิงมากๆ ชอบแต่งตัวมาก ในอดีตลูกเคยเป็นชายเจ้าชู้หรือไม่คะ ถึงติดนิสัยข้ามชาติมา ลูกได้สร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรคะ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.ลูกกับเพื่อนที่บริษัทฯที่ไปบวชเป็นพระอย่างไม่มีกำหนดสึก ที่มีความผูกพันกันนั้น เพราะความเกื้อกูลในปัจจุบันเป็นหลัก
 
  • ส่วนเรื่องในอดีต ลูกกับท่านก็เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา โดยเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยกัน กับเป็นกัลยาณมิตรให้กันและกันมา ท่านได้ออกบวช แต่ตัวลูกมัวแต่เจ้าชู้ จึงมาเป็นผู้หญิงในชาตินี้ แต่ชาตินั้นก็ชอบสร้างบุญ นิสัยนี้จึงติดตัวมา

  • ส่วนในปัจจุบัน ขันธ์ห้าของลูกเป็นผู้หญิง จึงมีความผูกพันแบบหนุ่มสาว แต่เนื่องจากไม่เคยเป็นสามี-ภรรยากัน จึงได้แค่รักและผูกพันกันชั่วคราวเหมือนหนุ่มสาวทั่วไป 
 
2.ใบเซียมซีทำนายที่ลูกเสี่ยงทายมา ทำนายแต่เรื่องทางธรรมะ เพราะเขาเขียนมาอย่างนั้นอยู่แล้วเป็นปกติ แต่ด้วยบุญบันดาลที่จะทำให้ลูกคลายกังวลพ้นจากความทุกข์ใจ จึงได้เจอใบนั้น
  • ส่วนคำว่า “ทหารของพระตถาคต” ก็หมายถึงพระภิกษุผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร
 
3.คำอธิษฐานของลูก 3ข้อ เป็นจริงได้อย่างง่ายดายและไม่น่าเชื่อ เพราะบุญเก่าในอดีตที่ลูกเคย ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
  • กอปรกับในอดีตที่ผ่านมา เมื่อพระภิกษุบอกให้ทำอะไร ลูกก็จะทำตามนั้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเพื่อนภิกษุรูปที่คุ้นเคยกันในสมัยที่เป็นทหารด้วยกัน บอกให้ลูกทำอะไร ลูกก็จะช่วยเหลือทำตามนั้นอย่างรวดเร็ว
  • ด้วยบุญดังกล่าวนี้มาส่งผล จึงมีเหตุอัศจรรย์อย่างที่ลูกนึกไม่ถึง 
 
4.พลังลมปราณและจักรา คือ สมาธิแบบหนึ่งของทางศาสนาพราหมณ์ ที่อยู่ในระดับพอช่วยเหลือคนได้บ้าง แต่ไม่ได้เป็นสมาธิที่จะทำให้คนพ้นจากวัฏสงสารไปได้
 
  • ส่วนการรักษาคนนั้น บางคนก็หาย บางคนก็ไม่หาย อย่าไปสนใจเลย เสียเวลาของชีวิต
  • เจ้านายของลูกรู้สึกมีแรงต้านออกจากร่างกายของลูก เพราะสมาธิที่เกิดจากศูนย์กลางกายของลูก เป็นสมาธิบริสุทธิ์ จึงส่งแรงต้านสิ่งที่ไม่ใช่สัมมาสมาธิออกไป
 
5.ช่วงที่ในเวลานอนแล้วลูกเห็นภาพ ไปรับรู้เรื่องของคนอื่นนั้น ก็เป็นเรื่องจริง เป็นความฝันอย่างหนึ่งในระดับที่จิตละเอียดเท่ากับกายมนุษย์ละเอียด
 
  • ลูกจะต้องกลับมาฝึกสมาธิใหม่ให้จริงๆจังๆ แต่อย่าไปสนใจทำอย่างนั้นอีกเลยไม่เกิดประโยชน์อย่างสมบูรณ์ เพราะจะทำให้ติดอยู่ตรงนั้น
  • ควรจะหยุดใจนิ่งต่อไป เพื่อให้ใจใสสะอาดบริสุทธิ์ แล้วจะมีสิ่งที่น่าศึกษาที่ดีกว่านี้อีกมากมาย
 
6.ลูกศึกษาธรรมะแทบทุกสาย แต่รักวิชชาธรรมกายมาก เพราะลูกได้สร้างบารมีกับหมู่คณะสายวิชชาธรรมกายมาหลายชาติแล้ว จึงมีความรักและผูกพันกับวิชชาธรรมกาย
 
  • เมื่อลูกเริ่มศึกษาคำว่า “มาร” ลูกจะเชื่อทันที ซึ่งตรงข้ามกับนิสัยที่เป็นคนเชื่ออะไรยากนั้น ก็เป็นเพราะลูกได้เคยศึกษาเรื่องนี้มาหลายชาติแล้ว
 
7.บางครั้งขณะปฏิบัติธรรมอยู่ หรือเดินทางไปปฏิบัติธรรม ลูกจะได้กลิ่นมะลิหอมอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อปฏิบัติธรรมเสร็จแล้วกลิ่นนั้นก็หายไป เพราะบุญในอดีต เวลาปฏิบัติธรรมลูกมักจะเอาดอกมะลิมาบูชาพระด้วยทุกครั้ง บุญนี้จึงบันดาลให้ได้กลิ่น
  • ไม่ได้มีเทวดามาอนุโมทนา
 
8.คนชอบให้ลูกทำนายไพ่ยิบซี แล้วบอกว่า “แม่นมาก” ทั้งๆที่ลูกไม่เคยเรียนดูไพ่มาก่อนเลย เพราะพวกที่ชอบไปดู โดยพื้นฐานก็เป็นคนจิตอ่อน เชื่อง่าย เมื่อมีทุกข์ก็อยากหาที่พึ่ง แต่ก็ไม่ถูกทาง
  • แต่ที่ลูกพูดออกไปแล้ว เขารู้สึกว่าแม่น เพราะจิตของลูกบริสุทธิ์และมีเจตนาดีต่อเขา จึงทำให้บางครั้งก็แม่นมาก บางครั้งก็แม่นมั่ง บางครั้งก็ไม่แม่น แต่เขาไม่พูดให้ลูกฟังกลัวเสียกำลังใจ
  • ถ้าหลงใหลเรื่องนี้ ก็มีสิทธิ์ไปเป็นวิทยาธร และไม่ได้กลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ
  • ดังนั้นให้หันมานั่งธรรมะอย่างจริงจังดีกว่า
 
 
9.ลูกชอบมองผู้หญิงสวยและอยากเข้าใกล้ ทั้งๆที่ตัวลูกเองก็มีบุคลิกเป็นหญิงมากๆ ชอบแต่งตัวมากนั้น เพราะในอดีตลูกเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มากๆ ดังนั้นจึงมาเป็นผู้หญิง และนิสัยเจ้าชู้นี้ก็ยังติดตัวมา
 
  • ถ้าไม่เลิกคิดอย่างนี้ ลูกก็มีสิทธิ์เป็นทอม-ดี้ได้ เพราะมีกรรมเจ้าชู้ติดมาหลายชาติ และหากหมกมุ่นมากก็อาจหมดสิทธิ์กลับดุสิตบุรี คงจะอยู่แถวภุมมเทวาหรือไม่เกินจาตุมหาราชิกา ซึ่งมีพวกเหล่านี้อยู่เยอะ
  • ลูกได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยเป็นกองเสบียง ประเภททำไปเรื่อยๆ
  • โดยเฉพาะพุทธันดรที่ผ่านมา ก็เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช แต่ไม่ได้ออกบวชตามพระราชา เพราะมัวแต่เจ้าชู้
  • ถึงอย่างไร ตอนหลังก็กลับเนื้อกลับตัวได้ โดยมีพระเพื่อนรักเป็นกัลยาณมิตรให้ จึงได้กลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ ได้ในที่สุดอย่างหวุดหวิด
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย

  


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม