ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200


[ 12 ม.ค. 2553 ] - [ 18274 ] LINE it!

ทศชาติชาดก
เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี
ตอนที่ 200
 

    จากตอนที่แล้ว เมื่อพระราชาได้ทรงทราบฐานะที่แท้จริงของพระจุลนีราชกุมารแล้ว ทรงเชื่อมั่นว่าอีกไม่ช้า เจ้าชายจุลนีก็จะต้องกลับไปครองกรุงปัญจาลนครในอนาคตอย่างแน่นอน ท้าวเธอจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าอภิเษกเจ้าชายจุลนีกับพระราชธิดาอย่างสมพระเกียรติ

    นับแต่นั้นมา แม้เจ้าชายจุลนีจะเสด็จกลับไปครองบัลลังก์แห่งปัญจาลนครแล้วก็ตาม พระนางนันทาเทวีก็ยังคงติดตามพระสวามีดุจดังพระฉายาที่ไม่อาจพรากจากกัน เพราะเหตุนี้เอง พระแม่เภรีจึงได้ทูลถามพระเจ้าจุลนีว่า “พระนางนันทาเทวีทรงมีโทษอะไร เหตุใดพระองค์จึงทรงคิดจะประทานพระนางให้แก่ผีเสื้อน้ำเป็นลำดับที่สอง”

    พระเจ้าจุลนีก็ตรัสตอบตรงๆว่า “พระแม่เจ้า โทษของนันทา คือ นางมักขอสิ่งที่ไม่น่าจะขอ ในเวลาที่ไม่ควรขอเลย ทำให้ฉันลำบากใจไม่เว้นวาย เพราะโทษนี้แหละ ถ้าผีเสื้อน้ำจะบังคับให้ฉันส่งคนให้มันอีก ฉันก็จะให้นันทาเทวีนี่แหละ”

    พระแม่เภรีทูลถามต่อไปว่า “ขอถวายพระพร ติขิณมนตรีพระอนุชาของมหาบพิตร ทรงมีอุปการคุณกับมหาบพิตรไม่น้อยเลย อาตมาจึงใคร่จะทราบเหตุผลของมหาบพิตรว่า มหาบพิตรเห็นโทษอะไร เหตุใดถึงทรงดำริว่าจะพระราชทานพระอนุชาให้แก่ผีเสื้อน้ำเป็นลำดับที่สาม ขอถวายพระพร”

    เหตุที่พระแม่เภรีทูลถามพระเจ้าจุลนีดังนี้ ก็ด้วยปรารถนาจะให้ท้าว เธอทรงอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ในอดีต เมื่อครั้งที่พระอนุชาติขิณมนตรีสามารถประหารฉัพภิพราหมณ์ผู้ทรยศ แล้วนำราชสมบัติแห่งปัญจาละมาถวายคืนแด่เจ้าชายจุลนี ซึ่งมีเรื่องเล่าต่อเนื่องจากคำถามข้อที่แล้ว ดังนี้

    กล่าวถึงพระนางสลากเทวี ภายหลังจากที่พระนางฝากพ่อครัวให้นำพระกุมารจุลนีหนีไปยังแคว้นอื่นด้วยอุบายนั้นแล้ว ต่อมาไม่นาน พระนางก็ได้ประสูติพระโอรสอีกพระองค์หนึ่ง ฉัพภิพราหมณ์ไม่ได้ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า พระเทวีทรงพระครรภ์กับพระเจ้ามหาจุลนีอยู่ก่อนแล้ว จึงสำคัญผิดคิดว่าพระติขิณกุมารที่เพิ่งประสูตินั้นเป็นโอรสของตน จึงให้การบำรุงเลี้ยงดูอย่างดี และหมายมั่นว่า ราชกุมารนี้แหละจะเป็นผู้สืบราชสันตติวงศ์ต่อไป แม้ติขิณกุมารเองก็สำคัญมั่นในพระทัยว่าฉัพภิพราหมณ์เป็นพระราชบิดาของพระองค์ จึงทรงปฏิบัติราชกิจด้วยความจงรักภักดีต่อฉัพภิพราหมณ์

    พระติขิณกุมารได้ศึกษาศิลปวิทยาทุกอย่างเพื่อประโยชน์ในการปกครองบ้านเมือง จนกระทั่งสันทัดจัดเจนในวิชาการรบและปกครอง นำความปราโมทย์มาให้แก่ฉัพภิพราหมณ์เป็นอย่างมาก จนถึงกับมอบพระขรรค์ชนิดพิเศษให้แก่ราชกุมารเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับพระองค์ แม้ในขณะเข้าเฝ้าก็สามารถนำพระขรรค์นั้นติดตัวไปได้

    ในจำนวนอำมาตย์ที่รับใช้อยู่ในราชสำนักของฉัพภิพราหมณ์นั้น ยังมีอำมาตย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งยังมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์กษัตริย์จุลนีเสมอมาอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย ยิ่งได้เห็นการกระทำของฉัพภิพราหมณ์ที่พยายามเกลี้ยกล่อมบรรดาข้าราชบริพารทั้งหลายให้หันมาภักดีต่อตนด้วยการเอาทรัพย์เข้าล่อ ก็ยิ่งโหมกระพือความรู้สึกอยากจะแก้แค้นฉัพภิพราหมณ์ให้เพิ่มมากขึ้น จึงได้คอยหาทางกำจัดฉัพภิพราหมณ์ผู้ทรยศตลอดมา

    หลังจากที่ได้เก็บงำความลับในวังมานานหลายสิบปี อำมาตย์ผู้ใหญ่ท่านนี้เห็นว่า บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่พระติขิณกุมารจะได้ทราบความจริงทั้งหมดเสียที ดังนั้นจึงได้ขอเข้าเฝ้าเป็นการเฉพาะ แล้วทูลเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทรงทราบ

    ตอนแรก พระกุมารก็ยังทรงฉงนพระทัย จึงตรัสซักไซ้ไล่เลียง จนกระทั่งมั่นพระทัยว่า เรื่องที่อำมาตย์กราบทูลนั้นเป็นความจริง ครั้นทรงทราบดังนี้แล้ว จากความเคารพรักที่มีต่อฉัพภิพราหมณ์ในฐานะพระราชบิดา ก็กลับกลายมาเป็นความแค้นสุดขีด

    พระกุมารทรงกล้ำกลืนพระทัยยิ่งนัก รับสั่งด้วยเสียงสั่นระรัวว่า “ขอบใจในความภักดีของท่านมาก ตอนนี้ปล่อยให้มันเสพสุขไปก่อน อีกไม่ช้านานเท่าใดดอก มันก็จะได้ลิ้มรสความตายที่สาสมกับความผิดของมัน”
 
    ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งติขิณราชกุมารเจริญวัยขึ้น ก็ทรงดำริในพระทัยเสมอว่า “เราจะต้องหาทางประหารฉัพภิพราหมณ์ให้สำเร็จด้วยอุบายที่แนบเนียนที่สุด”

   กระทั่งเช้าวันหนึ่ง ก่อนที่จะเสด็จเข้าสู่ท้องพระโรง พระติขิณราชกุมารก็ทรงประทานพระแสงขรรค์ให้กับมหาดเล็กคนสนิท จากนั้นก็ออกอุบายให้มหาดเล็กอีกคนหนึ่ง พยายามหาเรื่องทะเลาะวิวาทกับมหาดเล็กคนสนิทซึ่งเป็นผู้อัญเชิญพระขรรค์นั้น

    เมื่อมหาดเล็กผู้อัญเชิญพระขรรค์มาถึงประตูท้องพระโรง ก็ถูกมหาดเล็กที่ยืนอยู่ใกล้ประตูขวางทางไว้ พลางกล่าวว่า “พระขรรค์ของเราหายไป ไหน ขอเราดูพระขรรค์ที่ท่านถือมาหน่อยซิ ทำไมช่างคล้ายกับของเราเหลือเกิน”

    มหาดเล็กคนสนิทรีบปฏิเสธว่า “ไม่ได้หรอก พระขรรค์นี้เป็นของพระกุมารติขิณต่างหาก ท้าวเธอทรงประทานให้เราอัญเชิญมา”

    มหาดเล็กที่ยืนอยู่หน้าประตูก็โต้ว่า “อะไรกัน ทุกครั้งพระองค์ก็ทรงนำมาเองมิใช่หรือไม่เห็นจะต้องมีใครอัญเชิญเลย อย่ามัวชักช้าอยู่เลย ไหน...เอามาให้เราดูหน่อยซิ”

   “ไม่ได้ๆ นี่เป็นพระขรรค์ของเจ้าชายจริงๆ เราไม่ได้ขโมยของเจ้า” มหาดเล็กผู้อัญเชิญพระขรรค์รีบแย้งอย่างไม่สบอารมณ์
 
    ในที่สุด มหาดเล็กทั้งสองก็เริ่มวิวาทกัน จนเสียงดังลั่น ได้ยินไปถึงในท้องพระโรง ติขิณราชกุมารสดับเสียงนั้นแล้ว ก็รับสั่งให้ราชบุรุษออกไปตรวจดู

    ราชบุรุษทราบความแล้ว ก็รีบกลับมารายงานให้พระกุมารทราบ ขณะนั้นฉัพภิพราหมณ์จึงหันไปถามพระกุมารว่า “นั่นมันเรื่องอะไรกันลูก”

    พระกุมารจึงกราบทูลว่า “พระแสงขรรค์ที่เสด็จพ่อโปรดพระราชทานแก่หม่อมฉัน บัดนี้มีผู้อ้างว่าเป็นเจ้าของ พระเจ้าข้า”

    “ลูกพูดอะไรกัน มีอย่างที่ไหน พ่อจะเอาของคนอื่นมาให้เจ้า ไหนเอามาให้พ่อดูซิ พ่อจำพระขรรค์นั่นได้” ฉัพภิพราหมณ์สั่ง

    ติขิณราชกุมารจึงให้ราชบุรุษอัญเชิญพระขรรค์มา แล้วพระกุมารก็ค่อยๆ ชักพระขรรค์นั้นออกจากฝัก ถือเข้าไปใกล้ฉัพภิพราหมณ์ ทำทีว่าจะแสดงให้ดู

    เมื่อเห็นฉัพภิพราหมณ์ก้มศีรษะลงมาเพื่อจะตรวจดูพระขรรค์นั้น พระราชกุมารก็มิได้รอช้า รีบฉวยโอกาสนั้นตัดศีรษะฉัพภิพราหมณ์ด้วยการฟันฉับเดียว ศีรษะของฉัพภิพราหมณ์ก็หลุดลงจากบ่า กลิ้งไปมาอยู่แทบพระบาทของพระกุมารนั่นเอง ในที่สุดทรราชย์แห่งปัญจาลนครก็ถึงกาลอวสานด้วยคมพระขรรค์ของตนเอง

    ภายหลังประหารฉัพภิพราหมณ์สำเร็จแล้ว ติขิณราชกุมารทรงสั่งให้ราชบุรุษนำร่างของฉัพภิพราหมณ์ออกไปให้พ้นท้องพระโรง แล้วชำระท้องพระโรงให้สะอาดดังเดิม ตลอดทั้งพระนครก็ให้ประดับประดาอย่างงดงาม เพื่อประกาศข่าวดีว่า บัดนี้จอมทรราชย์ผู้ล้มล้างบัลลังก์ของพระราชบิดามหาจุลนีได้ถูกประหารสิ้นชีพแล้ว

    เวลานั้น อำมาตย์ทั้งหลายต่างลงความเห็นว่า จะถวายพระราชบัลลังก์แห่งปัญจาลนครคืนให้แก่พระติขิณกุมาร ส่วนว่าพระติขิณกุมารนั้นจะรับตำแหน่งนี้หรือไม่ แล้วทำไมพระเจ้าจุลนีถึงได้มาปกครองเมืองปัญจาลแทน เหตุการณ์การณ์จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป 

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201

ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202

ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก