พญาสัตตนาคา ตอน 1


[ 12 ต.ค. 2548 ] - [ 18270 ] LINE it!

CASE STUDY
พญาสัตตนาคา
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการ คุณครูไม่ใหญ่ ที่เคารพอย่างสูงสุด
   
    ลูก เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ด้วยอานิสงส์ที่เพื่อนกัลยาณมิตรได้ติดจานดาวธรรมให้คุณแม่ของลูก ซึ่งอายุ 84 ปี   ติดตั้งจานให้เมื่อเดือนตุลาคม 2547    แต่ลูกเพิ่งมาเป็นนักเรียนฯ เมื่อต้นปี 2548  
   
    ครอบครัวของลูกเป็นชาวพุทธโดยทะเบียน คุณยาย พาลูกไปวัดทุกวันพระเช่นเดียวกับชาวพุทธทั่วไปเท่าที่โอกาสอำนวย ทั้งนี้เพราะลูกเป็นนักเรียนประจำโรงเรียนคริสต์     นิกายโปรแตสแตนท์  แต่แทนที่ลูกจะซึมซับซาบซึ้ง เรื่องราวจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่เรียนมาตลอดชีวิตเยาว์วัย ลูกกลับซึมซับความดีงามของพระพุทธศาสนาไว้ได้มากยิ่งกว่า  ครอบครัวของคุณยายคุ้นเคยกับ พระชาวเขมร รูปหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในครอบครัวเสมือนญาติสายโลหิตเดียวกัน  ท่านมีเมตตาธรรมสูงในการอบรมสั่งสอนแก่คุณแม่และลูกเสมอมา ทำให้ลูกมีความสนใจใคร่รู้ ค้นคว้าหาหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาอ่าน โดยหวังว่า เมื่อยังไม่รู้ว่าจะต้องการรู้อะไร  วันหนึ่งจะต้องพบสิ่งที่ต้องการรู้จนได้  แม้ในขณะเมื่อยังไม่รู้ แต่ก็กลับมีความมั่นอกมั่นใจในเรื่องราวตามพระไตรปิฎก ว่าต้องมีเค้ามูลความเป็นจริงเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ชีวิตของมนุษย์ แต่ก็จับต้นชนปลายไม่ถูก หรือพูดง่าย ๆ ก็คืออ่านไม่รู้เรื่องนั่นเอง   แต่ปัจจุบันลูกรู้เรื่องแล้วค่ะ  เพราะได้มาเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
   
    คุณแม่ของลูก เป็นบุตรคนกลาง ไม่รู้จักความรักความอบอุ่นของครอบครัวเท่าใดนัก และเมื่อแต่งงานมาอยู่กับ คุณพ่อของลูก คุณแม่ก็มิได้มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม  คุณพ่อ มีนิสัยชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ และได้เดินจากเราสองแม่ลูกไปมีครอบครัวใหม่   และในเวลาอีก 5 ปีต่อมา  คุณแม่ก็ได้พบกับความรักอีกครั้ง      ลูกมี น้องชายต่างบิดา 1 คน  และความรักครั้งนี้ของคุณแม่ก็มิได้ผิดแผกไปจากครั้งแรก    คุณแม่ทนแบกรับภาระและทุกข์สุขทั้งหลายด้วยความคับแค้นใจ ความเจ็บปวดของท่านจึงถ่ายทอดตรงมายังตัวลูกเสมอ ๆ ด้วยอารมณ์และคำพูดที่ลูกรับได้น้อยมาก  คุณแม่ไม่รักการทำบุญ ไม่ชอบฟังเรื่องของบุญ  และไม่พูดเรื่องของบุญ
   
    เมื่อลูกจบการศึกษาและสมรสตามประเพณีแล้ว คุณแม่ของลูกกลับไม่เป็นปลื้มบุตรเขยเอาเสียเลย และยังไม่ปลื้มมาจนทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนดี รักครอบครัว  เป็น Family Man ไม่เป็นคนช่างพูด เป็นผู้มีศีลห้าเป็นปกติ มาจากครอบครัวที่ดี   มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี   
   
    ลูกมีบุตรชาย 2 คน  ทั้งคู่ได้รับการอบรมให้รักในบุญตั้งแต่เยาว์วัย   บุตรชายคนโต เคยบวชในพระพุทธศาสนา ขณะบวชสามารถทำสมาธิได้ในระดับหนึ่ง ปัจจุบันไม่ค่อยให้เวลาในการสั่งสมบุญ ส่วน บุตรชายคนเล็ก ดูเขาจะรักในบุญมากกว่าพี่ชาย  มักชอบมาวัดกับลูก แม้ต้องนั่งรถไปกลับทุกเย็นวันศุกร์และวันอาทิตย์ก็ตาม 
   
    ลูกมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ พญาสัตตนาคา (พญานาค เจ็ดตนที่เฝ้ารักษาพระธาตุพนม)  ซึ่งลูกได้สัมผัสภายหลังสมรสแล้ว   เพราะ แม่ของสามี   เป็นชาวอำเภอธาตุพนม  ท่านเป็นผู้รักในบุญ   รักการนั่งสมาธิ  ชอบไปวัดเป็นประจำ และเป็นโยมอุปัฏฐากของท่านเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมฯ  ในสมัยนั้นมีพญาสัตตนาคาเสด็จลงมาผ่านสามเณร แม่ของสามีพร้อมผู้ติดตามใกล้ชิดจำนวน 2 – 3 ท่าน ได้มีโอกาสเข้าฟังธรรมะจากการผ่านสามเณร โดยมีแม่สามีเป็นผู้แนะนำการจัดเตรียมการต้อนรับทุกครั้ง ในระยะเริ่มแรกนั้น พญาสัตตนาคาได้เสด็จมาในทุกวันพระ ภายหลังจึงได้เพิ่มมาอีก 1 วันคือทุกวันพฤหัสบดี พญาสัตตนาคาได้ฝึกผู้คนให้รักการฟังธรรมและการนั่งสมาธิ มีสาธุชนเข้ามาฟังธรรมมากขึ้นทุกที
   
    ประมาณปี พ.ศ. 2510 มีหญิงคนหนึ่ง อายุ  20  ปีได้ทราบข่าวการรักษาโรคของพญาสัตตนาคา  จึงได้เข้ามาขอรักษาตัว โดยท่านเจ้าอาวาสได้เมตตารับไว้และให้บวชเป็นอุบาสิกา(แม่ชี) ต่อมาพญาสัตตนาคาจึงขอให้แม่ชีท่านนี้เป็นสื่อทางผ่าน แทนสามเณรที่ได้ขอลาสิกขาไป  ต่อมาแม่ชีได้ลาสิกขาออกมานานกว่า 20 ปีแล้ว  ขณะนี้มีครอบครัวและยังมีชีวิตอยู่
   
    ครอบครัวของลูกไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาได้ 5 ปี จวบจนเมื่อลูกทราบข่าวการเสียชีวิตของคุณยายของลูก จึงกลับมาเมืองไทยเป็นการถาวรด้วยความห่วงใยคุณแม่ของลูก
   
    ลูกกลับมาได้ไม่ถึงสัปดาห์  โยมพี่สาวของสามีแจ้งว่า เธอรู้สึกแปลกใจมาก เมื่ออดีตแม่ชีที่วัดพระธาตุพนม ฯ จะมาเยี่ยมที่บ้านทั้งๆ ที่ตลอด 4 – 5 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวของเราไม่ได้ข่าวคราวของเธอเลย เธอขอให้ครอบครัวของลูกไปเพื่อพบกันด้วย   ครั้นเมื่อได้พบกัน  พญาสัตตนาคาก็ได้  “เสด็จผ่าน”     อดีตแม่ชีเพื่อการสนทนาธรรม และไต่ถามสารทุกข์สุขตามสมควร   สร้างความแปลกใจให้แก่โยมพี่สาวของสามี และครอบครัวของเราเป็นอันมาก และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ครอบครัวเราได้มีโอกาสฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากการ “เสด็จผ่าน” บ่อยครั้งมาก ท่านเน้นสอนให้รู้จักธรรมะ ในขณะที่ทรงเน้นย้ำให้เราได้ลึกซึ้งกับความรู้ที่ว่าเทวดาในสวรรค์นั้น มีความศรัทธา ความเลื่อมใส และบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด
   
    ลูกทำงานในกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ยาวนานกว่า 10 ปี  การถ่ายทำต้องออกไปต่างจังหวัด หากมีฉากถ่ายทำในป่าลึกคราใด ลูกมักรับทราบด้วยความรู้สึกว่ามีผู้ติดตามปกปักรักษาลูกเสมอ ด้วยกลิ่นของน้ำปรุงโชยมาปะทะจมูก ซึ่งเมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ไม่พบว่ามีคนสมัยใหม่คนใดจะใช้น้ำปรุงต่างน้ำหอม เพื่อนที่ยืนอยู่ใกล้ชิดจะได้กลิ่นนี้ด้วย แต่ก็ไม่มีผู้ใดสนใจ เวลามีอุปสรรคในการถ่ายทำ เช่น ฝนจะตก  ลูกก็จะนึกถึงท่านพญานาค และมักได้รับผลดังใจปรารถนา
   
    วันที่ 16  มิถุนายน 2548  ครอบครัวของลูกได้มาร่วมบูชามหาธรรมกายเจดีย์ ในวันนั้นหลังจากบูชาเจดีย์เรียบร้อยแล้ว มีพระอาจารย์รูปหนึ่งซึ่งไม่เคยรู้จัก ได้มาปฏิสันถาร ชักชวนให้สามีของลูกบวช ทำให้ทราบว่าคำว่า “ตายในผ้าเหลือง” นั้นดีอย่างไร ท่านเล่าถึงอานิสงส์ของผู้สนับสนุนการบวชให้ลูกฟัง ลูกมีความรู้สึกอัศจรรย์ใจมาก เพราะเราต่างเคยพูดคุยกันเรื่องการบวชมากันแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมีโอกาส
   
    เมื่อ สามีของลูก บวชแล้วได้ 3 สัปดาห์ ได้ฝันเห็นโยมพ่อทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยฝันถึงเลยตั้งแต่โยมพ่อจากไป  ทำให้มีกำลังใจในการปฏิบัติธรรม และมองเห็นอานิสงส์ของการบวชว่าไม่มีประมาณ
   
    ส่วนของตัวลูกนั้น ขณะนี้ลูกตั้งใจจะรับบุญเรื่องงานเผยแผ่ พระศาสนาผ่านทางจานดาวธรรม   (จากการทาบทามให้เข้ามาพูดคุยแล้วในเบื้องต้นกับหลวงพี่ปรเมษฐ์)  แม้ยินดีและเต็มใจในการสนองงานเพื่อพระศาสนาเพียงไร ก็อดที่จะถามตนเองไม่ได้ว่าบุญใหญ่ ๆ ระดับโลกขนาดนี้ เรามีบุญมากพอแล้วหรือ
 
คำถาม
 
1. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณแม่ของลูก ต้องพบกับเรื่องราวความทุกข์ของชีวิตมากมาย  และเหตุใดท่านจึงไม่รักการทำบุญ  ไม่เปิดใจรับรู้เรื่องของบุญ  ลูกจะช่วยเหลือให้ท่านเข้าใจและรักในบุญได้อย่างไร   ลูกจะต้องทำอย่างไร  จึงจะทำให้คุณแม่หันมายอมรับฟังจานดาวธรรม ยอมเข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตที่คุณครูไม่ใหญ่สอน   ท่านมีบุญเก่าทางพระพุทธศาสนามาหรือไม่ เพียงไร ท่านเป็นใคร มาจากที่แห่งใด
 
2. คุณพ่อของลูกตายแล้วไปไหน  คุณพ่อรับบุญที่ลูกอุทิศไปให้บ้างหรือไม่  และลูกควรทำอย่างไรจึงจะทำให้ท่านสบายขึ้น ท่านไปเกิดแล้วหรือยังคะ
 
3. พระชาวเขมรผู้มีเมตตาธรรมสูงต่อครอบครัวของลูก ท่านมรณภาพไปนานมากกว่า 40 ปีแล้ว (ท่านละสังขารไปเมื่ออายุได้ 98 ปี) บัดนี้ท่านไปอยู่ภพภูมิใด ลูกระลึกถึงท่านเสมอ  ท่านเกี่ยวข้องกับลูกมาอย่างไร  บุญใดจึงทำให้ลูกได้รับเมตตาธรรมจากท่านมากกว่าผู้อื่น
 
4. บุพกรรมใดที่ทำให้ความเจ็บปวด จากการกระทำของคุณพ่อที่คุณแม่ได้รับจึงตรงมาหาลูกแต่ผู้เดียว ราวกับว่าท่านต้องการจะผลักความชอกช้ำทั้งหมดมายังตัวลูก ให้เป็นผู้รับไว้แทนทั้งหมด   วจีกรรมที่ท่านระบายความทุกข์ด้วยอารมณ์จะส่งผลต่อท่านเพียงไร    คุณพ่อ  คุณแม่ และลูก มีบุพกรรมใดต่อกันมาอย่างไร  และเหตุใดจริตในบุญของเรา 3 คน (พ่อแม่ลูก) จึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
 
5. การที่คุณแม่ของลูก ไม่รักและไม่ยอมรับคู่บุญของลูกนั้น เป็นเพราะเขามีบุพกรรมต่อกันมาอย่างไร  ความดีงามทั้งหลายจึงไม่อาจชนะใจท่าน
 
6. ลูกและสามีเป็นใครเกี่ยวข้องกับพญาสัตตนาคามาหรือไม่ อย่างไร และบุญใดที่ทำให้ลูกมั่นใจว่ามีเทพหลายพระองค์ให้ความเมตตาเรื่อยมาจนถึงบัดนี้ ลูกเข้าใจถูกต้องหรือไม่ และลูกควรปฏิบัติต่อท่านต่อไปอย่างไร  (เพราะลูกได้เรียนรู้ เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตจากคุณครูไม่ใหญ่ เป้าหมายแห่งชีวิตก็ชัดเจนขึ้น และได้พบแล้วซึ่งที่พึ่งสูงสุดของชีวิต คือพระรัตนตรัยภายใน) จึงกราบนมัสการ  ขอความเมตตาจากคุณครูไม่ใหญ่โปรดฝันในฝัน ให้คำแนะนำเรื่องการบูชาเทพในห้องพระของลูก ว่าสมควรเปลี่ยนแปลงหรือปฏิบัติเช่นไร 
 
7. บุญใดจัดสรรให้มีพระกัลยาณมิตรมาชักชวนให้ สามีเป็นธรรมทายาท , พระที่มาเป็นกัลยาณมิตร อดีตสามี(พระธทย.) และตัวของลูกเกี่ยวข้องกันมาอย่างไร ลูกและอดีตสามีมีสายบุญมากับหมู่คณะอย่างไร และวิบากกรรมใดที่ทำให้อดีตสามีไม่ได้พบคุณครูไม่ใหญ่ถึง  60  ปี  ทั้ง ๆ ที่ท่านเกิดช้ากว่าคุณครูไม่ใหญ่เพียง 2 วันเท่านั้น
 
8. ลูกเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด ผ่านไปมาคลองสามก็หลายสิบปี  เหตุใดวัดพระธรรมกาย จึงอยู่นอกสายตาของลูกมาตลอด    เหตุใดในชาตินี้ลูกจึงไม่มีโอกาสเกิดเป็นชาย ทั้งที่จิตใจฝักใฝ่ในบุญมากอยู่แล้ว  ลูกต้องการเปลี่ยนผังชีวิตใหม่ให้แน่นหนากว่านี้ และต้องการแก้ไขวิบากชีวิตที่เหลือ เพื่อให้ได้มีโอกาสสนองงานพระศาสนาอย่างปลอดกังวล ลูกจะสามารถทำให้งานสำเร็จบรรลุเป้าประสงค์การเผยแผ่พระศาสนาได้ดียิ่งเพียงไร
 
9. เหตุใดลูกจึงได้กลิ่นน้ำปรุงเรื่อยมา ระยะหลังลูกมิได้บูชาเทพเท่าที่เคย แต่บูชาพระรัตนตรัยมากขึ้น ในทุกครั้งที่ลูกกราบอนุโมทนาบุญไปยังท่าน มักมีกลิ่นน้ำปรุงโชยมา เหล่านี้เป็นสัญญาณของท่านผู้ใด บุญใดทำให้ลูกรับสัญญาณเหล่านี้ได้ 
 
10. โยมมารดา และโยมบิดาของสามี เป็นใคร และปัจจุบันท่านทั้งสองอยู่ในภพภูมิใด ได้รับส่วนในบุญที่พระลูกชาย และลูก ๆ ส่งไปให้หรือไม่  ท่านมีข้อความใดฝากมาหรือไม่อย่างไร  การได้ฝันเห็นโยมพ่อของพระลูกชาย พอจะอนุโลมได้หรือไม่ว่า ท่านส่งสัญญาณมาให้ทราบว่าได้รับบุญแล้ว หรือเป็นอุปาทาน
 
11. บุตรชายทั้งสองของลูก ได้สร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร มีบุญเก่าในพระพุทธศาสนามาเพียงไร  เขาคือใคร  มาจากที่แห่งใด  เหตุใดบุตรคนเล็กซึ่งชอบมาวัดกับแม่  ปฏิบัติดีแต่มีความเพียรน้อย จะแก้นิสัยนี้ได้อย่างไร 
 
ขอกราบแทบเท้าพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่
พระผู้เป็นพระแท้ ครูแท้ และพ่อแท้ของครอบครัวของลูก
มาด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
    
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณแม่ของลูก   ต้องพบเรื่องราวของชีวิตที่เป็นทุกข์มากมาย   เพราะ  …กรรมคบคนพาลในอดีตของคุณแม่ตั้งแต่      ในชาติที่เป็นผู้ชาย    ได้กระทำแบบสามีทั้ง 2 ในชาตินี้ มาส่งผลจ่ะ!

 
  • ท่านไม่รักบุญ  ,  ไม่เปิดใจรับรู้เรื่องของบุญใดเลย   เพราะ  ...ในอดีตท่านก็ไม่คบบัณฑิต  ,  ไม่เข้าหาสมณะ  ,  ไม่ฟังธรรมะ  นิสัยนี้จึงติดตัวมา จ่ะ!   
 
 
  • จะแก้ไขในเรื่องนี้    ลูกก็ต้องอดทนและปรนนิบัติท่านให้ดี  ,  หมั่นทำบุญบ่อย ๆ ทุกครั้ง   ก็ให้อธิษฐานจิตให้ท่านหันมาสนใจคำสอนในพระพุทธศาสนา  ,       สักวันหนึ่งบุญบันดาล   ก็จะทำให้ท่านค่อย ๆ ดีขึ้นจ่ะ !     … ท่านก็มีบุญเก่าทางพระพุทธศาสนามาบ้าง     โดยทำบุญตามประเพณีเท่านั้นจ่ะ !
 
 
2. คุณพ่อตายแล้ว   ...ก็ไปอยู่ “มหานรกขุม  5”     ด้วยกรรมดื่มสุรา     กำลังโดนนายนิรยบาลกรอกน้ำกรดสีดำร้อนอยู่ทุกข์ทรมานมากจ่ะ !    ...บุญที่อุทิศไปให้ก็ไปคอยอยู่ใน “ยมโลก”     เมื่อใดท่านพ้นทุกข์   ท่านก็จะไปได้รับจ่ะ ! ...ให้ทำบุญอุทิศไปให้ท่านบ่อย ๆ จ่ะ !
 
 
3. พระเขมรมรณภาพแล้ว     ก็ไปอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตเขตทั่วไป        ด้วยบุญที่ท่านได้บำเพ็ญสมณธรรม  ,  เผยแผ่ธรรม  ,  สั่งสอนธรรมะ  ด้วยจิตอนุเคราะห์ต่อเพื่อนมนุษย์จ่ะ !

 
  • ในชาติที่ท่านเคยเป็นฆราวาส  ,  ตัวลูกเคยเกิดเป็นลูกของท่าน , ความที่เคยเป็นพ่อ – ลูกกันมาก่อนในอดีต     เมื่อมาเจอกันใหม่    ในชาตินี้   จึงมีความคุ้นเคยกัน     และท่านก็ให้ความเอ็นดูเหมือนบิดาที่จะพึงมีต่อบุตรจ่ะ !
 
 
4. การกระทำของคุณพ่อที่มีต่อคุณแม่     ทำให้ท่านต้องระบายมาทางลูก    เพราะ  ... ในอดีตตัวลูกก็มีนิสัย “วจีกรรม” อย่างนี้กับครอบครัวมา  คือ  ชอบระบายอารมณ์อย่างนี้ใส่กับสมาชิกในครอบครัว   มาส่งผลจ่ะ !

 
  • “วจีกรรม” ที่ท่านระบายความทุกข์ด้วยอารมณ์     จะส่งผลให้ท่านมีวิบากกรรม  คือ  ท่านก็จะต้องไปเจอวจีกรรมอย่างนี้เหมือนดังที่ลูกเจอจากท่านนั่นแหละจ่ะ! เหมือนกำกงกำเกวียนจ่ะ!
 
  • จริตของลูกต่างจากพ่อและแม่    เพราะ  ...แต่ละคนทำกรรม กันมาต่างกันไป  ,  เช่น ในอดีตชาติที่ผ่านมา   ตัวลูกก็มีสภาพเหมือนคุณแม่ในชาตินี้     แต่โชคดีในชาตินั้นได้กัลยาณมิตร        จึงได้มาสร้างบุญ   และหมั่นอธิษฐานจิตว่าชาติต่อไป     ก็ขอให้ได้สามีที่ดีมีศีลธรรม   ...มาชาตินี้ก็สมปรารถนาจ่ะ !
 
 
5. การที่คุณแม่ไม่ยอมรัก   และไม่ยอมรับคู่บุญของลูก เพราะ... ศรัทธา , ศีล , ทิฐิ  ไม่เท่ากัน   จึงไม่เข้ากัน     แต่ไม่ได้  มีกรรมอะไรกันมาจ่ะ !    ... คล้ายแสลงใจตัวเองว่า   ท่านมีสามีไม่ได้ดีเหมือนตัวลูกมี     แต่ก็สามารถแก้ไขได้   ให้อดทนปรนนิบัติท่านและเป็นกัลยาณมิตรให้ท่านบ่อย ๆ จ่ะ !
 
 
6. “พญาสัตตนาคา” ที่ลูกกล่าวถึงนั้น  ก็คือ  กลุ่มพยานาค ในระดับ “ภุมมเทวา” ที่อยู่ในสายการปกครองของท้าววิรุณปักษ์  ซึ่งเป็น  1  ในมหาราชทั้ง  4  ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
 
 
  • ท่านมหาราชทั้ง  4  นี้   ก็อยู่ในความปกครองของท้าวสักกะเทวราช หรือพระอินทร์ชั้นดาวดึงส์         แต่พระอินทร์ไม่ได้อยู่ที่ภูเขาหิมาลัยในเมืองมนุษย์        แต่อยู่ที่ภูเขาพระสุเมรุจ่ะ!    
 
 
  • พญาสัตตนาคาได้ถูกท้าววิรุณปักษ์ซึ่งเป็นผู้ปกครองใช้ให้มาดูแลสถานที่นี้  ,  แต่ท่านไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับลูก , แต่เป็นอัธยาศัยข้ามชาติของลูกที่เคยนับถือแบบกึ่งพุทธกึ่งเทพ , บางทีก็ไปนับถือพวกสิงๆ ทรงๆ  ,  นิสัยนี้ติดตัวมาจ่ะ !     
 
 
  • จึงทำให้เข้าใจว่ามีเทพมาเมตตา แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้มี  ,  เป็นความเชื่อที่ติดตัวอย่างแน่นแฟ้น   จึงทำให้บางครั้งเกิดอุปทานได้กลิ่น “น้ำปรุง” หอม ๆ เสมอ ๆ จ่ะ !
 
  • ลูกควรอัญเชิญรูปหล่อ  ,  รูปปั้นที่เกี่ยวกับเทพทั้งหลายไปสถิตย์ในพระแม่ธรณีหรือพระคงคา     ตามหลักวิชชาที่เคยแนะนำ     แล้วหันมาเคารพนับถือเลื่อมใสแต่พระรัตนตรัยอย่างเดียวจ่ะ !
 
 
7. พระกัลยาณมิตรท่านนี้   ท่านก็เคยเป็นกัลยาณมิตรให้กับลูกและสามีมาในอดีต     ซึ่งชาติต่าง ๆ ที่ผ่านมา   ลูกและสามีก็มาถึงหมู่คณะช้าเหมือนชาตินี้     เพราะมัวไปคิดเรื่องเทพ  ,  เรื่องทรงอยู่จ่ะ !

 
  • ลูกและอดีตสามี   ก็เคยเป็นกองเสบียงของหมู่คณะมาแบบตามอารมณ์     และไม่ค่อยตั้งจิตอธิษฐานให้ได้มาเจอหมู่คณะอย่างเร็วๆจ่ะ !    ดังนั้นชาตินี้จึงมาเจอกันช้าจ่ะ !
 
 
8. เศษกรรมกาเมจากในอดีต     จึงทำให้ชาตินี้มาเป็นผู้หญิง , ลูกอยากจะเปลี่ยนแปลงผังชีวิตใหม่ให้ดีขึ้น     ลูกก็จะต้องสั่งสมบุญทุกบุญให้เต็มที่  ทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา  เป็นต้น   ให้มาก ๆ แล้วหมั่นอธิษฐานจิตตั้งผังสำเร็จเอาไว้ให้ดี     ตามที่ลูกปรารถนาแหละจ่ะ !   จนตลอดชีวิต
 
 
9. โยมบิดาและโยมมารดาของพระ   ท่านก็ไปเป็นเทพบุตร, เทพธิดา  ,  สุดหล่อ  ,  สุดสวย   ชั้นจาตุมหาราชิกาสายพญานาค  ชั้นดี     ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา     แต่มีความนับถือผูกพันกับพญานาค     จึงทำให้มาอยู่ตรงนี้   มีวิมานทองติดกันจ่ะ !  ...ท่านทั้ง  2  ก็ได้รับบุญที่อุทิศไปให้     และรู้ว่าลูกชายได้บวช  แต่ไม่ได้มาเข้าฝัน     ที่ฝันเห็นก็เป็นเพียงจิตนิวรณ์จ่ะ !
 
 
10. บุตรชายทั้ง  2  ของลูก   ก็เป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมาจ่ะ !     บุตรชายคนเล็กสนิทกับแม่  ,  เมื่อแม่พามาก็ตามใจแม่, บุตรชายทั้ง  2  ก็มีบุญในทางพระพุทธศาสนาจ่ะ !    ... บุตรชาย ทั้ง  2  ก่อนมาเกิด   ก็มาจากที่ดีแต่ไม่ได้มาจากดุสิตบุรี  ,  แต่มาจากไหนไม่สำคัญ     ให้ประคองตัวกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษให้ได้  ก็แล้วกันจ่ะ !    
 
 
  • แม่จะต้องเป็นตัวอย่างในการทำความเพียร   และให้ลูกคบกับคนที่รักการปฏิบัติ   ก็จะทำให้ดีขึ้นจ่ะ !
 
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !
 
 

รายการวิดีโอที่เกี่ยวข้อง

พญานาค
พญานาค พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรื่องราวพญานาคไว้หลายแห่ง ซึ่งพญานาคก็มีกำเนิดหลากหลาย มีอานุภาพ และในทรรศนะของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา พญานาคเกี่ยวข้องกับบั้งไฟพญานาคอย่างไร



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม