คนจนมีสิทธิ์นะครับ


[ 26 ก.ย. 2555 ] - [ 18271 ] LINE it!

CASE STUDY
คนจนมีสิทธิ์นะครับ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
    ผม เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่รู้จักวัดมาตั้งแต่ พ.ศ.2518_สมัยที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยครับ แต่หลังจากเรียนจบแล้วก็มีความจำเป็นต้องย้ายกลับไปภาคใต้ เพื่อไปช่วยคุณพ่อขายอุปกรณ์ประมง เช่น อวน แห ซึ่งผมเองก็ไม่ได้อยากจะทำเลย เพราะรู้ว่าอาชีพนี้มันบาป แต่ก็ไม่มีทางเลือก ประกอบกับช่วงนั้นคุณพ่อก็เริ่มป่วยหนักผมจึงต้องขายของแทนท่าน ซึ่งต่อมาพื้นที่ที่ครอบครัวของผมเช่าขายของและใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย เริ่มมีปัญหาต้องถูกเวนคืน ทำให้ผมต้องรีบหาที่อยู่ใหม่
 
    การหาทำเลที่ขายของใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยครับ เพราะต้องหาทำเลดีเพื่อให้คนเข้ามาซื้อของเยอะๆ และทำเลแบบนี้ก็ราคาสูงลิบ ที่สำคัญที่สุด...ผมไม่มีเงินเลย จึงต้องตัดสินใจไปกู้แบงก์หนึ่งล้านบาท โดยเอาที่ดินของคุณพ่อไปค้ำประกันถึงแปดไร่ แล้วเอาเงินนั้นมาเซ้งร้านใหม่เพื่อขายอุปกรณ์ประมงต่อ
 
    แต่อนิจจา...ร้านใหม่นี้กลับขายของไม่ได้ เพราะช่วงปีนั้นตกอยู่ในวิกฤตไอเอ็มเอฟ ซึ่งทำให้มีแต่ลูกค้ามาซื้อของด้วยเงินเชื่อ แล้วไม่มีเงินจ่ายให้ ทำให้ของในร้านหมดลงเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีเงินเข้า ผมจึงต้องไปขอเบิกสินค้าจากร้านต้นแหล่งมาใหม่ ซึ่งผมเองก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรกับลูกค้าของผมเลยครับ เพราะผมก็รับสินค้ามาจากร้านต้นแหล่งด้วยเงินเชื่อเหมือนกัน ทำให้ผมติดหนี้เงินเชื่อเป็นจำนวนสูงมาก จนร้านต้นแหล่งไม่ยอมให้สินค้าแก่ผมเพื่อมาขายอีกแล้วครับ
 
    ผมลำบากสุดๆ ตกอยู่ในสภาพของผู้มีหนี้สินเป็นล้าน มีหนี้สูญก็เยอะ สินค้าก็ขายไม่ได้ รายจ่ายก็ทับทวี ผมมีภรรยาและลูกเล็กๆอีกห้าคนที่ยังต้องกินต้องเรียน ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ภรรยาของผมไม่สามารถออกไปช่วยทำงานนอกบ้านได้เลย เพราะต้องคอยดูแลลูกสาวคนแรกอย่างใกล้ชิด เพราะเธอมีพัฒนาการช้าเป็นเด็กปัญญาอ่อนครับ ในบางครั้งเธอจะโมโหร้ายโดยที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ จะทำร้ายตัวเองและผู้อื่นโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ผมและภรรยาทุกข์ใจมากมาจนถึงทุกวันนี้
 
    ความอัตคัดของครอบครัวเราทวีความรุนแรงขึ้น ถึงขนาดต้องให้ลูกๆขอทุนการศึกษาเล่าเรียนกันเอง ซึ่งบางคนขอไม่ได้ก็ต้องดิ้นรนหาค่าเทอมมาจ่าย แต่เนื่องจากผมไม่รู้ว่าจะเอาเงินมาจากทางไหน จึงให้ลูกเข้าเรียนไปก่อนแล้วยื้อการจ่ายค่าเทอมออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลูกจะสอบอยู่แล้วทางโรงเรียนจึงแจ้งมาว่า หากไม่จ่ายค่าเทอม ลูกก็จะไม่มีสิทธิ์สอบ ผมจึงจำเป็นต้องไปกู้ยืมมาจ่ายครับ
 
    ต่อมา ร้านของผมขายของไม่ได้เลย จนกระทั่งเราต้องตัดสินใจปิดร้านในที่สุด จากนั้นผมได้มีโอกาสได้ไปฟังการพูดอธิบายเรื่องการสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวที่หาดใหญ่ ในปี พ.ศ.2540_ทำให้ผมเกิดความรู้สึกอยากสร้างมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แต่เขียนใบจองไว้ โดยที่ยังไม่มีเงินทำบุญ แล้วเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจถึงสองปีเต็ม
 
    จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2542_ได้มีคนชวนผมมาวัดพระธรรมกาย ผมเองก็อยากมาแต่ไม่มีแม้กระทั่งค่ารถที่จะเดินทางมาวัดครับ จึงได้ขออาศัยติดรถเขามา พอมาแล้วผมก็มีความรู้สึกอยากจะทำบุญมาก พี่กัลยาณมิตรที่ชวนผมมาได้บอกกับผมว่า ถ้าอยากสร้างพระจริงๆจะให้ยืมเงินก่อนก็ได้ ผมก็ตัดสินใจสร้างองค์พระทันทีด้วยการยืมเงินเขาก่อน
 
    ต่อมา พี่กัลยาณมิตรท่านนี้ ได้ชวนผมไปทำงานที่โรงงานบรรจุน้ำดื่มกับเขา ผมต้องทำทุกอย่าง อย่างหนักอึ้ง เพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงทุกชีวิตในครอบครัวที่รอคอยผมอยู่ และต้องพยายามหาเงินมาใช้หนี้ธนาคาร แต่รายได้เพียงแค่นี้ไม่พอหรอกครับ จากนั้นอีกไม่นานผมจึงได้ลาออก แล้วไปทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต แต่ก็ไม่มีหนทางเลือกอื่นเลย คิดแต่ว่าหากมีอะไรที่จะพอเป็นเงินได้ก็ต้องทำไปก่อน ดีกว่าอดตายกันหมด
 
    ผมยอมรับว่าผมลำบากมากที่สุด ต้องเข้าทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้าเลิกห้าโมงเย็น อยู่ท่ามกลางเปลวแดดอันร้อนระอุ เหงื่อท่วมโทรมกาย ตอนฝนตกก็ต้องตากฝน ผมต้องฝืนทนทำอยู่ถึงหนึ่งปีจนสุขภาพเริ่มย่ำแย่ทำงานต่อไปไม่ไหว ผมจึงขอลาออกอีก ซึ่งตอนนั้นทางธนาคารได้แจ้งมาว่า จะมายึดที่ดินของผมที่จำนองไว้ทั้งหมด เพราะผมไม่มีเงินใช้หนี้เขาสักที ซึ่งตอนนั้นก็ต้องยอมรับทั้งน้ำตาครับ มีเพียงภรรยาเท่านั้นที่คอยให้กำลังใจผม
 
    แต่หากคิดอีกอย่างหนึ่ง จะนับว่าเป็นโชคดีของผมก็ได้ ปรากฏว่าที่ดินที่ทางธนาคารยึดไปมีมูลค่าสูงกว่าจำนวนเงินที่ผมกู้มา ธนาคารจึงได้ให้เงินแก่ผมสี่แสนบาทหลังจากที่ได้ยึดที่ดินไปแล้ว เมื่อได้เงินมาผมก็ดีใจ ประจวบเหมาะกับตอนนั้นเป็นช่วงงานกฐินสร้างมหาวิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯที่วัดพระธรรมกายพอดี ผมจึงตัดสินใจนำเงินจำนวนหนึ่งแสนบาทมาทำบุญทันทีด้วยความปลื้มปีติ ส่วนเงินที่เหลือก็นำมาใช้หนี้ใช้สินกันไป ตั้งแต่นั้น ชีวิตของผมก็ทยอยดีขึ้นเรื่อยๆ มีคนมาชวนผมให้ไปขี่รถเร่ขายถุงพลาสติก ถุงก๊อบแก๊บ ถุงใส่หาอาหาร สำหรับแม่ค้าตามตลาด ซึ่งผมก็ตัดสินใจทำและยึดเป็นอาชีพหลักมาจนกระทั่งบัดนี้
 
    บางครั้งที่ผมขี่รถเร่ขายของ ก็ต้องเอาลูกสาวที่ปัญญาอ่อนใส่รถไปด้วยกันประสาพ่อลูก ผมไม่ทราบหรอกว่าใครจะคิดอย่างไร ผมรู้แต่ว่าผมรักและต้องคอยดูแลลูกของผมให้ดีที่สุดในยามที่แม่ของเธอไม่ว่าง
 
    แม้ชีวิตของผมจะลำบากถึงเพียงนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยทิ้งวัด และไม่เคยขาดการทำบุญเลย ผมเข้าใจเรื่องบุญและได้ติดจานดาวธรรม แม้ผมจะไม่มีเงินเป็นจำนวนมหาศาลที่จะทำบุญเหมือนคนอื่นๆ แต่ผมและภรรยาก็จะใช้วิธีทำหน้าที่กัลยาณมิตรชวนคนทำบุญ ซึ่งรวมแล้วได้เกือบหนึ่งหมื่นบาท แต่เป็นหนึ่งหมื่นของการทำหน้าที่ของนักบุญผู้ยากไร้ ซึ่งทำแล้วชุ่มชื่นใจเป็นที่สุดครับ
 
    ทุกวันนี้ ผม ภรรยา และลูกๆอีกห้าคน ก็ยังไม่มีบ้านเป็นของตนเอง เราต้องเช่า ต้องเซ้ง เราต้องช่วยกันประหยัดมัธยัสถ์ทุกอย่าง อยู่อย่างสมถะ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ซื้อ แล้วนำส่วนที่ประหยัดนั้นมาทำบุญให้ได้มากที่สุดครับ
 
    ชีวิตของผมเป็นมาอย่างนี้ จนกระทั่งปี พ.ศ.2548_ความรู้สึกที่ดีอย่างหนึ่งก็ได้เกิดขึ้นกับผม คือ วันที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อมอบผ้าไตรให้แก่ประธานกฐินปีนั้น เป็นวันที่ผมได้ให้ภรรยามาวัด ส่วนตัวผมนั่งดู DMC_อยู่ที่บ้าน ผมเกิดความรู้สึกอย่างไรบอกไม่ถูก จึงโทรศัพท์ไปบอกภรรยาว่าให้ไปรับผ้าไตรกลับมาบ้านได้ ซึ่งภรรยาก็ได้ไปสอบถามผู้ประสานงาน ก็ได้รับคำตอบว่าผู้ที่จะรับผ้าไตรได้ต้องเป็นประธานกองกฐิน ตอนนั้นผมไม่มีเงินขนาดเป็นประธานกองกฐินได้หรอกครับ แต่เราก็อยากได้ผ้าไตรมาอธิษฐานที่บ้านด้วย ซึ่งผู้ประสานงานและพระอาจารย์ที่วัดพระธรรมกายก็ใจดีมาก ได้พยายามหาผ้าไตรมาให้และยอมให้ผ้าไตรแก่ภรรยาของผมเพื่อกลับมาอธิษฐานจิตที่บ้าน
 
    ผมเองก็ได้แต่คิดในใจว่า แล้วเราจะเอาเงินจากไหนมาเป็นประธานกองกฐิน หากเราสามารถขายที่ดินที่ผมประกาศขายมากว่าสิบปีได้ ก็จะได้นำเงินนี้มาทำบุญ ซึ่งความหวังก็เลือนรางริบหรี่เหลือเกินครับ เพราะตลอดระยะเวลากว่าสิบปีนี้ ผมได้ทำทุกวิถีทางแล้ว ไม่ว่าจะประกาศขาย ไม่ว่าจะติดป้าย ไม่ว่าจะบอกเพื่อน ไม่ว่าจะให้นายหน้าช่วยอย่างไร ก็ยังขายไม่ได้สักที ทำให้ผมผิดหวังมาตลอดกว่าสิบปี แต่อยู่ๆก็มีพี่คนหนึ่งมาขอดูที่ ซึ่งผมก็พาเขาไปดูตามปกติโดยไม่ได้คิดอะไร และแล้วความมหัศจรรย์แห่งชีวิตก็ได้เกิดขึ้นกับผมอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว คือ เขาตัดสินใจซื้อที่ดินของผมแบบง่ายๆเลยครับ ผมรู้สึกดีใจมากว่าผมจะมีเงินมาทำบุญกฐินแล้ว จากนั้นก็ได้นำมาถวายด้วยความปลื้มปีติมากๆ ซึ่งภรรยาของผมก็พูดว่า...
 
    “พี่...เราต่างตัดสินใจทำบุญตรงนี้ ทั้งๆที่ปัจจุบันก็ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเลย ซ้ำยังต้องขี่รถเร่ส่งถุงพลาสติกอยู่ เพราะเราอยากแก้ผังจน เราไม่อยากเกิดมาจนและต้องลำเค็ญถึงขนาดนี้อีกแล้ว และเราจะเอาบุญตรงนี้แหละ เปลี่ยนผังจนของครอบครัวของเราเสียที”
 
    คนในครอบครัวของเรามีความสุขกันมาก เฝ้าแต่นับวันรอจะให้ถึงวันหล่อพระวันทอดกฐินเร็วๆครับ
 
    พ่อของผม ท่านเป็นคนขยันทำมาหากินมาก แต่เป็นคนดื่มเหล้า สูบบุหรี่ จนป่วยเป็นโรคหัวใจและความดัน ต่อมาอยู่ๆท่านก็เสียชีวิตลงเฉยๆอย่างกะทันหันด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ในวัยเพียง 60ปี
 
    แม่ของผม หลังจากแต่งงานแล้วได้ไปอยู่ที่ภาคใต้กับคุณพ่อ ต่อมาที่บ้านถูกไฟไหม้ และท่านได้หายไปประมาณหนึ่งปีจึงได้กลับมาใหม่ จากนั้นท่านก็ได้หนีมาที่กรุงเทพฯแล้วก็มากระโดดแม่น้ำเจ้าพระยา ฆ่าตัวตาย ไม่สามารถหาศพพบ ซึ่งก็ไม่มีใครทราบสาเหตุว่าเพราะอะไรครับ
 
คำถาม
 
1.บุพกรรมใดที่ทำให้ผมและภรรยายากจน มีหนี้สิน และยากลำบากต้องไปทำอาชีพที่ต่ำต้อย ทั้งๆที่เรียนจบปริญญาตรีด้วยกันทั้งคู่ครับ
 
2.บุพกรรมใดที่ทำให้ผมไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ต้องถูกเวนคืนที่ดิน หาที่อยู่ใหม่ได้ยาก แม้มีที่ดินก็ขายไม่ได้เป็นเวลายาวนานกว่าสิบปีครับ
 
3.บุพกรรมใดผมต้องมีทุกขลาภ คือ ต้องสูญเสียที่ดินที่จำนองไปทั้งหมดก่อน จึงจะได้ทรัพย์มาครับ
 
4.การที่ไม่มีเงินแต่อยากทำบุญมาก และไปขอยืมเงินผู้อื่นมาทำบุญเป็นการทำถูกหรือไม่ และการทำแบบนี้บุญจะเกิดกับเราทันทีที่ทำ หรือจะเกิดตอนที่เราใช้หนี้หมดแล้วครับ และสมบัติที่จะเกิดกับเราในกรณีนี้จะมีเงื่อนไขอย่างไรหรือไม่ครับ ส่วนอีกกรณีหนึ่งที่เขาเต็มใจให้เรายืมเงินทำบุญ แต่ภายหลังเรายังไม่มีเงินไปใช้เขาสักที เขาก็เลยยกหนี้ให้ ผมสงสัยว่าตอนสมบัติเกิดกับเรา จะมีข้อแม้เงื่อนไขใดครับ เพราะเงินทำบุญนั้นไม่ใช่เงินของเรา
 
5.ทำไม อยู่ๆผมก็ขายที่ดินได้ ตอนที่คิดว่าจะทำบุญด้วยที่ดินครับ สมมุติว่าในกรณีที่ว่า คนมีเงินเพียงหนึ่งเอ็ม แล้วตัดใจทำบุญทั้งหมด กับกรณีคนมีเงินร้อยเอ็ม ตัดใจทำบุญหนึ่งเอ็มเหมือนกัน ซึ่งก็มีปีติในการทำบุญสุดๆเท่ากัน จะได้บุญแตกต่างมากน้อยกว่ากันอย่างไรครับ
 
6.ในอดีตชาติ ผมเคยมีอัธยาศัยตัดใจทำบุญอย่างนี้มาบ้างหรือไม่ครับ หรือเพิ่งจะมีในชาตินี้ และทำไม ทั้งๆที่ตัวเองและครอบครัวยังลำบากอยู่ แต่สามารถมีความคิดตัดใจทำบุญอย่างนี้ได้ครับ และตอนนี้ผังจนของผมถูกรื้อไปบ้างหรือยังครับ
 
7.ในช่วงนี้ คุณครูไม่ใหญ่อธิบายเรื่องรัตนะเจ็ด ผมขอกราบเรียนถามว่า รัตนะเจ็ดของพระเจ้าจักรพรรดิ ต่างจากรัตนะเจ็ดของผู้ทำวิชชาอย่างไรครับ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำวิชชาและผู้ที่ไม่ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีสิทธิ์มีรัตนะเจ็ดหรือไม่ครับ หากมีสิทธิ์ต้องมีเงื่อนไขอย่างไรครับ
 
8.ทำไม คุณพ่อจึงตายอย่างกะทันหันด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน และเหตุใดคุณแม่จึงฆ่าตัวตาย ท่านมีบุพกรรมใดครับ ตอนนี้ท่านทั้งสองอยู่ที่ไหน มีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือมีอะไรอยากจะฝากมาบอกหรือไม่ครับ
 
9.บุพกรรมใดทำให้ลูกสาวคนโตของผมปัญญาอ่อน และชอบทำร้ายตนเองและผู้อื่นครับ และบุพกรรมใดเธอต้องมาเป็นลูกของเราทั้งสอง จะมีวิธีการช่วยเหลือลูกสาวและแก้ไขผังชีวิตของเราทั้งสองได้อย่างไรครับ
 
10.ลูกชายคนที่สองของผมเป็นโรคนอนไม่หลับ เพราะบุพกรรมใด ต้องแก้ไขอย่างไรครับ
 
11.ผม ภรรยา และลูกๆทั้งห้าคน สร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใดบ้างครับ และลูกชายมีบุญบวชตลอดชีวิตหรือไม่ครับ
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.ลูกและภรรยาจบปริญญาตรีด้วยกันทั้งคู่ แต่ต้องไปมีอาชีพต่ำต้อยยากลำบากจนต้องมีหนี้สินท้วมท้น ยากจน เพราะในอดีต ลูกเป็นคนเคยรวยมากๆในระดับมหาเศรษฐีใหญ่ แต่ก็มีความตระหนี่จัด มักจะกดค่าแรงคนงาน ลูกจ้าง ที่มีอยู่มากมาย ทำให้เขาต้องลำบาก ในชาตินั้นได้ทำอย่างนี้เป็นปกติ วิบากกรรมนี้ได้ตามมาส่งผล
 
 
2.ลูกไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ต้องถูกเวนคืนที่ดิน หาที่อยู่ใหม่ได้ยาก แม้มีที่ดินก็ขายได้ยากมากเป็นเวลากว่าสิบปี เพราะกรรมในอดีตชาติที่เป็นเศรษฐีใหญ่ดังที่กล่าวมาแล้ว ได้ปล่อยเงินกู้ เมื่อลูกหนี้ไม่มีจ่ายก็จะยึดที่ดิน ยึดบ้าน บางทีก็ไล่เขาอย่างขาดความเห็นใจ รวมทั้งกรรมตระหนี่จัด มาส่งผลให้เป็นดังกล่าว
 
 
3.ลูกต้องมีทุกขลาภ ต้องสูญเสียที่ดินที่จำนองไปก่อนแล้วจึงจะได้ทรัพย์มา เพราะกรรมในอดีต เมื่อได้ปล่อยเงินกู้ดอกโหดจนลูกหนี้ไม่มีเงินใช้หนี้แล้ว ในที่สุดก็ต้องยึดที่ดินของเขาแต่ที่ดินที่ยึดมาเป็นที่ดินที่มีมูลค่าเกินเงินกู้ ลูกจึงได้คืนเงินเขาไปบางส่วน คล้ายๆที่ตัวลูกโดนในชาตินี้ เป็นภาพในอดีตชาติของลูก
 
 
4.การที่ไม่มีเงิน แต่อยากทำบุญมากแล้วไปยืมเขามาทำบุญนั้น ถือว่ายังไม่ถูกหลักวิชชาอย่างสมบูรณ์ เพราะยังเบียดเบียนตนเองอยู่ ถ้าถูกหลักวิชชาต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นด้วย ยกเว้นว่า เรารู้ตัวว่าเราสามารถใช้คืนเขาได้และได้ใช้คืนเขาด้วย
 
  • บุญจะเกิดขึ้นทันทีที่ทำแม้ว่าจะเป็นเงินที่ขอยืมเขามาก็ตาม แต่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเรายังไม่ได้ใช้คืนเขา แต่เมื่อใช้คืนเขาเมื่อใดจึงจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
  •  
  • หากไม่ใช้คืนเขาเราก็จะกลายเป็นหนี้เขา เวลาสมบัติเกิดขึ้น ก็จะมีเหตุให้ไม่อาจใช้สมบัติได้ เช่น ถูกยึด ถูกจี้ ถูกปล้น น้ำท่วม ไฟไหม้ เป็นต้น
  •  
  • แต่ถ้าใช้คืนเขา เวลาสมบัติเกิดขึ้นก็สามารถใช้สมบัตินั้นได้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นบุญของเรา
  • เขาเต็มใจให้เรายืมเงินมาทำบุญ แต่ภายหลังเราก็ไม่มีเงินใช้คืนเขาสักที เขาสงสารจึงยกหนี้ให้ เมื่อบุญส่งผลก็จะได้เกิดใต้ใบบุญเขา คือ จะมีกินมีใช้ก็ต้องไปเป็นบริวารเขา
 
5.เมื่อลูกคิดที่จะทำบุญด้วยที่ดิน อยู่ๆก็ขายที่ดินได้ เพราะบุญเก่าส่งผล เป็นบุญในชาติที่เป็นเศรษฐีตระหนี่จัดดังกล่าว โดยในบั้นปลายชีวิตได้มาเจอหมู่คณะ แล้วได้ทำบุญกับหมู่คณะบ้างแต่ไม่มาก กอปรกับในปัจจุบันที่คิดจะทำบุญมารวมส่งผล
 
  • คนมีเงินหนึ่งเอ็มตัดใจทำบุญหนึ่งเอ็ม กับคนมีเงินหนึ่งร้อยเอ็มแต่ตัดใจทำบุญหนึ่งเอ็ม มีปีติยินดีอย่างสุดๆเท่ากัน จะได้บุญเท่ากัน
  •  
  • แต่คนมีเงินหนึ่งเอ็มตัดใจทำบุญหนึ่งเอ็ม มักจะมีปีติมากกว่า เพราะเป็นบุญที่ทำได้ยากกว่า
  • เมื่อบุญส่งผล หากปีติเท่ากัน บุญก็ส่งผลเท่ากัน แต่ถ้าปีติมากกว่ากันปลื้มมากกว่ากัน เพราะเป็นบุญที่ทำได้ยากกว่า เมื่อบุญส่งผลจะส่งผลเร็วกว่า
  •  
  • แต่หากตามระลึกนึกถึงบุญบ่อยๆมากกว่ากัน ก็จะส่งผลตามจำนวนชาติที่เกิดใหม่มากขึ้น เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีโอกาสนึกถึงบุญมากกว่า คือ ผู้ที่ทำบุญด้วยชีวิต
6.อดีตชาติใกล้ๆ ก็เพิ่งจะมีชาตินี้ที่ลูกตัดใจทำบุญได้อย่างนี้ เพราะชาติที่เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ดังกล่าว ตระหนี่จัด เมื่อบั้นปลายชีวิตได้มาเจอหมู่คณะก็ได้ทำบุญบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะความตระหนี่ยังมีอยู่ ทำให้กรรมตระหนี่จัดในชาตินั้นยังส่งผลได้ก่อน บุญที่ทำในชาตินั้นยังปนความตระหนี่ บุญยังไม่มากพอที่จะไปตัดรอนความตระหนี่จัดได้
  • เมื่อลูกและครอบครัวได้คบบัณฑิตและได้ฟังธรรมในปัจจุบัน จึงทำให้เข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต และเป็นเหตุให้ตัดใจทำบุญได้
  • ผังจนได้ถูกรื้อไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังพอมีอยู่ ควรจะรื้อให้หมดด้วยการสั่งสมบุญอย่างสม่ำเสมอ และตามระลึกนึกถึงบุญทุกบุญบ่อยๆ บุญนี้ก็จะส่งผลดีในปัจจุบันเป็นอัศจรรย์
 
7.รัตนะเจ็ดของพระเจ้าจักรพรรดิ เกิดขึ้นด้วยบุญของพระเจ้าจักรพรรดิที่จะเป็นเครื่องมือให้ท่าน ใช้ปกครองทวีปทั้งสี่ให้อยู่เย็นเป็นสุข และทำให้ไม่ต้องทำมาหากิน แต่ทุกคนจะมีศีลห้าเป็นปกติ เมื่อละโลกแล้วมนุษย์ที่มีศีลห้าก็จะได้ไปสวรรค์
 
  • ส่วนรัตนะเจ็ดของผู้ทำวิชชา มีไว้สำหรับทำวิชชาปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษอีกเลย เป็นคนละวัตถุประสงค์กัน
  • ผู้ที่ไม่ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ และไม่ได้ทำวิชชา หมดสิทธิ์ได้รัตนะเจ็ดไปครอบครอง นอกจากทำเป็นของขวัญให้ไปตามระลึกนึกถึงบุญ
 
8.คุณพ่อตายด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันอย่างกะทันหัน เพราะกรรมสุราและฆ่าสัตว์ทำกับแกล้ม ทั้งในอดีตและปัจจุบันตามมาส่งผล
 
  • ตายแล้วไปมหานรกขุมห้าทันทีด้วยกรรมดื่มสุรา กำลังโดนนายนิรยบาลกรอกน้ำกรดสีดำร้อนทุกข์ทรมานมาก ไม่อาจจะรับบุญได้แต่บุญก็จะไปคอยอยู่ที่ยมโลก
  •  
  • ให้นั่งธรรมะปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย ต้องช่วยท่านด้วยวิธีพิเศษ แต่ก็ควรจะทำบุญอุทิศไปให้ท่านเรื่อยๆ
  • คุณแม่ต้องฆ่าตัวตาย เพราะท่านติดนิสัยหาทางออกของชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายมาหลายชาติแล้ว โดยจุดเริ่มต้นของการฆ่าตัวตายดังนี้ คือ ชาติหนึ่งมีครอบครัวที่สามีกินเหล้าเจ้าชู้ มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงทุกข์มาก ได้ตัดสินใจหนีความทุกข์ด้วยการผูกคอตาย ด้วยวิบากกรรมนี้จึงได้ฆ่าตัวตายมาหลายชาติแล้ว แต่ต่างวิธีกัน
  • ตายแล้วก็ไปอยู่มหานรกขุมสาม เพราะกรรมกาเมฯ มีความทุกข์มากไม่อาจรับบุญได้ แต่บุญที่อุทิศไปให้ก็จะไปคอยอยู่ที่ยมโลก
 
9.ลูกสาวคนโตปัญญาอ่อน ชอบทำร้ายตนเองและผู้อื่น เพราะกรรมในอดีตชาติที่เกิดเป็นผู้ชาย ชอบดื่มเหล้าเจ้าชู้ เมื่อเมาแล้วชอบอาละวาดทุบตีชกต่อยผู้อื่น อีกทั้งเคยชอบมอบสุราให้เป็นของกำนัลแก่คนที่ค้าขายด้วยกัน ได้ตามมาส่งผล
 
  • ลูกและภรรยามีวิบากกรรมชอบมอบของกำนัลด้วยสุรา แก่ผู้ที่ค้าขายด้วย อยู่เป็นประจำ มาส่งผลให้ได้ลูกสาวเช่นนี้
  • จะแก้ไข ก็ให้หมั่นสั่งสมบุญทุกบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ให้มากๆ แล้วอธิษฐานจิตบ่อยๆให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ อีกทั้งอย่าได้ไปเลี้ยงเหล้าใครเด็ดขาด ให้เท-ทุบ-เผา จะดีที่สุด
 
10.ลูกชายคนที่สองนอนไม่หลับ เพราะเศษกรรมสุราในอดีตกับความเครียดในปัจจุบัน เรื่องที่พ่อแม่และครอบครัวประสบปัญหาชีวิต
 
  • จะแก้ไข ก็ต้องสอนให้ลูกชายคนที่สองรู้จักปล่อยวาง ให้ทำความเข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ออกกำลังกายบ้าง นั่งนิ่งๆบ้าง ทำสมาธิ เป็นต้น ให้สม่ำเสมอก็จะค่อยๆดีขึ้นทุกวัน เมื่อหาพระในตัวเจอก็จะมีความสุขมาก จะหลับเป็นสุขอยู่ในอู่ทะเลบุญ
 
11.ลูก ภรรยา และลูกๆทั้งห้าคน ก็เคยเป็นกองเสบียงของหมู่คณะมา ประเภทตามอารมณ์ไม่สม่ำเสมอ ชาติไหนทำบุญเต็มกำลังชาติต่อไปก็เป็นเศรษฐีใหญ่ เมื่อเป็นเศรษฐีตระหนี่จัดก็มาจนอย่างเดิม
 
  • ลูกชายจะบวชตลอดชีวิตได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต และรู้เป้าหมายของชีวิตที่แท้จริง อีกทั้งมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ถูกวัตถุประสงค์ของชีวิต
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้หมั่นสั่งสมบุญทุกบุญให้เต็มที่ อย่าให้ตกบุญเลย แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทนเอาหน่อย ต่อยใช้หนี้ ตอนที่ 1ทนเอาหน่อย ต่อยใช้หนี้ ตอนที่ 1

ทดสอบทดสอบ

มหาปูชนียาจารย์มหาปูชนียาจารย์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม