ทนทรมานมามากแล้ว ขอกราบลา , ผูกคอตายที่หน้าโต๊ะหมู่


[ 27 ธ.ค. 2548 ] - [ 18274 ] LINE it!
View this page in: 中文

CASE STUDY
ทนทรมานมามากแล้ว ขอกราบลา,
ผูกคอตายที่หน้าโต๊ะหมูู่่
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงยิ่ง
 
    ลูกและคุณแม่เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาพันธุ์แท้ค่ะ เพราะลูกดู DMC ทุกวันไม่เคยขาด  บางทีถึงแม้ว่างานเยอะก็จะรีบกลับบ้าน หอบเอางานมาทำที่หน้าจอด้วยค่ะ ไม่อยากพลาดซักคำ เพราะแต่ละถ้อยคำนำไปสู่ความสว่าง ยิ่งฟังยิ่งกระจ่างในชีวิต
 
    ลูกเข้าวัด เพราะมีเพื่อนนำแผ่นพับงานวันมาฆบูชามาให้ดู ลูกเห็นแล้ว รู้สึกว่าเหมือนภาพในฝัน รีบถามเพื่อนว่า..ภาพนี้ของจริงหรือ? มีจริงหรือเปล่า? เพื่อนบอกเป็นภาพงานจริงๆ   ลูกและคุณแม่จึงได้มาวัดพระธรรมกายเมื่อเดือนตุลาคม 2542  ช่วงสร้างองค์พระภายนอกที่มหาธรรมกายเจดีย์ และมาวัดตลอดไม่เคยขาด ทำทุกบุญไม่เคยตกบุญเลยค่ะ ลูกเคารพและศรัทธาในพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาก ขอสร้างบารมีตามติดหลวงพ่อและหมู่คณะไปทุกชาติ  และลูกกราบขอความเมตตาจากหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
    คุณยายกับคุณตาเป็นคนใจบุญ มีศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก ตามีอาชีพรับจ้างตัดผม ส่วนยายทำอาชีพค้าขาย ยายเป็นคนค้าขายเก่ง จนมีฐานะดี ยายจะตักบาตรกับพระทุกรูปและทุกวัด ที่พายเรือบิณฑบาตผ่านบ้านทุกวันค่ะ ยายได้รับมรดกที่ดินหลายสิบไร่ ล้วนอยู่ในทำเลดี และท่านจะชอบหาซื้อที่ดินทำเลดีๆไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน หากท่านขายที่ดินได้ ท่านจะแบ่งเงินครึ่งหนึ่งมาทำบุญ บำรุงพระพุทธศาสนา เช่นสร้างถนนเข้าวัด, สร้างกุฏิ, สร้างแท้งน้ำ และสร้างที่เผาศพ เพราะว่าคุณยายรู้ว่าชีวิตเป็นของไม่เที่ยงไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่อีกนานสักเท่าไร  และแล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่คุณยายละโลกไปด้วยวัยเพียงแค่  42 ปีเท่านั้น ด้วยโรคหัวใจโต
 
    หลังจากยายเสียชีวิตลง ตาก็ได้แต่งงานใหม่ และมีลูกกับภรรยาใหม่อีก 1 คน หลังจากอยู่กันได้ประมาณ 10 กว่าปี ตาได้เป็นมัคทายกอยู่ระยะหนึ่ง พออายุได้ประมาณ 60 ปี ก็ออกบวชด้วยความศรัทธา ภรรยาใหม่ของตาก็ไม่ได้ว่าอะไร คุณตาบวชอยู่ได้ประมาณ 10 ปี  ก็มรณภาพในผ้าเหลือง ด้วยโรคชรา รวมอายุได้ 70 ปี
 
    คุณแม่ของลูกเป็นลูกสาวคนที่ 4 คนสุดท้องของครอบครัว ท่านได้รับมรดกเป็นที่ดินจากคุณยาย 20 ไร่ ซึ่งอยู่ในทำเลที่ดี  เมื่อครั้งที่ครอบครัวประสบปัญหาเศรษฐกิจ ก็อธิษฐานขายที่ได้กว่า 10 ล้านบาท มาใช้หนี้จนหมดความกังวล   เมื่ออยากทำบุญก็อธิษฐานแล้วขายที่ ได้เงินมาทำบุญเป็นประธานรองกฐิน 2 ปีซ้อน และยังมีที่ดินเหลือแถวๆ สนามบินสุวรรณภูมิอีก 16 ไร่ 
 
    ลูกเป็นลูกสาวคนโต จบปริญญาโท ทางด้านบริหารธุรกิจ อายุ 31 ปี มีน้องสาว 1 คน อายุ 26 ปี จบปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล และน้องชายอีก 1 คน อายุ 20 ปี กำลังเรียนคณะนิติศาสตร์     ครอบครัวของเราอบอุ่น พี่น้องรักกันดี ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น แต่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน  2548 ที่ผ่านมานี้    ซึ่งเป็นวันที่พวกเราได้มาหล่อพระประธานของอาคาร 60 ปีหลังจากนั้นลูกก็ต้องพบเหตุการณ์สะเทือนใจ
 
    น้องสาวของลูกตั้งแต่เป็นเด็ก เขาเป็นคนเรียนเก่ง สอบได้ที่ 1 ที่ 2 มาตลอด ตอนเรียนมัธยม 4 เขาเคยถูกคัดเลือกจากอาจารย์ให้ไปอยู่ห้องคิง ซึ่งห้องนี้ล้วนแต่เป็นเด็กที่เรียนเก่งๆ และเป็นหลักสูตรพิเศษสามารถเรียนจบ ม.6 ได้ภายใน 2 ปี ทำให้น้องสาววิตกกังวลมากกลัวจะเรียนไม่ได้ดีเท่าเพื่อนๆ น้องสาวมักจะมาบ่นที่บ้านและร้องไห้ด้วยความอึดอัดใจอยู่เสมอ เครียดมากจนกระทั่งคุณพ่อต้องพาไปพบจิตแพทย์  เรียนอยู่ห้องคิงได้เพียง 3-4 เดือน ในที่สุดก็ต้องย้ายกลับมาเรียนห้องเดิม ความเครียดนั้นก็หายไป เมื่อเรียนจบ ม.6 ก็สอบเอ็นทรานซ์ติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ และเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีเรื่อยมา จนจบปริญญาโท ทางด้านวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งเรียนหนักมาก และเครียดมากมาตลอด
 
    เมื่อเรียนจบ น้องสาวก็ได้เข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นงานเกี่ยวกับบัญชี เงินเดือน 2 หมื่นกว่าบาท แต่เขาก็ทำอยู่ได้เพียงเดือนเดียวก็ลาออก ให้เหตุผลว่า งานนี้ไม่ได้ใช้ความคิด เพราะเขาชอบงานต้องใช้มันสมองที่ท้าทายความสามารถ ต่อมาก็ได้ไปสมัครงานแห่งที่ 2    เป็นงานที่ทำเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ ที่ศึกษาเกี่ยวกับแรงตึงผิวของเหล็ก ที่จริงตำแหน่งนี้เป็นงานที่ยากมาก ผู้ที่จะทำได้ต้องจบระดับปริญญาเอก เฉพาะด๊อกเตอร์เท่านั้น แต่ทางบริษัทเห็นว่าน้องสาวเรียนด้านนี้มาโดยตรงก็เลยรับเข้าทำงาน แต่ด้วยความที่วุฒิภาวะยังน้อย ยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน พอเริ่มทำงานเดือนแรก เขาก็ถูกพูดสบประมาทให้เสียกำลังใจอยู่ทุกวัน เช่น โธ่เอ๋ย...นี่หรือจบ วิศว นึกว่าจบ คหกรรมเสียอีก , บางคนก็พูดกระแนะกระแหน เรื่องรูปร่างหน้าตา บอกว่า ดูไม่เหมือนคนโสดเลย เหมือนคนที่ผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว ทำให้เขามีความกดดันสูง เครียดง่าย ขี้กังวลง่าย น้องจะโทรมาปรึกษาลูกบ่อยมาก ลูกจะพูดให้กำลังใจ อธิบายถึงอุปสรรคต่างๆในการทำงานให้น้องเข้าใจ แต่น้องจะคิดวกวนเรื่องเดิมๆตลอด จนน้องมีอาการเครียดจัด ทำงานอยู่ได้ 2 เดือน ในที่สุดก็ลาออก
 
    หลังจากนั้น 2 อาทิตย์ น้องสาวก็ขอไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งแถวภาคกลาง  ซึ่งน้องสาวเคยไป  โดยขับรถไปเองคนเดียว อยู่ปฏิบัติธรรมจนครบ 7 วัน ก็กลับบ้าน โดยได้ออกจากวัดตั้งแต่บ่าย 2-3 ซึ่งควรจะกลับถึงบ้านตั้งแต่ 4-5 โมงเย็นแล้ว แต่ปรากฏว่าเวลา 5 โมงเย็น น้องสาวได้โทรมาบอกน้องชายว่า ให้โอนเงินเข้าบัญชีให้หน่อยเพราะน้ำมันหมด และบอกว่าหลงทาง น้ำเสียงที่พูดดูรีบร้อน ตื่นตระหนก พอ 3 ทุ่มก็ยังไม่ถึงบ้าน พ่อเป็นห่วงจึงเช็คดูที่เครื่องโทรศัพท์ว่าตำแหน่งที่น้องสาวโทรมานั้นอยู่ตรงไหน จึงได้ทราบว่า อยู่ที่อำเภอเสิงสาง  โคราช เมื่อลูกได้โทรเช็คไปที่ ส.ภ.อ. เสิงสาง ตำรวจจึงเล่าให้ฟังว่า น้องสาวได้ขับรถตกถนน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งช่วยเอารถขึ้นมาได้ กว่าน้องสาวจะกลับมาถึงบ้านก็ตี 3 ด้วยอาการเหม่อลอย หน้าซีดเหลือง ที่เท้าของเขาเปื้อนดินแดงๆ แต่เมื่อลูกและแม่สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เขาไปประสบมา เขาไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง จากนั้นมาเขากลายเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยเล่นเหมือนแต่ก่อน ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว บางคืนนอนไม่หลับ ก็จะลุกขึ้นมากระทืบเท้า ร้องวี๊ดๆ พูดว่า   อย่ามายุ่งกับกู   กูนอนไม่หลับ   อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย
 
    วันหนึ่งเขาได้บอกพ่อว่าให้ช่วยพาไปวัดที่เขาเคยไป บอกว่าลืมบัตรไว้ที่นั่น จะไปเอา พ่อจึงพาไป พอไปถึงวัด หลังจากเสร็จธุระกำลังจะกลับ พ่อได้เล่าให้ฟังว่า เห็นน้องสาวยกมือไหว้ไปทั่ววัด ไหว้แล้วก็ยิ้ม  ซึ่งเป็นอาการของคนไม่ปกติทางจิตประสาท
 
    จนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 หลังจากหล่อองค์พระประธานเสร็จ ลูกและแม่ก็กลับ  ถึงบ้าน 3 ทุ่ม พบพ่อจึงบอกกับพ่อว่า เอาบุญมาฝาก พ่อได้บอกว่า น้องสาวขึ้นไปนอนตั้งแต่บ่าย 2, วันนี้   น้องนอนนานมาก    ลูกก็คิดในใจว่าดีแล้ว จะได้พักผ่อนเต็มที่ 
 
    แล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เวลาประมาณ 4 ทุ่ม แม่เข้าไปในห้องน้องสาว ก็พบว่าน้องได้แขวนคอตัวเองไว้กับเหล็กดัดตรงหน้าต่าง ต่อหน้าโต๊ะหมู่บูชา ตามแขน-ขา คล้ำจนเป็นสีม่วง ดวงตาปิดสนิท ลิ้นไม่จุกปากมีแต่ฟันที่เผยอนิดหน่อย มีน้ำมูกไหลออกมา ก่อนตายเขาคงร้องไห้ มีจดหมายที่เขาเขียนทิ้งไว้ยาวมาก คร่ำครวญว่า......ถึงวันนี้แล้ว ทนไม่ไหวแล้ว ทรมานเหลือเกิน         
 
    ทุกคนในบ้านช่วยกันนำร่างที่ไร้วิญญาณลงมา มือของเขาจับที่เชือกแน่น  ลูกและคุณแม่ตั้งสติได้ ไม่ตกใจ ไม่ร้องไห้ พยายามพูดให้น้องนึกถึงบุญทุกบุญ บุญสร้างพระประจำตัว บุญปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์ บุญถวายสังฆทาน และใส่บาตร จากนั้นลูกและคุณแม่ก็นั่งสมาธิส่งบุญทุกบุญที่เคยทำมาให้น้องตลอดคืน ด้วยความรู้สึกที่อธิบายได้ยากมากค่ะ ทั้งสงสารและเสียใจ พอวันรุ่งขึ้นก็รีบนำปัจจัยมาทำสังฆทานที่วัดพระธรรมกาย  5,000 บาท  อีกวันถัดมาก็ได้นำปัจจัยมาทำบุญกฐินล่วงหน้าปี 49 ให้น้องสาวอีก 1 หมื่นบาท พอถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน  ตรงกับวันทอดกฐินของวัดพระธรรมกาย ลูกและคุณพ่อ คุณแม่ได้พากันมาที่วัดเพื่อเอาบุญให้น้องสาวที่ตาย
 
คำถามมีดังนี้ค่ะ
 
1.    คุณตาของลูกได้บวชในบั้นปลายชีวิตถึง 10 พรรษา  ท่านตายแล้วไปไหนคะ ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่
 
2.    บุญใดทำให้ยายมีที่ดินมากและล้วนแต่อยู่ในทำเลดีๆ ซึ่งทำให้ขายได้ราคาดี,  กรรมใดทำให้ยายอายุสั้น  ตายด้วยโรคหัวใจโต ยายละโลกแล้วไปอยู่ที่ไหน   ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะ
 
3.    คุณแม่ทำบุญใดจึงได้รับมรดกเป็นที่ดินที่อยู่ในทำเลดีทำให้ขายที่ดินได้ในราคาดี แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา 
 
4.    ทำไมบางคนจึงมีที่ดินอยู่ในทำเลดี  แต่บางคนมีที่ในถิ่นทุรกันดารคะ บางคนที่เขามีที่ดินมากแต่เป็นที่ดินที่ไม่มีโฉนดทำให้ไม่สามารถขายได้ บุคคลประเภทนี้เขาทำบุญมาอย่างไรคะ
 
5.    น้องสาวทำบุญมาอย่างไรจึงทำให้มีโอกาสได้เรียนจบถึงปริญญาโท และเรียนดีมาโดยตลอด แต่กรรมใดทำให้เขาวิตกกังวลเรื่องการเรียนจนเครียด ถึงขั้นต้องไปพบจิตแพทย์
 
6.    กรรมใดทำให้น้องต้องเลือกทำงานที่ยากๆ จนทำให้เกิดอาการเครียด ทั้งๆที่งานง่ายๆเงินเดือนดีๆก็มีให้ทำแต่เขาก็ไม่เอา
 
7.    กรรมใดบีบคั้นทำให้น้องสาวทุกข์ทรมานใจถึงขั้นต้องตัดสินใจผูกคอตายคะ, เขาผูกคอตายเพราะสาเหตุใดกันแน่คะ, สิ่งที่มาหลอกหลอนเขาทำให้นอนไม่หลับ สิ่งนั้นคืออะไรคะ,  ตอนนี้น้องสาวรู้สึกอย่างไรคะ,  เขาตายแล้วไปไหน  สามารถรับบุญที่อุทิศให้ได้ไหมคะ
 
8.    ประมาณตี 4 ของวันที่ 4 พฤศจิกายน (เป็นวันที่ 3 หลังจากที่น้องสาวเสียชีวิต) น้องชายได้ฝันถึงน้องสาวที่ตายไป เข้ามาเขย่าตัวน้องชายที่กำลังนอนอยู่   น้องสาวมาจริงๆหรือเปล่าคะ
 
9.    น้องสาวเคยมาวัดพระธรรมกายกับเพื่อนอยู่ประมาณ 3-4 ครั้ง แล้วก็ไม่ได้มาอีก   น้องสาวมีสายบุญกับหมู่คณะบ้างไหมคะ  กรรมใดทำให้ช่วงหลังไม่ได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะเลย 
 
10.    คุณพ่อเคยเส้นเลือดในสมองแตก ต้องนำส่งโรงพยาบาล  วันนั้นตัวลูกและแม่ช่วยกันนั่งสมาธิและอธิษฐานจิตกับมหาปูชนียาจารย์  จากนั้นเพียง 3 วันคุณพ่อก็หายเป็นปกติ   เป็นเพราะมหาปูชนียาจารย์ ท่านช่วยไว้ใช่ไหมคะ, จะต้องทำอย่างไรให้คุณพ่อ เชื่อเรื่องบุญ บาป ว่ามีจริง และเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะท่านจะเชื่อหลักการทางวิทยาศาสตร์มากค่ะ
 
11.    ลูกและคุณแม่ ก่อนมาเกิด มาจากที่ไหนคะ มีหน้าที่อะไรในหมู่คณะ มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไรคะ
 
12.    พระแถวบ้าน มาทักว่าลูกจะมีดวงไม่ดีเรื่องคู่ครอง จะต้องเสียใจ, โดนหลอก, แต่งงานช้า คำกล่าวนี้เป็นจริงหรือไม่ และลูกควรจะสั่งสมบุญใดเพิ่มดีคะ เพื่อให้พ้นวิบากกรรมนี้
 
กราบขอบพระคุณในความเมตตาอย่างสูงค่ะ
 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    คุณตาบวชในบั้นปลายของชีวิตได้  10  พรรษา   มรณภาพแล้ว   
  • ไปเป็นเทพบุตรสุดหล่อมีวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์”  เฟส  3     ด้วยบุญที่บวชบั้นปลายของชีวิตจ่ะ !
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว    ก็ซึ่งทำให้ท่านมีทิพยสมบัติมากขึ้นจ่ะ !

 
 
2.    คุณยายมีที่ดินมากในทำเลดี   ขายได้ราคาดีมาก  เพราะ
  • ในอดีต   คุณยายทำทานด้วยที่ดินไว้ในพระพุทธศาสนาจำนวนไม่มากนัก     แต่มีจิตที่เลื่อมใส  ,  มีปีติยินดีมากในการถวายที่ดิน     จึงทำให้มีที่ดินในทำเลดีและราคาดีมากจ่ะ !
 
 
 
  • คุณยายเป็น “โรคหัวใจโต” และอายุสั้น   เพราะ  --- ในอดีตได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม     ได้สั่งฆ่าสัตว์ทำอาหารเลี้ยงเวลามีงานใหญ่ ๆ แก่ชาวบ้าน   เพราะตัวมีฐานะดีในชาตินั้น  ,  รวมทั้งกรรมที่ใช้แรงงานสัตว์มากจนมันหอบเหนื่อยทรมาน   มารวมส่งผลจ่ะ !
 
 
 
  • ตายแล้วก็ไปเป็นเทพธิดา   มีวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส 2 ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาและสาธารณกุศลต่าง ๆ   --- ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว   ก็ยิ่งทำให้ท่านมีทิพยสมบัติมากขึ้นจ่ะ !

 
 
3.    คุณแม่ได้รับมรดกที่ดินในทำเลดี   ทำให้ขายที่ดินได้ราคาดีทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจซบเซา   เพราะ  --- ในอดีตในชาตินั้น   ก็ได้เกิดเป็นลูกของคุณยาย     ได้ร่วมบุญถวายที่ดินกับคุณยายด้วยความปีติยินดีเช่นเดียวกัน     จึงทำให้บุญนี้ส่งผลในปัจจุบันได้รับมรดกที่ดินในทำเลดีดังกล่าวจ่ะ !

 
 
4.    บางคนมีที่ดินในทำเลดี  ,  บางคนมีที่ดินในถิ่นทุรกันดาร เพราะ  
  • ความปีติยินดีมากน้อยต่างกันในการทำทานต่าง ๆ  เช่น บางคนก็ทำทานที่ดินด้วยมานะทิฐิถือตัวว่า   ได้ช่วยเหลือเป็นบุญคุณอยู่ลึก ๆ ในใจกับผู้ที่เราได้ทำทานด้วยมาส่งผล  ,  ถ้าปีติยินดีมีความผ่องใสของใจมากก็จะได้ที่ในทำเลดีจ่ะ !   เป็นต้น
 
 
 
  • บางคนมีที่ดินมาก   แต่ไม่มีโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์   ทำให้ขายไม่ได้   เพราะ  --- ทำบุญด้วยที่ดิน   แต่มานึก “เสียดาย” ในภายหลัง, ดังนั้นบุญจึงส่งผลไม่เต็มที่     จึงทำให้มีที่ดินมากแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์และไม่อาจขายได้จ่ะ !
 
 
 
5.    น้องสาวเรียนดีมาตลอดและจบปริญญาโท   เพราะ  
  • ในอดีตเป็นคนที่มีนิสัยใฝ่เรียน  และมีบุญที่ส่งเสริมเรื่องการศึกษาให้แก่นักเรียนและข้าทาสบริวารมาส่งผลจ่ะ !
 
 
 
  • แต่เป็นคน “ขี้กังวล”   จนต้องไปพบจิตแพทย์   เพราะ  --- มีเศษกรรม “ดื่มสุรา”   ชอบเลี้ยงสุราในอดีต     บางครั้งเวลาเมาแล้วก็ชอบอาละวาดมาส่งผลจ่ะ !

 
 
6.    น้องสาวชอบเลือกทำงานยาก ๆ ท้าทาย   จนทำให้เกิดอาการเครียด     แต่งานง่าย ๆ ดี ๆ เงินเดือนก็ดี   แต่ไม่เอา  เพราะ  ในอดีตตอนเป็นผู้ชาย   ได้เป็นอาจารย์ที่มีความรู้   มีลูกศิษย์ในสำนักมาก  , 
 
 
 
  • ได้มีลูกศิษย์คนหนึ่งค่อนข้างเก่ง   แต่อวดดี  ,  จึงได้แกล้งข่ม  ,  บีบ  ,  กดลูกศิษย์คนนั้น     จนทำให้ลูกศิษย์เครียด   โดยให้ทำงานยาก ๆ     ถ้าทำไม่สำเร็จก็จะดุด่าอย่างรุนแรง   จนลูกศิษย์ทนไม่ไหวต้องออกไป วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !

 
 
7.    น้องสาวทุกข์ทรมานใจจนถึงขั้นผูกคอตาย   เพราะ  ---กรรมในอดีตในชาติที่เป็นอาจารย์ผู้ชายดังกล่าว  ,  ได้ฆ่าสัตว์ทำกับแกล้มสุรา   และได้ดุด่าลูกศิษย์ที่หัวทึบ     โดยมักจะใช้คำพูดว่า  “ทำไม่ได้ก็ให้ไปผูกคอตายเสีย”  ,  ซึ่งต่อมาลูกศิษย์คนหนึ่งได้ไปผูกคอตายจริง ๆ     วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผลจ่ะ !
 
 
 
  • ตายแล้ว   ช่วงแรกก็วนเวียนอยู่  7  วัน     แต่ด้วยบุญที่พยายามทำตามหลักวิชชาที่แม่และพี่สาวได้บอกให้ระลึกนึกถึงบุญ  ภายหลังจากตายแล้วอยู่ในช่วงวนเวียน   ซึ่งเธอได้รับฟัง   กอปรกับบุญที่อุทิศไปให้   จึงทำให้ “ปิดอบาย” และได้ไปเกิดเป็น “อากาส- เทวาสายยักษ์”    
 
 
 
  • ส่วนสิ่งที่มาหลอกหลอนก่อนตาย   ก็เป็นอาการทางจิตเฉย ๆ ที่เกิดจากกรรมสุรามาส่งผลจ่ะ !

 
 
8.    ตี  4  หลังจากตายแล้ว  3  วัน   น้องชายได้ฝันเห็นน้องสาวมาเขย่าตัวนั้น   ก็เป็นเรื่องจริง     ซึ่งอยู่ในช่วงที่ตายใหม่ ๆแล้วรู้สึกตัวหายจากอาการทางจิตประสาท     จึงอยากจะมาเรียกน้องชายเพื่อทักทายธรรมดา และเพื่อจะบอกว่า  เขาไม่ได้เป็นอะไรแล้ว     โดยตัวเองยังไม่แน่ใจว่าตายจริงหรือไม่   ทั้ง ๆ ที่ อยากตาย     จึงทดลองมาเขย่าตัวน้องชายจ่ะ !

 
 
9.    น้องสาวมาวัดพระธรรมกายกับเพื่อน  3 - 4  ครั้ง   แล้วไม่ได้มาอีกเลย     น้องสาวก็มีสายบุญกับหมู่คณะบ้างบาง ๆ    --- ช่วงหลังไม่ได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะเลย   เพราะในอดีตได้กระทบกระทั่งกับบางคนในหมู่คณะ   จึงมา ๆ ขาด ๆ หาย ๆ   จึงทำให้บางชาติก็เจอหมู่คณะ   บางชาติก็ไม่เจอกัน   หรือเจอกันแล้วก็มาบ้างไม่มาบ้างเหมือนชาตินี้จ่ะ !
 
 
 
10.    คุณพ่อเคย “เส้นเลือดในสมองแตก” ต้องนำส่งโรงพยาบาล  ,  ตัวลูกและคุณแม่ช่วยกันนั่งสมาธิอธิษฐานจิตถึง มหาปูชะนียาจารย์ทุกท่าน     3  วันต่อมาคุณพ่อก็หายเป็นปกติ เพราะ  
  • บุญเก่าในอดีตที่เคยทำไว้กับหมู่คณะกับมหาปูชนียาจารย์และบุญยารักษาโรคเป็นสาธารณกุศล     รวมทั้งบุญที่ลูกและคุณแม่นั่งสมาธิอธิษฐานจิตด้วยจ่ะ !
 
 
 
  • จะให้คุณพ่อเชื่อเรื่องบุญ - บาป  ,  นรก - สวรรค์ ,  กฎแห่งกรรมลูกก็ต้องศึกษาหาทางอธิบายให้ท่านเข้าใจด้วยหลักวิทยาศาสตร์จ่ะ ! เพราะท่านเป็นประเภท “ปัญญาจริต”  ,  ทางลัด ก็คือ พยายามให้ท่านปฏิบัติสมาธิภาวนาและหากัลยาณมิตรที่คุยกับท่านรู้เรื่องให้ท่าน   ท่านก็จะเข้าใจ   เพราะท่านมีสายบุญกับหมู่คณะอยู่แล้วจ่ะ !

 
 
11.    ลูกและคุณแม่เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะแบบ “กองเสบียง”     มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีพอประคับประคองกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้จ่ะ !

 
 
12.    พระแถวบ้านที่ทักลูกว่า   ดวงไม่ดีเรื่องคู่ครอง  ,  จะโดนหลอก  ,  และแต่งงานช้า   ก็ดีแล้วลูกจะได้มีสติ  ,  จะได้รีบสั่งสมบุญให้มาก ๆ   เพราะเรามาเกิดเพื่อสร้างบารมี     แต่ถ้าหากจะมีก็ให้เลือกคนที่มี  ศรัทธา  ,  ศีล  ,  ทิฐิ  เสมอกัน     จะได้เป็นคู่บุญคู่บารมีกันจ่ะ !     --- แต่ถ้าไม่มีก็ประพฤติพรหมจรรย์ไปจ่ะ !
 
 
 
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม