สสส. ผุดโครงการใหม่ “ใน ม. นอก
ม.ไม่ขอเอี่ยวเหล้า” ชวนเยาวชนน้องใหม่-พี่ใหญ่ริมม. รวมตัวเป็น
"สายลับปราบเหล้า" แจ้งจับผู้ประสงค์ร้ายทำภาพพจน์นักศึกษายุคใหม่
ดูเหมือนว่าบรรยากาศในการรับน้องในปีนี้จะเป็นไปอย่างอบอุ่นและน่ารักกว่าที่เคย เนื่องจากทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องจากหลายมหาวิทยาลัย ต่างให้ความร่วมมือร่วมใจเข้าร่วมโครงการ “รักน้องจริง..อย่าชวนน้องดื่ม” ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ได้ทำการรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้เพื่อให้การสร้างบรรยากาศปลอดเหล้ารอบรั้วมหาวิทยาลัยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สสส. จึงได้จัดโครงการ “ใน ม. นอก ม. ไม่ขอเอี่ยวเหล้า” เพื่อรณรงค์และเชิญชวนให้นิสิตนักศึกษา หันมาทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์รอบรั้วมหาวิทยาลัยของตัวเอง ตลอดจนรวมพลังเยาวชนจากเครือข่ายสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้มีส่วนร่วมในการเป็นหูเป็นตาเพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมทั้งในและนอก มหาวิทยาลัยให้ปลอดภัย
“เอิร์น” จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารการโรงแรมและการท่องเที่ยว วิทยาลัยราชพฤกษ์ หนึ่งในผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์รู้ทันแอลกอฮอล์ เอ่ยถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า ยังมีผู้ประกอบการและเจ้าของร้านค้าอีกมากมาย ที่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
“ร้านค้าหลายแห่งตั้งร้านอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่เกิน 500 เมตร บางร้านอยู่ใกล้เคียงกับหอพักนักศึกษา และโรงเรียนมัธยม และที่สำคัญ เราพบว่ามีร้านขายยา 1 ร้าน ที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการจัดระเบียบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่อนข้าง ปล่อยปละละเลย อีกทั้งเจ้าของกิจการบางคนขาดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม"
ทั้งนี้ เอิร์น ฝากบอกถึงผู้ใหญ่ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องในการดูแลจัดระเบียบให้ในและนอก มหาวิทยาลัยปลอดเหล้าและอบายมุข รวมถึงผู้ประกอบการร้านทั่วทุกแห่ง
“สถาบันการศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนทุกคน หากมีสภาพแวดล้อมรอบมหาวิทยาลัยที่ไม่ดี เต็มไปด้วยสิ่งมึนเมาและอบายมุขทั้งหลาย ก็เท่ากับเป็นการทำลายบรรยากาศของการเรียนรู้ให้หมดสิ้นไป กลับกลายเป็นสิ่งยั่วยุให้เยาวชนก้าวผิด และเสียอนาคต พวกเราอยากจะขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเอาจริงเอาจังในการสร้างบรรยากาศที่ ปลอดเหล้า ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย"
ส่วน “ต้นหลิว” กนกวรรณ พันสิทธิวรกุล และ “เจมส์” โอภาส ไทรงาม สองเพื่อนซี้จากมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ ถ้าห่วงใยสุขภาพและรักตัวเอง รักสถาบัน ก็ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ควรที่จะรู้ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร
“อยากให้เพื่อนๆ มองถึงวันข้างหน้าที่เราจะต้องก้าวไปเป็นบัณฑิตซึ่งมีหน้าที่ในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป ดังนั้นเราควรเริ่มต้นจากตัวเองด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดีในรั้วมหาวิทยาลัยเสียก่อน เดี๋ยวนี้ปัญหาสังคมมีมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการทะเลาะวิวาท อาชญากรรม รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วล้วนมีที่มาจากการขาดสติซึ่งเป็นผลมาจากการเมาเหล้าทั้งสิ้น ก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนให้เลิกดื่มเหล้าเพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา และเพื่อประเทศชาติของเราด้วย”
** สำหรับนิสิตนักศึกษาสามารถร่วมสร้างบรรยากาศดีๆ รอบรั้วมหาวิทยาลัย ด้วยการช่วยกันเป็นหูเป็นตาโดยส่ง SMS มาที่ 4554950 หรือเล่าเรื่องจากภาพผ่านทางวิดีโอคลิป โดยโพสต์ไว้ที่ www.rubnong.com
ดูเหมือนว่าบรรยากาศในการรับน้องในปีนี้จะเป็นไปอย่างอบอุ่นและน่ารักกว่าที่เคย เนื่องจากทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องจากหลายมหาวิทยาลัย ต่างให้ความร่วมมือร่วมใจเข้าร่วมโครงการ “รักน้องจริง..อย่าชวนน้องดื่ม” ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ได้ทำการรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้เพื่อให้การสร้างบรรยากาศปลอดเหล้ารอบรั้วมหาวิทยาลัยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สสส. จึงได้จัดโครงการ “ใน ม. นอก ม. ไม่ขอเอี่ยวเหล้า” เพื่อรณรงค์และเชิญชวนให้นิสิตนักศึกษา หันมาทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์รอบรั้วมหาวิทยาลัยของตัวเอง ตลอดจนรวมพลังเยาวชนจากเครือข่ายสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้มีส่วนร่วมในการเป็นหูเป็นตาเพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมทั้งในและนอก มหาวิทยาลัยให้ปลอดภัย
“เอิร์น” จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารการโรงแรมและการท่องเที่ยว วิทยาลัยราชพฤกษ์ หนึ่งในผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์รู้ทันแอลกอฮอล์ เอ่ยถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า ยังมีผู้ประกอบการและเจ้าของร้านค้าอีกมากมาย ที่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
“ร้านค้าหลายแห่งตั้งร้านอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่เกิน 500 เมตร บางร้านอยู่ใกล้เคียงกับหอพักนักศึกษา และโรงเรียนมัธยม และที่สำคัญ เราพบว่ามีร้านขายยา 1 ร้าน ที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการจัดระเบียบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่อนข้าง ปล่อยปละละเลย อีกทั้งเจ้าของกิจการบางคนขาดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม"
ทั้งนี้ เอิร์น ฝากบอกถึงผู้ใหญ่ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องในการดูแลจัดระเบียบให้ในและนอก มหาวิทยาลัยปลอดเหล้าและอบายมุข รวมถึงผู้ประกอบการร้านทั่วทุกแห่ง
“สถาบันการศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนทุกคน หากมีสภาพแวดล้อมรอบมหาวิทยาลัยที่ไม่ดี เต็มไปด้วยสิ่งมึนเมาและอบายมุขทั้งหลาย ก็เท่ากับเป็นการทำลายบรรยากาศของการเรียนรู้ให้หมดสิ้นไป กลับกลายเป็นสิ่งยั่วยุให้เยาวชนก้าวผิด และเสียอนาคต พวกเราอยากจะขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเอาจริงเอาจังในการสร้างบรรยากาศที่ ปลอดเหล้า ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย"
ส่วน “ต้นหลิว” กนกวรรณ พันสิทธิวรกุล และ “เจมส์” โอภาส ไทรงาม สองเพื่อนซี้จากมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ ถ้าห่วงใยสุขภาพและรักตัวเอง รักสถาบัน ก็ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ควรที่จะรู้ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร
“อยากให้เพื่อนๆ มองถึงวันข้างหน้าที่เราจะต้องก้าวไปเป็นบัณฑิตซึ่งมีหน้าที่ในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป ดังนั้นเราควรเริ่มต้นจากตัวเองด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดีในรั้วมหาวิทยาลัยเสียก่อน เดี๋ยวนี้ปัญหาสังคมมีมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการทะเลาะวิวาท อาชญากรรม รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วล้วนมีที่มาจากการขาดสติซึ่งเป็นผลมาจากการเมาเหล้าทั้งสิ้น ก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนให้เลิกดื่มเหล้าเพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา และเพื่อประเทศชาติของเราด้วย”
** สำหรับนิสิตนักศึกษาสามารถร่วมสร้างบรรยากาศดีๆ รอบรั้วมหาวิทยาลัย ด้วยการช่วยกันเป็นหูเป็นตาโดยส่ง SMS มาที่ 4554950 หรือเล่าเรื่องจากภาพผ่านทางวิดีโอคลิป โดยโพสต์ไว้ที่ www.rubnong.com
ที่มา-