ภูมิใจมากที่ได้บอกใครๆว่าเป็นชาวพุทธ

ผลการปฏิบัติธรรม

จากประเทศเม็กซิโก

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพเป็นอย่างสูง

ดิฉันชื่อ ไอรีน โรดส์ อายุ 37ปี มีอาชีพเป็นสไตลิสต์ ออกแบบทรงผม และเป็นผู้จัดการร้านทำผมที่มีชื่อเสียงในอเมริกาค่ะ ดิฉันเป็นชาวเม็กซิกัน-อเมริกัน เกิดและเติบโตที่เม็กซิโกซิติ้ เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก ก่อนจะย้ายมาอยู่อเมริกาเมื่ออายุ 18ปี แม้ว่าจะเติบโตมาในครอบครัวแคธอลิก แต่ดิฉันก็สงสัยใฝ่รู้ อยากค้นหาความจริงของชีวิตและศักยภาพของการเป็นมนุษย์

(แถวหน้าซ้าย) ไอรีน โรดส์ (Irene Rhoades)

เมื่อเติบโตขึ้น ดิฉันมีโอกาสได้พูดคุยกับบาทหลวง ทั้งๆที่ท่านก็ใจดีและอธิบายให้เข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธาในศาสนา แต่ดิฉันรู้สึกอยู่ในใจลึกๆว่า นี่ไม่ใช่วิถีทางที่แท้จริงที่ดิฉันเฝ้าเสาะหาที่จะค้นพบตัวเอง และจะช่วยให้ดิฉันพ้นทุกข์

ดิฉันปฏิบัติตัวเป็นคนดี มีคุณธรรมมาตลอด และเริ่มค้นหาความจริงอย่างไม่ย่อท้อ กระทั่งปี พ.ศ.2545 ดิฉันก็ได้พบสุภาพสตรีที่งดงามผู้หนึ่งชื่อ มาย มอริส ดิฉันเห็นเธอมีความสุขในทุกที่ที่เธอไป และรังสีแห่งความสุขของเธอก็ฉายไปทุกหนทุกแห่ง ดิฉันเข้าไปทักขณะที่เธออยู่ในท่าที่ดิฉันไม่คุ้นเคยมาก่อน และได้ถามเธอว่ากำลังทำอะไร เธอบอกว่ากำลังทำสมาธิ และสมาธิเป็นสิ่งที่ใครๆก็ทำได้ ไม่ว่าเชื้อชาติไหน มีความเชื่ออะไร จะได้ประโยชน์จากสมาธิทั้งสิ้น เธอแนะนำให้ดิฉันรู้จักวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ที่ดิฉันค้นพบสูตรลับของวิชาชีวิต พบแสงสว่างทางปัญญาและดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย

ขณะที่ดิฉันทำสมาธิ ก็มักจะเริ่มจากมืดตื้อเหมือนอยู่ในห้องมืด และเกิดเป็นแสงสว่างเหมือนมีใครเปิดไฟขึ้น ต่อมาแสงนั้นก็เริ่มใสและสว่างขึ้น ในบางครั้งแสงนั้นจะแผ่ขยายกว้างขึ้น และไม่รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไปว่านานเท่าไหร่แล้ว ดิฉันปลื้มมากที่ได้รู้จักศูนย์กลางกายค่ะ สิ่งที่ดิฉันแสวงหามานานอยู่ที่นี่เอง ดิฉันจรดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไร ทุกครั้งที่มีโอกาสดิฉันจะไม่เว้นแม้แต่วันเดียวที่จะแบ่งปันความรู้นี้ให้ผู้คน และภูมิใจมากที่ได้บอกใครๆว่า ดิฉันเป็นชาวพุทธ

พักกายพักใจ สไตล์เม็กซิโก

ดิฉันมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ในมโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปสู่ผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเม็กซิโกและประเทศต่างๆในอเมริกาใต้ ดังนั้น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม - 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 คณะจากวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนียและดิฉัน ก็ได้เดินทางไปจัดปฏิบัติธรรมที่ประเทศเม็กซิโกค่ะ

ในวันที่ได้รู้จักศูนย์กลางกาย

ถ่ายภาพร่วมกันแบบเป็นปลื้ม

ที่เม็กซิโกซิตี้ มีทั้งการปฏิบัติธรรมระยะสั้นและปฏิบัติธรรมสุดสัปดาห์ จำนวนห้าครั้ง มีผู้เข้าร่วมรวม 61คน และมีคุณเปโดร เฮอนานเดซ ครูสอนโยคะชาวเม็กซิกัน ได้อนุญาตให้ใช้สถานที่สอนโยคะของเขาเป็นที่รวมคน ทุกคนที่เข้าร่วมได้รับความสุขและความรู้ที่เป็นประโยชน์สามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต คุณเปโดร เฮอนานเดซ กล่าวว่า “การนั่งสมาธิเพื่อเข้าถึงวิชชาธรรมกายนั้นง่ายๆไม่เหมือนใคร และมีพลังจริงๆ”

คุณอันเดรีย ชาเวซ เล่าว่า “พอทำใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย นึกถึงภาพดวงแก้ว ก็เกิดความรู้สึกสงบ อบอุ่น มีความสุขบังเกิดขึ้น จากนั้นก็เห็นแสงสว่าง ความสว่างนั้นขยายวงออกไป แล้วก็รู้สึกถึงแรงดึงดูด พาตัวเองหล่นลงไปยังศูนย์กลางกาย”

(จากซ้ายไปขวา) คุณเปโดร เฮอนานเดซ (Pedro Hernandez) คุณอันเดรีย ชาเวซ (Andrea Chavez)

คุณกาเบรียล่า (Gabriela)

คุณกาเบรียล่า กล่าวว่า “ดิฉันเคยนั่งสมาธิมาก่อนบ้าง แต่ครั้งนี้ได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น รู้สึกว่าตัวเองนั่งไปก็ยิ้มไป และได้เห็นดวงแก้ว ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่า ตัวขยาย ทั้งกายและใจมีแต่ความสุขค่ะ”

ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 เราเดินทางต่อไปถึงสนามบินที่เมืองซาติโย่ มีผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง คือ ทีวี อัซเตก้า ที่รอทำข่าวประจำที่นั่นได้ขอสัมภาษณ์ โดยถามว่า “พระสงฆ์สองรูป มาทำอะไรที่นี่”

ดิฉันตอบนักข่าวไปว่า “พระสงฆ์มาสอนการทำสมาธิ เพราะสมาธิเป็นสิ่งสำคัญ จำเป็นที่พวกเราชาวเม็กซิกันต้องได้รับรู้ เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิต”

แล้วดิฉันก็ยังเชิญทุกคนที่สนใจ ให้ไปร่วมงานนี้ด้วยที่มหาวิทยาลัยสองแห่ง คือ

1.มหาวิทยาลัยซิเวสตาฟ ซึ่งมีนักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอก เจ้าหน้าที่ และอาจารย์ เข้าร่วมรวม 40ท่าน

2.มหาวิทยาลัยยูเอเอเอเอ็น ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรที่มีชื่อเสียงของรัฐโคฮุยลา มีนักศึกษา เจ้าหน้าที่ อาจารย์ เข้าร่วม 26ท่าน

ป้ายมหาวิทยาลัยซิเวสตาฟ (Cinvestav)

พระอาจารย์กำลังปลูกสัมมาทิฐิขึ้นในใจ

ทุกคนเริ่มเข้ากลางเป็นครั้งแรก

ซึ่งทั้งสองแห่งก็ได้ ดร.ชิเดนทรีย์ ตรีสัตยพันธ์ อาจารย์ชาวไทยในมหาวิทยาลัยซิเวสตาฟ และภรรยาของท่าน คือ คุณศศิรส ซึ่งกำลังต่อด็อกเตอร์อยู่ในมหาวิทยาลัยยูเอเอเอเอ็น เป็นผู้จัดรวบรวมคนให้ค่ะ นักศึกษาและอาจารย์ ต่างมีความประทับใจ และแสดงความสนใจที่จะเรียนรู้ต่อ ทั้งยังสอบถามและขอให้คณะกลับไปอีกด้วย

วันต่อมา จัดกันที่มหาวิทยาลัยยูเอเอเอเอ็น (UAAAN)

ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ก่อนเดินทางกลับจากมหาวิทยาลัย UAAAN

ดิฉันมีความหวังว่า การไปเยือนเม็กซิโกครั้งนี้ จะก่อให้เกิดการตื่นตัวขึ้นในหมู่ชาวเม็กซิกัน ดิฉันมีความเป็นห่วงพี่น้องชาวเม็กซิกัน อยากให้ทุกคนได้พบหนทางสว่างอย่างที่ดิฉันได้พบ และจะขอทำหน้าที่เป็นผู้นำสันติภาพไปสู่ประเทศเม็กซิโกและชาวโลกให้ได้

กราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

ไอรีน โรดส์