แม้มืดตื้อมืดมิด ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม


[ 4 มิ.ย. 2551 ] - [ 18264 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตรเรียม แสงขาว (ประเทศไทย)
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูกชื่อ เรียม แสงขาว อายุ 50ปี ลูกมีอาชีพเป็นครูสอนนักเรียนประถม อยู่โรงเรียนบ้านค่าย จังหวัดอำนาจเจริญ ครอบครัวของลูกมีพี่น้องทั้งหมด 9คน มีแม่คนเดียวแต่มีพ่อ 2คน เพราะเมื่อสามีคนแรกของคุณแม่เสียชีวิต คุณแม่ก็แต่งงานใหม่กับคุณพ่อของลูก แต่หลังจากที่ตัวลูกเกิดได้เพียง 1ปี คุณแม่ก็แยกทางกับคุณพ่อ พอลูกอายุได้ 2ขวบคุณพ่อก็เสียชีวิต ลูกจึงอยู่กับคุณแม่โดยมีพี่สาวคนโต และพี่เขยคนโต ช่วยเลี้ยงดูและส่งให้เรียนจนกระทั่งจบ พี่สาวคนโตกับพี่เขยแต่งงานแล้วไม่มีลูก พวกเขาจึงรักลูกมาก และรับเลี้ยงตัวลูกให้เป็นลูกของพวกเขา
 
    เมื่อโตขึ้น ลูกก็ได้แต่งงานในปี พ.ศ.2527 พอแต่งงานปุ๊บ ความทุกข์ก็รุมเร้าเข้ามาตลอด ขณะลูกที่กำลังคลอดลูก พ่อบ้านมีใจไปอยู่กับหญิงอื่น นอกจากเรื่องพ่อบ้านนอกใจแล้ว ต่อมาพี่สาวคนโต และพี่เขยคนโตซึ่งทั้งสองเปรียบเสมือนพ่อแม่อีกคนหนึ่งของลูกก็มาเสียชีวิตลง ทำให้มีปัญหาเรื่องมรดก
 
    ตอนนั้น จิตของลูกตกมาก หาความสงบไม่ได้เลย ปัญหามากมายต่างก็รุมเร้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายแบบมาราธอน ลูกจึงคิดหาที่พึ่ง โดยไปหาร่างทรงคนหนึ่ง ร่างทรงคนนี้ได้ชวนให้ลูกไปหาพระรูปหนึ่ง พระท่านพูดสั้นๆว่า “ให้นั่งสมาธิ ให้นั่งทุกวัน” แล้วสอนวิธีการว่า ให้ท่องพุทธเข้า โธออก ด้วยปัญหาที่รุมเร้ามากเหลือเกิน ผลการปฏิบัติธรรมจึงยังไม่มีผลคืบหน้าแต่อย่างใด
 
    จนกระทั่ง พี่สาวของลูกได้ชวนลูกมาวัดพระธรรมกายปี พ.ศ.2547 ตรงกับงานหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ องค์ที่2 และก็ได้ไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์ ในวันนั้น พอขึ้นพนาวัฒน์ ลูกก็ได้อธิษฐานขอบารมีพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณยายอาจารย์ ขอให้ท่านเอาบุญคุ้มครองลูก และให้ลูกปฏิบัติธรรมได้
 
    ลูกวางใจเฉยๆ ไม่คิดอะไรเลย ก็เห็นแสงสว่าง บางทีก็เห็นเป็นภาพ บางรอบนั่งปุ๊บเห็นปั๊บ แต่ถ้ารอบไหนตั้งใจก็จะไม่เห็น พอทำเฉยๆก็จะเห็น แต่ประสบการณ์ที่เห็นทุกครั้ง ก็ล้วนเป็นการเห็นนอกตัวเหมือนเห็นอยู่ข้างหน้า บางทีเข้าห้องน้ำไม่ได้กำหนดอะไรก็มีแสงสว่างวาบเข้ามา และสว่างมากกว่าอยู่ในรอบเสียอีก บางรอบเห็นพระธรรมกายเต็มไปหมดสุดขอบฟ้ารอบทิศทาง เห็นเป็นสีขาวนวลๆบ้าง เป็นสีเหลืองทองบ้าง บางวันก็เห็นดวงผุด เห็นองค์พระผุด
 
    ต่อมา ได้มีการจัดปฏิบัติธรรมที่บ้านสวนอุบลฯกอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ลูกได้วิธีการนำใจวางที่กลางท้องได้สำเร็จก็ที่นี่แหละค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกทำไม่เป็นเลย พยายามอย่างไรก็ไม่สำเร็จ บีบใจบังคับใจให้มันลงมันก็ไม่ลง พระอาจารย์สอนว่า “ให้นึกอะไรก็ได้ขอให้ใจเราสบาย พอใจสบายแล้วก็ค่อยๆน้อมลงกลางท้อง ถ้าน้อมไม่ได้ก็ทำใจให้สบายไม่ต้องบังคับ ให้เน้นความสบายไว้ก่อน ไม่ต้องอยากเห็นอะไร การเห็นมาทีหลัง”
 
    พอดีกับที่ลูกได้ดู DMC พระเดชพระคุณหลวงพ่อแนะนำว่า “ให้เราเล่นตัว ทิ้งสิ่งที่เห็นนอกตัวทั้งหมด ยอมดูความมืดดีกว่า” ลูกจึงทำตาม คราวนี้นั่งมืดเป็นปีๆเลยค่ะ เวลานั่งก็จะได้แต่ความสบาย เห็นแสงสว่างบ้าง แต่ก็นั่งทุกวันไม่เคยเว้น พอมาได้หลักการวางใจจากพระอาจารย์ที่บ้านสวนอุบลฯ ก็เลยเน้นความสบาย พอใจสบายก็ค่อยๆน้อมลงไปในตัว
 
    แรกๆลงได้แค่คอบ้าง หน้าอกบ้างแบบฝืดๆเคืองๆอยู่ในความมืด ฝึกอยู่ 5เดือน ก็ลงกลางท้องได้แบบไม่ต้องฝืน บางที 10-20นาทีก็ดึงใจลงได้แล้ว แต่ก็ยังมืด ได้แต่ความสบายหรือเห็นแสงสว่างบ้างแวบๆ เห็นแล้วก็หาย บางครั้งเห็นแสงสว่างนอกตัวแต่ไม่ดู ก็เอาใจมาวางที่กลางท้องเหมือนเดิม
 
    จนกระทั่ง วันที่ 11-13 เมษายน พ.ศ.2551 ลูกได้ไปปฏิบัติธรรมที่บ้านสวนอุบลฯอีก พอลูกทำใจเฉยๆ ทำความสำคัญที่ใจ ไม่ใช่ภาพข้างนอก ก็เห็นแสงสว่าง บางรอบก็สว่างมากขึ้น นิ่งและนุ่มมากขึ้น ตัวหาย เบาสบาย มีความสุขมากค่ะ แล้วก็ไม่ปวดไม่เมื่อย นั่งได้นานขึ้น ซึ่งต่างจากตอนที่เห็นนอกตัว จะนั่งได้ไม่นาน 10-20นาที ใจก็จะถอนออกมา พอรู้สึกตัวก็ปวดเมื่อย
 
    คราวนี้ ลูกรู้จักวิธีการวางใจให้นิ่ง นุ่ม เบา สบาย เมื่อวางใจเป็นแล้ว ใจก็นิ่งไปเรื่อยๆ ก็เห็นตัวเองเป็นแก้วใสอยู่กลางท้อง (เป็นรูป Top-View) ลูกก็ดูไปเรื่อยๆ จากนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นแล้วก็หายไป กายใหม่ก็ผุดขึ้นมาอีก มาถึงตรงนี้ลูกเข้าใจแล้วว่า การเห็นกลางท้องมันเป็นอย่างนี้เอง และสามารถแยกแยะได้ว่า การเห็นกลางตัวกับเห็นนอกตัวนั้นช่างแตกต่างกันอย่างมากมายราวฟ้ากับบาดาล และความสุขก็เทียบกันไม่ได้เลยค่ะ
 
 
    ปัจจุบันนี้ ลูกนั่งสมาธิได้นิ่งมาก รวมใจได้เร็วโดยไม่ต้องใช้เวลานาน ประมาณ 5-10นาทีก็ตะล่อมใจได้แล้ว เวลานั่งก็จะเห็นแสงสว่าง มีความ นุ่ม เบาสบาย ตัวหาย นั่งได้นาน 1-2ชั่วโมง มีความสุขมากค่ะ หลายคนบอกว่า หลังจากที่ลูกได้ประสบการณ์ภายในครั้งนี้แล้ว ต่างก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของลูก แตกต่างจากเดิมอย่างมากมาย สมาธิทำให้ริ้วรอยดูลบเลือน ใบหน้าของลูกผุดผาด ผุดผ่อง ผ่องใสจนบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ จะไม่ให้ผุดผ่องได้ยังไงคะ ก็ตอนนี้ลูกตกทุกข์ได้ยาก แต่ตกสุขได้ง่าย เพราะข้างนอกสดใส ข้างในสดชื่น
 
    แม้นอกรอบจะไม่เห็นอะไร แต่ใจก็ยังคงนิ่ง นุ่ม เบาสบาย ไม่โกรธใครเลย ใครมากระทบก็เฉยๆ ไม่มีอารมณ์ไปเอาเรื่องเอาราวกับใคร แม้มีหนี้สินก็ไม่กังวล ความทุกข์ใดๆไม่ได้แอ้มแล้วค่ะ ต่อไปนี้ มันไม่เศร้า เพราะเราเลือกได้ ดังนั้นชีวิตของลูกจึงเหลือแต่ความสุขใจ มีบุญเป็นที่พึ่ง ทำบุญตลอด อนาคตไม่คิดถึง ไม่กังวลกับอนาคต ลูกเลยไม่มีอะไรต้องกังวล ลูกนึกถึงแต่บุญอย่างเดียว อยากได้บุญ อยากนั่งธรรมะ ชอบมากเป็นชีวิตจิตใจเลยค่ะ
 
    สุดท้ายนี้ ลูกกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไม่ได้ฟังธรรมะ และไม่ได้รับวิธีการปฏิบัติธรรมจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ลูกก็คงไม่มีวันชื่นฉ่ำ หลังชอกช้ำค่ะ “สุดขอบฟ้าก็คือโลก สุดโศกก็คือเศร้า สุดเหงาก็คืออกหัก สุดที่รักและศรัทธาก็คือคุณครูไม่ใหญ่ค่ะ”
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
                                           
กัลยาณมิตรเรียม แสงขาว


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
บันทึกการเดินทางของใจที่ “นิ่ง” แท้บันทึกการเดินทางของใจที่ “นิ่ง” แท้

ชีวิตใหม่ในเส้นทางบุญชีวิตใหม่ในเส้นทางบุญ

เธอทำได้...เพราะเธอได้ทำเธอทำได้...เพราะเธอได้ทำ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ