ได้ดีเพราะมีผู้นำสร้างความดี

 

        บรรยากาศการชวนสตรีผู้มีบุญมาบวช ของอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก จังหวัดที่ร้อนที่สุดในประเทศไทย การทำหน้าที่ก็กำลังร้อนเช่นกัน ยอดอุบาสิกาแก้วของศูนย์อบรมวัดนาโบสถ์พุ่งไปที่ 200กว่าคนแล้ว จากการทุ่มเททำหน้าที่ทุกวันโดยไม่หวั่นต่อรังสียูวี และกำลังใจที่แสนดีจากท่านเจ้าอาวาสวัดนาโบสถ์ พระครูโสภณธรรมนิเทศ อายุ 83ปี ที่ท่านยินดีให้ใช้สถานที่ได้เต็มที่ ขอเพียงให้ช่วยกันดูแลรักษาสมบัติพระศาสนาให้ดีที่สุด

 

        ทางด้านผู้นำชุมชนหลายๆท่านที่อำเภอวังเจ้า ก็ให้ความร่วมมือในโครงการนี้อย่างเต็มที่ ท่านปลัดอบต.นาโบสถ์ นายประโยชน์ แย้มชู ท่านยินดีให้การสนับสนุนโครงการนี้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำใช้ ทางอบต.ก็จะจัดให้วันละสองคันรถ น้ำปานะให้อุบาสิกาแก้ว อบต.ก็จัดให้ รวมถึงการสนับสนุนกำลัง และรถในการใช้รับส่งอุบาสิกาแก้วในวันเข้าอบรม อบต.ก็จัดให้อีกเช่นเดียวกัน

 

 

 

        ผู้ใหญ่บ้านส้มกลิ่น มีสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่สาม ตำบลปะดาง พอได้ทราบรายละเอียดโครงการ ก็มั่นใจในคุณภาพ ขอส่งบุคคลอันเป็นที่รัก นั่นก็คือ น้องกิ่ง(ลูกสาว)ให้มาบวชอุบาสิกาแก้วด้วย แม้ตอนแรกน้องกิ่งจะติดภารกิจต้องไปรำในงานสงกรานต์ของอำเภอ แต่เมื่อคุณพ่อที่แสนดีเห็นว่า มาเป็นอุบาสิกาแก้วมีคุณค่าน่าจดจำมากกว่า จึงให้น้องกิ่งเข้ามาเป็นหนึ่งในห้าแสนหน่ออ่อนครั้งนี้

 

 

 

        ส่วนผู้ใหญ่บ้านคชา คุณหงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่หนึ่ง บ้านทุ่งกง ตอนนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ก็จะยืดอกได้อย่างผึ่งผาย และมักจะพูดถึงโครงการบวชอุบาสิกาแก้วอย่างปลื้มปีติใจ เพราะตอนนี้บ้านทุ่งกงกำลังเป็นแชมป์ มีลูกบ้านมาบวชกันล้นหลามหมู่บ้านเดียวถึง 34คน ติดท็อปชาร์ตอันดับหนึ่งของอำเภอวังเจ้า คุณแม่ของผู้ใหญ่คชา ซึ่งเป็นรองนายกอบต.ปะดาง ก็สมัครเข้าร่วมบวชในโครงการนี้ด้วย และยังใช้เสียงใสๆ ประกาศเสียงตามสาย เชิญชวนลูกบ้านให้มาบวชทั้งเช้าและเย็น

 

 

 

        หัวใจของความสำเร็จในการคว้าแชมป์ของหมู่บ้านทุ่งกง อยู่ที่อดีตหน่ออ่อนแรกรุ่นไฟแรงอย่าง น้องน้ำ อายุ 15ปี หลังจากประทับใจในการบวชครั้งที่แล้ว น้องน้ำเลยชวนยายให้มาสมัครบวชเป็นคนแรก เมื่อชวนยายได้ก็ดีใจ ออกทำหน้าที่ด้วยหัวใจ ไปเคาะประตูชวนพี่ๆป้าๆน้า...อา และคนในหมู่บ้านทุ่งกงทุกบ้าน จนได้ยอดผู้สมัครพุ่งกระฉูด

 

 

 

 

 

        รายสุดท้ายที่น่าประทับใจ คือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเกรียงศักดิ์ อย่างรุ่งเลิศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่สี่ บ้านนาโบสถ์ อดีตทหารผ่านศึก ที่ฝากร่องรอยแห่งการต่อสู้ไว้บนร่างกาย เพราะเหลือแขนเพียงข้างเดียว แม้กระนั้นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็หัวใจเกินร้อย พาทีมงานบุกตะลุยขึ้นไปบนเขาที่บ้านวังทอง ชาวบ้านที่นี่เป็นชาวม้งที่นับถือทั้งพุทธ ทั้งผี ทั้งศาสนาอื่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ได้ประสานชวนชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงให้มารวมกันเพื่อให้ทีมงานชี้แจงเรื่องการบวช และยังทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาม้งให้ชาวบ้านด้วย มีชาวบ้านที่มาฟังตัดสินใจบวชทันทีห้าคน

 

 

 

 

        จังหวัดสุโขทัย เมืองเก่า ดินแดนมรดกโลก มีบรรยากาศใหม่ๆน่าประทับใจ ในการทำหน้าที่ชวนบวชตลอดเวลา โดยเฉพาะที่ศูนย์อบรมวัดโบสถ์ อำเภอกงไกรลาศ บรรดาเหล่าอุบาสิกาแก้ววัยงามได้มารวมตัวกันภายใต้ชื่อ กลุ่มเกษียณใจใสร่วมใจฟื้นฟูศีลธรรมโลก เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตรอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง และเต็มเวลา ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อมาบวชอุบาสิกาแก้วรุ่นแสนคนแล้วนั่งธรรมะดี พบแล้วความสุขที่แสวงหามาตลอดชีวิต เมื่อเริ่มสว่างตอนที่ชีวิตเดินทางมาเกินครึ่งแล้ว ทุกคนต่างเร่งขันอาสา ขอนำประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดชีวิต ตั้งใจทำหน้าที่เพื่อพระศาสน์ ชวนคนบวชทุกวัน จนได้ยอดผู้สมัครพุ่งไปแตะที่ 300คนแล้ว

 

 

 

        อาจารย์วรางรัตน์ จวนสุขกานต์กุล ชาวสุโขทัยแต่กำเนิด อายุ 61ปี อดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหนองตูม แกนนำสว่าง กลุ่มเกษียณใจใสร่วมใจฟื้นฟูศีลธรรมโลก ได้เล่าว่า พอได้ทราบข่าวโครงการบวชอุบาสิกาแก้ว ก็เห็นว่าโครงการนี้แหละเป็นทางลัดที่สุด ตรงที่สุด ที่จะทำให้คนเป็นคนดี ด้วยการศึกษาแก่นของพุทธแท้ อาจารย์จึงอาศัยความที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ใช้ตรงนี้เป็นใบเบิกทางในการทำหน้าที่ ก่อนทำหน้าที่ทุกครั้งก็จะไม่ลืมหลักวิชชา คือ ปฏิบัติธรรม กลั่นใจให้ใส โดยทำความรู้สึกว่าเราได้นั่งเจริญภาวนา อยู่ต่อหน้ามหาปูชนียาจารย์ แล้วอธิษฐานจิตก่อนออกไปทำหน้าที่ แล้วก็จะสำเร็จทุกครั้ง

 

 

 

        อาจารย์วรางรัตน์ได้ฝากข้อความถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ว่า “ขอให้หลวงพ่อวางใจในตัวลูกๆ แม้ว่าลูกๆจะอยู่ไกลและอายุมากแล้ว แต่ลูกๆก็จะสู้ๆๆ แบบเอาชีวิตถวายเลยเจ้าค่ะ”

 

 

 

        กัลยาณมิตรบุญมี ศิริจันทร์ อายุ 67ปี อดีตผู้บริหารสาธารณสุขประจำจังหวัดสุโขทัย แกนนำสว่าง กลุ่มเกษียณใจใสร่วมใจฟื้นฟูศีลธรรมโลก อีกท่าน ที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า หมอน้อย ท่านเป็นหญิงแกร่งที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นแม่ชีตั้งแต่เด็ก ก่อนที่จะเข้าวัด หมอน้อยรักษาศีลแปดเป็นปกติ และชอบแต่งชุดขาว คุณพ่อจึงส่งเรียนหมอเพื่อจะได้สวมชุดขาวไปตลอดชีวิต

 

        หมอน้อยกล่าวว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา มุ่งมั่นรักษาคนเจ็บป่วยทางกายมาตลอด ทำให้เขาสบายได้แต่กาย แต่เมื่อพบโครงการดีๆของคุณครูไม่ใหญ่ ก็บอกได้ว่า ใช่เลย วัคซีนรักษาโรคทางใจที่ดีที่สุด จึงขันอาสาทำหน้าที่แจ้งข่าวบุญ และติดตามหาผู้มีบุญมาบวชในโครงการให้ได้มากๆ ได้ตระเวนไปตามชุมชน และหมู่บ้านที่หมอน้อยเคยไปสร้างประโยชน์ใหญ่หลวงไว้ ด้วยการพลิกฟื้นระบบสาธารณสุขให้กับชาวบ้าน โดยลงทุนขุดหลุมสร้างส้วมให้ชาวบ้านด้วยมือตนเองนับร้อยหลัง จนหมอน้อยเป็นที่เคารพรักศรัทธาของชาวบ้าน มาครั้งนี้ไม่ว่าเข้าบ้านไหน ชาวบ้านก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี หมอน้อยให้บวช ก็โอเค ตกลงกันอย่างง่ายๆ ทำให้ยอดผู้บวชเพิ่มขึ้นทุกวันๆอย่างน่าปีติ