กินลูกต่อหน้าพ่อ


[ 2 ก.ย. 2549 ] - [ 18288 ] LINE it!

CASE STUDY 
กินลูกต่อหน้าพ่อ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการ คุณครูไม่ใหญ่ ที่มีหัวใจอันยิ่งใหญ่  ที่เคารพอย่างสูง 

    ผมเป็นลูกชายในองค์กรคนหนึ่งของพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ตั้งแต่ผมได้ก้าวเท้าก้าวแรกเข้ามาในวัดพระธรรมกาย ก็ตกหลุมรักเข้าแล้วครับ ผมประทับใจทุกๆอย่างที่เห็น และอยากเป็นส่วนหนึ่งของวัดพระธรรมกายด้วย ดังนั้นในทุกๆครั้งที่ผมได้มาวัดพระธรรมกาย ผมจึงสมัครเข้ามาช่วยงานเป็นอาสาสมัคร จนปัจจุบันผมได้ทำงานเป็นอาสาสมัครประจำอย่างเต็มตัวแล้วครับ เพราะผมอยากให้วัดที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสร้างขึ้นมา ได้เป็นแบบอย่างที่ดีงามของชาวโลกตลอดไป
 
    แม้อาสาสมัครจะเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ ที่ทำอะไรได้ไม่มาก แต่ “พลังมด” เหล่าอาสาสมัคร จะอุทิศแรงกายที่มี ทุ่มเทช่วยงานพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างเต็มที่ โดยไม่หวั่นต่ออุปสรรคเลยครับ
 
    ชีวิตในวัยเด็กของผม...ผมอยู่ที่จังหวัดสงขลา ตั้งแต่เริ่มจำความได้ ผมก็อยู่บนภูเขาที่มีแต่ต้นยางพารา ไม่มีโต๊ะอาหาร ใช้แต่เนินดินเป็นที่กินข้าว อาศัยนอนอยู่ในกระต๊อบเล็กๆบนภูเขา แต่ไม่นานนักกระต๊อบก็ต้องสลายไป เพราะพี่ชายเล่นไฟ ทำให้ไฟไหม้บ้าน ครอบครัวของเราจึงต้องย้ายจากภูเขาลงมาอยู่กับคุณตาที่พื้นราบ
 
    วันหนึ่ง เมื่อผมอายุได้ 7ขวบ คุณแม่ก็บอกว่า  “ถึงเวลาที่ลูกจะต้องไปโรงเรียนแล้ว” ผมจึงได้ไปโรงเรียน เพียงไม่กี่วันต่อมา คุณแม่ก็บอกผมอีกว่า ผมโตพอที่จะช่วยเหลืองานบ้านแล้ว ดังนั้น วันอาทิตย์ ถึงวันศุกร์ ผมต้องตื่นตี5 ช่วยคุณแม่เตรียมของขาย ส่วนวันพุธและเสาร์ ตื่นตี3 เข็นของที่เตรียมไว้ไปจัดวางที่ร้านให้เสร็จ และเมื่อกลับมาจากโรงเรียนก็ต้องล้างจาน ล้างข้าวของทั้งหมด บางครั้งก็ต้องเข้าสวนยางพารา แบกฟืนกลับมาบ้าน บางฤดูกาลที่ทุเรียนใกล้จะสุก ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และปิดเทอม ก็ต้องเดินเท้าขึ้นภูเขาไปกับพี่ชายตั้งแต่ตี5 กว่าจะถึงก็เที่ยงพอดี
 
    ผมมีกิจวัตรแบบนี้ จนกระทั่งผมจบ ม.3 คุณป้าเห็นว่า ถ้าผมยังอยู่ที่บ้านก็คงจะไม่มีเวลาเรียนหนังสืออย่างแน่นอน จึงได้พาไปเรียนต่อที่จังหวัดสตูล และที่นี่เองที่ผมได้รู้จักกับชมรมพุทธฯจังหวัดสตูล ซึ่งจัดตั้งโดยพระอาจารย์ที่เคยมาวัดพระธรรมกาย แล้วนำหลักการของวัดไปจัดตั้งชมรมพุทธฯที่จังหวัดสตูล
 
    ผมอยู่กับคุณป้าได้เพียงหนึ่งปี คุณป้าก็ได้ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดตรัง คุณป้าจึงนำผมไปฝากไว้กับคนที่ท่านเคารพรัก ผมก็อยู่กับท่านผู้นั้นได้เพียงแค่ 6เดือน ก็ได้ขออนุญาตย้ายมาอยู่กับพระอาจารย์ที่วัดหน้าเมือง เพื่อช่วยงานชมรมพุทธฯจังหวัดสตูลอย่างเต็มที่ โดยผมได้ช่วยจัดงานบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนทุกปี รวมทั้งช่วยจัดกิจกรรมอบรมศีลธรรมให้กับนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.4-ม.6
 
    ปลายปี พ.ศ.2539 พระอาจารย์ได้นำชมรมพุทธฯจังหวัดสตูล มาช่วยงานที่วัดพระธรรมกาย และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้มายืนย่ำสร้างความดี บนผืนดินของเหล่านักสร้างบารมีครับ ผมได้มาเป็นอาสาสมัครพิเศษ แผนกเฉพาะกิจ หรือที่ในปัจจุบันเรียกว่า แผนก ISO
 
    ในปี พ.ศ.2540 ผมได้รับการอบรมธรรมทายาทรุ่นที่25 หลังจากจบการอบรม ผมได้มาช่วยงานวัดพระธรรมกายอย่างเต็มตัว โดยเป็นอาสาสมัครช่วยงานอยู่แผนกเพชรพลอย ซึ่งอยู่ในความดูแลของแผนกบุญสถาน และหลังจากนั้นผมก็ได้มาเป็นอาสาสมัครประจำ แผนกบุญสถาน ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
 
    คุณตาของผม เป็นคนใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีระเบียบวินัย สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น และตักบาตรทุกวัน สิ่งที่ผมภูมิใจในตัวท่าน คือ ท่านสามารถหักดิบเลิกสูบบุหรี่ได้ คุณตามีกฎในบ้านอยู่ข้อหนึ่งที่ทุกคนต้องทำตาม คือ  ห้ามนำอบายมุขและเหล้าเข้ามาดื่มในบ้านเด็ดขาด ถ้าใครจะดื่มก็ไปดื่มที่อื่น
 
    อาชีพหลักของคุณตา คือ มัคทายก ทุกวันท่านจะไปวัด เพื่อทำความสะอาดพื้นที่ของวัดเป็นประจำ ท่านชอบดายหญ้ามาก ซึ่งที่วัดจะไม่ค่อยมีใครทำ ดังนั้นเมื่อท่านดายหญ้าบนเจดีย์เสร็จ ก็จะมาดายหญ้าบริเวณที่ไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน บางครั้งก็ไปทำความสะอาดที่ป่าช้า ท่านเวียนทำอยู่อย่างนี้เป็นประจำ ส่วนตัวผมและน้องสาวอีก 2คน ท่านจะชวนมาช่วยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์
 
    บางครั้ง ผมยังเห็นคุณตาเดินบอกบุญในตลาดและตามร้านค้าต่างๆ เพื่อนำมาซื้อหลอดไฟประดับเจดีย์ให้สวยงาม รวมทั้งสร้างรูปเทวดาปกปักรักษาเจดีย์ ผมรู้สึกปลื้มมากที่มีคุณตาแบบนี้ ยามใดที่ผมช่วยงานวัด ผมจะนึกถึงคุณตาเป็นแบบอย่างอยู่บ่อยครั้ง
 
    ปี พ.ศ.2539 คุณตาได้หกล้มลื่นตกบันได ทำให้ขาหัก ต้องใช้เหล็กดามไว้ข้างใน ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้สะดวก และสุดท้าย ท่านก็ต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาปีกว่า ก่อนที่คุณตาจะเสียชีวิต ท่านพยายามที่จะตะเกียกตะกายไปวัดให้ได้ แต่ก็ต้องหมดแรงล้มลงอยู่ข้างทาง ชาวบ้านแถวนั้นก็ช่วยกันหามกลับมาที่บ้าน คุณตาทำอยู่แบบนี้ถึง 2ครั้ง จนต้องไปนิมนต์พระที่วัดมาหาที่บ้าน ผมเห็นแล้วรู้สึกเศร้าใจมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
 
    หลังจากนั้นไม่นาน คุณตาก็เสียชีวิต รวมอายุได้ 86ปี ตอนนั้นทางวัดพระธรรมกายมีการบอกบุญสร้างองค์พระธรรมกาย ผมได้พยายามบอกให้ลุง-ป้า-น้า ร่วมสร้างองค์พระให้คุณตา แต่ไม่มีใครสนใจเลย ผมก็ได้แต่เอาบุญช่วยงานวัด อุทิศให้ท่านอยู่บ่อยๆ
 
    คุณยาย (น้องสาวของคุณตา) ก็เป็นอีกแบบอย่างหนึ่งที่น่าจดจำ ท่านเป็นคนใจดี อัธยาศัยไม่ต่างจากคุณตามากนัก ชอบไปวัดทำบุญตักบาตร สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นเป็นประจำ คุณยายจะคอยช่วยเหลือให้เงินผม ในการไปเรียนหนังสืออยู่บ่อยครั้ง และสิ่งที่ผมปลื้มใจมากที่สุดก็คือ ช่วงที่ไปบอกบุญสร้างองค์พระประจำตัวของผมเอง คุณยายร่วมบุญมากับผมถึง 3,000บาท
 
    หลังจากนั้นไม่นาน คุณยายก็ได้เสียชีวิต รวมอายุได้ 85ปี และผมก็ได้มาทราบในภายหลังว่า ท่านได้ขายที่ดินผืนสุดท้ายของท่าน เอาเงินทั้งหมดมาสร้างประตูวัดแถวบ้าน ผมรู้สึกปลื้มมากและทุกครั้งที่ผมได้ทำบุญ ผมก็จะไม่ลืมที่จะแผ่ส่วนบุญไปให้คุณยายด้วยครับ
 
    คุณพ่อของผม เป็นคนที่สอนให้ผมรู้ว่าโทษของสุรานั้นเป็นอย่างไร เพราะท่านดื่มเหล้าทุกวัน ท่านบอกว่า “เหล้านั้นไม่ดี อย่าดื่มเหล้าเหมือนพ่อนะ” แต่ระหว่างที่พูด ท่านก็เมาอยู่แล้ว คุณพ่อมีงานอดิเรก คือ สีซอในวงมโนราห์ ซึ่งทุกครั้งที่เล่นดนตรี ทุกคนในวงต้องมีเหล้าไว้ข้างกาย เพราะบางครั้งการรำมโนราห์ลงครู ต้องรำข้ามวันข้ามคืน ซึ่งก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณพ่อติดเหล้า
 
    เมื่อคุณพ่อเมากลับมาถึงที่บ้าน ถ้าเตรียมข้าวปลาอาหารให้ช้า หรือจัดให้ไม่ถูกใจ ท่านก็จะขว้างข้าวปลาอาหารที่อยู่ต่อหน้า แต่เวลาไม่เมาเหล้า ท่านจะเป็นพ่อที่รักลูกมาก มีเหตุผล ไม่ใจร้อนมากเกินไป แต่ส่วนใหญ่แล้ว ในความทรงจำของผม จะเห็นท่านเมาเสียมากกว่า...ครั้งหนึ่ง คุณพ่อไม่มีเงินดื่มเหล้า ไปขอคุณแม่ คุณแม่ก็ไม่มีเงินให้ คุณพ่อก็แอบไปขายที่นา พอคุณแม่ทราบท่านก็เสียใจมาก และจะตามไปซื้อคืน แต่เขาก็ไม่ขายให้แล้ว
 
    มีอยู่วันหนึ่ง คุณพ่อเมากลับมา กำลังนั่งกินข้าวเย็นอยู่ ก็มีแมวแม่ลูกอ่อนได้คาบลูกของตัวเองออกมากินต่อหน้าท่าน พอท่านเห็นเท่านั้น ก็จับแมวฟาดกับต้นขนุน แต่มันก็ยังไม่ตาย แล้วท่านก็เรียกผมให้เอาจอบมาขุดหลุมฝัง ซึ่งแน่นอนว่าต้องฝังมันทั้งเป็น ผมต้องข่มใจทำตามที่คุณพ่อสั่ง ผมร้องไห้ไปด้วยขุดหลุมไปด้วย เมื่อฝังเสร็จแล้ว ผมยังได้ยินเสียงมันร้องดังออกมาอยู่เลย ผมรู้สึกเสียใจมากครับแต่ก็ต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม
 
    ก่อนที่คุณพ่อจะเสียชีวิต ท่านเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวซีกขวา เพราะฤทธิ์เหล้า แต่ยังคงพอเดินได้บ้าง เช้าวันนั้นผมก็เห็นท่านเดินออกจากบ้านไปดื่มเหล้าตามปกติ ส่วนตัวผมก็ออกจากบ้าน ไปเตรียมจัดงานค่ายวัยรุ่นคุณธรรมบูชาคุณพระคุณพ่อ ในวันพ่อที่กำลังจะมาถึง แต่พอวันรุ่งขึ้นก็มีคนเข้ามาบอกผมว่า คุณพ่อของผมเสียชีวิตแล้ว ให้กลับบ้านด่วน ผมได้ยินแค่นี้ผมก็อึ้งอยู่นาน คุณพ่อเสียชีวิตในวันพ่อแห่งชาติ ปี พ.ศ.2539 รวมอายุได้ 52ปี
 
    พี่ชายของผม เคยบวชในพระพุทธศาสนาได้ 3พรรษา ก็ลาสิกขา ออกมาทำมาหากิน เมื่อลาสิกขาแล้ว กลับมีความประพฤติที่ตรงกันข้ามกับตอนที่บวช คือ เล่นการพนัน เที่ยวผู้หญิง เที่ยวกลางคืน และดื่มเหล้า เวลาเมาจะชอบขับมอเตอร์ไซค์ จนเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง คุณแม่ต้องเสียใจและเสียทรัพย์กับพี่ชายเยอะมาก บางครั้งเมื่อเมาแล้วก็ชอบไปเล่นการพนัน และโดนโกงเป็นประจำ เพราะเมาแล้วไม่รู้เรื่อง
 
    ตอนที่ไม่เมาเหล้า พี่ชายจะเป็นคนที่ขยันทำงาน เป็นห่วงเป็นใยคุณแม่และน้องๆอยู่เสมอ เป็นคนขี้เล่น มีนิสัยที่น่ารัก แต่สุดท้ายของผู้ที่ดื่มเหล้าย่อมที่จะมีชีวิตที่ไม่ยืนยาว...เหตุการณ์ครั้งนั้น พี่ชายเพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาลใหม่ๆ ยังจ่ายค่าโรงพยาบาลไม่ทันหมด พี่ชายก็ต้องมาเสียชีวิต เพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากการอยากซื้อเหล้าเพิ่มเติม จึงขับรถมอเตอร์ไซค์ย้อนศร ชนกับรถกระบะเข้าอย่างจัง ตายคาที่ทันที รวมอายุได้  32ปี
 
คำถาม
 
1.คุณตา ตายแล้วไปไหน ได้รับส่วนบุญที่ผมอุทิศไปให้แล้ว มีความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างไรบ้างครับ
 
2.การที่คุณตาซื้อหลอดไฟประดับเจดีย์ ถอนหญ้าตามร่องพื้นปูนรอบเจดีย์ให้สวยงาม จะได้อานิสงส์อย่างไรบ้างครับ และการที่คุณตาสร้างรูปเทวดาปกปักรักษาเจดีย์จะได้บุญหรือไม่ครับ แล้วบุญที่ได้จะส่งผลอย่างไรครับ
 
3.คุณยาย (น้องสาวคุณตา) ตายแล้วไปไหน ได้รับส่วนบุญที่ผมอุทิศไปให้แล้ว มีความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างไร การที่ท่านได้ขายที่ดินผืนสุดท้ายของท่าน เอาเงินทั้งหมดมาสร้างประตูวัด ท่านจะได้รับอานิสงส์อย่างไรบ้างครับ
 
4.การที่คุณพ่อจับแมวฟาดกับต้นขนุนหลังบ้าน แต่มันก็ยังไม่ตาย แล้วท่านก็เรียกผมให้เอาแมวไปฝังทั้งเป็น คุณพ่อกับผมจะได้รับวิบากกรรมอย่างไรครับ และแมวตัวนั้นมันอาฆาตคุณพ่อกับผมก่อนตายหรือไม่ครับ
 
5.คุณพ่อตายแล้วไปไหน ได้รับส่วนบุญที่ผมสร้างองค์พระ และบุญอื่นๆที่ผมอุทิศไปให้หรือไม่ ท่านมีความเป็นอยู่อย่างไร และผมต้องทำอย่างไร จึงจะทำให้ความเป็นอยู่ของคุณพ่อดีขึ้น โดยที่ผมไม่ต้องใช้ปัจจัยมากนักครับ
 
6.พี่ชายของผมตายแล้วไปไหน มีความเป็นอยู่อย่างไร ได้รับบุญที่ผมอุทิศไปให้บ้างหรือไม่ บุญที่พี่ชายบวช 3พรรษา ส่งผลต่อพี่ชายอย่างไรบ้างครับ
 
7.ผมทำกรรมอะไร ที่ทำให้ผมต้องออกจากบ้านตั้งแต่ ม.3 มาอาศัยวัดอยู่ และอาศัยบ้านคนอื่นมาหลายหลัง ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านของตัวเอง แต่ไม่ว่าผมอยู่ที่ใดก็จะมีคนคอยให้ความช่วยเหลือ และดูแลเหมือนคนในครอบครัวของตนเอง เป็นเพราะบุญใดครับ
 
8.ผมสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร มีหน้าที่อะไรในหมู่คณะ และในอดีตมีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไรบ้างครับ
 
9.พุทธันดรที่ผ่านมา กลุ่มอาสาสมัครรุ่นบุกเบิกของแผนกบุญสถาน ที่มาช่วยงานประจำทุกวันอาทิตย์ เคยทำหน้าที่อะไรมา จึงทำให้ชาตินี้ได้มาทำหน้าที่อาสาสมัคร แผนกบุญสถานครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.คุณตาตายแล้ว ก็ไปเป็นเทพบุตร มีวิมานทองของชั้นดาวดึงส์ เฟส2 ด้วยบุญที่คุณตาได้ทำไว้ในพระพุทธศาสนา และได้รับบุญที่อุทิศไปให้ จึงทำให้ท่านมีทิพยสมบัติมากขึ้น มีรัศมีผ่องใสสว่างไสวมาก
 
 
2.คุณตาซื้อหลอดไฟประดับเจดีย์ ถอนหญ้าตามร่องพื้นปูนรอบเจดีย์เพื่อให้สวยงามนั้น จะมีอานิสงส์โดยย่อ คือ ท่านเป็นเทวดาที่มีรัศมีสว่างไสว เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะมีผิวพรรณวรรณะผ่องใส ไม่เป็นโรคผิวหนัง มีรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เป็นต้น
  • คุณตาสร้างรูปเทวดาปกปักรักษาเจดีย์นั้น คุณตาก็จะได้บุญ เพราะจิตเป็นกุศล เมื่อบุญส่งผลก็จะทำให้มีบริวารสมบัติ มีบริวารที่เป็นทิพย์และสมบัติทิพย์ เกิดขึ้นในเทวโลก เป็นต้น
 
3.คุณยาย (น้องสาวของคุณตา) ตายแล้ว ก็ไปเป็นเทพธิดาสุดสวย มีวิมานทองของชั้นดาวดึงส์ เฟส2 ด้วยบุญที่ท่านทำไว้ในพระพุทธศาสนา และบุญที่ท่านขายที่ดินสร้างซุ้มประตูวัดในช่วงท้ายของชีวิต ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็ทำให้ท่านมีทิพยสมบัติมากขึ้น

  • ท่านขายที่ดินผืนสุดท้ายของท่าน เพื่อเอาเงินทั้งหมดมาสร้างประตูวัดนั้น ท่านจะได้อานิสงส์โดยย่อ คือ จะทำให้มีซุ้มประตูวิมานอันเป็นทิพย์ที่สวยงามมาก มีรูปและสมบัติอันเป็นทิพย์มากมาย
  • เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะถึงพร้อมด้วย รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ เป็นต้น

4.การที่คุณพ่อจับแมวฝาดกับต้นขนุนหลังบ้าน แต่แมวยังไม่ตาย แล้วท่านก็เรียกให้ตัวลูกไปฝังแมวทั้งเป็นนั้น ก็จะทำให้คุณพ่อจะมีวิบากกรรมต้องประสบอุบัติเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต และจะเป็นผู้มีโรคมากด้วย

  • ส่วนตัวลูกเอง ก็จะมีส่วนวิบากกรรมนี้ด้วย แต่เนื่องจากทำด้วยความจำใจ ก็จะมีส่วนของวิบากกรรมดังกล่าวน้อยลงไป
  • แมวก็มีจิตอาฆาตตัวลูกและคุณพ่อ ดังนั้นหากชาติใดชาติหนึ่งมาเจอกัน ก็จะทำร้ายเอาคืน
 
5.คุณพ่อตายแล้ว ก็ไปอยู่ในมหานรกขุม5 ด้วยกรรมดื่มสุราเป็นอาจิณ กำลังโดนนายนิรยบาลกรอกน้ำกรดร้อนสีดำ ร้อนแรงอยู่ มีความทุกข์ทรมานมาก ไม่อาจรับบุญที่อุทิศไปให้
  • แต่ให้ทำบุญไปเรื่อยๆ บุญนี้ก็จะไปคอยอยู่ที่ยมโลก อีกทั้งท่านก็จะต้องไปอีกหลายขุม

  • หากลูกจะช่วยเหลือท่าน ลูกก็จะต้อง ทำทาน รักษาศีล และปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วก็ศึกษาวิชชาธรรมกายให้เชี่ยวชาญ จึงจะไปช่วยเหลือคุณพ่อได้

 
6.พี่ชายตายแล้ว ก็ไปอยู่ยมโลกของมหานรกขุม5 ด้วยกรรมดื่มสุราเป็นอาจิณ
  • แต่ก็มีบุญบวชตามประเพณีมาช่วยเอาไว้ ทำให้ไม่ไปมหานรก ทั้งๆที่ก่อนตายจิตก็เศร้าหมอง
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว แต่ก็ยังไม่พ้นกรรม
  • ให้ทำบุญอุทิศไปให้อีกบ่อยๆ
 
7.ลูกต้องออกจากบ้านมาตั้งแต่ ม.3 แล้วก็ไปอาศัยอยู่วัด และบ้านของคนอื่นหลายหลัง โดยไม่ได้อาศัยอยู่บ้านของตัวเองเลยนั้น เพราะตัวลูกมีบุญที่ได้สนับสนุนการศึกษามา จึงทำให้ต้องย้ายจากบ้านไปเรียนหนังสือ ไม่ได้เป็นกรรมอะไร เพราะถ้าไม่มีบุญด้านการศึกษาในอดีตมา ลูกก็ต้องอยู่ที่บ้านและจะไม่ได้เรียนหนังสือ

  • แต่อยู่ที่ไหนก็ตาม ก็จะมีคนคอยดูแลช่วยเหลือตลอด เหมือนคนในครอบครัว เพราะบุญที่เคยช่วยเหลือคนหรือสงเคราะห์ญาติ และบุญที่เคยอำนวยความสะดวกเวลาคนมาสร้างบุญ มารวมส่งผล
 
8.ลูกสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ออกบวชตามพระราชา โดยมีหน้าที่เผยแผ่จนตลอดชีวิต มีผลการปฏิบัติธรรม ได้เข้าถึงองค์พระใสๆ เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้

  • แต่บางชาติก็มีความตระหนี่ และมีมานะทิฐิ จึงทำให้ต้องไปเกิดในครอบครัวที่ลำบาก ต้องทำงานหนัก มีชีวิตลำเค็ญในเบื้องต้น
  • ดังนั้นชาตินี้ ก็ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ให้เป็นคนว่าง่าย และหมั่น ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ให้สม่ำเสมอ


9.พุทธันดรที่ผ่านมา กลุ่มอาสาสมัครรุ่นบุกเบิกของแผนกบุญสถาน ที่มาช่วยงานในทุกวันอาทิตย์ เคยทำหน้าที่มาหลากหลาย เช่น เป็นกุลบุตรบ้าง เป็นกุลธิดาบ้าง เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชบ้าง ได้เป็นกัลยาณมิตรให้ซึ่งกันและกันทั้งในอดีตและปัจจุบัน จึงทำให้สามารถรวมกลุ่มสร้างบารมีกันได้ โดยเป็นกองเสบียงบ้าง เป็นพระทำหน้าที่เผยแผ่บ้าง

  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม