ธรรมะย่อมชนะไสยเวทย์, เราเป็นศิษย์มีครู จะขอสู้ตาย


[ 27 ต.ค. 2548 ] - [ 18283 ] LINE it!

CASE  STUDY
ธรรมะย่อมชนะไสยเวทย์,
เราเป็นศิษย์มีครู จะขอสู้ตาย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
 
กราบนมัสการ คุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพ 
 
        กระผม เกิดที่ จ. นครสวรรค์ แต่หลังจากนั้นครอบครัวของกระผมก็ได้ย้ายไปอยู่ที่ จ. ปราจีนบุรี ซึ่งปัจจุบันคือ จ. สระแก้ว เพื่อไปหาที่ดินทำกินที่นั่น โยมพ่อต้องถางป่าดงดิบ เพื่อทำไร่ ส่วนโยมแม่ขายขนมครก และขนมไข่หงษ์ทอด รายได้ที่โยมพ่อโยมแม่หามาได้  พอแค่เพียงประทังชีวิตได้วันต่อวัน  กระผมต้องกินข้าวกับไข่ต้มเป็นเวลาหลายปี บ้านที่เราอาศัยหลับนอนก็เป็นเพียงกระท่อม มีข้างฝาเป็นหญ้ามุง มีเปลือกไม้ใช้เป็นเครื่องปูนอน  ในฤดูหนาวกระผมและพี่น้องต่างก็ต้องนอนหนาวสั่นเพราะเรามีผ้าห่มเพียงผืนเดียวที่ต้องคอยผลัดกันห่ม คืนไหนถ้าหนาวจัดมากๆ ก็ต้องลุกขึ้นมาก่อไฟผิงตัว บ้านของกระผมอยู่ห่างจากชายแดนไทยกัมพูชา เพียงแค่ ๓๐ กิโลเมตร กระผมจึงต้องนอนหวาดผวาฟังเสียงปืนที่ยิงกันไม่เว้นแต่ละวัน เพราะช่วงนั้นกำลังเกิดสงครามแบ่งแยกดินแดนในประเทศกัมพูชา
 
        โยมพ่อ ส่งให้กระผมเรียนหนังสือจนจบ ป. ๔  แต่ทางบ้านไม่มีเงินส่งให้เรียนต่อ กระผมจึงต้องไปเป็นลูกศิษย์วัดอยู่กับพระลูกชายของป้า และไปเรียนหนังสือต่อในโรงเรียนใกล้ๆ วัด    ในช่วงที่กระผมเรียนจบ ป.๖ โยมพ่อได้พากระผมไปหาคนทรงเจ้า เพื่อให้ดูว่า กระผมจะมีวาสนาเป็นเจ้าคนนายคนหรือไม่ , จะให้เรียนต่อ หรือจะให้ออกมาช่วยทำงาน   น่าแปลก เพราะเมื่อคนทรงเจ้าทำพิธีจุดเทียน และนั่งสมาธิแล้ว สักครู่เดียวก็ร้องออกมาเสียงดัง และบอกว่า “ คนนี้ดูไม่ได้ เพราะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาขวางไว้ เขาไม่ให้ดู”
 
        แต่โยมพ่อก็ตัดสินใจส่งให้กระผมเรียนต่อ จนกระทั่งได้เข้าเรียนในโรงเรียนนักเรียนทหารเรือ ที่นี่กระผมต้องฝึกหนักมากทั้งบนบกและในน้ำ บางครั้งถึงกับอาเจียนจนไม่มีอะไรจะออกมา เพื่อนที่ฝึกด้วยกันบางคนถึงกับเสียชีวิต  แต่กระผมก็อดทน และคิดว่า “ถ้าเราทนได้ เมื่อเรียนจบบรรจุราชการแล้ว จะได้ส่งเงินให้โยมพ่อโยมแม่ใช้ ท่านจะได้ไม่ลำบาก และก็จะมีหน้าตา” เพื่อนๆของกระผมที่ฝึกมาด้วยกันก็ทยอยลาออกไปทีละคนๆ จากหลายพันคน มีคนที่ผ่านการฝึกไม่กี่ร้อยคน แต่กระผมก็ทนความทุกข์ทรมานนั้นมาได้ จนกระทั่งเรียนจบ และได้เข้าบรรจุเข้ารับราชการ
 
        ต่อมากระผมได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ และมาบวชในปี ๒๕๓๙ และตั้งใจจะบวชสร้างบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ตลอดไปครับ หลังจากบวชแล้ว กระผมก็ได้ทำหน้าที่เป็นพระอาจารย์ชักชวนสาธุชน ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ได้ชวนคนสร้างพระธรรมกายประจำตัวกว่า ๑๒๐ องค์ และสร้างบุญทุกงานบุญ  ทำให้กระผมรู้ซึ้งถึงการทำหน้าที่กัลยาณมิตรว่าเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเพียรและความอดทนอย่างมาก  
 
        ครั้งหนึ่งกระผมได้เดินทางไปบอกบุญองค์พระแกนกลางที่อำเภอปักธงชัย คนขับรถซึ่งเป็นนายตำรวจได้พากระผมไปบอกบุญพ่อบุญธรรมของเขา  เมื่อไปถึงที่บ้านนั้น กระผมก็เห็นคนกลุ่มใหญ่มานั่งรออยู่นอกบ้าน ข้างๆบ้านก็มีคนกำลังนั่งล้อมวงเหล้าอยู่ เมื่อลงจากรถก็เลยถามคนกลุ่มใหญ่ที่มานั่งรออยู่ว่ามาทำอะไรกัน เขาก็บอกว่า “จะมาถอนของ” กระผมก็เริ่มรู้สึกหวั่นๆใจ คิดว่า “สงสัยจะต้องเจอของแข็งแน่” แต่ใจก็คิดสู้ คิดว่า  “เราเป็นศิษย์มีครู จะขอสู้ตาย  เอาชีวิตเป็นเดิมพัน” 
 
        จากนั้นพ่อบุญธรรมของนายตำรวจ ก็เดินเข้ามาหากระผม และนิมนต์กระผมกับน้องๆที่ไปบอกบุญด้วยกันเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ถุนบ้าน ซึ่งมีบรรดาเพื่อนๆ และคนรู้จัก ที่นายตำรวจนัดมานั่งรออยู่ แล้วพ่อบุญธรรมได้ไปนำน้ำส้มแช่เย็นมาถวายกระผม ทั้งที่วันนั้นอากาศค่อนข้างอบอ้าว ถ้าได้น้ำเย็นจะสดชื่นมาก แต่กระผมกลับมีความรู้สึกว่า “ฉันไม่ได้นะ” พอกระผมรับประเคนแล้วจึงได้วางขวดน้ำส้มลง และกระผมก็เริ่มทำหน้าที่กัลยาณมิตร พูดคุยและเริ่มบอกเล่าอานิสงส์ของการสร้างบุญ และชวนทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว
 
        ในระหว่างที่กระผมกำลังทำหน้าที่อยู่นั้น   หน้าตาของพ่อบุญธรรมซึ่งแต่เดิมก็ดูมีน้ำมีนวล ผ่องใส ก็กลับค่อยๆ หมองคล้ำ ดำลงเรื่อยๆ จนสังเกตเห็นได้ และที่น่าแปลกมากคือ ในขณะนั้นซึ่งเป็นช่วงบ่าย  ท้องฟ้าซึ่งแต่เดิมแจ่มใสไม่มีเมฆใดๆ อยู่ดีๆก็กลับเป็นเมฆสีดำเต็มไปหมด มีเสียงฟ้าร้องดังสนั่น และก็มีลมบังหวนม้วนตัว หมุนจากที่ไกลๆค่อยๆมาหยุดอยู่ตรงบริเวณใต้ถุนบ้านของโยมท่านนี้ เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงที่เกิดอาการท้องฟ้าแปรปรวน แต่ก็ไม่มีฝนตกเลยแม้เพียงนิดเดียว กระผมคิดในใจว่า คงมีการประลองฤทธิ์กัน จึงนึกถึงบุญ หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย และก็ยังคงทำหน้าที่บอกบุญต่อไปเรื่อยๆ มีโยมท่านหนึ่งซึ่งเป็นรุ่นพี่ของนายตำรวจตอนแรกก็สนใจทำ แต่ภายหลังก็เปลี่ยนใจ กระผมจึงยังต้องพยายามยกอานิสงส์ต่างๆ ขึ้นมา ในช่วงนี้กระผมสังเกตเห็นว่าหน้าพ่อบุญธรรมหมองคล้ำมาก แล้วในที่สุดเขาก็เลิกฟังกระผม และออกไปนั่งที่วงเหล้าและหันหน้ามาทางกระผม 
 
        หลังจากที่พ่อบุญธรรมของนายตำรวจออกไปนั่งข้างนอก ไม่นานนักกระผมก็ทำหน้าที่ชวนรุ่นพี่ของนายตำรวจได้สำเร็จ เขาได้ตัดสินใจทำพระแกนกลาง ๑ องค์  รวมเวลาทำหน้าที่ถึง ๔ ชั่วโมงเต็ม เมื่อกระผมบอกบุญได้สำเร็จแล้ว กระผมก็ได้ลาญาติโยมเตรียมเดินทางกลับวัด ซึ่งช่วงนั้นก็ใกล้มืดแล้ว
 
        แต่เหตุการณ์กลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิด พอกระผมและน้องๆเดินไปขึ้นรถ พ่อบุญธรรมก็เดินตามมา และมาจับที่รถ บอกว่า “ให้ลงจากรถเถอะ รถสตาร์ทไม่ติดหรอก” เมื่อคนขับลองสตาร์ทรถ รถก็ไม่ติดจริงๆ  กระผมรู้สึกใจหาย เพราะรถของเราใหม่ๆ เครื่องก็ยังดี  แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ และตัดสินใจว่าจะไม่ลงจากรถเด็ดขาด แล้วกระผมก็นึกถึงบารมีธรรมของหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย สักพักนึงก็มีเด็กหนุ่มกับเพื่อนอีก ๒ คนเดินเข้ามาหาที่รถของกระผม แล้วถามว่า “รถเป็นอะไรครับ” กระผมก็บอกว่า “รถสตาร์ทไม่ติด” แล้วเขาก็เปิดฝากระโปรงรถ จับโน่นจับนี่นิดหน่อย แล้วก็บอกให้สตาร์ทดู ปรากฏว่า รถก็สตาร์ทติด  เมื่อรถสตาร์ทติด ก่อนรถออก กระผมได้ยินพ่อบุญธรรมถามเด็กหนุ่มคนนั้นว่า “เอ็งมาที่นี่ทำไมวะ” เด็กหนุ่มบอกว่า ไม่รู้เป็นอย่างไร มีความรู้สึกว่าอยากมาที่นี่  หลังจากขึ้นรถแล้ว นายตำรวจท่านนั้นจึงบอกความจริงให้ฟังว่าพ่อบุญธรรมของเขาเป็นหมอทำคุณไสยที่เก่งมาก เป็นที่รู้จักกันดีของชาวบ้าน กระผมจึงจดจำเหตุการณ์การทำหน้าที่ในวันนั้นไม่มีวันลืม
    
        โยมยาย  มีชีวิตที่ลำบากตั้งแต่เด็กๆ พอโตเป็นสาวก็ได้แต่งงานกับโยมตา จนมีลูกด้วยกัน ๒ คน คือ โยมแม่ และโยมป้า ต่อมาโยมตาเสียชีวิตลง โยมยายจึงได้แต่งงานใหม่ และมีลูกด้วยกันอีก ๓ คน สามีใหม่ของโยมยายเป็นคนติดเหล้ามาก ไม่เคยช่วยทำงานเลี้ยงดูครอบครัว ที่นามีเท่าไรก็เอาไปขายหมด จนที่สุดไม่มีอะไรจะขายจึงขายควายที่เลี้ยงไว้ทำนา  แล้วเอาเงินนั้นมาซื้อเหล้ากินจนหมด   โยมยายโดนด่า  ทุบตี   และเอาปืนไล่ยิง  อยู่บ่อยๆ   เพราะฤทธิ์ของน้ำเมา จนในที่สุดโยมยายทนไม่ไหวจึงได้พาลูกๆ หนีออกจากบ้านไป พอลูกๆโตขึ้น แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝากันหมดแล้ว โยมน้าสาวต่างบิดาของโยมแม่ (ลูกของโยมยายกับสามีใหม่) ได้รับโยมยายไปอยู่ด้วย แต่สามีของน้าสาวดื่มเหล้าทุกวัน เมาแล้วก็อาละวาดด่าทอทั้งโยมน้าสาวและโยมยายที่ไปอยู่ด้วย สามีน้าสาว ไม่ยอมให้โยมยายกินข้าว แถมยังไล่ออกจากบ้าน โยมยายจึงต้องเดินออกจากบ้านลูกสาวด้วยความเจ็บปวด แม้จะมีวัยถึง ๘๐ กว่าปีแล้ว  เพื่อมาอาศัยอยู่กับลูกคนอื่นๆต่อไป
 
        น้องชายของกระผม เคยป่วยเป็นไข้มาเลเรีย นอนสลบให้น้ำเกลืออยู่ถึง ๗ วัน ๗ คืน จนหมอคิดว่าไม่น่าจะรอด แต่พอวันที่ ๘ ก็มีคนมาบริจาคและเปลี่ยนถ่ายเลือดให้น้องชาย จนเขารอดมาอย่างเป็นอัศรรย์ แต่หลังจากที่น้องชายฟื้นมาแล้ว เขามีอาการมึนงง จำอะไรไม่ค่อยได้ และเวลาคิดอะไรจะปวดหัว เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน แล้วมาช่วยที่บ้านทำงาน  
 
        ครั้งหนึ่งเขาฝันเห็นว่ามีผู้ชายและผู้หญิงตัวสูงใหญ่ นุ่งโจงกระเบนมายืนอยู่ปลายเท้า แล้วบอกให้ไปขุดทองที่ฝังอยู่ใกล้ๆบ้าน แต่น้องชายก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร และได้เล่าความฝันให้โยมแม่ฟัง โยมแม่ก็สะดุดใจเพราะที่ที่น้องชายเล่าในฝันนั้น โยมแม่เคยเห็นแสงสว่างผุดขึ้นมาจากพื้นดินเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง โยมแม่จึงได้ไปหาคนทรง คนทรงก็บอกว่าที่บ้านมีทองฝังอยู่ โดยบอกตำแหน่งที่อยู่อย่างละเอียด และบอกว่า เมื่อขุดลงไปจะพบก้อนหินร่วนๆ และจะพบทอง น้องชายจึงได้ทำตามที่คนทรงบอก โดยเริ่มลงมือขุดในช่วงใกล้รุ่ง ปรากฏว่าน้องชายขุดลงไป ๒ เมตร ก็พบก้อนหินร่วนๆ อย่างที่คนทรงบอกจริงๆ แต่ว่าไม่พบทองจึงเลิกขุด ต่อมาโยมแม่ก็ฝันว่าทองนี้ได้เคลื่อนย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่ง   และมีพ่อเฒ่าที่ชอบนั่งสมาธิ ก็มาบอกว่าที่ตรงนี้มีทอง แต่เจ้าของเขาบอกให้บวชให้เขาก่อน ๗ วัน เขาถึงจะให้ แต่น้องชายของกระผมไม่ได้บวชให้ จึงไม่ได้ทอง
 
        เมื่อปลายปี 2546 กระผมได้ทราบว่าใน 2547 จะมีการทอดกฐินจักรพรรดิ เพื่อสร้างอาคารภาวนา 60 ปีพระราชฯ   ถ้าหากใครได้ทำบุญนี้จะทำให้ปิดอบาย กระผมจึงมีความปรารถนาอยากจะให้โยมแม่ได้เป็นประธานกฐินให้ได้     กระผมจึงได้ไปปรึกษากับพี่น้องทั้ง 4 คน ในครอบครัว ทุกคนก็เห็นดีเห็นงาม  ทั้งๆที่ตอนนั้นครอบครัวของกระผมก็ยังมีหนี้อยู่  พี่สาวของกระผมซึ่งมีความศรัทธาในตัวหลวงปู่สดมาก ก็ได้เริ่มอธิษฐานกับหลวงปู่และนั่งสมาธิทุกวัน ได้บอกกับหลวงปู่ว่า “ขอให้ได้เงิน 1 แสนบาทมาทำบุญเป็นประธานกฐินได้สำเร็จ” ทำอย่างนี้ทุกวัน
 
        จากนั้นไม่นาน วัวนมซึ่งที่บ้านของกระผมเลี้ยงเอาไว้ ก็ให้นมมาก ทั้งที่ปกติรายได้จากการขายนมวัว เดือนหนึ่งไม่เกิน 2 หมื่น บางที ไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่พี่สาวอธิษฐานแล้ว วัวกลับให้นมมากเป็นพิเศษ จนสามารถขายนมวัว มีรายได้ตกเดือนละ 4 หมื่นบาท อยู่เป็นเวลา 3 เดือน พี่สาวได้นำเงินไปฝากธนาคารสะสมไว้รวมเป็นเงินได้ 1 แสน 2 หมื่นบาท พอกระผมทราบข่าวว่าพี่สาวรวบรวมเงินได้ 1 แสนแล้ว กระผมจึงได้ไปที่บ้าน ไปบอกโยมแม่ให้นำเงินนั้นมาทำกฐิน โยมแม่ก็ตกลง พี่สาวได้ไปถอนเงินออกมาจากธนาคารจนหมด กระผมได้พาโยมพ่อ โยมแม่มาที่วัดในวันนั้น และก็ได้ถวายปัจจัยนี้กับหลวงพ่อที่บ้านยาย โยมพ่อกับโยมแม่ปีติใจมาก กระผมเคยถามโยมแม่ว่าเสียดายไหม โยมแม่บอกว่าไม่เสียดายเลย ทั้งๆที่ครอบครัวของกระผมไม่เคยมีเงินเป็นก้อนแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต และนอกจากจะได้ทำบุญเป็นประธานกฐิน 1 แสนบาทแล้ว ยังเหลือเงินอีก 2 หมื่นบาท ได้ไปใช้หนี้เขาหมดในปีนั้น ยังความปลื้มปีติให้แก่กระผมและครอบครัวมาจนถึงปัจจุบัน
 
ำถาม
 
1.    เพราะวิบากกรรมใดกระผมจึงต้องไปเกิดในครอบครัวที่ยากจน และอยู่ห่างไกลความเจริญถึงชายแดนประเทศไทย อยู่ในบรรยากาศของสงคราม แต่ก็ยังได้รับการศึกษาจนกระทั่งจบการศึกษา และเข้ารับราชการได้สำเร็จ
 
2.    เป็นความจริงหรือไม่ ตอนที่โยมพ่อไปถามคนทรง และคนทรงบอกว่าดูดวงกระผมไม่ได้ เพราะเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาขวางไว้ พระพุทธรูปนั้นคืออะไรครับ
 
3.    ในช่วงที่กระผมไปที่บ้านของพ่อบุญธรรมนายตำรวจ เขาทำคุณไสยใส่กระผมใช่หรือไม่ และเพราะเหตุใดกระผมจึงไม่เป็นอะไร
 
4.    โยมยายทำวิบากกรรมใดมาจึงต้องลำบากตั้งแต่ยังเด็ก และต้องมาอยู่ร่วมกับสามีขี้เมา รวมทั้งลูกเขยขี้เมา ซึ่งต่างก็ทุบตี ด่าทอโยมยายอยู่เป็นประจำ   จนกระทั่งโดนไล่ออกจากบ้าน
 
5.    โยมน้องชายทำกรรมอะไรมาถึงได้ป่วยสลบไปถึง ๗ วัน ๗ คืน แต่ก็รอดมาได้ แต่น้องชายก็มีอาการมึนงง จำอะไรไม่ค่อยได้ เป็นเพราะวิบากกรรมใด
 
6.    ความฝันที่น้องชายฝันว่ามีผู้ชายตัวสูงใหญ่ให้ไปขุดทอง เป็นความจริงหรือไม่  ถ้าจริงผู้ชายคนนั้นคือใครครับ และครอบครัวของกระผมมีบุญที่จะขุดทองมาได้หรือไม่ครับ
 
7.    โยมพ่อของกระผมป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง  โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  หัวใจเต้นผิดปกติ  โรคริดสีดวงทวาร  และผ่าตัดไส้ติ่ง  ๑  ครั้ง   เพราะกรรมใด และทำอย่างไรจึงจะหมดวิบากกรรมครับ
 
8.    โยมแม่ของกระผมเป็นโรคเหน็บชาตั้งแต่ขาจนถึงปลายเท้า  ,กระดูกทับเส้นประสาทและไซนัส  เพราะกรรมอะไร ทำอย่างไรจึงจะแก้วิบากกรรมได้ครับ  บุญที่โยมแม่ตัดใจถวายเงิน 1 แสนบาทซึ่งเป็นเงินก้อนแรกในชีวิต เพื่อทำบุญกฐินจักรพรรดิ ด้วยใจที่ปีติเบิกบาน    บุญนี้จะส่งผลให้แม่ได้รับอานิสงค์อย่างไรครับ
 
9.    กระผม โยมพ่อ โยมแม่ พี่สาว เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร    กระผมมีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไรบ้าง และในพุทธันดรที่แล้วกระผมได้ลงมาสร้างบารมีรอบ ๒ หรือไม่ครับ
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่าง
 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.    ลูกต้องไปเกิดในครอบครัวที่ “ยากจน”   และห่างไกลความเจริญจนติดชายแดน   อยู่ในบรรยากาศ
สงคราม    เพราะ...ในอดีตพุทธันดรที่ผ่านมา    ลูกได้เป็นทหารพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้เป็น “ขุนศึกที่เก่งกล้า”    ได้ออกรบทัพจับศึก
  
 
  
  • แล้วก็ได้ออกบวชตามพระราชา  ,  ในช่วงแรกของการบวชจะเป็นคนใจร้อน   มักมีทิฐิมานะ , เวลาหงุดหงิดมักจะไล่เพื่อนสหธรรมิกให้ไปห่างๆ ,วิบากกรรมดังกล่าวได้มาส่งผลจ่ะ ! 
  
  • แต่ได้รับการศึกษาจนเรียนจบและได้รับราชการ    เพราะ...ในชาตินั้นตอนหลังก็กลับตัวกลับใจตั้งใจศึกษาพระธรรม     และเป็นกำลังในการ “เผยแผ่” ธรรมะ  ,  และได้สร้างบุญสนับสนุนการศึกษาเอาไว้หลายชาติ  ,  ผลบุญดังกล่าวมารวมส่งผลจ่ะ ! 
  
 
2.    โยมพ่อไปถาม “คนทรง”    แต่คนทรงบอกว่า   ดูดวงลูกไม่ได้    เพราะมีพระองค์ใหญ่มาขัดขวางอยู่นั้น   เป็น “เรื่องจริง”  เพราะบุญในอดีตเคยเข้าถึงพระธรรมกาย   และเคยสร้างบุญในพระพุทธศาสนาเอาไว้มาก  ,  และเคยอธิษฐานไว้ว่า   ขออย่าได้    ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย  ,  ดังนั้นคนทรงจึงดูดวงไม่ได้ จ่ะ ! 
 
  
  • พระองค์ใหญ่ที่คนทรงบอก  ก็คือ  บุญดังกล่าวภายในตัวบันดาลให้คนทรงเห็นเป็นอย่างนั้นจ่ะ !
 
  
3.    ในช่วงที่ลูกไปบ้านคุณพ่อบุญธรรมของนายตำรวจนั้น เขาได้พยายามทำคุณไสยใส่ลูกจริงจ่ะ !
  • แต่ที่ไม่เป็นอะไรเพราะใจเป็นบุญกุศล  ,  บุญได้หล่อเลี้ยงคุ้มครองไว้จ่ะ !
  •  เขาทำคุณไสยใส่    เพราะไม่พอใจที่ลูกไปชวนเขาและบริวารเขาทำบุญ เขาจึงอยากจะแกล้งจ่ะ ! 
 
  
4.    โยมยายลำบากตั้งแต่เด็ก   เพราะ...ท่านทำทานในอดีตมาน้อย     ...ต้องมาอยู่ร่วมกับสามีขี้เมา  ,  ลูกเขยขี้เมา  ,  ซึ่งต่างทุบตีและ   ด่าทอโยมยายอยู่เป็นประจำจนกระทั่งโดนไล่ออกจากบ้าน    เพราะ...กรรมในอดีตตอนเป็นผู้ชาย   ก็ขี้เมาและชอบทุบตีบุตร-ภรรยา อยู่เป็นประจำ , โมโหก็ไล่ออกจากบ้าน , วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ ! 
 
  
  • สิ่งที่สามีและลูกเขยทำในปัจจุบัน  ก็คือ  ภาพในอดีตของท่าน   ที่เคยกระทำดังนี้มาก่อนจ่ะ ! 
 
  
 
5.    น้องชายต้องป่วยหนัก   ต้องสลบไป  7  วัน  7  คืน    แต่รอดตายได้   เพราะ...กรรมในอดีตเคย “วางยาเบื่อ” ชนิดไม่แรง     ถึงขั้นให้ตาย   ใส่ลงในสุราให้คู่อริกิน   ,   ดังนั้นเมื่อคู่อริในชาตินั้นไม่ตาย  ...แต่เมื่อคู่อริฟื้นขึ้นมา   ก็มีอาการงง ๆ   และจำอะไร  ไม่ค่อยได้  , มาชาตินี้วิบากกรรมดังกล่าวจึงมาส่งผลจ่ะ !
 
  
 
6.    น้องชายฝันว่า   มีคนสูงใหญ่ให้ไปขุดทองนั้น    ก็เป็นความฝันที่เป็นตุเป็นตะ   เป็นลมเป็นแล้ง   อย่าไปสนใจเลยจ่ะ !เพราะมันไม่จริง
 
  
 
7.    กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร   และเลี้ยงสัตว์ไว้ฆ่าขายทั้งอดีตและปัจจุบัน   มาส่งผลให้เป็น “โรคหัวใจ” , “โรคความดันโลหิตสูง” ,  “โรคกระเพาะอาหารอักเสบ”  ,  “หัวใจเต้นผิดปกติ”   เพราะใช้แรงงานสัตว์มากเกินไป  ,  “โรคริดสีดวงทวาร”  และผ่าตัดไส้ติ่งก็เพราะกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารและฆ่าขายดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ !
 
  
  • จะแก้ไขก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญ  ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา , ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาบ่อย ๆ     แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้สัตว์ทั้งหลายที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ !
 
 
  
8.    โยมแม่เป็นโรค “เหน็บชา”ตั้งแต่ขาถึงปลายเท้า , “กระดูกทับเส้นประสาท”    เพราะ...กรรมในอดีตได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม    ได้ผูกขาสัตว์เอาไว้ก่อนส่งให้เขาฆ่าขายมาส่งผลจ่ะ !  
  • “โรคไซนัส”    เพราะวิบากกรรมปล่อยสัตว์ให้ตากแดดตากฝน  โดยไม่ดูแลอย่างดี   มาส่งผลจ่ะ !
  
  • จะแก้ไขวิบากกรรม   ก็ต้องทำบุญทุกบุญ  ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา    และปล่อยสัตว์ปล่อยปลาให้บ่อย ๆ     แล้วอุทิศบุญกุศลดังกล่าวไปให้กับสัตว์ทั้งหลายที่เคยไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ ! 
  
  • บุญที่โยมแม่ตัดใจถวายเงิน  1  แสนบาทก้อนใหญ่ก้อนแรกทำบุญกฐินจักรพรรดิด้วยความปีติเบิกบาน     ก็จะส่งผลให้ “รื้อ   ผังจน” ให้หมดสิ้นไป     และภพชาติต่อไปก็จะได้มีสมบัติ     บังเกิดขึ้นได้โดยง่าย     ไม่ลำบากยากจนเหมือนชาตินี้จ่ะ ! 
  
 
9.    โยมพ่อ , โยมแม่ , พี่สาว   ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”    แต่ก็ได้เคยน้อยใจ   ซึ่งเกิดจากการกระทบกระทั่งกับคนบางคนในหมู่คณะ     จึงได้ออกจากหมู่คณะ   เลยทำให้พลัดพรากจากหมู่คณะไปหลายกัป     มาชาตินี้บุญเก่าที่เคยทำร่วมกันบันดาลให้กลับมาสร้างบุญร่วมกันอีกจ่ะ !
  
  
  • ส่วนตัวลูก   ก็มีผลการปฏิบัติได้เข้าถึง “พระธรรมกาย”   เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ได้อย่างสบาย ๆ จ่ะ ! 
  
  • พุทธันดรที่แล้ว   ลูกก็ได้ลงมาสร้างบารมีรอบ  2  อีกจ่ะ !   
  • เพราะลูกได้เข้าถึง “พระธรรมกาย”     จึงได้รับคัดเลือกลงมาเกิดสร้างบารมีอีกรอบหนึ่งจ่ะ !  
  
  • ชาตินี้   ก็ขอให้ตั้งใจบวชอุทิศชีวิตให้ได้เหมือนชาติที่ผ่านมา     แล้วตั้งใจปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงวิชชาธรรมกายให้ได้     จะได้ไปทำวิชชาปราบมารกันอีกจ่ะ ! 
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม