ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 10


[ 30 ส.ค. 2555 ] - [ 18277 ] LINE it!

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
ราชองครักษ์ชาตินักรบ
ตอนที่ 10
 
คำถาม
 
2.พุทธันดรที่ผ่านมา กระผมสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร บุพกรรมใดที่ทำให้ได้มาเทศน์สอนให้คนเข้าใจวัดและการสร้างบารมีของหมู่คณะครับ
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
ทันที่ที่ลูกไปถึงหน่วยทหารใหม่ที่ต้องไปดูแล ลูกก็เห็นได้จากภายนอกของป้อมปราการว่า ที่แห่งนี้เป็นป้อมทหารขนาดใหญ่ที่แลดูแข็งแรงใหญ่โตและเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน แต่สภาพของที่นี่กลับดูสกปรกไม่เป็นระบบระเบียบเรียบร้อยเอาเสียเลย ต้นไม้ก็ขึ้นระเกะระกะรุงรังไปทั่วทั้งแนวกำแพงป้อม อีกทั้งทหารทั้งหลายก็ขาดระเบียบวินัย แต่งกายก็ไม่เรียบร้อย
  • เมื่อลูกเห็นแบบนี้ก็รู้เลยว่า งานนี้หนักแน่ แต่อย่างไรก็ตาม ลูกก็ไม่ได้รู้สึกท้อถอยแต่อย่างใด กลับรู้สึกท้าทายมากกว่า เพราะนี่คือนิสัยชาตินักรบของลูก

  • ครั้นลูกได้มาพบเหล่านายกองและทหารทั้งหลายที่ลูกต้องมาดูแลแล้ว ลูกก็แนะนำตัวให้เองให้กับสมาชิกใหม่ทุกคนได้รู้จัก และยังได้ชี้แจงนโยบาย เป้าหมาย และภารกิจหน้าที่ต่างๆที่ได้รับมอบหมายจากส่วนกลาง ที่ส่งตัวลูกมาในครั้งนี้ก็เพื่อให้ดูแลกองทหารที่รักษาชายแดนแห่งนี้
  • พร้อมทั้งบอกอีกด้วยว่า เนื่องจากที่เห็นมานั้น ความหละหลวมในการดูแลความเรียบร้อย การละเลยระเบียบวินัยระเบียบปฏิบัติ จนทำให้พวกสายลักสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงในเขตของพระราชวังได้ ซึ่งลูกก็ต้องการให้กองทหารแห่งนี้เป็นด่านแรกที่จะเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นนั้นอีก

  • แต่พวกเหล่าทหารทั้งหลายในกองกลับมองว่า ลูกคงเป็นพวกทหารหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งย้ายมาจากเมืองหลวง ที่พกเอาความมุ่งมั่นสุดๆติดตัวมาด้วย ใหม่ๆก็คงจะเป็นอย่างนี้ ต่างจึงมีความรู้สึกว่ามาอยู่ชายแดนที่มีความลำบากแบบนี้ เดี๋ยวก็ถอดใจขอย้ายกลับเมืองหลวงไปเอง ว่าแล้วเหล่าทหารก็เออออไปตามสภาพ ตามที่เจ้านายใหม่มาบอก แต่ก็ไม่ได้เชื่อมั่นอะไรมากมายในตัวลูก

  • แม้ในช่วงที่ลูกมารับหน้าที่ใหม่จะเป็นฤดูฝน ซึ่งปีนี้มีฝนตกชุกมากติดต่อกันมาตลอด บรรยากาศเย็นสบายน่าพักผ่อน แต่ลูกก็หาได้พักผ่อนเช่นนั้นไม่ กลับเริ่มงานแรกโดยให้เหล่าทหารทั้งหลายทำความสะอาดในเขตป้อมทหารและเขตที่พักให้สะอาดเรียบร้อย และให้ทุกคนดูแลกวดขันตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน โดยเริ่มจากเรื่องการแต่งตัวให้เรียบร้อย แม้จะเปียกฝนก็ต้องดูดีอยู่เสมอ ซึ่งตัวลูกเองก็ได้ทำเป็นแบบอย่างให้พวกทหารลูกน้องของลูกดูด้วย

  • ทำให้ทหารเหล่านั้นเริ่มหันมามองว่า ลูกก็เป็นผู้นำที่ดีเหมือนกัน ที่ไม่ได้สั่งการให้คนอื่นทำอย่างเดียวแต่ตัวเองไม่ทำ เรียกได้ว่า ลูกเป็นผู้นำที่มีลักษณะพูดให้ทำ นำให้ดู อยู่ให้เป็นกำลังใจ และตัวลูกก็มักจะย้ำกับทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชาอยู่เสมอว่า เป็นทหารต้องมีระเบียบวินัยเป็นพื้นฐาน ต้องเคารพเชื่อฟังคำสั่งและเคร่งครัดในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งตัวลูกเองก็ทำเป็นตัวอย่าง และได้ไปตรวจตราทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็จะเห็นลูกอยู่กับลูกน้องเสมอๆ ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออก

  • ซึ่งในช่วงแรกๆ ลูกก็มักจะเจอพวกทหารที่ยังหละหลวมในหน้าที่อยู่บ้าง เพราะต่างก็คิดว่าบ้านเมืองของเราสงบสุขมานานแล้ว อีกทั้งยังเป็นแคว้นที่เป็นมหาอำนาจอีกด้วย คงไม่มีใครกล้ามารุกราน เนื่องจากคิดกันอย่างนี้ จึงหละหลวมอยู่บ้าง ทำให้ลูกจำเป็นต้องลงโทษทหารเหล่านั้นเพื่อไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
  • สถานการณ์ต่างๆก็ค่อยๆดีขึ้น และลูกน้องคนสนิทของลูกทั้งสองคนก็ได้ทำหน้าที่ช่วยลูกเป็นอย่างดี โดยใช้ความสามารถพิเศษเฉพาะตัว คือ การมีวาทศิลป์ เข้าไปตีสนิทกับทหารทั้งหลายในพื้นที่ และเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่วนตัวให้กับลูกอีกด้วย โดยเข้าไปคุยและอธิบายชี้แจงให้พวกทหารทั้งหลายเข้าใจในตัวลูกมากยิ่งขึ้นว่า...
  • เจ้านายใหม่รักและหวังดีกับทุกๆคนอย่างไร อยากให้ทุกคนมีความพร้อมที่จะรักษาบ้านเมือง มีความพร้อมในการรบ เพราะในที่แห่งนี้เราต้องพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับข้าศึกตลอดเวลา จึงต้องเข้มงวดกับเหล่าทหารทุกคนแม้กระทั่งตัวเอง ซึ่งพวกทหารทั้งหลายก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ทำตัวดีขึ้นทุกคน
และแล้วก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น...
  • ในช่วงที่ลูกไปรับตำแหน่งเป็นช่วงหน้าฝน มีฝนตกหนักตกชุกทุกวัน ถ้ามองออกไปนอกเมืองก็จะเห็นผืนป่าและแมกไม้นานาพันธุ์ประดับประดาด้วยใบไม้สีเขียว ดูชอุ่มชุ่มชื่นสดใสเป็นประกายระยิบระยับด้วยละอองแห่งเม็ดฝน ต้นไม้ทุกต้นก็ดูดีอกดีใจที่ได้ฝนจากฟ้า พวกกบพวกเขียดคางคกอึ่งอ่างก็ร่วมด้วยช่วยกันร้องประสานเสียงกันอย่างสนุกสนานเบิกบาน ส่วนพวกชาวบ้านก็ดีใจเช่นกันที่มีฝนตก เพราะทำให้ผลิตผลของพวกเขาเจริญงอกงาม ข้าวที่ปลูกไว้ก็ออกรวงมากมาย แม่น้ำก็มีน้ำเต็มตลิ่ง อะไรอะไรก็ดูดีไปหมด

  • แต่ฟ้าฝนกลับทำให้ลูกต้องง่วนกับการเก็บข้าวเก็บของเก็บอาวุธต่างๆและเสบียงเพื่อไม่ให้โดนฝน ไม่เช่นนั้นข้าวของที่ตากฝนอาจจะเสียหายหรืออาวุธอาจจะขึ้นสนิม เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างปลอดภัยจากฝนแล้ว ภารกิจต่อไปของลูกก็คือเข้าไปจัดระเบียบการจัดเก็บอาวุธต่างๆที่ปล่อยปละละเลยมานาน เพราะบ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งลูกก็ได้อบรมลูกน้องว่า “หากเกิดมีโจรหรือข้าศึกบุกเข้ามา ถ้าพวกเราไม่ตระเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อมก็เท่ากับว่าพวกเราจะเอาชีวิตไปทิ้งไว้เสียเปล่าๆ”

  • หลายอาทิตย์ต่อมา ฝนก็ยังหักโหมไม่หยุดพัก ตกหนักมาตลอดทั้งวัน ลูกน้องคนหนึ่งก็ได้วิ่งอย่างกระหืดกระหอบมาหาลูก สีหน้าดูตกใจมาก เขาได้บอกกับลูกว่า “เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วล่ะครับ ทางท่านข้าหลวงที่ดูแลเขตนี้ได้ส่งลูกน้องมาขอร้องทางเรา ให้ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านบริเวณเชิงเขา ซึ่งถูกโคลนจากภูเขาถล่มลงมาทับหมู่บ้านทั้งหมู่บ้าน ขอรับท่าน”

  • เมื่อลูกได้ฟังแล้วก็เห็นว่า นี่เป็นกรณีเร่งด่วนแบบสุดๆที่ต้องรีบไปช่วยชาวบ้าน แต่ว่าหมู่บ้านนี้อยู่ไกลจากตัวเมืองและหน่วยของลูกมาก ถ้าเดินไปกว่าจะถึงก็ต้องใช้เวลาหลายวัน ลูกจึงรีบสั่งการให้ลูกน้องของลูกเตรียมตัวเอาเครื่องไม้เครื่องมือและเสบียงอาหารเท่าที่จะขนไปได้ นำไปด้วย และให้เตรียมม้าไว้ให้พร้อม เพราะต้องรีบให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนที่สุด

  • เมื่อทุกอย่างตระเตรียมเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็ขี่ม้าไปที่หมู่บ้านนั้นทันที ลูกใช้เวลาในการเดินทางถึงสองวันสองคืนแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย จึงไปถึงสะพานข้ามแม่น้ำก่อนที่จะถึงหมู่บ้านนั้น สภาพของสะพานค่อนข้างจะง่อนแง่น เพราะถูกน้ำพัดตลอด ลูกไม่รู้จะทำอย่างไรดี เนื่องจากเวลาก็เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ ลูกและทีมงานต้องรีบไปช่วยเหลือชาวบ้านที่น่าสงสารให้ทัน
  • ลูกจึงตัดสินใจให้ทุกคนลงจากหลังม้า แล้วจูงม้าข้ามสะพานไปทีละคนด้วยความหวาดเสียว ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากแค่ไหนแต่หัวใจของทุกคนก็ไม่หวั่น กลับมีใจดวงเดียวกันและคิดอย่างเดียวว่า จะต้องมุ่งหน้าไปให้ถึงจุดหมายนั้นให้ได้ และในที่สุดกองทหารของลูกทั้งหมดก็ข้ามไปที่หมู่บ้านนั้นจนได้

  • เมื่อลูกและกองทหารมาถึงหมู่บ้านที่ถูกโคลนถล่มทับ ก็พบพวกชาวบ้านบางส่วนที่รอดชีวิตซึ่งได้รวมตัวกันอยู่ที่บริเวณนั้น ครั้นพวกชาวบ้านเห็นหมู่คณะของลูกมาถึงก็รู้สึกดีใจน้ำตาไหลพราก รีบเข้ามาบอกและขอร้องให้รีบไปช่วยคนอื่นๆที่เหลือด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนกันบ้าง

  • พอลูกได้ฟังดังนั้นก็ไม่รอช้า รีบสั่งให้ลูกน้องของลูกจัดตั้งศูนย์อำนายการฉุกเฉินและวางกำลังต่างๆ ทั้งที่ตั้งของหน่วยพยาบาลที่ให้ช่วยปฐมพยาบาลชาวบ้าน และจัดการแบ่งเสบียงต่างๆที่นำมาให้กับชาวบ้าน ซึ่งลูกก็ทำได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงให้แบ่งทหารออกเป็นส่วนๆและแยกย้ายออกไปตามหาชาวบ้านที่สูญหาย
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
มหาปูชนียาจารย์มหาปูชนียาจารย์

ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 11ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 11

ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 12ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 12



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม