Case study
นักบุญ - นักธุรกิจ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2546
Case Study วันนี้ เป็นของชายท่านหนึ่ง ผู้มากไปด้วยความสามารถ ก่อนเสียชีวิต ได้ทำงานร่วมงานกับเจ้านาย ผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกน้องและเพื่อนร่วมงานทุกคน ทำ ๒ อย่างคือ ธุรกิจกับจิตใจไปด้วยกัน นอกจากประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจ ท่านยังสร้างบารมีเป็นต้นบุญต้นแบบ ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาผู้ร่วมงานซึ่งท่านรักเหมือนญาติ เหมือนลูกหลาน
สำหรับลูกน้องท่านนี้ ผู้จัดการให้ความเอ็นดูเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงป่วยขั้นสุดท้าย ได้อยู่เป็นกำลังใจ เป็นกัลยาณมิตร แนะนำสิ่งที่ดีเกี่ยวกับเรื่องบุญกุศลให้เขาและครอบครัวได้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวของชีวิต และการเตรียมตัวเตรียมใจที่จะเดินทางไปสู่ปรโลก จนกระทั่งทุกคนในครอบครัวทำใจได้ สมกับเป็นกัลยาณมิตรและนักสร้างบารมีที่ดีทีเดียว
ตอนมีชีวิตอยู่เขาได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานในมหาธรรมกายเจดีย์ ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุ สามเณรที่วัดพระธรรมกาย ปล่อยสัตว์ปล่อยปลา บุญไฟแก้วคุณยายอาจารย์ฯ ถวายมหาสังฆทานพระมหาเถรานุเถระพระ ๓๐,๐๐๐ วัด ทอดกฐิน แล้วก็สร้างองค์พระและลานธรรม ถวายพระสังฆาธิการ ๓๐,๐๐๐ วัดทั่วประเทศ
วาระสุดท้ายเขาทำใจใส ๆ แม้ทุกขเวทนาอันเกิดจากมะเร็งตับ ก็ได้ใช้กำลังใจพยายามข่มทุกขเวทนา ทำใจให้วนเวียนอยู่กับบุญกุศลที่ได้สร้างไว้ เจริญภาวนาเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งภรรยาที่ดีคอยประคับประคองกันไป
วันที่ ๑๖ มกราคม ตอนที่เขาถอดกายออกไปอย่างสง่างามในระดับหนึ่ง ยังไม่ได้ไปไหน กายยังไม่ได้เปลี่ยน ยังเป็นกายมนุษย์ละเอียดที่มีแสงเรือง ๆ ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ตนทำเอาไว้ แล้วกายละเอียดก็ค่อยๆ ผ่องใสเรืองๆ เป็นเพราะความอาลัยที่ยังอยู่ใกล้ ๆ บุตรภรรยาและเจ้านายที่น่ารักน่าเคารพ ตรงนี้หน่วงเอาไว้ดังนั้นบุตรและภรรยาควรจะทำใจให้ได้อย่างที่เขาทำใจ แม้ว่าอาลัยใจแทบขาดก็ต้องตัดใจเหมือนเขา ยังไม่ไปเป็นเทพบุตร แต่วิมานเป็นทองสุกใสสว่างไสว และบริวารเตรียมพร้อมจะมาลงมารับแล้ว แต่เจ้านายยังไม่พร้อม คงต้องทำให้มันถูกหลักวิชชา เพราะว่าเจ้านายในเมืองมนุษย์ แล้วก็เป็นกัลยาณมิตรด้วย ได้แนะนำเอาไว้ว่า ต้องมาเวียนประทักษิณมหาธรรมกายเจดีย์ ก็เลยต้องรอคอยตรงนี้ แต่ว่า ๗ วันในเมืองมนุษย์มันแวบเดียว ถ้าเทียบกับเวลากายมนุษย์ละเอียด นิดเดียว แต่ของเรานี่เดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืน เดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืน ๗ วัน แต่คิดว่าคงไม่ถึง ๗ วันเพราะว่าบริวารจัดเทวรถเตรียมกันมาแล้ว ก็เหลือแต่ใจเจ้านายแค่นั้นพร้อมที่จะไปเป็นเทพบุตรหรือยัง
อดีตชาติ
มาดูกันว่าทำไมอายุถึงสั้นแค่นี้ เป็นกรรมปาณาติบาต ฆ่ามนุษย์ ฆ่าสัตว์ต่าง ๆ เหล่านั้น คือสมัยหนึ่งในอดีตเป็นนักธุรกิจ สมัยก่อนมีกองคาราวานเป็นเกวียน บรรทุกสินค้าไปขายต่างเมือง โดยจัดขบวนคุ้มกัน มีอาวุธ เช่น ดาบ หน้าไม้ เกาทัณฑ์ คุ้มกันขบวนสินค้าที่เดินทางไปค้าขาย ระหว่างทางก็ไปเจอโจรผู้ร้ายจำนวนมากมาปล้นแย่งชิงสินค้า จึงเกิดการต่อสู้กัน ได้ฆ่าโจรตาย เป็นอย่างนี้หลายครั้งทีเดียว ฆ่าโจรตายแต่ตัวไม่ได้ตาย
เขามาปล้น ถ้าสู้กัน แล้วทำเขาตาย ก็เข้าข่ายอยู่ในกฎแห่งกรรม หนีไม่พ้นถ้าอยู่ในภพสาม ถ้าฆ่าทำชีวิตเขาให้ล่วงไป ให้พลัดพรากจากกายหยาบ เพราะฉะนั้นอายุก็ไม่ยืน อายุสั้นมาตั้งหลายชาติแล้ว พอถึงอายุวัยหนุ่มวัยกลางคนจะต้องเป็นอย่างนี้เสมอ ทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่ร้ายแรงแล้วก็เสียชีวิต ชาตินี้ก็เหมือนกัน เป็นกรรมปาณาติบาต
เพราะฉะนั้น คุณยายอาจารย์ของเราท่านจึงอธิษฐานเอาไว้เรื่อย
ขอให้ท่านอย่าไปฆ่าใคร แล้วใครก็อย่ามาฆ่าท่าน
ท่านอย่าได้ไปเบียดเบียนใคร แล้วใครก็อย่าได้มาเบียดเบียนท่าน
ท่านอย่าไปยินดีของของใครจนกระทั่งคิดที่จะไปลักขโมย จะไปช่วงชิงเขามา
ในทำนองเดียวกัน ใครก็อย่ามาคิดจะมาคด มาโกงอะไรกับท่าน แต่ถ้าท่านมีจิตที่จะมาบริจาคให้ ก็ให้ด้วยความยินดี ให้ผู้รับมีความปลื้มปีติด้วย
นี่เป็นสิ่งที่ท่านอธิษฐานล้อมคอก แล้วเล่าให้ครูไม่ใหญ่ฟังอยู่เรื่อยๆ เป็นสิ่งที่เราควรจะอธิษฐานกันไว้ จะได้เป็นเกราะ เป็นป้อม เป็นค่าย เป็นกำแพงล้อมคอกเรา เป็นผังสำเร็จไม่ให้เราเจอสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเมื่อเราไม่ฆ่า เราก็ไม่อายุสั้น เมื่อเราแผ่เมตตาบ่อยๆ สั่งสมบุญกุศลเอาไว้เยอะๆ อายุก็ยืนยาว