แม่พริกขี้หนู..แวบจู๊ด


[ 2 มิ.ย. 2551 ] - [ 18264 ] LINE it!

CASE STUDY
แม่พริกขี้หนู..แวบจู๊ด
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2549
 

กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    ลูก ได้เข้าวัดครั้งแรกปี พ.ศ.2536 เป็นงานอยู่ธุดงค์วันแม่ ขณะนั้นลูกเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแห่ง ปีที่1 จากนั้นลูกก็ได้มาเป็นอาสาสมัครช่วยงานที่วัดทุกวันอาทิตย์ จนถึงปัจจุบันนี้ 10กว่าปีแล้วค่ะ ลูกมีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับตัวเอง จึงขอส่งเรื่องราวมากราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ช่วยฝันในฝันเจ้าคะ เรื่องมีดังนี้ค่ะ

    ก่อนที่ลูกจะเกิด คุณแม่ ได้ให้กำเนิดลูกคนแรกเป็นผู้ชาย แต่มีชีวิตอยู่ได้เพียง 7วัน ก็ป่วยเสียชีวิตไปเฉยๆ คุณแม่เสียใจมาก จึงนำเขม่าดำๆที่ติดก้นหม้อมาป้ายที่หน้าผากด้านซ้ายตรงไรผมของลูกชาย ก่อนที่จะนำไปฝัง แล้วบอกว่า “หากมาเกิดใหม่จะได้จำกันได้”
 
    จากนั้นไม่นาน คุณแม่ก็ตั้งท้องลูกคนที่สอง ขณะท้องคุณแม่ได้ฝันไปว่า เห็นดวงไฟดวงใหญ่ปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า ทันทีที่ดวงไฟดวงนี้ปรากฏขึ้น ท้องฟ้าที่มืดมิดก็สว่างไปทั่วบริเวณ ดวงไฟดวงนั้นได้ลอยมาอยู่ในมือของคุณแม่
 
    ต่อมา คุณแม่ก็คลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง คือ ตัวลูก มีปานดำใหญ่กลมๆขนาดเท่าลูกมะนาวแต่ไม่นูนออกมา ติดอยู่ตรงหน้าผากด้านซ้ายตรงไรผม คุณแม่จึงเชื่อว่า ลูกชายที่ตายไปมาเกิดเป็นตัวลูก ตอนเกิดใหม่ๆลูกจะตัวเล็กมาก ป่วยเข้าโรงพยาบาลบ่อยจนหมอจำได้ แต่แม้จะตัวเล็กนะคะ แต่เรี่ยวแรงมหาศาล เคยดึงสายน้ำเกลือจนเสาน้ำเกลือล้มทั้งที่มีอายุแค่ 3เดือน จนหมองงว่า "ตัวก็เล็กๆทำไมแรงเยอะจัง สงสัยจะเป็นเจ้าหนูจิ๋วแต่แจ๋ว เหมือนพริกขี้หนูแน่ๆ"
 
    พออายุได้ 5ขวบ เย็นวันหนึ่งเวลาโพล้เพล้ ลูกกำลังเล่นอยู่ที่ลานบ้าน จู่ๆก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆสูงเท่าเข่า แต่งตัวน่ารักมาก มาวิ่งเล่นกับลูก ดูเธอระวังตัวมาก สักพักลูกก็คิดในใจว่า เราจะจับตัวเด็กคนนี้ไปให้แม่ดู พอคิดจบ เด็กคนนั้นก็วิ่งจู๊ด หายเข้าไปในพุ่มเถาวัลย์เตี้ยๆที่เลื้อยอยู่ข้างรั้ว ลูกสงสัยว่าเข้าไปได้ยังไง จึงลองเอาไม้ไปเขี่ยๆดูก็ไม่เห็น ลูกจึงร้องบอกเธอว่า “ออกมาเถอะไม่ทำอะไรหรอก” ลูกไปเฝ้าดูอยู่ 3วันเธอก็ไม่มาปรากฏให้เห็นอีกเลย

    ลูกเป็นเด็กซุกซนมาก ชอบเล่นอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชาย วันหนึ่งลูกได้นำเบ็ดไปปักไว้ 10คัน ขณะนั้นลูกอายุประมาณ 7ขวบ พอรุ่งเช้าไปดู ปกติลูกจะทำบาปไม่ขึ้นค่ะ วางเบ็ดไม่เคยได้ปลาเลย แต่วันนี้มีปลาช่อนตัวขนาดใหญ่ติดอยู่ที่เบ็ดคันที่10_ลูกดีใจมากจับมันขึ้นมาแล้วจ้องไปที่ดวงตาของมัน คิดในใจว่า "เสร็จฉันแน่คราวนี้...ฉันไม่อายเพื่อนอีกแล้ว"
 
    แต่ทันใดนั้น หูของลูกก็ได้ยินเสียงว่า “ปล่อยฉันไปเถอะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันยังมีลูกเล็กๆต้องดูแล” ลูกได้ยินดังนั้นก็ใจอ่อน “ปล่อยก็ได้ เธออยู่นิ่งๆนะเดี๋ยวเธอจะเจ็บ” ว่าแล้วลูกก็วางมันลงแล้วค่อยๆแกะเบ็ดออกจากปากของมัน แปลกที่มันนอนนิ่งไม่กระดุกกระดิก ซึ่งผิดวิสัยของปลาที่ยังมีชีวิต จากนั้นลูกก็ปล่อยลงน้ำ ลูกก็ได้ยินเสียงอีกว่า “ขอบใจนะ ไปล่ะ” พอมันว่ายไปได้หน่อย ลูกก็มองเห็นลูกปลาเล็กๆว่ายตามเป็นฝูง

    พอลูกอายุได้ประมาณ 8ขวบ จู่ๆลูกก็เกิดป่วยหนักรับประทานยาเท่าไรก็ไม่หาย ตัวร้อนจี๋ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว อาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ ถึงขนาดแค่ประคองลมหายใจเอาไว้ยังแสนยากลำบาก แล้ววันหนึ่งขณะนอนป่วยอยู่ลูกมองไปที่ประตู เห็นสัตว์ตัวโตๆ มีจมูกยาวๆ ช้างตัวหนึ่งมีสามหัว มีผิวสีเหลืองนวล ใสสว่างสวยงามมาก มันเดินตรงเข้ามาหาลูกถามลูกโดยที่ปากไม่ขยับได้ยินแต่เสียงว่า “ท่านเป็นยังไงบ้าง ไหวมั๊ย” ลูกก็ตอบออกไปในใจว่า “พอทน” ช้างก็บอกว่า “งั้นไปล่ะนะ” ว่าแล้วก็หันหลังเดินหายไป ทันทีที่ช้างกลับไป อาการป่วยของลูกก็หายเป็นปลิดทิ้ง และไม่ป่วยอีกเลย
 
    พออายุ 9ขวบ วันหนึ่งมีพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่ทุ่งนาใกล้ๆหมู่บ้าน ลูกเห็นแล้วชอบมากจนสุดจะบรรยาย อยากเป็นอย่างท่าน แต่พอมาเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้หญิงบวชไม่ได้ รู้สึกเสียใจนิดๆ พอจบ ม.6_ลูกก็เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ และได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

    ปี พ.ศ.2537 ลูกตกลงใจจะเข้าอบรมธรรมทายาทหญิง ยังไม่ทันได้เข้าอบรม เช้ามืดวันหนึ่ง เวลาตี5_ลูกได้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์เพื่อนไปประสบอุบัติเหตุที่ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ตรงบริเวณโค้ง 100ศพ เนื่องจากฝนตกถนนลื่น ไฟถนนก็ไม่มีมืดมาก เพื่อนของลูกที่เป็นคนขับกระเด็นไปพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์ประมาณ 7-8เมตร ส่วนตัวลูกกระเด็นตกจากท้ายรถมีความรู้สึกคล้ายสโลโมชั่น...
 
    ก่อนที่ศีรษะจะลงถึงพื้น ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า “ห้ามเอาหัวลงเด็ดขาด” เสียงมีพลังมาก ทำให้ลูกได้สติรีบพลิกตัวขึ้นกลางอากาศ เข่าข้างซ้ายจึงกระแทกลงพื้นอย่างแรง จนชาไม่มีความรู้สึก ทันใดนั้นลูกก็หันไปเห็นรถ 10ล้อ 3คัน วิ่งไล่กันมาติดๆ ห่างจากตัวลูกเพียง 100เมตรเท่านั้น แต่เข่าของลูกขณะนั้นสั่งการอะไรไม่ได้แล้ว ลูกจึงตัดสินใจใช้แขนและศอกทั้งสองข้างตะเกียกตะกายออกข้างทาง จนหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
 
    แต่เมื่อถูกนำส่งโรงพยาบาล หมอกลับบอกว่า ไม่เป็นอะไร ลูกก็ยืนยันว่า "มันลงแรงมากเลยนะคะหมอ" ไป 2โรงพยาบาล หมอก็ยืนยันเหมือนกัน จึงให้แค่ยาทา-ยากินแก้อักเสบฟกช้ำ
 
    ลูกทำกายภาพบำบัดรักษาอยู่ 3อาทิตย์จนหาย 90% สามารถเข้าอบรม ธรรมทายาทหญิงได้ แต่ยังนั่งขัดสมาธินานไม่ได้ ต้องไปนั่งเก้าอี้อยู่หลังสุด วันหนึ่ง ขณะกำลังนั่งสมาธิใสๆ ลูกก็รำพึงในใจว่า "กรรมอะไรหนอทำให้เราต้องเป็นเช่นนี้" รำพึงจบก็ปรากฏภาพขึ้นในสมาธิ เป็นภาพนายทหารหนุ่มร่างสูงใหญ่หล่อมาก ขี่ม้าขาวสวยงามมากๆ กำลังนำกลุ่มทหารกลุ่มใหญ่ ซึ่งล้วนแล้วแต่รูปหล่อๆ พากันควบม้ามุ่งไปข้างหน้า
 
    ทันใดนั้น ก็มีลูกธนูแหวกอากาศ มาปักเข้าที่ขาหลังข้างซ้ายของม้าตัวที่นายทหารหนุ่มควบอยู่ แต่เขาหาได้สนใจกับความเจ็บปวดของมันไม่ ยังคงใช้แซ่ตีๆๆให้ม้าวิ่งต่อไป เพราะใจคิดว่ายังประชิดข้าศึกไม่ได้ ม้าตัวนั้นจากเดิมมันเชื่อง มันรักเจ้าของ แต่บัดนี้มันเริ่มอาฆาตทีละนิดๆ ผลการรบครั้งนั้นนายทหารหนุ่มเป็นฝ่ายชนะ แต่ม้าตัวนั้นกลายเป็นม้าเดี้ยงไม่สามารถออกรบได้อีก และถูกทอดทิ้งให้ไปอยู่ความดูแลของคนเลี้ยงม้า
 
    ภาพฉายมาถึงตรงนี้ ก็ต้องหยุดลงเพราะได้ยินเสียงพระอาจารย์กล่าว "สัพเพ..." เป็นเวลา 11.00น. ภาพที่ฉายให้เห็นนั้นแป๊บเดียว แต่เวลาผ่านไปนานถึง 2ชั่วโมง

    พอจบการอบรม ลูกก็โลดแล่นอยู่ในสังคม ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ลูกทำธุรกิจแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เริ่มแรกดูท่าว่าจะดี ภายหลังก็มีอันต้องถูกโกงและใส่ร้ายจากเพื่อนร่วมหุ้น เป็นอย่างนี้ตลอดจนลูกรู้สึกเข็ดขยาด

    อายุ 24ปี ลูกได้เจอกับชายคนหนึ่ง เขาบอกกับลูกว่า เขามักจะเฝ้าถามตัวเองมาตลอดว่า “เราเกิดมาทำไม” ลูกอยากให้เขารู้คำตอบ จึงได้ชวนเขามาอบรมธรรมทายาท หลังเสร็จสิ้นการอบรมเขาก็ยังคงมาวัดตลอด ต่อมาลูกกับเขาได้แต่งงานกัน แต่ตั้งใจไม่มีลูกด้วยกันค่ะ เพราะเราตกลงกันไว้ว่าหากเขาจะบวชหรือลูกจะมาทำหน้าที่อยู่ในวัด เราก็สามารถแยกจากกันได้ โดยไม่ต้องมีภาระเครื่องกังวลค่ะ เพราะตั้งแต่อบรมธรรมทายาทมา เขารู้แล้วค่ะว่า “เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี”

    ลูกมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในองค์กรแล้วค่ะ  เราคบกันมาตั้งแต่เรียนอยู่มัธยมต้น ชีวิตในวัยเด็กของเขาเคยเกือบตายมาหลายครั้งส่วนมากเกี่ยวกับน้ำ เช่น ครั้งหนึ่ง ตอนอายุ 6ขวบ ไปเล่นน้ำคลองชลประทาน ได้ตกลงไปในท่อขนาดใหญ่ ที่เขาใช้สูบน้ำส่งไปที่แม่น้ำมูล เกือบถูกดูดเข้าไปในเครื่องสูบน้ำแล้ว ดีที่ว่ายังพอมีเรี่ยวแรงรวบรวมกำลังดึงตัวเองออกจากแรงดึงดูดของท่อได้
 
    หลังจากที่ลูกได้มาวัดพระธรรมกาย ลูกก็ได้เป็นกัลยาณมิตรชวนเพื่อนเข้าวัด เพื่อนคนนี้เขามีนิสัยชอบอุปัฏฐากพระ และชอบฟังเรื่องของพระอานนท์มาก เขาบอกว่าเวลาอธิษฐานจิตทำบุญ จะมีความคิดผุดขึ้นมาว่า ขอให้ได้เป็นอุปัฏฐากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แทบทุกครั้งค่ะ

คำถามมีดังนี้ค่ะ

1.กรรมใด ทำให้ลูกชายคนแรกของคุณแม่เสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิดคะ เขาได้กลับมาเกิดใหม่เป็นตัวลูกใช่หรือไม่คะ ถ้าใช่ทำไมจึงเกิดเป็นผู้ชายไม่ได้คะ และทำไมไม่ไปเกิดกับแม่คนใหม่ต้องมาเกิดกับแม่คนเดิม คุณแม่กับตัวลูกเกี่ยวข้องมาอย่างไรคะ

2.ดวงไฟที่คุณแม่ฝันเห็นขณะตั้งท้องลูก มีความหมายว่าอย่างไรคะ ทำไมลูกจึงมีปานดำที่ไรผมเหมือนกับที่คุณแม่เอาเขม่าป้ายลูกชายคนที่ตายคะ

3.เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่มาเล่นกับลูกตอนลูกอายุ 5ขวบนั้นคือใคร เธอมาจากไหน ทำไมจึงหายเข้าไปในพุ่มไม้คะ

4.เมื่อตอนอายุ 7ขวบ การที่สื่อกับปลาช่อนที่มาติดเบ็ด และสื่อกับสัตว์อื่นๆได้ เป็นความจริง หรือลูกคิดไปเองคะ

5.เมื่อตอนอายุ 8ขวบ ที่ลูกป่วยแทบเอาชีวิตไม่รอดเกิดจากกรรมอะไร แล้วช้างสามหัวที่มาเยี่ยมลูกคือใคร เกี่ยวข้องกับลูกอย่างไร ทำไมพอช้างกลับไปลูกจึงหายป่วยคะ

6.ตอนที่ลูกประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้ม แล้วมีเสียงที่สั่งลูกว่า “ห้ามเอาหัวลงเด็ดขาดๆ” เกิดจากอะไรคะ ภาพนายทหารหนุ่มกับม้าอาชาไนย ที่ลูกเห็นในสมาธิ คือ อดีตชาติของลูกที่ทำไว้กับม้า จนเป็นเหตุให้ตัวเองต้องมาเจ็บขาครั้งนี้หรือไม่คะ ถ้าไม่ใช่เกิดจากกรรมอะไร และทำไมลูกจึงเห็นอย่างนั้นคะ

7.เหตุใด ลูกจึงทำธุรกิจไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และหากทำธุรกิจร่วมกับคนอื่นก็จะถูกเขาโกงและใส่ร้ายทุกครั้งคะ

8.ตัวลูกและสามี ชาติที่แล้วเคยเกี่ยวข้องกันมาอย่างไรคะ เขาทำหน้าที่อะไรในหมู่คณะคะ มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไรคะ

9.ลูกและคุณแม่ เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร เหตุใดลูกจึงชอบชีวิตแบบพระธุดงค์มากคะ ลูกทำหน้าที่อะไร มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร ลูกจะมีความรู้สึกลึกๆว่า กำลังรอคอยที่จะทำอะไรสักอย่าง เป็นเพราะลูกมีหน้าที่ทำวิชชาหรือไม่คะ เป็นคำถามที่ค้างใจลูกมากที่สุดค่ะ

10.เหตุใด เพื่อนสนิทของลูกจึงเกือบเสียชีวิตเพราะน้ำมาหลายครั้ง ทำไมเขาจึงมีอัธยาศัยชอบอุปัฏฐากพระ และชอบฟังเรื่องพระอานนท์และชอบอธิษฐานว่า ขอให้ได้เป็นอุปัฏฐากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ความปรารถนานี้ของเขาจะสำเร็จในชาติไหนคะ

11.อดีตชาติ ลูกกับเพื่อนคนนี้เคยเกี่ยวข้องกันมาอย่างไร พุทธันดรที่แล้วเขาทำหน้าที่อะไร มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร ชาตินี้เขามีหน้าที่อะไรคะ เขาเหมาะที่จะสร้างบารมีอยู่ที่วัด หรือควรจะไปอยู่ช่วยงานที่ศูนย์สาขาต่างประเทศดีคะ และคนในองค์กรที่ไปทำหน้าที่อยู่ศูนย์สาขาต่างประเทศ หากเขามีธาตุธรรมทำวิชชา เขาจะได้กลับมาทำวิชชาที่นี่หรือไม่คะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
         
 ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

1.ลูกชายคนแรกของคุณแม่ เสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด เพราะกรรมในอดีต คุณแม่เคยสั่งแม่ค้าขายเนื้อ ให้เอาเนื้อของลูกสัตว์มาขายให้ตน เพื่อนำไปทำอาหาร ทำให้แม่ค้าได้ไปฆ่าลูกวัวแล้วเอาเนื้อมาขายให้ ส่วนลูกชายมีกรรมปาณาติบาตติดตัวมา คือ ฆ่าคนตาย กรรมดังกล่าวของคุณแม่ จึงดึงดูดให้มีลูกชายที่มีกรรมดังกล่าวมาเกิด แล้วเสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด
  • ตายแล้ว ก็มาเกิดเป็นตัวลูกจริงๆ
  • เพราะเคยเกิดเป็นแม่-ลูกกัน และได้อธิษฐานให้มาเกิดเป็นแม่-ลูกกันอีก
  • ที่ไม่ได้มาเกิดเป็นผู้ชาย เพราะมีกรรมกาเมฯเจ้าชู้ ติดตัวมาส่งผล

 

2.ดวงไฟที่คุณแม่ฝันเห็นขณะตั้งท้องลูกนั้น ก็เป็นนิมิตว่า จะได้ลูกที่มาเกิดจากที่สว่าง แต่ก็มีทั้งบุญและบาป
 
  • ตัวลูกมีปานดำที่ไรผม เหมือนที่คุณแม่เอาเขม่าป้ายลูกชายที่ตายไป เพราะกรรมในอดีต ตัวลูกเคยไปกวาดใบไม้ที่ซุ้มทางเข้ากุฏิพระ ในชาตินั้นก็เป็นพระ ได้เอาไฟมาเผาใบไม้ จนมันลามไหม้เป็นเขม่าไปติดที่ซุ้มประตูทางเข้ากุฏิในวัด วิบากกรรมนี้มาส่งผล

3.เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มาเล่นกับตัวลูกตอนอายุ 5 ขวบนั้น คือ ภูติชนิดหนึ่ง หรือกายละเอียดที่ได้อาศัยสิงสู่อยู่ในต้นไม้ ที่มีลักษณะเหมือนเด็ก สูงขนาดเข่า แต่งตัวน่ารัก มาจากต้นไม้ที่อยู่ใกล้บ้าน เธอมาเล่นด้วยเพราะเธอรู้สึกเอ็นดูตัวลูก แต่ตอนหลังก็ถูกพ่อ-แม่ภูติ ห้ามมาเล่นด้วย ด้วยเหตุผลว่า “เราเป็นกายละเอียดอย่าไปยุ่งกับมนุษย์”
  • ที่หายเข้าไปในพุ่มไม้ เพราะเป็นรอยต่อที่จะเข้าไปอยู่ในภพของเขา

4.เมื่อตอนอายุลูก 7ขวบได้สื่อกับปลาช่อนที่มาติดเบ็ด และสื่อกับสัตว์อื่นๆได้นั้น ก็เป็นเรื่องที่ลูกคิดไปเอง ด้วยจิตที่มีเมตตา


5.เมื่อตอนอายุ 8ขวบ ลูกป่วยแทบเอาชีวิตไม่รอดนั้น เกิดจากกรรมปาณาติบาต ที่ฆ่าสัตว์ทำอาหารและเลี้ยงแขกเหรื่อบ่อยๆ มารวมส่งผล
  • ช้างสามหัวที่มาเยี่ยมลูกตอนป่วยนั้น ก็เป็นเรื่องฝันเป็นตุเป็นตะ
  • เมื่อกรรมเบาบาง อาการป่วยก็หายได้เอง

6.ตอนที่ตัวลูกประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์ล้ม แล้วมีเสียงสั่งลูกว่า “ห้ามเอาหัวลงเด็ดขาด” นั้น ก็เกิดจากบุญในตัว บันดาลให้ได้ยินอย่างนั้น
 
  • ภาพนายทหารหนุ่มกับม้าอาชาไนย ที่ลูกเห็นในสมาธินั้น ก็ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ที่เห็นอย่างนั้น เพราะบุญที่เกิดจากการทำสมาธิในอดีต ได้มาฉายให้เห็นเป็นภาพดังกล่าว

7.ตัวลูกทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรและหากทำร่วมกับคนอื่นมักจะถูกโกงและใส่ร้ายทุกครั้ง เพราะลูกทำทานบารมีมาไม่มาก และไม่สม่ำเสมอ กับมีกรรมเคยไปโกงเขามาและใส่ร้ายเขา มารวมส่งผล


8.ตัวลูกและสามี ชาติที่แล้วก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน เป็นแค่เพื่อนร่วมสร้างบารมีในวงบุญเดียวกัน แต่เมื่อหลายกัปที่แล้ว สมัยตัวลูกเป็นผู้หญิงก็เคยเป็นสามี-ภรรยากัน คล้ายชาตินี้
  • เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา สามีเป็นกุลบุตรมีครอบครัว แล้วก็มาบวชตอนอายุมากแล้วกับหมู่คณะ ตอนก่อนบวชก็เป็นกองเสบียง
  • มีผลการปฏิบัติธรรมเข้าถึงดวงใสๆ พอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษได้

9.ตัวลูกและคุณแม่ สร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยพุทธันดรที่ผ่านมาคุณแม่ก็เป็นแม่ของลูก และเป็นกองเสบียง โดยตัวลูกได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ออกบวชตามพระราชาช่วงสั้น เพราะทนคิดถึงน้องหญิงหลายคนไม่ได้ จึงลาสิกขาไป แต่ตอนบวชก็อยากทำวิชชา เบื่อๆ อยากๆ อยู่อย่างนี้ แต่ทนความอยากไม่ไหว มีนิสัยครึ่งๆ กลางๆ อย่างนี้
  • มีผลการปฏิบัติธรรมเข้าถึงดวงใสๆ องค์พระใสๆ เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้ แต่สมาธิในชาตินั้นยังไม่ถึงระดับทำวิชชาได้

10.เพื่อนสนิทของลูก มักจะเกือบเสียชีวิตเพราะน้ำหลายครั้งนั้น เพราะกรรมในอดีต ชอบแกล้งลูกสัตว์ ลูกสุนัข ลูกแมว โดยอยากหัดให้มันว่ายน้ำ จึงจับมันโยนลงไปในน้ำ พอมันจะจมน้ำก็ไปดึงมันขึ้นมา ทำอย่างนี้หลายๆครั้ง วิบากกรรมนี้มาส่งผล
 
  • ในอดีตเพื่อนสนิทคนนี้ ได้เป็นมหาดเล็กในวังของพระราชาองค์ที่ออกบวช ต่อมาภายหลังออกบวชได้เป็นสหธรรมิกกับตัวลูก และมีอัธยาศัยคล้ายกับตัวลูก คือ คิดถึงน้องหญิง จึงลาสิกขาไป
  • แต่ต่อมาก็เบื่อหน่ายในการครองเรือนจึงออกบวชอีก เมื่ออายุมากแล้ว และก็ได้อธิษฐานว่า ชาติต่อไปอย่าได้ครองเรือนเลย ให้ได้มาสร้างบารมีตั้งแต่ยังเยาว์วัย ชาตินี้ก็สมปรารถนาแล้ว
  • แต่ก็อย่าประมาทในการดำเนินชีวิต เพราะเชื้อเก่ายังมีอยู่ อาจตามราวีได้ ดังนั้นก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้ดี
  • นิสัยมหาดเล็กดังกล่าวติดมา จึงได้อธิษฐานว่า ขอให้ได้เป็นอุปัฏฐากใกล้ชิด   
  • ก็ให้อธิษฐานไปเรื่อยๆ และประพฤติพรหมจรรย์ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง ก็คงเป็นไปได้ในอนาคต

11.อดีตชาติ ตัวลูกกับเพื่อนคนนี้ก็เคยเป็นสหธรรมิกกันดังกล่าว
  • พุทธันดรที่ผ่านมา มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงดวงใสๆ พอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้
  • เมื่อเข้ามาอยู่เขตในแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่วัด หรือศูนย์สาขาต่างประเทศ
  • ใครก็ตามที่มีธาตุธรรมทำวิชชา จะอยู่ที่ไหนก็ต้องกลับมาทำวิชชา
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
รักเกินตัดใจรักเกินตัดใจ

กลับตาลปัตรกลับตาลปัตร

ไม่ลืมความฝันไม่ลืมความฝัน



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม