ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199


[ 8 ม.ค. 2553 ] - [ 18278 ] LINE it!

ทศชาติชาดก
เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี
ตอนที่ 199
 

    จากตอนที่แล้ว พระจุลนีราชกุมารมีธนูเสกข์เป็นเพื่อนเล่นคู่พระทัยแล้ว พระกุมารยังทรงสนิทสนมคุ้นเคยกับพระนันทากุมารี ซึ่งเป็นพระราชธิดาของพระเจ้ามัททราชมากเป็นพิเศษ

    เมื่อกาลล่วงไป ทั้งคู่ต่างทรงเจริญวัยขึ้น จากความสนิทสนมคุ้นเคยระหว่างกัน ก็ก่อตัวเป็นความรักความสิเน่หาในที่สุด พระเจ้ามัททราชครั้นทรงเห็นว่าเจ้าหญิงทรงสนิทสนมกับเจ้าชายจุลนีมาก ก็ยิ่งทรงสังเกตพฤติกรรมของเจ้าชายจุลนีอย่างใกล้ชิด ทรงดำริว่า “กุมารนี้มองทีไรก็ไม่เหมือนพ่อครัวเลยสักนิด รูปก็งามน่าเลื่อมใส กิริยาท่าทางช่างองอาจน่าเกรงขามเหลือเกิน ชะรอยกุมารนี้คงไม่ใช่บุตรของพ่อครัวเป็นแน่”

    จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าชายจุลนีทรงนำลูกข่างไปเล่นถึงบนพื้นพระราชมนเฑียร บังเอิญลูกข่างกลิ้งเข้าไปใต้ที่บรรทมน้อยซึ่งเป็นแท่นประทับพักผ่อนของพระราชา ซึ่งหากเป็นเด็กทั่วไป ก็จะต้องรีบคลานเข้าไปเก็บของเล่นทันที แต่เจ้าชายจุลนีหาได้ทรงทำเช่นนั้นไม่ ทรงดำริว่า “เราจะไม่เข้าไปใต้ที่บรรทมของพระราชานี้เป็นอันขาด” แล้วก็ทรงเที่ยวหาไม้มาเขี่ยลูกข่างออกจากที่บรรทมน้อย จากนั้นจึงค่อยหยิบลูกข่างขึ้นมา

    พระเจ้ามัททราชทรงทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ก็ทรงมั่นพระทัยว่า “จุลนีต้องไม่ใช่ลูกพ่อครัว แต่ต้องเป็นพระโอรสของกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งเป็นแน่”
 
    ในที่สุด พระองค์จึงตัดสินพระทัยเด็ดขาด รับสั่งเรียกพ่อครัวมาเฝ้า แล้วตรัสซักว่า “จงบอกเรามาตามตรงว่าจุลนีเป็นลูกใคร”
 
    พ่อครัวสะกดกลั้นความรู้สึกไว้ แล้วทูลว่า “ขอเดชะ จุลนีเป็นลูกของหม่อมฉันเองพระเจ้าข้า”
 
“ไม่มีประโยชน์อะไรที่เจ้าจะมาปิดบังเรา จงบอกความจริงมาดีกว่า”
“เป็นลูกของหม่อมฉันจริงๆพระเจ้าข้า” พ่อครัวยังคงยืนยัน
“เจ้าโกหกข้า”
 
    ว่าแล้ว พระองค์ก็หยิบพระขรรค์เงื้อขึ้น พลางทรงขู่ว่า “เจ้าจงดูความคมของพระขรรค์เล่มนี้ หากเจ้าไม่บอกข้า ข้าก็จะฟันเจ้าเสียเดี๋ยวนี้แหละ”

    พ่อครัวตัวสั่นหน้าซีด คำมั่นปฏิญญาที่เคยได้ถวายไว้กับพระนางสลากเทวี บัดนี้ได้พ่ายแพ้ต่อคำขู่ของพระเจ้ามัททราชเสียแล้ว

   ในที่สุด พ่อครัวก็จำยอมต้องเปิดเผยความจริงทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมั่นใจลึกๆว่า พระเจ้ากรุงมัททราชมีพระราชอัธยาศัยประกอบด้วยพระเมตตา ถึงอย่างไรพระองค์ก็จะไม่ทรงกระทำอันตรายพระราชกุมารอย่างแน่นอน

    เหตุการณ์เป็นจริงอย่างที่พ่อครัวคาดคิด เมื่อพระราชาได้สดับเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ท้าวเธอก็ทรงตรัสรับรองว่าจะไม่ทำอันตรายใดๆทั้งสิ้น หลังจากที่ทรงทราบฐานะที่แท้จริงของพระจุลนีราชกุมารแล้ว พระเจ้ามัททราชก็ทรงเล็งเห็นการณ์ไกลเกินกว่าที่พ่อครัวจะคาดถึง ทรงเชื่อมั่นว่า อีกไม่ช้าเจ้าชายจุลนีก็จะต้องกลับไปครองกรุงปัญจาลนครในอนาคตอย่างแน่นอน

    ดังนั้น เมื่อทั้งสองเจริญวัยขึ้นจนถึงวัยอันสมควร ท้าวเธอจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า อภิเษกเจ้าชายจุลนีกับพระราชธิดาอย่างสมพระเกียรติตามโบราณขัตติยราชประเพณี

    ในยามนั้น เจ้าชายจุลนีทรงลืมฉัพภิพราหมณ์ผู้ทรยศ ลืมความสำราญในปัญจาลนครไปชั่วคราว ทรงมีแต่พระนางนันทาเท่านั้นอยู่ในพระราชหฤทัย

   นับแต่นั้นมา เจ้าหญิงนันทาก็ทรงเป็นที่โปรดปรานของเจ้าชายจุลนีตลอดเรื่อยมา แม้เจ้าชายจุลนีจะเสด็จกลับไปครองบัลลังก์แห่งปัญจาลนครแล้วก็ตาม พระนางก็ยังคงติดตามพระสวามีดุจดังพระฉายาที่ไม่อาจพรากจากกัน และเพราะเหตุนี้เอง พระแม่เภรีจึงได้ทูลถามพระเจ้าจุลนีว่า “พระนางนันทาเทวีทรงมีโทษอะไร เหตุใดพระองค์จึงทรงคิดจะประทานพระนางให้แก่ผีเสื้อน้ำเป็นลำดับที่สอง”

    พระเจ้าจุลนีทรงสดับคำของพระแม่เภรีแล้ว ก็ตรัสตอบตรงๆว่า “พระแม่เจ้า ความงามและความดีของพระเทวีนั้น ปรากฏเป็นที่ประทับใจฉันตลอดเรื่อยมา ข้อนี้ฉันทราบดี แต่โทษบางประการของนันทาก็มีอยู่นะพระแม่เจ้า คือ นันทามักขอสิ่งที่ไม่น่าจะขอ ในเวลาที่ไม่ควรขอเลย โดยเฉพาะในยามที่ฉันร่วมอภิรมย์กับนาง ขณะที่ฉันกำลังเคลิบเคลิ้มด้วยอำนาจแห่งความปรารถนา นางก็จะฉวยโอกาสนั้นขอเครื่องประดับและสิ่งของมีค่าซึ่งฉันได้มอบให้แก่ภรรยาและบุตรธิดาคนอื่นๆไปแล้ว

    แต่พอนางเอ่ยปากขอทีไร ด้วยความรักที่มีต่อนาง ฉันก็พลั้งปากมอบให้ตามที่นางขอทุกคราวไป แล้วพอรุ่งเช้า นางก็ไปยื้อแย่งสิ่งของเหล่านั้นมาจากคนที่ฉันให้ไปแล้ว อ้างว่าฉันให้นางแล้ว

    สุดท้าย คนที่กลุ้มอกกลุ้มใจมากที่สุดก็คือฉัน ฉันต้องเสียใจทุกๆครั้งที่คนเหล่านั้นพากันร้องไห้ฟูมฟายมาหา เพราะเหตุที่ไม่ได้รับความยุติธรรม

    นันทาก็เป็นเสียอย่างนี้ ทำให้ฉันลำบากใจไม่เว้นวาย เพราะโทษนี้แหละ ถ้าผีเสื้อน้ำจะบังคับให้ฉันส่งคนให้มันอีก ฉันก็จะให้นันทาเทวีนี่แหละ”

    พระแม่เภรีถวายพระพรต่อไปว่า “ขอถวายพระพร ติขิณมนตรีพระอนุชาของมหาบพิตร ทรงมีอุปการคุณกับมหาบพิตรไม่น้อยเลย พระองค์ทรงเป็นยอดขุนพล เป็นยอดนายขมังธนู เป็นจอมทหารผู้แกล้วกล้า ทั้งพระปรีชาก็ล้ำเลิศ

    ราชบัลลังก์ที่มหาบพิตรได้ครอบครองในบัดนี้ ตลอดจนแสนยานุภาพของกองทัพปัญจาลนคร รวมทั้งดินแดนที่แผ่ออกไปกว้างใหญ่ไพศาลตลอดทั่วชมพูทวีป ก็เพราะฝีพระหัตถ์และพระปรีชาญาณของพระอนุชาติขิณมนตรีโดยแท้

    มหาบพิตรคงจะทรงอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ในอดีตได้ดี อาตมาจึงใคร่จะทราบเหตุผลของมหาบพิตรว่า มหาบพิตรเห็นโทษอะไร เหตุใดถึงทรงดำริว่า จะพระราชทานพระอนุชาให้แก่ผีเสื้อน้ำเป็นลำดับที่สาม ขอถวายพระพร”

    ส่วนว่า พระเจ้าจุลนีจะทรงอธิบายถึงสาเหตุที่พระราชทานพระอนุชาติขิณมนตรีให้แก่ผีเสื้อน้ำเป็นลำดับที่สามอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200

ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201

ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก