อยู่ตรงนี้ ตรงนี้เอง


[ 18 เม.ย. 2549 ] - [ 18281 ] LINE it!

CASE  STUDY
อยู่ตรงนี้  ตรงนี้เอง
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง

        ลูกคือผู้โชคดีที่สุดคนหนึ่ง ที่ได้มาพบความจริงของชีวิตใต้ร่มเงาแห่งความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในวันนี้จึงอยากยกตัวอย่างเส้นทางแห่งชีวิตของตัวลูกและครอบครัวให้เป็นประโยชน์แก่ทุกคนทั่วโลกครับ

    ในอดีตครอบครัวของลูกมิได้พรั่งพร้อมเหมือนคนอื่นๆ คุณปู่ของลูกเป็นชาวจีนที่อพยพมาจากกวางตุ้ง มาตั้งรกรากที่มาเลเซีย คุณปู่เป็นคนเจ้าชู้มีภรรยาที่อยู่บ้านเดียวกัน 3 คน และลูกอีก 15 คน ส่วนภรรยาลับและลูกที่เกิดจากภรรยาลับ นั้นไม่มีใครทราบจำนวนที่แท้จริงว่ามีจำนวนเท่าใดกันแน่ คุณย่าของลูกเป็นภรรยาคนที่สองของคุณปู่ เมื่อคุณพ่ออายุได้ 7 ขวบ คุณย่าของลูกก็ถูกฆ่าตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ส่วนคุณปู่ก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน เพราะท่านมีบ้านเล็กบ้านน้อยมากเหลือเกิน  ทำให้คุณพ่อมีชีวิตในวัยเด็กที่ลำบากมาก ต้องเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวอดมื้อกินมื้อ คุณพ่อจึงต้องไปเป็นกรรมกรรับจ้างแบกหามเพื่อหาเงินแลกกับอาหาร และค่าเล่าเรียน จนกระทั่งอายุได้ 20 ปี ก็ได้รู้จักและแต่งงานกับคุณแม่  และมีลูกด้วยกัน 3 คน  ลูกเป็นลูกคนกลางครับ

    คุณแม่ประกอบอาชีพรับจ้างเลี้ยงเด็ก น่าแปลก ว่าเด็กที่คุณแม่รับเลี้ยง  พ่อแม่จะมาจ้างให้เลี้ยงระยะยาวคือตั้งแต่เกิดจนโตประมาณ 2 ขวบ  พอจะพูดได้เดินได้  ซึ่งคุณแม่ก็รักเหมือนลูกตัวเอง คุณแม่จะทุกข์ทุกครั้งเมื่อพ่อแม่เด็กมารับเด็กกลับไป  เพราะความผูกพันที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนโต มาถึงตอนนี้เมื่อต้องแยกจากไปคุณแม่ได้แต่ทำใจและได้แต่บอกว่า...ให้ช่วยดูแลตัวเองให้ดี...แล้วในวันหนึ่งเราคงได้กลับมาพบกันในช่วงสี่ปีที่ผ่านมานี้ คุณแม่จะมีอาการปวด บวม แดง ไปทั้งตัว แต่ละวันจะมีอาการรุนแรงไม่เท่ากัน บางวันก็ยกแขนขาไม่ได้ โดยที่คุณหมอก็ไม่ทราบสาเหตุของอาการป่วย

ปัจจุบันทั้งคุณพ่อและคุณแม่ได้หันจากผู้ไม่มีศาสนา มานับถือพุทธศาสนาแบบมหายาน ตามการชักนำของลูก ท่านทั้งสองได้ศรัทธาในหมู่คณะวัดฝอกวงซัน ของท่านซิงหวินต้าซือ ซึ่งชาวมหายานส่วนใหญ่จะตั้งความปรารถนาให้ไปเกิด ณ แดนสุขาวดีของพระอมิตภพุทธเจ้าครับ

    คุณอาของลูก มีชีวิตในวัยเยาว์ที่ลำบากเหมือนคุณพ่อ เพราะคุณย่าเสียชีวิตและคุณปู่ก็ไม่ได้มาคอยดูแล แต่เมื่อโตขึ้น คุณอาก็เริ่มมีฐานะดีขึ้น จากการถูกหวยบ่อยๆ แต่คุณอา จะใช้เวลาหลังเลิกงาน มานั่งดื่มเหล้าจนเมา แล้วก็จะกลับบ้านไปนอน ตื่นเช้ามาก็ไปทำงาน เลิกงานมาก็มาดื่มเหล้า เป็นอย่างนี้อยู่ทุกๆ วัน จนในที่สุดคุณอาก็ได้มาเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุรถชนขณะเดินทางกลับบ้าน

หลังจากที่คุณอาเสียชีวิตแล้ว ลูกสาวคนโตของคุณอาก็ฝันว่า “คุณอาได้ลงจากสรรค์มาเยี่ยม และได้มาบอกให้หมู่ญาติถือศีลกินเจ เพื่อที่จะได้ไปอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตด้วยกัน” ซึ่งภรรยาและลูก ๆ ของคุณอาก็เชื่อว่า คุณอาได้ไปอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตกับพระศรีอาริยเมตตรัยจริงๆ   ทั้งนี้เพราะครอบครัวของคุณอาได้นับถือลัทธิอีก้วนต้าว ซึ่งลัทธินี้มีความเชื่อว่า พระศรีอริยเมตตรัยเป็นพระผู้เป็นเจ้าที่สูงสุด และจะส่งให้ศาสดาองค์ต่างๆของทุกศาสนา ลงมาในโลกเพื่อโปรดสอนสรรพสัตว์  ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระเยซู หรือพระนบีมูฮัมมัด รวมถึงผู้ก่อตั้งลัทธิ นิกาย และนักปรัชญาต่างๆ เช่นขงจื๊อ เล่าจื๊อ  ซึ่งในที่สุดแล้วทุกๆ คนไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร   ก็จะได้กลับไปอยู่กับพระศรีอาริยเมตตรัยยังสวรรค์ชั้นดุสิตด้วยกันทั้งสิ้น  และถือว่าเป็นที่สิ้นสุดจากการเวียนว่ายตายเกิด

    ตัวลูกเองแม้จะเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา แต่ในใจลึก ๆ ตั้งแต่จำความได้ ลูกก็มีความรู้สึกอยากที่จะรู้จักกับพระพุทธศาสนา และการนั่งสมาธิมาก ทว่าในประเทศมุสลิมเช่น มาเลเซีย  การจะหาหนังสือทางพุทธศาสนามาอ่าน เป็นเรื่องยากนัก

จนกระทั่งลูกได้เรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ก็ได้มีโอกาสรู้จักวัดสาขาของมูลนิธิฉือจี้   มูลนิธินี้ก่อตั้งขึ้นโดยท่านภิกษุณีเจิ้งเอี๋ยน ชาวไต้หวัน ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 5 ล้านคน กระจายใน 38 สาขาทั่วโลก มีมโนปณิธานที่จะช่วยเหลือทุกข์ของมนุษย์ให้หมดไปจากโลก โดยเข้าไปช่วยเหลือในเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก เช่น แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ หรือสงคราม ทั้งยังสนับสนุนงานของประเทศต่าง ๆ ในด้านการศึกษา การแพทย์ ฯลฯ  ลูกประทับใจในมโนปนิธานนี้ จึงได้รวบรวมเพื่อนนักศึกษามาเชื่อมสายบุญกัน ด้วยการก่อตั้งชมรมพุทธศาสตร์ แห่งองค์กรฉือจี้ขึ้นมาในมหาวิทยาลัย  วันหนึ่งขณะที่ลูกกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 ลูกก็ได้อ่านเจอข่าวงานสลายร่างคุณยายอาจารย์ จากวารสารเล่มหนึ่งในมาเลเซีย เมื่ออ่านแล้ว ลูกสะดุดใจตรงคำว่า “หนึ่งไม่มีสอง” และ “วิชชาธรรมกาย”  และแปลกใจมาก เมื่อทราบว่าจะมีพระสงฆ์จากทุกวัดทั่วประเทศมาร่วมงานด้วย ลูกจึงคิดไว้ว่า สักวันหนึ่ง จะต้องทราบประวัติของคุณยาย และรู้เรื่องราวเกี่ยวกับวิชชาธรรมกายให้ได้
เมื่อลูกเรียนจบระดับอนุปริญญาจากมาเลเซีย ลูกจึงตัดสินใจไปเรียนต่อที่ไต้หวัน เพื่อจะได้มีโอกาสไปกราบท่านเจิ้งเอี๋ยนผู้ก่อตั้งมูลนิธิสือจี้ สุดท้ายความปรารถนาของลูกก็สมหวัง ปัจจุบันลูกได้มาเป็นประธานชมรมพุทธแห่งองค์กรฉือจี้ระดับภาคใต้ เป็นกำลังสำคัญขององค์กรในการเผยแผ่พุทธศาสนาในหมู่เยาวชน และออกช่วยเหลือสังคมในไต้หวัน

ถึงแม้ว่าลูกจะมีความสุขกับการได้ออกช่วยเหลือสังคมเพียงใด แต่ลึก ๆ ลูกกลับรู้สึกว่า ใจของลูกยังว่างอยู่ ยังต้องตามหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อมาเติมเต็มใจของลูก และคิดว่าการนั่งสมาธิเป็นคำตอบสุดท้าย จึงออกแสวงหาและฝึกปฏิบัติธรรมแบบต่าง ๆ  แต่จนแล้วจนรอดลูกก็ยังไม่พอใจในวิธีการเหล่านั้นเลย

อยู่มาวันหนึ่ง...ขณะที่ลูกได้เรียนวิชาจริยธรรมและวรรณกรรมจีน  อาจารย์ก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้ครูได้เรียนสมาธิกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง ซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากเมืองไทย” แล้วท่านก็สอนต่อไป โดยไม่กล่าวถึงเรื่องนี้อีก แต่ในใจของลูกตอนนั้นเกิดความรู้สึกดีใจมาก เหมือนกำลังจะได้พบสิ่งที่ตามหาอยู่ทั้งชีวิต  เมื่อหมดคาบเรียน ลูกจึงรีบไปสืบหาพระอาจารย์จนพบ ลูกดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อพระอาจารย์อนุญาตให้เรียนสมาธิกับท่านได้

    หลังจากนั้น ลูกก็ได้เรียนสมาธิกับท่านเรื่อยมา และได้มาเป็นนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาผ่านอินเตอร์เนต ลูกประทับใจในตัวของคุณครูไม่ใหญ่มากเลยครับ  คุณครูไม่ใหญ่มีวิธีการแปลกใหม่ในการนำเสนอเรื่องราวกฎแห่งกรรม มาสอนพวกเรา ทั้งเพลง ภาพ และพูด ทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน และจำเรื่องราวต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้ง ๆที่ลูกฟังภาษาไทยยังไม่ได้ แต่กลับมีความรู้สึกว่า ลีลาและน้ำเสียงของคุณครูไม่ใหญ่ ดึงดูดลูกให้มาเข้าโรงเรียนอนุบาลทุกวัน ลูกรู้สึกว่านี่แหล่ะคือ..สิ่งที่ช่าย..ที่ใช่..ที่ลูกแสวงหา

จนกระทั่งเมื่อลูกปิดเทอม พระอาจารย์ก็ได้ชวนลูกมาเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์ ฯ ไทเป พระอาจารย์และพี่ ๆ ก็จะเล่าและเปิดโอกาสให้ลูกได้ซักถามเรื่องราวประวัติของมหาปูชนียาจารย์ การสร้างบารมีและมโนปนิธานของหมู่คณะวัดพระธรรมกาย  ทุกครั้งที่ฟัง  ลูกจะรู้สึกปีติมาก บ่อยครั้งที่เราคุยกันเพลิน จนมารู้ตัวอีกทีก็เป็นรุ่งเช้าของอีกวันหนึ่งแล้ว

และยิ่งได้ลงมือปฏิบัติธรรม ลูกก็พบกับแสงสว่างและความสุขภายในด้วยตัวของลูกเอง ลูกรู้สึกซาบซึ้งในอานุภาพความยิ่งใหญ่ของวิชชาธรรมกาย และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า วิธีการเดียวที่จะช่วยเหลือทุกข์ของมนุษย์ได้ คือวิชชาธรรมกายเท่านั้น  ลูกจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า  “ขอให้ลูกได้สร้างบารมีตามติดมหาปูชนียาจารย์ทั้งสามท่านไปทุกภพทุกชาติ”  เพราะลูกรู้สึกว่าได้มาเจอกับสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ลูกจะปล่อยมือไปได้อย่างไร และลูกตั้งใจที่จะนำสิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกเจอนี้ไปบอกต่อให้กับพี่น้องชาวโลกผู้ยังรอคอยอยู่   ลูกเชื่อว่าลูกมีบุญและมีความสามารถทางด้านการชักชวนหมู่คณะ ลูกตั้งใจว่า กลับไปมหาวิทยาลัยครั้งนี้จะไปเปิดชมรมพุทธแบบวัดพระธรรมกาย ส่วนชมรมพุทธแห่งองค์กรฉือจี้ซึ่งลูกเป็นประธานอยู่ ก็ได้มอบตำแหน่งและเก้าอี้ให้แก่รองประธานชมรมแล้วครับ เพราะลูกตั้งใจจะมาช่วยงานที่ศูนย์ ฯไทเปทุกสุดสัปดาห์  แม้จะต้องนั่งรถจากมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ภาคใต้  มายังเมืองไทเปที่อยู่ภาคเหนือของประเทศก็ตาม

เพราะความประทับใจในมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ของหมู่คณะวัดพระธรรมกายบวกกับความสงสัยในใจ  ลูกจึงอดใจไม่ไหวที่จะ เขียน case  study มากราบขอความเมตตาจากคุณครูไม่ใหญ่ได้ตอบปัญหาต่าง ๆ ในใจของลูกดังต่อไปนี้ครับ

คำถาม

1.    บุพกรรมใดคุณพ่อจึงประสบกับความยากลำบากตั้งแต่เล็กๆ ,ภายหลังท่านเริ่มคบคนพาล และเล่นการพนัน  ทำอย่างไรคุณพ่อจึงจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทั้งปวงได้ครับ 

2.    อาชีพรับเลี้ยงเด็กของคุณแม่จะได้บุญหรือไม่, เด็กเหล่านั้นมีบุญร่วมกันกับคุณแม่ใช่หรือเปล่าครับ และอาการป่วยของคุณแม่ ที่มีอาการปวด บวม แดง ไปทั้งตัว เกิดจากวิบากกรรมอะไร จะมีโอกาสจะหายหรือไม่และแก้ไขอย่างไรครับ

3.    คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย น้องชายของลูกได้สร้างบารมีมากับหมู่คณะหรือไม่ อย่างไรครับ

4.    คุณอาได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตกับพระศรีอาริยเมตตรัย ดังความฝันของลูกสาวคุณอาจริงหรือไม่ครับ ถ้าไม่จริงคุณอามีปรโลกเป็นอย่างไร  ต้องทำบุญอย่างไรจึงจะช่วยคุณอาได้

5.    ผู้นับถือลัทธิอีก้วนต้าว กับชาวพุทธที่มีความปรารถนา ตั้งจิตอธิษฐานเพื่อไปอยู่กับพระศรีอาริยเมตตรัย เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร , ถ้าเขามีบุญมากพอ ความปรารถนาที่จะไปอยู่กับพระองค์จะสำเร็จหรือไม่  อย่างไรครับ

6.    แดนสุขาวดีตามความเชื่อของชาวมหายานมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริง อยู่ที่ใด , ชาวพุทธผู้ตั้งความปรารถนาจะไปยังแดนสุขาวดีเหล่านั้นเมื่อละโลกแล้วจะไปได้จริงหรือไม่  ถ้าไม่มีจริงท่านเหล่านั้น จะไปอยู่กันที่ใด 

7.    ท่านภิกษุณีเจิ้งเอี๋ยน และหมู่คณะเป็นใคร , ท่านเหล่านั้น เป็นพระโพธิสัตว์ ที่ได้นำหมู่คณะของท่านมาสร้างบารมีหรือไม่ ครับ  และในปัจจุบันนี้ มีพระโพธิสัตว์หมู่คณะอื่น ๆ ลงมาสร้างบารมีบ้างหรือไม่ครับ 

8.    ทำไมเพียงแค่ครั้งแรกที่ลูกได้เห็นรูปถ่ายท่านภิกษุณีเจิ้งเอี๋ยน ลูกจึงเกิดความประทับใจ และตั้งใจที่จะช่วยงานหมู่คณะของท่านอย่างสุดชีวิต, ลูกได้ร่วมสร้างบุญกุศลมาร่วมกับท่านหรือไม่อย่างไร แต่เหตุใดที่ลูกจึงไม่มีความคิดที่จะอธิษฐานจิตสร้างบารมีไปกับหมู่คณะของฉือจี้ครับ

9.    ลูกเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะหรือไม่ ถ้าเคย ลูกได้ทำหน้าที่ใดในกองทัพธรรม, ทำไมลูกต้องเกิดเป็นชาวต่างชาติ และได้เจอหมู่คณะหลังจากเจอหมู่คณะของฉือจี้ครับ

10.    ลูกมีความสัมพันธ์ในอดีตชาติมาอย่างไรกับพระอาจารย์และพี่ผู้ประสานงานที่คอยนำธรรมะและแก้ไขปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ ให้ลูก    ท่านทั้งสอง ในอดีตชาติมีหน้าที่ใดในกองทัพธรรม มีผลการปฏิบัติธรรมเช่นไร จะได้ลงมาสร้างบารมีในรอบสองหรือไม่ อย่างไรครับ

11.    ความปรารถนาของลูกที่จะช่วยคุณครูไม่ใหญ่และหมู่คณะ เผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลกจะสำเร็จหรือไม่  และลูกควรปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดในส่วนไหน เพื่อที่จะให้ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างตลอดรอดฝั่งครับ
12.    ลูกและเจ้าหน้าที่ที่รับบุญอยู่ที่ศูนย์สาขาต่าง ๆ ทั่วโลก  จะได้รับผลบุญ เหมือนกันกับเจ้าหน้าที่ที่วัดหรือไม่ อย่างไร และผู้รับบุญอยู่ที่ศูนย์สาขา จะได้บุญพิเศษเฉพาะศูนย์สาขาหรือไม่ อย่างไรครับ

กราบขอบพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เป็นอย่างสูงครับ

 
ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที 
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    คุณพ่อประสพความลำบากตั้งแต่ยังเล็ก   เพราะ.....ในอดีตพ่อทำทานมาน้อย     อีกทั้งได้คบคนพาล   จึงมี “เชื้อ” พาลติดมาในชาตินี้   ที่ต่อมาทำให้ท่านเริ่มคบคนพาลและเล่นการพนันจ่ะ !
 

  • ในตอนนี้ลูกทำได้แค่ให้ระลึกนึกถึงบุญที่ทำผ่านมาทุกบุญแล้วอธิษฐานจิตให้บุญนี้ไปตัดรอนวิบากกรรมคบคนพาลให้เบาบางลง   จนใจท่านเปิด  ,  ต่อจากนั้นก็ค่อย ๆ ชักชวนให้ท่านมาอยู่ในหมู่ของกัลยาณมิตรในสิ่งแวดล้อมที่ดี  ,  แล้วก็แนะนำให้ท่านทำสมาธิเช่นเดียวกับตัวลูก     เมื่อใจท่านเข้าถึงสมาธิท่านก็จะเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้น   และมีกำลังใจหักดิบเลิกสิ่งเหล่านั้นจ่ะ !
 
2.    อาชีพ “รับเลี้ยงเด็ก” ของคุณแม่   ถ้าเลี้ยงเพียงแต่เป็นอาชีพก็ไม่ได้เป็นบุญ  ,  แต่ถ้าเลี้ยงด้วยจิตที่ประกอบไปด้วยความเมตตา  ,  รักเด็ก  ,  ดูแลเด็กอย่างดีเหมือนลูกตัวเอง   ก็จะทำให้ได้บุญ  ,  ด้วยบุญนี้ก็จะส่งผลให้ภพชาติต่อไปก็จะมีคนเลี้ยงดูด้วยจิตเมตตาเหมือนกัน     เด็กที่ท่านรับเลี้ยงดูนั้น   ก็เป็นประโยชน์เกื้อกูลกันเป็นหลักในปัจจุบัน  ,  มีบางคนที่เคยเกื้อกูลกันมาในอดีตบ้างจ่ะ !
 
 
 
  • อาการป่วยของคุณแม่   ที่ปวด , บวม , แดงไปทั้งตัว   เพราะ.....ในอดีตท่านได้นำ “สัตว์เป็น ๆ” มาปิ้ง , ต้ม , ย่าง  เป็นอาหารเป็นประจำ   รวมกับ “วจีกรรม” ที่ชอบพูดให้คนเจ็บแสบมารวมส่งผลจ่ะ !    

  • จะแก้ไข   ก็ต้องให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน  , พูดแต่ปิยะวาจา  ,  และหมั่นสวดมนต์  ,  นั่งสมาธิ  ,  รักษาศีลเจริญภาวนาให้มาก ๆ    หนักก็จะเป็นเบา  ,  เบาก็จะหายจ่ะ !

 
3.    คุณพ่อ  ,  คุณแม่  ,  พี่ชายและน้องชาย   ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาบ้าง   ไม่สม่ำเสมอ     จึงทำให้หลุดออกจากหมู่คณะไป  ,  บางชาติก็เจอกัน  ,  บางชาติก็ไม่เจอ  ,  เมื่อเจอกันก็จะทำหน้าที่ “กองเสบียง” จ่ะ !


4.    “คุณอา” ตายแล้ว  
  • ก็ไปอยู่ “มหานรกขุม  5”   ด้วยกรรมสุราที่ดื่มเป็นอาจิณ    กำลังโดนนายนิรยาบาล “กรอกน้ำกรดสีดำร้อนแรง” อยู่   ด้วยความทุกข์ทรมานมาก  ,  จะต้องอยู่ในมหานรกนี้อีกยาวนาน  ,  ไม่อาจรับบุญได้     แต่ก็ให้ทำบุญอุทิศไปให้เรื่อย ๆ บุญก็จะได้ไปคอยอยู่ที่ “ยมโลก”     เมื่อท่านพ้นจากมหานรกมาอยู่ยมโลกแล้ว   ก็จะได้รับจ่ะ !    
 
  • ดังนั้นท่านจึงไม่ได้ไปสวรรค์ดังที่เข้าใจ   และที่ฝันถึงท่านก็เป็นด้วย “จิตนิวรณ์” ที่มีความระลึกนึกถึงท่านจ่ะ !    
 
  • จะไปช่วยท่านได้   ก็ต้องเข้าถึงธรรมกายแบบคุณยายอาจารย์จ่ะ !
 
5.    ผู้นับถือลัทธิ “อีกวนต้าว” กับชาวพุทธที่มีความปรารถนาตั้งจิตอธิษฐานเพื่อไปอยู่กับพระศรีอารยเมตไตรยนั้น     ต้องทำความเข้าใจว่า  
พระศรีอารยเมตไตรยในความหมายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันที่ดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้วนั้น  หมายถึง   พระบรมโพธิสัตว์ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่อไปในพุทธันดรข้างหน้า  ,  และขณะนี้ท่านก็อยู่ที่สวรรค์ชั้น “ดุสิต” เขต “นิยตโพธิสัตว์” จ่ะ !    
  • ท่านไม่ใช่เป็นพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดที่จะส่งศาสดาใด ๆ มาโปรดมนุษย์ในโลกตามความเชื่อของ “เทวนิยม”  ,  และสวรรค์ชั้นดุสิตก็ไม่ใช่ที่สุดของการเวียนว่ายตายเกิดจ่ะ !     
 
  • แต่ผู้ที่ตั้งความปรารถนาจะไปอยู่กับท่านบนชั้นดุสิตหรือไปเกิดในยุคท่านในพุทธันดรหน้านั้น     จะต้องสร้างบารมีอย่างกลั่นกล้า  ,  ทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา   เป็นต้น     และต้องมีความเห็นให้ถูกต้อง   แล้วก็ต้องอธิษฐานจิตให้มั่นนั่นแหละ   จึงจะไปเจอท่านได้จ่ะ !
 
6.    “แดนสุขาวดี” ตามความเชื่อของชาวมหายานนั้น   ก็เป็นความเชื่อที่ยังไม่สมบูรณ์   แม้จะปรารภเหตุนี้เพื่อทำความดีก็ตาม , เพราะตามคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า   ก็ไม่เคยมี    เพิ่งจะมีมาในยุคหลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว  ,  ถ้าจะให้หายสงสัยก็จะต้องลงมือทำสมาธิให้ใจหยุดนิ่งจนเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน     แล้วก็จะเรียนรู้ได้ด้วยตัวของตัวเองว่ามีจริงหรือไม่จริงจ่ะ !

 
 
 
7.    ท่านภิกษุณีเจิ้งเอี๋ยนและหมู่คณะ   ก็เป็นนักสร้างบารมีคณะหนึ่งที่มีอัธยาศัยเป็น “ผู้ให้”     เป็นผู้ที่มีจิตใจงดงามอยากจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จ่ะ !    
 
 
  • ส่วนความหมายของคำว่า “พระโพธิสัตว์” ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสไว้  ก็คือ  ผู้ที่ตั้งความปรารถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตภายภาคเบื้องหน้า     และเมื่อตั้งความปรารถนาแล้วก็จะบำเพ็ญบารมี 30  ทัศน์   ด้วยทรัพย์  ,  อวัยวะ  ,  ชีวิต   และก็จะต้องผ่านการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ อีกหลายพระองค์     แล้วผู้ที่จะรับพุทธพยากรณ์จะต้องเป็น “นิยตโพธิสัตว์” และเป็นผู้ชายจ่ะ !
 
8.    เพียงครั้งแรกที่ลูกเห็นรูปถ่ายภิกษุณีเจิ้งเอี๋ยน   แล้วประทับใจจนเกิดความรู้สึกอยากจะช่วยหมู่คณะท่านจนสุดชีวิต , เพราะลูกมีอัธยาศัยเป็นนักสร้างบารมีติดข้ามชาติมา   เมื่อมาเจอผู้ที่ทุ่มเทชีวิตจิตใจเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ  ก็ถูกใจ  จึงเกิดความคิดที่จะอุทิศตนจ่ะ !     แต่เนื่องจากในอดีตไม่ค่อยได้สร้างบุญกับท่านมา     จึงไม่ได้คิดที่จะติดตามหมู่คณะท่านไป  ,  ดังนั้นจึงเป็นเพียงความคิดที่ดีในปัจจุบันที่เห็นคนดีตั้งใจทำความดีเพื่อมวลมนุษยชาติจ่ะ !    
  • เป็นเพราะอัธยาศัยตรงกัน   และเป็นที่พักกลางทางก่อนเจอหมู่คณะจ่ะ !
 
 
 
9.    ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา    โดยเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมาได้เป็น “กุลบุตร” ในตระกูลร่ำรวยชั้นสูง     ได้มาฟังธรรม   จึงเกิดความเบื่อหน่ายในการครองเรือน ,  และได้ออกบวชกับหมู่คณะ, เมื่อบวชแล้วก็ทำหน้าที่ “เผยแผ่” จนตลอดชีวิต  ,  มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี    เข้าถึงพระธรรมกาย    แล้วก็ประคองตัวกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้  ,  แต่ว่าในช่วงแรกของการบวช   เนื่องจากมาจากตระกูลสูง   จึงมีทิฐิมานะมาก  ,  จึงทำให้บางครั้งเมื่อได้รับการตักเตือนจากพระอาจารย์และเพื่อนสหธรรมิก   จึงมักไม่ค่อยเชื่อฟัง     แต่ภายหลังก็กลับตัวได้     ด้วยกรรมนี้จึงทำให้พลัดไปเกิดในครอบครัวที่ลำบาก     ไม่ได้เกิดในตระกูลสูงร่ำรวยเหมือนเก่าจ่ะ !     ดังนั้นชาตินี้ก็ให้แก้ไขด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตัว   ว่าง่าย   อย่าได้มีทิฐิมานะเหมือนชาติที่ผ่านมาในช่วงแรกของการบวชดังกล่าวจ่ะ ! ส่วนการเป็นคนต่างชาติ   เพราะตั้งความปรารถนาเอาไว้ว่า   ขอให้ได้นำธรรมะไปเผยแผ่ทั่วโลกจ่ะ !

 
 
 
 
 
10.    ลูกกับพระอาจารย์และพี่ผู้ประสานงานที่คอยนำธรรมะและแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องใจต่าง ๆ ให้ลูกนั้น   ท่านทั้งสองได้เป็นพระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงที่คอยเป็นกัลยาณมิตรให้ลูก   เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมาจ่ะ !    
 
  • ท่านทั้งสองมีหน้าที่ “เผยแผ่” และบวชจนตลอดชีวิต     ได้เข้าถึงพระธรรมกายด้วยกันทั้งคู่     ประคองตัวกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้   และได้ลงมาสร้างบารมีรอบ  2  ทั้งสองท่านจ่ะ !
 
11.    ความปรารถนาของลูก   ที่จะช่วยงานเผยแผ่ธรรมะไปทั่วโลก   ก็จะสมปรารถนา     แต่จะต้องเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตัว  ,  ว่าง่ายและให้ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท   หมั่นสั่งสมบุญทุกบุญ   ทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา   เป็นต้นให้มาก ๆ     แล้วตั้งใจมั่นที่จะทำหน้าที่นี้ให้สมบูรณ์จ่ะ !

 
 
 
12.    ลูกและเจ้าหน้าที่ที่รับบุญอยู่ที่ศูนย์สาขาต่าง ๆ ทั่วโลกหรือจะเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่วัดก็ตาม   ถ้าหากตั้งใจสร้างบุญอย่างเต็มที่   ก็จะได้รับผลบุญเหมือนกัน     แต่ถ้าหากไม่ตั้งใจสร้างบุญให้เต็มที่   อยู่ที่ไหนก็ไม่ได้บุญเต็มที่จ่ะ !
 

  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม