ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 185


[ 8 ต.ค. 2552 ] - [ 18268 ] LINE it!

ทศชาติชาดก
เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี
ตอนที่ 185
 
" /> " />
 
    จากตอนที่แล้ว มโหสถได้นำเสด็จพระเจ้าจุลนีพร้อมด้วยเหล่าข้าราชบริพารเข้าสู่อุโมงค์ พระเจ้าจุลนีเสด็จเที่ยวชมโดยมีมโหสถตามเสด็จอยู่ข้างหลัง ตามติดมาด้วยเหล่าข้าราชบริพารและพระราชาต่างแคว้น
แม้พระเจ้าจุลนีจะเสด็จออกจากอุโมงค์ไปแล้ว แต่บรรดาผู้ตามเสด็จเหล่านั้นก็ยังคงเพลิดเพลินอยู่ภายในอุโมงค์นั่นเอง
มโหสถเห็นพระเจ้าจุลนีเสด็จออกมาแล้ว ก็รีบตามพระองค์ออกมาทันที จากนั้นจึงได้โยกสลักยนต์ ปิดประตูอุโมงค์นั้นเสีย
 
    ทันใดนั้น ทั้งประตูใหญ่ประตูน้อยและประตูห้องบรรทม ต่างถูกปิดลงพร้อมกัน โคมไฟทั้งร้อยดวงก็ดับพรึบลงทันที บรรดาผู้ตามเสด็จที่ยังติดอยู่ในอุโมงค์ ต่างตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสะดุ้งกลัวต่อมรณภัยด้วยกันทั้งสิ้น
" />
" /> " />
 
   เมื่อมโหสถปิดประตูอุโมงค์แล้ว จึงได้ก้มลงเอามือคุ้ยทราย หยิบพระขรรค์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ครั้นได้จังหวะ มโหสถก็รีบกระโดดเข้าจับพระเจ้าจุลนีโดยไม่ให้ทันตั้งตัว พลางข่มขู่ด้วยเสียงอันดังน่าเกรงขามว่า “มหาราช จงบอกหม่อมฉันสิว่า สมบัติในชมพูทวีปนี้เป็นของใคร”
" />
 
    พระเจ้าจุลนีทรงตกพระทัยอย่างยิ่ง รีบตรัสตอบอย่างลนลาน ด้วยสัญชาตญาณของสัตว์ผู้ยังกลัวต่อมรณภัยว่า “สมบัติทั้งหมดเป็นของเจ้า เจ้าจงให้อภัยเราเถิด เราไม่ต้องการสมบัติอะไรทั้งนั้น ขอแต่เพียงชีวิตของเราไว้เท่านั้น”
 
    มโหสถเห็นว่า บัดนี้พระเจ้าจุลนีทรงหมดขัตติยะมานะแล้ว จึงได้คุกเข่าลงต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์
แล้วทูลว่า “ข้าแต่มหาราชเจ้า ขอพระองค์อย่าได้ทรงตกพระทัยไปเลย ที่หม่อมฉันเงื้อดาบในครั้งนี้ ด้วยมุ่งหมายจะปลงพระชนม์ก็หาไม่ แต่เป็นเพราะต้องการจะสำแดงปัญญานุภาพให้ปรากฏเท่านั้น
หม่อมฉันจะไม่มีวันปลงพระชนม์ของพระองค์อย่างแน่นอน หม่อมฉันขอประทานอภัยที่ต้องทำเช่นนี้ และจักขอถวายดาบเล่มนี้แด่พระองค์ หากพระองค์ปรารถนาจะฆ่าหม่อมฉัน ก็ขอจงฆ่าหม่อมฉันให้ตายเสียด้วยดาบเล่มนี้ แต่หากพระองค์ประสงค์จะพระราชทานอภัยโทษให้แก่หม่อมฉัน ก็ขอได้ทรงประทานให้ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า”
 
" />
    กราบทูลดังนี้แล้ว มโหสถก็น้อมเอาพระขรรค์นั้น ถวายไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้าจุลนี
พระเจ้าจุลนีทรงรับดาบจากมือของมโหสถ ด้วยพระหทัยที่เต็มตื้นไปด้วยพระปีติ ทรงบังเกิดความรักความเมตตาในตัวมโหสถบัณฑิตอย่างเปี่ยมล้น ตรัสด้วยพระสุรเสียงอ่อนโยนว่า “พ่อบัณฑิต จงลุกขึ้นเถิด ฉันให้อภัยเธอแล้ว เธออย่าได้คิดอะไรเลย”
 
    แล้วพระองค์ก็ทรงยื่นพระขรรค์คืนให้กับมโหสถ
มโหสถและพระเจ้าจุลนีต่างจับพระขรรค์ร่วมกัน ต่างฝ่ายต่างกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อกันและกันว่า “นับแต่นี้ไป เราทั้งสองจะไม่ขอประทุษร้ายต่อกันอีก และจะถือคำมั่นสัญญานี้ไว้ตราบชั่วชีวิต”
" />
" />
" /> " /> " />
 
    หลังจากที่ให้คำมั่นต่อกันแล้ว พระเจ้าจุลนีก็มีพระดำรัสถามมโหสถว่า “พ่อบัณฑิต เธอเปี่ยมด้วยกำลังสติปัญญาถึงเพียงนี้ เหตุไฉนเธอจึงไม่ยึดเอาราชสมบัติของเราเสียเล่า”
" />
 
    มโหสถทูลตอบว่า “ขอเดชะ ถ้าหม่อมฉันประสงค์จะได้ราชสมบัติของพระองค์จริงๆ หม่อมฉันก็คงปลงพระชนม์พระราชาที่เหลือเสียในวันนี้ แต่ที่หม่อมฉันไม่ยอมทำเช่นนั้น เพราะตระหนักดีว่า การทำลายชีวิตผู้อื่นเพื่อหวังทรัพย์ และยศเพื่อตน บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่สรรเสริญเลย พระพุทธเจ้าข้า”
 
    พระเจ้าจุลนีตรัสว่า “พ่อบัณฑิต พระราชาทั้งหมดและข้าราชบริพารของเรา บัดนี้ถูกขังอยู่ในอุโมงค์ พากันส่งเสียงร้องระงมอยู่ด้วยความกลัวตาย ขอเธอจงเปิดประตูอุโมงค์ เพื่อให้ชีวิตเป็นทานแก่เขาเหล่านั้นเถิด”
 
“ได้สิพระเจ้าค่ะ” ว่าแล้วมโหสถก็เปิดไกยนต์ที่ควบคุมประตูอุโมงค์ทั้งหมด
ประตูทุกบานจึงถูกเปิดออก พร้อมกับแสงไฟที่สว่างพรึบขึ้นในทันที พระราชารวมทั้งเหล่าข้าราชบริพารที่ติดอยู่ในอุโมงค์ เมื่อทราบว่าพวกตนรอดชีวิตแน่แล้ว ก็พากันโห่ร้องด้วยความดีใจ
" />
" />
" />
 
" />
    ครั้นแล้ว ก็รีบกรูออกจากอุโมงค์อย่างไม่รีรอ “โอ...พ่อมโหสถ นี่ถ้าท่านไม่เปิดประตูอุโมงค์อีกเพียงครู่เดียว เราทั้งหมดก็จักต้องตายอยู่ในอุโมงค์อย่างแน่นอน แต่เป็นเพราะท่านยอมไว้ชีวิตพวกเรา เราทั้งหมดถึงได้รอดชีวิตมาได้” พระราชาเหล่านั้นตรัสขอบคุณมโหสถด้วยความจริงใจ
" />
 
" />
  
มโหสถกราบทูลว่า “ข้าแต่มหาราช พระองค์ทั้งหลายโปรดอย่าทรงเข้าพระทัยว่า หม่อมฉันช่วยชีวิตพระองค์ไว้เฉพาะในครั้งนี้เท่านั้น เพราะแม้ในครั้งก่อน พระองค์ทรงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ได้ ก็เพราะอาศัยหม่อมฉันเช่นกัน”
" />
" />
 
    “เมื่อไหร่กัน พ่อบัณฑิต” พระราชาเหล่านั้นตรัสซัก
 
    “พระองค์ยังทรงระลึกถึง เมื่อครั้งที่พระเจ้าจุลนีทรงยึดราชสมบัติทั่วชมพูทวีป แล้วทรงจัดพิธีดื่มฉลองชัยบานได้หรือไม่ พระเจ้าข้า” มโหสถทูลตอบ
 
    พระราชาเหล่านั้นทรงรับว่า “จำได้สิพ่อบัณฑิต ก็ทหารของท่านมิใช่หรือที่พากันมารื้อถอนทำลายพิธีในครั้งนั้นเสียจนป่นปี้”
" />
 
    มโหสถจึงทูลว่า “นั่นแหละ พระเจ้าข้า ที่หม่อมฉันทูลว่าได้ช่วยเหลือพระองค์ไว้”
" />
 
    “อย่างไรกันพ่อบัณฑิต จงเล่าต่อไปซิ” พระราชาเหล่านั้นตรัสถามด้วยความสงสัย
 
    “ขอเดชะ พระเจ้าจุลนีทรงหลงคำทูลยุยงของเกวัฏ จึงคิดจะปลงพระชนม์พระองค์ทั้งหมด เพราะปรารถนาจะครองความเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว พระองค์จึงให้จัดสุราเจือยาพิษ เตรียมไว้ให้พระองค์ทรงดื่มฉลอง
" />
ร่วมกัน แม้ของเสวยก็ล้วนเจือยาพิษทั้งหมดไม่มีเว้น...
" />
 
" />
    หม่อมฉันทราบเรื่องนี้ จากทูตทหารที่คอยสืบความลับ จึงคิดว่าในเมื่อหม่อมฉันยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ปรารถนาจะเห็นพระองค์ทั้งหลายต้องมาสิ้นพระชนม์ลงอย่างน่าอนาถ
เมื่อไม่อาจนิ่งดูดายได้ จึงได้ส่งคน
" />
เข้าไปในพระราชอุทยานเพื่อทำลายพิธีนั้นเสีย เมื่อจัดการทำลายภาชนะทั้งหมดแล้ว พระองค์ก็ทรงอดดื่มสุราที่เตรียมไว้ จึงรอดพระชนม์มาได้จนถึงบัดนี้อย่างไรล่ะ พระเจ้าข้า”
" />
 
" /> " />
    ส่วนว่าเมื่อมโหสถบัณฑิต ได้เปิดเผยความลับในครั้งนั้นทั้งหมดแล้ว ฝ่ายพระเจ้าจุลนีซึ่งเป็นผู้สั่งการให้เจือยาพิษผสมในสุรา และของเสวยในครั้งนั้นเอง จะทรงแสดงอาการอย่างไรกับความผิดพลาดที่เคยทำมา โปรดติดตามตอนต่อไป
 
พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 186ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 186

ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 187ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 187

ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 188ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 188



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก