ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202


[ 28 ม.ค. 2553 ] - [ 18278 ] LINE it!

ทศชาติชาดก
เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี
ตอนที่ 202
 

 
    จากตอนที่แล้ว พระเจ้าจุลนีตรัสถึงโทษของพระติขิณมนตรี โทษของธนูเสกข์ และโทษของพราหมณ์เกวัฏ เรียบร้อยแล้ว พระแม่เภรีจึงทูลถามพระเจ้าจุลนีว่า “ส่วนคนที่หกที่มหาบพิตรจะส่งให้ผีเสื้อน้ำเป็นคนสุดท้าย ก็คือมหาบพิตรเอง มหาบพิตรทรงเห็นคุณของมโหสถบัณฑิตอย่างไร จึงทรงตัดสินพระทัยกระทำสิ่งที่ทำได้ยากถึงเพียงนั้น ขอถวายพระพร”

    พระเจ้าจุลนีจึงทรงประกาศคุณความดีของมโหสถบัณฑิตขึ้นว่า “นับแต่มโหสถบัณฑิตเข้ามารับราชการในราชสำนักของฉัน ฉันยังไม่เคยเห็นมโหสถทำความชั่วเลยแม้แต่น้อย แม้ฉันจะต้องตายในวันนี้ก็ตามทีเถิด มโหสถย่อมจะคอยคุ้มครองปกป้องลูกหลานของฉันให้อยู่เป็นสุขไปอีกนาน ด้วยเหตุนี้แหละ ฉันจึงไม่ยอมส่งมโหสถบัณฑิตผู้ไร้โทษให้แก่ผีเสื้อน้ำเป็นอันขาด”
 
    พระแม่เภรีได้นำพระดำรัสของพระเจ้าจุลนี ไปแจ้งให้มโหสถทราบ มโหสถทราบเช่นนั้น ก็มีความปลื้มปีติยินดียิ่งนัก ความคลางแคลงใดๆที่มีอยู่ ก็พลันมลายไปสิ้น พระแม่เภรีคิดว่า “บัดนี้เกียรติคุณของท่านมหาบัณฑิตได้เป็นที่ประจักษ์แก่เหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายแล้ว แต่เกียรติคุณของท่านมหาบัณฑิตจะปรากฏเพียงนี้หาควรไม่ เราจักต้องทำให้ปรากฏในท่ามกลางชาวเมืองทั้งสิ้น ให้เป็นประหนึ่งว่าประพรมน้ำมนต์รดทั่วมหาสมุทรทีเดียว”

 
    พระแม่เภรีดำริแล้ว ก็ได้ทูลเชิญเสด็จพระเจ้าจุลนีลงจากพระมหาปราสาท ให้จัดเตรียมพระราชอาสน์ถวาย ณ พระลานหลวง เชิญเสด็จประทับเหนือพระพระราชอาสน์ แล้วประกาศให้ชาวเมืองมาประชุมกัน ครั้นแล้วพระแม่เภรีก็ได้ทูลถามปัญหาเรื่องผีเสื้อน้ำนั้นในท่ามกลางชาวเมืองปัญจาลนครอีกวาระหนึ่ง พระเจ้าจุลนีก็มีพระดำรัสตอบเหมือนเช่นครั้งก่อน

    เมื่อพระเจ้าจุลนีตรัสจบลง พระแม่เภรีก็ได้ถือโอกาสนั้นประกาศให้ชาวปัญจาลนครทราบโดยทั่วกันว่า “ชาวปัญจาละทั้งหลาย บัดนี้ท่านทั้งหลายได้ยินแล้วมิใช่หรือว่า เจ้าเหนือหัวของพวกเราทรงมีพระดำรัสเช่นไร อย่าว่าแต่จะทรงสละชีวิตของพระมารดา พระมเหสี พระอนุชา พระสหาย และพราหมณ์เกวัฏเลย แม้แต่พระชนม์ชีพของพระองค์เอง พระองค์ก็ย่อมทรงสละได้เพื่อปกป้องมโหสถบัณฑิต ซึ่งนับว่าเป็นการสละสิ่งที่สละได้โดยยาก

    ท่านทั้งหลายคงเห็นทั่วกันแล้วว่า ปัญญามีประโยชน์ใหญ่หลวง เป็นสิ่งละเอียด เป็นเหตุให้คนเรามีความคิดในทางที่ดี ในทางที่จะยังประโยชน์ให้สำเร็จ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลในปัจจุบัน และเพื่อความสุขในภายภาคหน้า ดังเช่นมโหสถบัณฑิต ซึ่งเป็นยอดแห่งมหาบัณฑิตผู้อุดมด้วยปัญญาอันประเสริฐ”

    พระแม่เภรีประกาศเกียรติคุณของท่านมหาบัณฑิต ให้ขจรขจายตลอดปัญจาลนครแล้ว ก็ได้แสดงธรรมโปรดชาวปัญจาละให้เห็นคุณอันมหาศาลของปัญญาตามนัยดังได้กล่าวมานี้
 
 
    หากจะย้อนสำรวจความเป็นไปของท่านมหาบัณฑิต นับแต่เข้ารับราชการในราชสำนักมิถิลานครเป็นต้นมา กระทั่งได้รับการสถาปนาในตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแห่งวิเทหรัฐ แล้วต่อมาก็ได้รับมอบตำแหน่งเสนาบดีแห่งปัญจาลนคร ให้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารและปกครองรัฐทุกภาคส่วน

    ตลอดชีวิตของมโหสถนั้น ท่านได้ผ่านงานสำคัญที่นับว่าหนักหน่วงและท้าทายสติปัญญาความสามารถของท่านตลอดเรื่อยมา ก่อนนั้นท่านได้เอาชีวิตและบ้านเมืองของตนเป็นเดิมพัน ช่วยปกป้องคุ้มครองกษัตริย์ทั่วทั้งชมพูทวีปให้รอดพ้นจากแผนการอันชั่วร้ายของปุโรหิตเกวัฏ โดยการทำลายพิธีชัยบานซึ่งเป็นชนวนสงครามระหว่างมิถิลานครและปัญจาลนคร

    ต่อมา ท่านได้อาศัยปัญญาบารมีที่สั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วน นำพามิถิลานครให้รอดพ้นจากความเป็นประเทศราช ภายใต้การรุกรานอย่างห้าวหาญของกองทัพอันมหึมา 18กองทัพ ที่พระเจ้าจุลนีกรีธาทัพมาประชิดถึงกำแพงมิถิลานคร และด้วยอาศัยความกตัญญูที่มีอยู่เต็มเปี่ยมภายในใจของท่านมหาบัณฑิต ท่านจึงอาสาไปปกป้องพระเจ้าวิเทหราชให้รอดพ้นจากเงื้อมหัตถ์ของพระเจ้าจุลนี แล้วพาพระองค์กลับสู่มิถิลานครโดยสวัสดิภาพ 

    ที่สำคัญ ท่านมหาบัณฑิตยังสามารถกำราบพระเจ้าจุลนีลงอย่างราบคาบด้วยปรีชาญาณอันล้ำเลิศ โดยที่มิต้องสูญเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด ชีวิตของท่านมหาบัณฑิต จึงนับเป็นชีวิตที่มีคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวง สมกับที่ท่านเป็นพระบรมโพธิสัตว์ ผู้เกิดมาพร้อมกับนำความสุขความเจริญรุ่งเรืองมาสู่โลกอย่างแท้จริง

    ในยามบั้นปลายของชีวิต ท่านมหาบัณฑิตยังคงดำรงตำแหน่งเสนาบดีแห่งปัญจาลนคร สร้างสมคุณงามความดีอย่างมากมายสุดที่จะพรรณนาได้หมดสิ้น ท่านมีความสุขเกษมศานต์ในราชสำนักของพระเจ้าจุลนีตลอดเรื่อยมา จนตราบถึงกาลอวสานแห่งชีวิต
 
    พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสเล่าเรื่องราวในอดีตชาติของพระองค์จบแล้ว ก็ทรงประชุมชาดกว่า...
 
    พระเจ้าวิเทหราชในบัดนั้น ได้มาเป็นกาฬุทายีภิกษุในบัดนี้
    พระนางอุทุมพรเทวีในบัดนั้น ได้มาเป็นโคตมีภิกษุณีในบัดนี้  
    เสนกะบัณฑิตในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระมหากัสสปะในบัดนี้
    ปุกกุสะในบัดนั้น ได้มาเป็นโปฏฐปาทภิกษุในบัดนี้
    กามินทะในบัดนั้น ได้มาเป็นอัมพัฏฐภิกษุในบัดนี้
    เทวินทะในบัดนั้น ได้มาเป็นโสณทัณฑกภิกษุในบัดนี้
    สิริวัฒกะเศรษฐีในบัดนั้น ได้มาเป็นพระเจ้าสุทโธทนมหาราชในบัดนี้
    นางสุมนามารดาของมโหสถในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระนางสิริมหามายาในบัดนี้
    นางอมราเทวีในบัดนั้น ได้มาเป็นยโสธราพิมพาภิกษุณีในบัดนี้
    พระเจ้าจุลนีในบัดนั้น ได้มาเป็นพระสารีบุตรในบัดนี้
    พราหมณ์เกวัฏในบัดนั้น ได้มาเป็นพระเทวทัตในบัดนี้
    พราหมณ์อนุเกวัฏในบัดนั้น ได้มาเป็นพระมหาโมคคัลลานะในบัดนี้
    พระนางสลากเทวีในบัดนั้น ได้มาเป็นถูลนันทิกาภิกษุณีในบัดนี้
    พระนางปัญจาลจันทีในบัดนั้น ได้มาเป็นสุนทรีภิกษุณีในบัดนี้
    ปัญจาลจันทกุมารในบัดนั้น ได้มาเป็นพระอนุรุทธะในบัดนี้      
    ติขิณราชกุมารในบัดนั้น ได้มาเป็นพระฉันนะในบัดนี้
    ธนูเสกข์ในมาบัดนั้นได้มาเป็นพระราหุลในบัดนี้
    พระแม่เภรีในบัดนั้น ได้มาเป็นอุบลวรรณาภิกษุณีในบัดนี้
    นกแขกเต้าสุวบัณฑิตในบัดนั้น ได้มาเป็นพระอานนท์ในบัดนี้
    นางนกสาลิกาในบัดนั้น ได้มาเป็นพระนางมัลลิกาเทวีในบัดนี้
    ส่วนมโหสถบัณฑิตในบัดนั้น ก็ได้มาเป็นเราตถาคตนี้แลฯ
 
 
   เรื่องราวการสร้างบารมีของพระบรมโพธิสัตว์ ในพระชาติที่เกิดมาเป็น มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ก็ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว ชีวิตของท่านเป็นชีวิตของผู้ที่มีปัญญา และประกอบพร้อมไปด้วยคุณธรรมที่สมควรเอาเป็นแบบอย่างแห่งการสร้างความดี เพราะตลอดชีวิตของท่านนั้นสร้างความดีมาตลอด คุณธรรมที่เห็นชัดเจนมากในเรื่องนี้คือ การใช้สติปัญญาอันชาญฉลาด เพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นทั่วทุกแว่นแคว้นทำให้มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ปราศจากการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน อีกทั้งมีความกตัญญูอันหาบุคคลอื่นเปรียบได้ยาก และยังมีความเมตตากรุณาหวังประโยชน์ต่อผู้อื่นเสมอ จึงเป็นที่น่าเสื่อมใสของผู้ที่ได้พบเห็น  เป็นที่รักใคร่ของผู้ที่อยู่ใกล้ชิด


 
    สติปัญญาอันชาญฉลาดนี้ ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย ไม่ใช่ผู้วิเศษแต่ที่ไหนจะบันดาลให้ แต่เป็นสิ่งที่ต้องสั่งสมกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน นี่จึงเป็นเหตุทำให้พระบรมโพธิสัตว์มีปัญญามาก

    เราจะเห็นได้ว่าการบำเพ็ญบารมีของพระบรมโพธิสัตว์ ครั้นที่ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ได้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการสร้างบารมี เพื่อทำประโยชน์ทั้งส่วนรวมและส่วนตัวให้สมบูรณ์ที่สุด

    ดังนั้น เราทั้งหลายจึงควรใช้สติปัญญาอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ในการคิด พูด ทำ เพื่อเร่งสั่งสมบุญบารมีร่วมกันในชาตินี้ให้เต็ม ด้วยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้ครบถ้วนทุกวัน แล้วอธิษฐานจิตให้รอบคอบ ชีวิตของเราก็จะมีแต่ความสุขความเจริญไปทุกภพทุกชาติ ตราบวันเข้าถึงที่สุดแห่งธรรม

    ในตอนต่อไป จะขอน้อมนำประวัติการบำเพ็ญบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระชาติที่พระองค์ได้เกิดเป็นพญานาค ภูริทัตนาคราช ผู้ยิ่งด้วยศีลบารมี ส่วนว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามในครั้งต่อไป 

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์

ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัยทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก