แพ้ท้องอยากกินพริกสด


[ 28 ต.ค. 2549 ] - [ 18271 ] LINE it!
View this page in: 中文

CASE STUDY
แพ้ท้องอยากกินพริกสด
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 

กราบแทบเท้าคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูงค่ะ

 
     ลูก เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา พันธุ์เกาะติดสถานการณ์ คนหนึ่ง ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ฝนจะตก แดดจะออก ฟ้าจะร้องคำรณคำรามสักปานใด ลูกก็ยังตั้งใจฟังธรรมะ ศึกษาเรื่องราวกฎแห่งกรรมจากคุณครูไม่ใหญ่ไม่เคยขาด
 
    แต่ตอนนี้ มีสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เกิดขึ้นกับตัวลูกและครอบครัว เนื่องด้วยมรสุมร้ายได้พัดกระหน่ำเข้ามา ทำให้ชีวิตอึมครึม เกิดฝนฟ้าคะนองในใจ จนไม่ทราบจะหันหน้าไปพึ่งใคร นึกได้แต่ใบหน้าของคุณครูไม่ใหญ่คนเดียวเท่านั้น จึงส่งเรื่องราว Case Study มาดังนี้ค่ะ
 
    คุณปู่ของลูก เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ อพยพไปอยู่ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย และได้ตั้งรกรากทำมาหากินอยู่ที่นั่น แต่ฐานะทางการเงินไม่ดีนัก จึงต้องอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเก่าๆหลังหนึ่ง และยึดอาชีพเป็นจับกังบนเรือสินค้า ท่านนับถือเจ้าแม่กวนอิมมาก
 
    แต่อยู่มาวันหนึ่ง จู่ๆท่านก็ถูกเจ้าของบ้านไล่ออกจากบ้านเช่าหลังนั้น ทำให้ท่านน้อยใจในโชคชะตา และตัดพ้อต่อว่าเจ้าแม่กวนอิมว่า ไม่ช่วยท่านบ้างเลย แล้วท่านก็เอารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมไปทิ้งทะเล ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนรอบข้างว่า ระวังจะเจออาถรรพ์เจ้าแม่กวนอิม ทุกคนจึงเฝ้าจับตาดูว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับท่าน
 
    กระทั่งวันหนึ่ง วันที่เปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ได้มาถึง...ชีวิตของคุณปู่ไม่ได้เป็นเจ้าพ่อหรอกนะคะ...คือวันหนึ่ง ท่านวิ่งไล่ตีหนูที่ขึ้นไปบนเรือสินค้า ตีจนมันหลังหักตาย  และต่อมาท่านก็ประสบอุบัติเหตุ ถูกกระสอบข้าวสารบนเรือทับจนเสียชีวิต ทุกคนจึงเชื่อว่า ต้องเกิดจากอาถรรพ์เจ้าแม่กวนอิมแน่ๆ
 
    คุณพ่อของลูก เกิดที่รัฐปีนังเช่นเดียวกัน ตั้งแต่เล็กจนโต คุณพ่อประสบพบเจอแต่ความยากลำบาก เพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ท่านต้องไปอาศัยอยู่ตามศาลเจ้าต่างๆ เพื่อจะได้เรียนหนังสือและศึกษาธรรมะ พร้อมทั้งช่วยงานที่นั่นเพื่อแลกกับอาหารพอประทังท้องไปวันๆ
 
    อยู่มาวันหนึ่ง ผู้ดูแลศาลเจ้าที่คุณพ่อไปพักอาศัยด้วย ได้บอกให้ท่านไปช่วยงานที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต และที่นี่เอง คือ สถานที่ที่ทำให้คุณพ่อได้มาพบรักกับคุณแม่ของลูก เพราะคุณแม่ไปทำบุญที่ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นประจำ แล้วท่านทั้งสองก็ตกลงแต่งงานกัน ต่างก็ช่วยกันทำมาหากิน นับจากนั้นมา คุณพ่อก็ปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย แต่ตามกฎหมายแล้ว ท่านตกอยู่ในฐานะคนต่างด้าว ที่มีสิทธิ์อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว (Non-immigrant) เท่านั้น และต้องไปต่อวีซ่าที่ปีนังเป็นประจำทุก 3 เดือน
 
    กว่า 20 ปี ที่ใช้ชีวิตในสยามประเทศ แม้คุณพ่อจะไม่ใช่คนไทย แต่ท่านก็รักผืนแผ่นดินไทยสุดหัวใจ ท่านเคยบอกว่า “วันข้างหน้าถ้าพ่อจะตายก็ขอตายที่เมืองไทยแห่งนี้” ทว่าถึงจะรักแค่ไหน คุณพ่อก็ต้องอยู่อย่างคนไม่มีสิทธิ์ จะประกอบอาชีพใดๆ ก็ต้องทำแบบหลบๆซ่อนๆตลอดมา เพราะคุณพ่อไม่มีใบอนุญาตประกอบอาชีพในเมืองไทย
 
   แล้ววันที่ฝันร้ายเป็นจริงก็มาถึง คุณพ่อถูกตำรวจจับ ในขณะที่ช่วยเพื่อนขายของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่จังหวัดภูเก็ต ตำรวจตั้งข้อหาประกอบอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว ซ้ำร้ายทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เพิกถอนการอนุญาตให้คุณพ่ออยู่ในประเทศไทยทันที และส่งไปกักขังที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนาน 12 วัน จากนั้นจึงถูกส่งตัวออกนอกประเทศ แล้วส่งกลับไปยังภูมิลำเนาเดิม คือ ประเทศมาเลเซีย
 
    ท่านไปอยู่ที่นั่นนาน 2 เดือน ท่านจึงกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง และพบว่าตนเองถูกขึ้นบัญชีที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองว่า ห้ามเข้าประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2548-2648 รวมระยะเวลาทั้งสิ้นถึง 100 ปี และขณะที่ส่ง Case Study มานี้ คุณพ่อก็ต้องออกจากประเทศไทยไปแล้ว อย่างไม่รู้ชะตากรรมว่า จะมีโอกาสหวนคืนมาอีกเมื่อไหร่ ปัจจุบันท่านอายุ 57 ปีแล้วค่ะ ลูกและทุกคนคิดถึงคุณพ่อมากค่ะ และลูกขอสัญญาว่า “จะเป็นเด็กดีของพ่อ”
 
    คุณแม่ของลูก นับตั้งแต่เกิดเรื่องร้ายๆกับคุณพ่อ คุณแม่ทุกข์ใจมาก แต่ท่านพยายามทำใจใสๆ และทำบุญทุกบุญกับคุณครูไม่ใหญ่มาโดยตลอด เพราะท่านเป็นคนรักบุญมาก ครั้งหนึ่งเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2548 ขณะที่คุณแม่และญาติๆนั่งรถยนต์ไปทำธุระ ราว 6 โมงเย็น คุณแม่นั่งสวดมนต์และนึกบูชาเจดีย์อยู่ในใจ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพราะตอนนั้นฝนตกถนนลื่นมาก รถยนต์ที่นั่งมาได้ไถลออกนอกถนน แล้วพลิกคว่ำหลายตลบ ตกลงไปในเหวข้างทาง
 
    วินาทีนั้น คุณแม่นึกถึงแต่พระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ภาวนาขอให้ท่านช่วย และแล้วรถก็ได้กลิ้งมาหยุดอยู่บริเวณเนินดินใหญ่ ในสภาพรถตะแคงเหมือนคนนอนตะแคงข้าง จากนั้นไม่นาน ก็มีรถอีกคันหนึ่งผ่านมาตรงจุดเกิดเหตุ และช่วยทุกคนบนรถออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีใครเสียชีวิต เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากๆค่ะ
 
    คุณแม่และญาติที่ไปด้วยกัน ได้แขวน พระปราบมาร ติดตัวไปด้วย ก็ยิ่งทำให้ท่านเชื่อมั่นในบุญและเชื่อมั่นในอานุภาพของพระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อย่างสุดหัวใจ
 
    คุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพคะ แม้ปัจจุบันคุณแม่จะอยู่ในบุญ แต่ในอดีตท่านอยู่กับความลำบากอย่างแสนสาหัสค่ะ ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยรู้จักคำว่า “สบาย” เลย เพราะท่านต้องช่วยคุณยายทำสวนผัก ทำเส้นขนมจีนขาย ได้เรียนแค่ ป.4 แล้วต้องลาออก Pass ชั้นไปอยู่ในมหาวิทยาลัยเหมืองแร่ คือ ต้องไปรับจ้างร่อนแร่อยู่ที่เหมืองแห่งหนึ่ง ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อหาเงินส่งเสียให้พี่น้องคนอื่นๆได้เล่าเรียน ส่วนตัวเองต้องก้มหน้าก้มตาร่อนแร่ตั้งแต่ 7 โมงเช้ายัน 5 โมงเย็น ปวดหลังแทบขาดใจ แม้จะลำบากท่านก็ไม่เคยปริปากบ่น
 
    นอกจากท่านจะหาเงินมาได้ด้วยความยากลำบากแล้ว เมื่อมาแต่งงานกับคุณพ่อ คุณแม่ก็ยังมีลูกยากอีกด้วยค่ะ ท่านเคยแท้งลูกไปถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งตั้งท้องครั้งที่ 3 ท่านบอกว่า “แพ้ท้อง...อยากกินแต่พริกสด” ต้องกินให้ได้วันละ 5-10 เม็ด กินไปกินมาคุณแม่ก็ต้องอุ้มท้องอยู่นานถึง 10 เดือน 10 วันพอดิบพอดีไม่มีขาด จึงคลอดเด็กหญิงหน้าตาดีคนหนึ่งออกมา และเด็กคนนั้นก็คือ ตัวลูกเองค่ะ...ซึ่งลูกนั้นซาบซึ้งในพระคุณของแม่มากๆ...ลูกจึงตั้งใจที่จะทำความดี เพื่อตอบแทนและขอเทิดทูนพระคุณแม่ที่ลูกรักมากที่สุดค่ะ
 
    ลูก เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว และในปี พ.ศ.2541 ลูกได้มาอบรมมัชฌิมธรรมทายาทหญิง ที่วัดพระธรรมกาย ทำให้ลูกซาบซึ้งในเป้าหมายและมโนปณิธานการสร้างบารมีของหมู่คณะ และนับแต่นั้นมา ลูกจึงเข้ามาเป็นอาสาสมัครของกองพิธีกรรม โดยทุกเย็นวันศุกร์ต้นเดือน ลูกจะนั่งรถประจำทางจากภูเก็ตเพื่อมาวัด กว่าจะมาถึงก็ช่วงสายวันเสาร์ แล้วรับบุญต่างๆของกองพิธีกรรม เมื่อเสร็จงานบุญในวันอาทิตย์ต้นเดือน ลูกจึงค่อยเดินทางกลับโดยรถบัส และไปถึงภูเก็ตเช้าวันจันทร์ก็จะไปโรงเรียนต่อ ลูกสร้างบุญเช่นนี้มาจนจบ ม.6
 
    พอเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในปี พ.ศ.2543 ลูกก็เดินทางมาเอาบุญที่วัดเป็นประจำไม่เคยขาด กระทั่งลูกจบการศึกษาปี พ.ศ.2547 คว้าปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 2 เอกภาษาจีน มาได้ด้วยความภาคภูมิใจ แล้วลูกก็ตัดสินใจอุทิศตนเข้ามาเป็นบัณฑิตแก้ว เพราะอยากเข้ามาเป็นนักสร้างบารมีเขตในไปกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ผู้เป็นทั้งหลักชัยและหลักใจของลูกค่ะ...ปัจจุบันยังรับบุญอยู่กองพิธีกรรมค่ะ
 
    คุณตาของลูก เป็นคนใจใหญ่ ใจนักเลง ชอบเข้าป่าล่าสัตว์ แต่ต่อมามีแผลที่ฝ่าเท้าซ้าย เป็นรูลึกราว 2 เซนติเมตร ต้องทำแผลทุกวัน จนถึงทุกวันนี้เกินกว่า 10 ปีแล้ว แผลก็ยังไม่หายค่ะ ตอนนี้คุณตาอายุ 77 ปีค่ะ
 
    คุณยายของลูก แม้จะอายุล่วงเข้า 73 ปีแล้ว แต่ยังต้องทำงานหนัก ช่วยลูกคนหนึ่งรับจ้างตัดหญ้าจัดสวนและกลางปี พ.ศ.2548 ท่านมีปัญหาที่หูข้างขวา รู้สึกเหมือนมีน้ำตกไหลดังซู่ๆอยู่ในหูตลอดเวลา ฟังอะไรไม่ค่อยได้ยิน
 
    ลูกสาวคนเล็กของน้าสาวคนที่6 เป็นเด็กฉลาด ช่างพูดช่างคุย ป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2547 แต่พอไปหาหมอจึงตรวจพบว่า เป็นโรคมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองระยะที่3 แล้ว และอีก 9 เดือนต่อมาก็เสียชีวิต ขณะที่มีอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น แต่ก่อนเธอจะเสียชีวิต ก็เป็นช่วงบุญกฐินปี พ.ศ.2547 ลูกจึงไปชวนให้เธอทำบุญกฐินและเธอก็ได้ทำบุญใหญ่นี้ก่อนละโลกด้วยค่ะ
 
คำถาม
 
1. บุพกรรมใด คุณปู่จึงต้องมาถูกกระสอบข้าวสารทับเสียชีวิต เกี่ยวข้องกับอาถรรพ์เจ้าแม่กวนอิมหรือไม่ หรือเป็นเพราะกรรมที่ไปตีหนูจนหลังหักคะ แล้วหนูตัวนั้นได้ผูกอาฆาตท่านหรือไม่ ท่านตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะ
 
2. เพราะเหตุใด คุณพ่อจึงมีชีวิตที่ลำบาก ตกอยู่ในสภาพเป็นคนต่างด้าว ไม่มีสิทธิ์อยู่ในเมืองไทยและถูกสั่งห้ามเข้าประเทศไทยเป็นเวลาถึง 100 ปี ตอนนี้ลูกกำลังทำเอกสาร ยื่นคำร้องขอให้ท่านได้กลับเข้ามาอยู่ในเมืองไทยอีกครั้ง ท่านจะมีโอกาสกลับมาได้อีกหรือไม่คะ ปัจจุบันดวงตาข้างขวาของท่านมองไม่เห็น และยังหายใจติดขัด เป็นเพราะบุพกรรมใด และควรแก้ไขอย่างไรคะ
 
3. บุพกรรมใด ทำให้คุณแม่ลำบากตั้งแต่เล็กจนโต ต้องประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตกเหว แต่ก็รอดมาได้อย่างอัศจรรย์ ต้องแท้งลูกถึง 2 ครั้ง และทำไมเมื่อตั้งครรภ์ครั้งที่ 3 ก็ต้องอุ้มท้องอยู่นานถึง 10 เดือน 10 วัน เหตุใดตอนแพ้ท้องจึงอยากกินแต่พริกสด เป็นนิมิตหมายอะไรเกี่ยวกับตัวลูกหรือไม่คะ
 
เหตุที่ลูกต้องอยู่ในท้องแม่นานถึง 10 เดือน 10 วัน เป็นเพราะบุพกรรมใด และเป็นกรรมในลักษณะเดียวกับพระสีวลีหรือไม่คะ ที่ท่านต้องอยู่ในครรภ์ของพระนางสุปปวาสาถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน
 
ปัจจุบันคุณแม่มีอาการไอ เป็นมา 2-3 ปีแล้วค่ะ รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย จะต้องแก้ไขอย่างไรคะ และกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ช่วยชี้แนะการดำเนินชีวิต ต่อจากนี้ไปด้วยค่ะ (คุณแม่เริ่มทุกข์ใจหลายเรื่อง)
 
4. คุณตาทำบุพกรรมใดมา จึงเป็นแผลที่ฝ่าเท้าซ้าย รักษามานานเกินกว่าสิบปีแล้ว แผลก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหาย ทั้งที่เป็นแผลเล็กๆ ขนาดแค่ 2 เซนติเมตรเท่านั้นค่ะ
 
5. คุณยายทำบุพกรรมใดมา จึงมีปัญหาที่หู ได้ยินเสียงเหมือนน้ำตกไหลซู่ๆ ตลอดเวลา และยังต้องลำบากช่วยลูกหลานทำมาหากินมา จนกระทั่งถึงวัยชราคะ
 
6. บุพกรรมใด ทำให้ลูกสาวคนสุดท้องของน้าสาวคนที่ 6 ต้องเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 5 ขวบ บุญกฐินที่เธอได้ทำก่อนตาย ส่งผลกับเธออย่างไรคะ เธอตายแล้วไปไหน มีข้อความอะไรฝากมาถึงครอบครัวบ้างคะ
 
7. ลูกมีอาการภูมิแพ้ คัดจมูกน้ำมูกไหล คันลูกนัยน์ตาบ่อยๆ เกิดจากบุพกรรมอันใด จะแก้ไขอย่างไรจึงจะหายขาดคะ และตัวลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นเช่นไรคะ
 
8. ตัวลูกและน้องๆในกองพิธีกรรม เคยสร้างบุญมาอย่างไรกับพระอาจารย์ผู้เป็นหัวหน้ากองพิธีกรรมคะ เหตุใดชาตินี้จึงได้มาร่วมงานกับท่าน ทั้งที่แต่ละคนก็มากันจากต่างที่ต่างถิ่น แต่ก็ได้มารวมกันเหมือนเชือกที่ฟั่นเป็นเส้นเดียวกันคะ
 
9. การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พิธีกรรม บางครั้งเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าภาพ เช่น เวลาปิดโต๊ะเป็นรูปตัว T พอเจ้าหน้าที่พิธีกรรมไปชี้แจงเหตุผล เจ้าภาพบางคนกลับหงุดหงิดถือซองปัจจัยกลับไปเลย ทำให้ลูกๆเกิดความไม่สบายใจ กลัวจะเป็นวิบากกรรม จึงกราบขอคำแนะนำจากคุณครูไม่ใหญ่ เมตตาชี้แนะในการทำหน้าที่ตรงจุดนี้ให้แก่ ลูกๆกองพิธีกรรมด้วยเถิดเจ้าค่ะ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1. คุณปู่ ถูกกระสอบข้าวสารทับเสียชีวิต เพราะกรรมในอดีต ได้เคยเป็นลูกจ้างในโกดังเก็บสินค้าแห่งหนึ่ง ได้ถูกหัวหน้าผู้ดูแลโกดังด่า จึงเกิดความแค้น ได้แอบผลักกองหีบสินค้าให้ล้มทับใส่หัวหน้านั้นตาย ตอนที่หัวหน้ามาเดินตรวจงาน เป็นกรรมหลัก ส่วนกรรมตีหนูตาย เป็นกรรมเสริม มารวมส่งผล
 

  • ตายแล้วก็เป็นกายสัมภเวสีร่อนเร่อยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาได้รับบุญที่อุทิศให้ในช่วงหลังๆ ก็ทำให้มีสภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมแต่ยังไม่ดีมาก
  • ให้ทำบุญอุทิศไปให้ท่านอีก

2. คุณพ่อ มีชีวิตลำบากตกอยู่ในสภาพต่างด้าว ไม่มีสิทธิ์อยู่เมืองไทย และห้ามเข้าประเทศ 100 ปี เพราะในชาติหนึ่ง คุณพ่อเคยเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ มียศ มีฐานะ มีเงินทอง แต่มีความตระหนี่ มีมานะทิฐิถือตัวจัด และเคยแกล้งใส่ความข้าราชการคนหนึ่ง จนถูกพระราชาเนรเทศออกไปนอกเมืองและไม่ได้กลับเข้ามา เศษกรรมที่เบาบางแล้ว มาส่งผล
 

  • ให้ท่านอยู่ในบุญ นึกถึงบุญทุกบุญที่ท่านทำเอาไว้ แล้วอธิษฐานจิต ให้กลับเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้เหมือนเดิม

  • ปัจจุบัน ดวงตาข้างขวามองไม่เห็น และยังหายใจติดขัด เพราะกรรมในอดีต ในชาติที่เป็นข้าราชการผู้ใหญ่ดังกล่าว ได้เกิดหงุดหงิดข้าทาสบริวาร บันดาลโทสะ ทุบตีทำร้ายเขา จนจอประสาทตาของบริวารคนหนึ่งกระทบกระเทือน ทำให้ตาบอดไปหนึ่งข้าง มาส่งผล ให้ดวงตาข้างขวามีปัญหามองไม่เห็น
  • และได้ทำร้ายเหยียบคอบริวารที่ล้มลงไป จนเขาหายใจไม่สะดวก มาส่งผลให้หายใจติดขัด
  • ให้สั่งสมบุญทุกบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา แล้วอธิษฐานจิตให้ไปตัดรอนวิบากกรรมนี้

3. คุณแม่ ลำบากตั้งแต่เล็กจนโต เพราะคุณแม่มีความตระหนี่ และทำทานบารมีมาน้อย มาส่งผล
  • ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตกเหว เพราะกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มาส่งผล แต่รอดตายมาได้ เพราะบุญที่ทำในปัจจุบันกับหมู่คณะ
  • แท้งลูก 2 ครั้ง เพราะในอดีตชอบจับปลาไข่ แล้วเอาไข่ปลามาตากแห้งบ้าง เอามาทำอาหารบ้าง มาส่งผล

  • ตั้งครรภ์ครั้งที่ 3 นาน 10 เดือน 10 วัน เพราะตัวลูกสาว มีเศษกรรมเล็กน้อย จับสัตว์เอามาขังไว้ดูเล่น ซึ่งก็ไม่ถือว่า เป็นกรรมมากจนถึงผิดปกติ
  • แพ้ท้องอยากกินพริกสด เพราะตัวลูกสาวที่อยู่ในครรภ์ มีเศษกรรมในอดีตดังกล่าว ที่ชอบขังพวกนกแก้ว, นกต่างๆ ที่อยากให้มันพูด จึงให้มันกินพริกสดเยอะ เพื่อนกจะได้พูดเก่งๆ มาบีบคั้นให้แม่อยากกินพริกสดตอนแพ้ท้อง

  • คุณแม่ไอมา 2-3 ปีแล้ว รักษายังไม่หาย เพราะกรรมในอดีต ไม่ค่อยได้ดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดี ปล่อยให้มันตากแดดตากฝน จนมันไม่สบาย มาส่งผล
  • ให้บอกคุณแม่ว่า เวลาของชีวิตเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว ให้ใช้ทุกอนุวินาทีสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ให้มากๆ จะได้เป็นที่พึ่งให้กับตัวเองในบั้นปลายของชีวิต
  • หัดปล่อยวางบ้าง ใจจะได้เบาสบาย

4. คุณตา เป็นแผลที่ฝ่าเท้าซ้าย รักษานานกว่า 10 ปีแล้ว ยังไม่หาย ทั้งๆที่เป็นแผลเล็กแค่ 2เซนติเมตร เพราะกรรมในอดีต ได้เคยวางกับดักสัตว์ จนขาสัตว์ติดกับ บาดเจ็บทรมาน กับกรรมที่เคยโปรยของมีคมให้คนมาเหยียบเพื่อความสนุกสนาน มารวมกับกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร มาส่งผล
 

5. คุณยาย ได้ยินเสียงที่หูเหมือนน้ำตกซู่ๆตลอดเวลา เพราะกรรมในอดีต เคยดูแลยายของตนเองที่อายุมากแล้ว พอท่านทำอะไรให้ไม่พอใจ ก็จะแกล้งทำเสียงตึงตังประชดท่าน กับเวลาท่านพูดอะไรก็แกล้งทำหูทวนลม มารวมส่งผล
  • ยังต้องช่วยลูกหลานทำมาหากิน กระทั่งวัยชรา เพราะท่านทำทานในอดีตมาน้อย ด้วยความมีนิสัยตระหนี่ มาส่งผล

6. ลูกสาวคนสุดท้องของน้าสาวคนที่6 เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เสียชีวิตเมื่ออายุ 5ขวบ เพราะในอดีต ได้เคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ชอบจับเอาสัตว์เป็นๆมาดองขายเป็นอาชีพ มาส่งผล
  • ตายแล้ว ก็ได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้ว ในครอบครัวที่มีฐานะดี ด้วยบุญที่ทำกฐินก่อนตาย ตอนนี้ไม่อาจรับบุญได้แล้ว และไม่มีข้อความอะไรฝากมา

7. ลูกมีอาการ ภูมิแพ้ คัดจมูกน้ำมูกไหล คันลูกนัยน์ตาบ่อยๆ เพราะกรรมในอดีต เวลาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็เป็นไปตามอารมณ์ อารมณ์ดีก็ดูแลดี พอเบื่อขึ้นมาก็ปล่อยให้มันตากแดดตากฝน ค่อยๆป่วยตายไปทีละตัวสองตัว มาส่งผลให้เป็นภูมิแพ้ และคัดจมูกน้ำมูกไหล
  • กับเวลามีผู้ใหญ่ตักเตือน ก็มักจะมองจ้องหน้าตาผู้ใหญ่ ด้วยความขัดเคืองใจ มาส่งผล

  • จะแก้ไข ก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาปล่อยนกบ่อยๆ แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้กับสัตว์เหล่านั้น กับอีกทั้งเมื่อมองดูใครก็ต้องมองด้วยจิตที่ประกอบไปด้วยเมตตา

  • ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ในกองราชพิธี ได้ออกบวชตามพระราชา แต่ออกบวชช้าหน่อย เพราะมัวแต่เจ้าชู้ เมื่อบวชแล้วก็ทำหน้าที่เผยแผ่จนตลอดชีวิต มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงดวงใสๆ พอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้ ลงมาสร้างบารมีได้ทั้ง 2 รอบ

8. ตัวลูกและน้องๆในกองพิธีกรรม ได้มาร่วมงานกับพระอาจารย์ผู้เป็นหัวหน้ากองพิธีกรรม เพราะบางคนก็เคยเป็นทหารกองเดียวกับท่าน บางคนท่านก็เป็นกัลยาณมิตรให้ตอนท่านบวชแล้ว ได้เป็นพระอาจารย์แนะนำสั่งสอน ชาตินี้บุญที่เคยทำร่วมกันจึงทำให้มารวมกัน
 

9. การทำหน้าที่พิธีกรรม บางครั้งกระทบกระทั่งกับเจ้าภาพ เช่น เวลาปิดโต๊ะเป็นรูปตัว T พอเจ้าหน้าที่พิธีกรรมไปแสดงเหตุผล ก็ทำให้เจ้าภาพบางคนเกิดความหงุดหงิด ถือซองปัจจัยกลับไปเลย ทำให้ตัวลูกเกิดความไม่สบายใจกลัวว่าจะมีวิบากกรรมนั้น ก็อย่าไปกังวลใจไปเลย ตัวลูกทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี ไม่มีวิบากกรรมอะไร มีแต่จะได้บุญบารมีเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องให้มีศิลปะในการแนะนำ ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส นึกถึงบุญใสๆเอาไว้ อย่าไปกังวลใจ
 
 
  • ส่วนตัวเจ้าภาพ ก็เป็นเพียงบางคนซึ่งอาจเป็นคนใหม่ ยังไม่คุ้นเคยกับธรรมเนียมปฏิบัติของหมู่คณะ ก็คงต้องให้โอกาสและเวลาที่จะเรียนรู้ธรรมเนียมนี้ เพราะที่ตัวลูกทุกคนในช่วงนั้นต่างรู้ว่า ครูไม่ใหญ่มีเวลาจำกัด จะต้องมีภารกิจอีกมากมาย ซึ่งแบ่งภาคไม่ได้ และยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างต้องทำภายหลังจากนั้นอีก จึงต้องทำดังนั้น ทั้งๆที่ใจจริง ครูไม่ใหญ่ก็อยากรับปัจจัยด้วยตนเองทุกครั้งกับทุกคน แต่ก็ทำไม่ได้ด้วยเหตุผลดังกล่าว
 
  • ตัวลูกก็ต้องยอมให้ท่านเหล่านั้นหงุดหงิดไปก่อน เพราะท่านเหล่านั้นทุกคนก็มีดวงปัญญา มีความรักต่อครูไม่ใหญ่อยู่แล้ว ภายหลังท่านก็จะเข้าใจเอง และสนับสนุนให้ตัวลูกและทีมงานปฏิบัติภารกิจได้สมบูรณ์ เพราะทุกคนมุ่งไปพักกลางทางที่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ และจะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม

  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม