ยิ่งมองยิ่งงาม ตอนที่ 2


[ 6 ต.ค. 2548 ] - [ 18270 ] LINE it!

CASE  STUDY
ยิ่งมองยิ่งงาม ตอนที่ 2
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
 
    ลูก เป็นลูกหลานที่มีเชื้อสายหลวงปู่วัดปากน้ำคนหนึ่ง เกิดที่ อ.สองพี่น้องค่ะ วันนี้ลูกขออนุญาตส่งเรื่องราว Case Study ที่คิดว่า จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ซึ่งเรื่องราวนี้ลูกเชื่อมั่นว่า จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึก และกล่าวขานถึงคุณงามความดีและผลบุญที่เขาทั้งหลายได้ทำไว้กับหลวงปู่ค่ะ
 
    ลูกและเหล่าบรรดาลูกหลานหลวงปู่ประมาณ 10 คนได้มาวัดพระธรรมกายครั้งแรก จากการอ่านเจอประวัติพระเดชพระคุณหลวงพ่อ(คุณครูไม่ใหญ่)จากหนังสือโลกทิพย์ เราพากันมากราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ศาลาดุสิต ในตอนนั้น ป้าละออ ผู้เป็นหลานสาวแท้ๆ ของหลวงปู่ ได้เห็นหลวงพ่อครั้งแรก ก็ร้องไห้โฮ ด้วยความปลื้มปีติ ร้องไห้เหมือนเด็ก ร้องไม่หยุด จนลูกต้องถามท่านว่าร้องทำไม ท่านก็บอกว่า “พวกเรามาถูกทางแล้ว พวกเรามาถูกทางแล้ว..!! หลวงลุงเคยบอกป้าว่าพระที่ได้ธรรมกายจะสว่างอย่างนี้แหละ...” ซึ่งนับแต่นั้นก็เป็นเหตุให้ครอบครัวลูกและลูกหลานหลวงปู่วัดปากน้ำ ได้มาวัดพระธรรมกายกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  และได้มาร่วมบุญที่วัด ทำหน้าที่ผู้นำบุญ ชวนคนจัดรถชวนญาติๆ จากอำเภอสองพี่น้อง มากันเป็นคันรถบัส เพราะที่ที่ลูกอยู่นั้น คือ แผ่นดินผืนใบบัว สถานที่เกิดของหลวงปู่วัดปากน้ำ ซึ่งมีญาติอยู่รวมๆกัน ประมาณกว่า 50 หลังคาเรือน ล้วนเป็นญาติและมีเชื้อสายหลวงปู่กันทั้งนั้น แม้จะมีครอบครัวไปแล้วก็จะปลูกบ้านอยู่ติดๆ ใกล้ๆกัน จึงทำให้ทุกคนไปมาหาสู่กัน รู้จักกันหมด แม้รุ่นลูกรุ่นเหลนที่เป็นคนละทวดกัน ก็ยังสนิทกัน ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ลูกรู้จัก และคุ้นเคยกับ ปู่ผง และ ลุงหลอม ซึ่งเป็นอุปัฏฐากหลวงปู่ในสมัยที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่   แม้ว่าทั้งสองจะเป็นญาติที่เกิดกันคนละทวดกับลูกก็ตาม
 
    ปู่ผง เป็นคนสุพรรณบุรีโดยกำเนิด ท่านมีอาชีพค้าไม้ค้ำต้นส้ม และจะหอบเอาไม้ค้ำส้มไปขายแถวบางมด ทุกครั้งที่มาขาย ก็แวะมาหาหลวงปู่ที่วัดปากน้ำ    ตอนที่หลวงปู่เริ่มป่วย  ญาติๆ ของหลวงปู่ได้ส่งลูกๆ ของตัวเองมาคอยช่วยอุปัฏฐากหลวงปู่รวมแล้วทั้งหมด 6 คน หนึ่งในนั้นก็คือ ปู่ผง ท่านเป็นอุปัฏฐากคนสำคัญ ผู้มีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องของหลวงปู่ฯ  ปู่ผงได้อุปัฏฐากรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ก่อนที่หลวงปู่จะมรณภาพเป็นเวลาถึง 2 ปีเต็ม
   
    ปู่ผงเล่าว่า หลวงปู่เคยพูดกับท่านว่า “มันดีร้อย ดีพันแล้วนา ที่มึงปฎิบัติกูเนี่ย..มึงปฏิบัติพระอื่น 10 องค์ยังไม่เท่าปฎิบัติกูองค์หนึ่งหรอก” ในขณะที่หลวงปู่กำลังพูดนั้น แม่ชีถนอม ก็นั่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งแม่ชีถนอมเป็นแม่ชีที่เข้าถึงธรรมกาย หลวงปู่จึงให้ไปดูว่า ผู้ปฎิบัติหลวงปู่ ตายแล้วจะไปไหน แม่ชีถนอมนั่งเข้าที่ดูอยู่พักหนึ่ง แล้วตอบว่า   “..คนปฎิบัติหลวงพ่อต้องขึ้นสวรรค์เจ้าค่ะ..อย่างน้อยก็ดาวดึงส์”
   
    ชีวิตปู่ผง เป็นชีวิต ที่มีความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบากยากจน จนถึงขนาดหลวงปู่ เอยปากทักว่า “ไอ้ผง..มึงไม่มีสายสมบัติติดตัวมา มึงถึงได้จน...” แล้วท่านก็ให้ปู่ผงไปหาเงินมา 25 บาท ให้มาทำบุญสร้างโรงเรียนปริยัติกับท่าน และหลวงปู่ยังบอกว่า “ที่มึงทำบุญกับกูน่ะ ถูกพระธรรมกายนับอสงไขยองค์ไม่ถ้วนทีเดียว ต่อไปคำว่าจนไม่ต้องพูดกันล่ะ ต่อไปอีกกี่ภพกี่ชาติก็มีสายสมบัติติดตัวไป จะไม่ยากไม่จนอีก” แล้วท่านก็ให้พระของขวัญมาองค์หนึ่ง ท่านบอกว่า ให้เก็บพระของขวัญไว้ให้ดี มึงรู้ไหม ถ้าใครเอาไปบูชาล่ะเท่ากับมีสมบัติเป็นพันล้านทีเดียว ถ้าบูชาดีๆ ก็เท่ากับมีสมบัติจักรพรรดิเลยทีเดียว ซึ่งปู่ผงก็ได้ทำตามที่หลวงปู่แนะนำและนำพระของขวัญพกติดตัว จนได้พบกับอานุภาพในวันที่ขึ้นรถเมล์จากสุพรรณมานครปฐม พอรถเมล์วิ่งมาถึงสามแยก รถเมล์คว่ำทั้งคัน คนในรถ 11  คน หัวล้างข้างแตก แขนหัก เลือดออก แต่ปู่ผงไม่เป็นอะไรเลย ซึ่งปู่ผงอัศจรรย์ใจมาก
   
    ตั้งแต่ปู่ผงรู้จักวัดพระธรรมกาย ท่านก็ได้มาวัด แต่ก็มาไม่ค่อยไหว เพราะชรามากแล้ว ถ้าจะมาต้องให้คนไปรับ แต่ลูกจะสังเกตเห็นว่า ปู่ผงจะมีความปีติดีใจในทุกครั้งไม่ว่าวัดจะมีการทำบุญอะไร โดยเฉพาะบุญที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ ท่านบอกว่า หลวงปู่เคยบอกท่านว่า “ใครทำอะไรให้หลวงปู่ ไม่ว่าท่านมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว ได้บุญไม่ต้องพูดกันหล่ะ” ลูกจึงถามต่อว่า ทำไม..ไม่ต้องพูดกันหล่ะ..??  ปู่ผงตอบว่า “ก็ได้บุญมากมากน่ะสิ ขนาดประมาณไม่ได้ เป็นอสงไขย เป็นกัปๆเลย...” 
   
    ต่อมาในบั้นปลายชีวิต ปู่ผงมองไม่เห็น มีอาการเหมือนเป็นตาต้อ จึงได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้หมอมารักษาตาให้ท่าน แต่หมอบอกว่าประสาทตาตายหลายปีแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้ และท่านเสียชีวิตด้วยโรคอัมพฤกษ์  ในวัย   90 ปี
   
    ลุงฉลอม ทั่วไปจะเรียกท่านจนคุ้นปากกันว่า ลุงหลอม ปัจจุบันท่านอายุ 84 ปีแล้ว ท่านเป็นหนึ่งในอุปัฏฐากคนสำคัญอีกคนหนึ่งของหลวงปู่  ท่านมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ ท่านได้พบหลวงปู่ตั้งแต่ 5 ขวบ เพราะโยมแม่ของหลวงปู่ได้พามาวัดปากน้ำด้วยกัน ต่อมามีโอกาสได้บวชเป็นสามเณรอยู่วัดปากน้ำ เมื่อลาสิกขาแล้วก็ยังไปมาวัดปากน้ำ ตราบกระทั่งหลวงปู่อาพาธ ท่านก็ได้กลับมาอุปัฏฐากดูแลใกล้ชิด จนกระทั่งบ่ายวันหนึ่งหลวงปู่เอยกับลุงหลอมว่า“กูมันถึงกำหนดแล้ว หมอให้วิเศษอย่างไร ก็เอากูไม่อยู่แล้ว กูจะต้องไป ยาหยูกหมอเขาให้กูกิน กูก็กิน แต่กูรู้ว่ามันไม่หาย กูต้องไปชุดนี้แหละ” และหลังจากนั้น 2 เดือน อยู่ๆ ลุงหลอมก็ได้สิ่งของอันล้ำค่าที่สุดในชีวิตจากหลวงปู่อย่างคาดไม่ถึง สิ่งนั้นก็คือ พระประจำตัวของหลวงปู่เอง อยู่ๆ ท่านก็หยิบพระประจำตัวของท่านแล้วยื่นให้ลุงหลอม โดยที่ท่านไม่พูดอะไรสักคำ ลุงหลอมก็ยื่นมือเข้าไปรับอย่างงงๆ แล้วหลวงปู่ท่านก็ลุกไปตรวจงานโรงเรียน.ปริยัติของท่านต่อ ลุงหลอมจึงได้แต่คิดในใจว่า “หลวงพ่อคงจะหลงเสียแล้ว อยู่ๆก็มายื่นพระให้เรา...” แล้วลุงหลอมก็คิดต่อว่า หากหลวงปู่กลับเข้ามาอีกลุงหลอมก็จะถวายคืนให้ท่าน แต่พอถวายคืน หลวงปู่กลับบอกว่า “กูให้มึง เก็บไว้ให้ดีนะอย่าให้หาย เป็นพระประจำตัวกู” ซึ่งลุงหลอมเองดีใจมาก บูชาท่านด้วยดอกมะลิทุกวัน ต่อมาหลังจากที่ลุงหลอมมาเจอผู้สืบทอดวิชชาธรรมกาย ซึ่งตรงตามที่หลวงปู่ได้บอกไว้กับลุงหลอมทุกประการ ซึ่งก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ลุงหลอมจึงถวายพระประจำตัวองค์นี้ และของของหลวงปู่ทั้งหมดที่พอจะรวบรวมได้แด่ท่าน ลุงหลอมบอกว่า พอได้น้อมถวายท่านแล้ว ก็รู้สึกหมดห่วง เพราะท่านจะนำไปทำประโยชน์ต่อวิชชาธรรมกายสืบไป และยิ่งไปกว่านั้นลุงหลอมยังได้ถวายที่ดินที่เป็นส่วนของท่าน ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นสมบัติของโยมพ่อโยมแม่หลวงปู่ ถวายเพื่อสร้างให้เป็นอนุสรณ์สถานให้กับหลวงปู่อีกด้วย
 
    ป้าละออ ท่านเป็นพี่สาวคนโต ของลุงหลอม ท่านเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคชราและอัมพาต ท่านได้สร้างบุญมากับหลวงปู่ และยังได้มีโอกาสมาสร้างบุญต่อกับพระเดชพระคุณหลวงพ่ออีกด้วย ป้าละออเป็นคนมีความเคารพเลื่อมใสในวิชชาธรรมกายมาก ทันทีที่ท่านทราบเรื่องว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะรวบรวมพี่ดินซึ่งเคยบ้านเกิดหลวงปู่  เพื่อสร้างเป็นอนุสรณ์สถานถวายหลวงปู่นั้น ป้าละออดีใจเป็นที่สุด ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลด้วยความปีติ ในขณะที่นอนป่วยเป็นอัมพาตอยู่  ท่านก็ได้ยกที่ดินในส่วนที่เป็นของท่านทั้งหมด ถวายให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความปลื้มปีติ เพื่อขอสร้างอนุสรณ์สถานบูชาหลวงปู่ด้วย และหลังจากนั้นไม่นาน ป้าละออก็ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 81 ปี
 
ลูกขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1. ทั้ง 50 กว่าครอบครัวบนผืนดินรูปใบบัว เคยมีความสัมพันธ์ในอดีตชาติกับหลวงปู่มาอย่างไรคะ บุญใดที่ทำให้กลุ่มคนกว่า 50 ครอบครัวนี้เป็นญาติกันแล้วได้มาอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะใหญ่อีกด้วย  มีสาเหตุอะไรไหมคะที่ทำให้ผืนแผ่นดินนี้เป็นรูปใบบัว
 
2. บุญใดที่ทำให้ปู่ผงได้มาเป็นญาติของหลวงปู่ และได้อุปัฏฐากใกล้ชิดดูแลหลวงปู่ก่อนที่หลวงปู่จะมรณภาพ  
 
3. บุพกรรมใดทำให้ปู่ผงจนมาก และที่หลวงปู่ให้ท่านทำบุญสร้างโรงเรียนปริยัติ 25 บาท ตอนนี้ท่านมีสายสมบัติเป็นอย่างไร   ชาติต่อๆไปปู่ผงจะรวยระดับไหนคะ   
 
4. ปู่ผงรอดจากอุบัติเหตุรถเมล์คว่ำได้อย่างไร   และกรรมใดทำให้บั้นปลายชีวิตตามองไม่เห็น    และเป็นอัมพฤกษ์ก่อนที่จะตาย
 
5. ปู่ผงก่อนเกิดมาจากไหน ตายแล้วท่านไปอยู่ไหน ท่านมีอะไรอยากฝากบอกใครไหมคะ   ท่านเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด
 
6. บุญใดที่ทำให้ลุงหลอมได้เกิดเป็นญาติหลวงปู่และได้มาอุปัฏฐากใกล้ชิดหลวงปู่คะ และบุญใดทำให้ท่านได้รับพระของขวัญประจำตัวหลวงปู่ ก่อนเกิดลุงหลอมมาจากไหน มีหน้าที่อะไร   ลุงหลอมจะได้ไปดุสิตบุรีอยู่กับหลวงปู่ไหมคะ
 
7. ปู่ผง และลุงหลอมจะได้รับอานิสงส์ของการอุปัฏฐากหลวงปู่ในชาติต่อๆไปอย่างไร และชาติหน้า ปู่ผงและลุงหลอมจะมีบุญได้มาอุปัฏฐากหลวงปู่อีกไหมคะ และต้องสร้างเหตุอย่างไร ถึงจะได้มาอุปัฏฐากหลวงปู่คะ
 
8. บุพกรรมใดที่ทำให้ป้าละออ เป็นอัมพาต ป้าละออตายแล้วไปอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรอยากฝากบอกใครไหมคะ
 
9. ลุงหลอมกับป้าละออจะได้อานิสงส์จากการถวายที่ดินอย่างไร กราบขอความเมตตาหลวงพ่อมีตัวอย่างทิพยสมบัติที่เกิดขึ้นสักนิดนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจในการถวายที่ดินและซื้อที่ดินสร้างที่จอดรถค่ะ  และชาติหน้าจะได้เป็นราชาราชินีที่ดินไหมคะ
 
10. คณะที่ช่วยกันทำโครงการเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ พวกเขามีบุญอะไรจึงได้มาทำงานที่เกี่ยวกับหลวงปู่คะ  และจะได้รับบุญกันอย่างไรบ้างคะ 
 
11. ผู้ที่ได้สร้างบารมีที่สามารถเจอทั้งหลวงปู่ และคุณครูไม่ใหญ่ ต้องสร้างเหตุในอดีตมาอย่างไร จะได้บุญแตกต่างจากผู้ที่เจอหลวงปู่หรือคุณครูไม่ใหญ่เพียงองค์เดียวหรือไม่คะ  จะเป็น 2 เท่าไหมคะ   และชุดที่สร้างบารมีมากับหลวงปู่มีหน้าที่เหมือนหรือแตกต่างกับคุณครูไม่ใหญ่หรือไม่คะ (แล้วแต่หลวงพ่อจะเห็นสมควรค่ะ)
 
12. ตัวลูกมีความสัมพันธ์ในอดีตกับปู่ผงและลุงหลอมมาอย่างไร  จึงได้มารู้จักคุ้นเคยกันในชาตินี้
 
13. ลูกได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร บุพกรรมใดทำให้ลูกยังไม่รวย    ชาติที่แล้วลูกเป็นอะไรคะ       เคยเกิดในพุทธันดรที่แล้วหรือเปล่า   และเคยเข้าถึงธรรมกายไหมคะ                                    
 

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ทั้ง  50  กว่าครอบครัว   บนผืนดินรูปใบบัว     ก็เคยมีความสัมพันธ์ในอดีตชาติกับหลวงปู่มาทั้งนั้นในสังสารวัฏ     ซึ่งยากที่จะตอบว่าเป็นอะไรกันมา    
 
 
  • แต่ตามความเป็นจริง   หลวงปู่ท่านจะต้องเกิดมาในตระกูลที่ดีมาก ๆ     ซึ่งจะต้องมีพร้อมทั้ง      รูปสมบัติ  ,  ทรัพย์สมบัติ  ,  คุณสมบัติ  และบริวารสมบัติ  เป็นต้น     แต่ท่านจุติลงมาเพื่อปราบมาร   จึงถูกพญามารกด จ่ะ!
 
2. “ปู่ผง”   ได้มาเป็นญาติกับพระเดชพระคุณหลวงปู่     ด้วยบุญในอดีตชาติหนึ่ง   หลวงปู่ท่านได้เป็นพระราชา  ,  ปู่ผงได้เป็นมหาดเล็กรับใช้
 
 
  • พระราชาชอบบริจาคทาน  ,  ปู่ผงเป็นมหาดเล็ก ก็ชอบมักเสียดายแทน แล้วก็ไม่ชอบทำทานด้วย  ด้วยบุญที่ได้ทำหน้าที่แจกจ่ายทานของพระราชาให้แก่คนยากจนดังกล่าวจึงทำให้มาเป็นญาติกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ จ่ะ!
 
  • ได้มาเป็นอุปัฏฐากหลวงปู่ก่อนที่หลวงปู่จะมรณภาพ     เพราะ       ...เคยรับใช้กันมาในชาติที่เป็นมหาดเล็กของพระราชาดังกล่าว     จึงทำให้มีโอกาสมารับบุญในช่วงท้ายของชีวิตหลวงปู่     อีกทั้งในฐานะเป็นญาติในปัจจุบันด้วย จ่ะ!
 
 
3. “ปู่ผง”   จนมาก   เพราะ   ... ตระหนี่ติดตัวมาหลายชาติ     รวมทั้งชาติที่เป็นมหาดเล็กของพระราชา     เมื่อแจกทานของพระราชาแก่คนยากจน   ก็มักจะเสียดายแทน     จึงทำให้ไม่มีสายสมบัติติดตัวมา จ่ะ!

 
  •  “หลวงปู่”  ให้  “ปู่ผง”  ทำบุญสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม   ด้วยเงิน  25  บาท    ตอนนี้ท่านก็มีสายสมบัติติดตัวแล้ว     ซึ่งก็จะทำให้ชาติต่อไปไม่จนแล้ว    เพราะผังจนถูกรื้อออกไปแล้ว จ่ะ!       ...ชาติต่อไปก็จะรวยระดับเศรษฐี จ่ะ!
 
 
4. “ปู่ผง”  รอดจากอุบัติเหตุเนื่องจากรถเมล์คว่ำ   เพราะ  ...อานุภาพพระของขวัญของหลวงปู่     และบุญสร้างโรงเรียนปริยัติธรรมได้ช่วยชีวิตไว้ จ่ะ!

 
  • ในบั้นปลายชีวิต “ปู่ผง” ดวงตามองไม่เห็น   เพราะ   ... กรรมที่ขังสัตว์ในที่มืด  เช่น  เอาปลามาขังไว้ในตุ่ม   แล้วปิดฝาเพื่อเก็บไว้ฆ่ากินทั้งในอดีตและปัจจุบันมาส่งผล จ่ะ!
 
  • เป็น “อัมพฤกษ์” ก่อนตาย   เพราะ   ...กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารกับกรรมผูกสัตว์มัดสัตว์ไว้ส่งฆ่าในอดีต   ในสังคมเกษตรกรรม  ได้ตามมาส่งผล จ่ะ!
 
 
5. “ปู่ผง”  ก่อนมาเกิดมาจากชั้น “จาตุมหาราชิกาสายคนธรรพ์”  ระดับทั่วไปในป่าหิมพานต์     ... ตายแล้ว   ก็ไปเป็นเทพบุตรสุดหล่อ  มีวิมานทองของชั้น  “ดาวดึงส์”  เฟส  3     ด้วยบุญอุปัฏฐากหลวงปู่  ,  สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม และบุญที่ทำตามประเพณีบ้าง  จ่ะ!     ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว   ก็ยิ่งมีทิพยสมบัติมากขึ้น  
 
 
  • ตอนนี้ท่านก็มีความสุขสบายดี   กำลังชื่นชมทิพยสมบัติ จ่ะ!     แล้วก็ยิ้ม ๆ บอกว่า สร้างบุญกับหลวงปู่ได้บุญเยอะ  ,  ทำน้อยแต่ได้มาก จ่ะ!  
 
 
  • ปู่ผง ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง    แต่ไม่สม่ำเสมอ  ,  ทำบุญตามอารมณ์  ,  ดังนั้นบางชาติก็เจอกัน  ,  บางชาติก็ไม่เจอกัน จ่ะ!  
 
 
6. “ลุงหลอม” ได้มาเกิดเป็นญาติกับพระเดชพระคุณหลวงปู่   และได้เป็นอุปัฏฐากหลวงปู่ตอนใกล้มรณภาพ     เพราะในอดีตชาติ ชาติหนึ่งที่หลวงปู่ได้เป็นพระราชาที่ชอบบริจาคทาน  ,  ลุงหลอมก็ได้เป็นมหาดเล็กรับใช้ใกล้ชิดพระราชาเหมือนปู่ผง    
 
 
  • โดยได้ทำหน้าที่แจกจ่ายทานตามหน้าที่     แต่ก็ไม่ได้คิดแบบปู่ผง ที่เสียดายของที่แจกจ่ายกับคนยากจน   ...ด้วยบุญดังกล่าว   จึงได้มาเกิดเป็นญาติของหลวงปู่    และได้มาอุปัฏฐากท่านในตอนท้ายชีวิต
 
  • “ลุงหลอม”   ได้รับพระประจำตัวของพระเดชพระคุณหลวงปู่ มาบูชา    เพราะ  ในชาติที่เป็นมหาดเล็กรับใช้พระราชา   ได้อธิษฐานจิตตอนที่พระราชากำลังจะออกบวชว่า   ขอให้ได้ของ แทนตนเพื่อจะได้ระลึกถึงด้วยความจงรักภักดี  
 
 
  • แล้วก็ได้รับ “ธำมรงค์” ประจำองค์ของพระราชา     โดยพระราชาก็รู้วาระจิต   จึงมอบให้   ,   แต่ลุงหลอมในชาตินั้นก็ไม่ได้ออกบวชตาม   ,   ยังครองเรือนอยู่  ,  เมื่อได้รับของแทนองค์แล้ว   ก็ยังอธิษฐานจิตอีกว่า   ขอให้ได้รับของแทนองค์อย่างนี้ไปทุกชาติ
 
 
  • ดังนั้นชาตินี้จึงได้รับพระประจำตัวของหลวงปู่  ,  เพราะหลวงปู่ท่านรู้ความปรารถนา ในอดีตของลุงหลอม    จึงมอบให้  ,  มีความศักดิ์สิทธิ์มาก   เพราะท่านซ้อนวิชชาอยู่เป็นประจำ
 
  • ก่อนมาเกิดลุงหลอมมาจาก   ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ   ในพุทธันดรที่ผ่านมา     ลุงหลอมได้เป็นบริวารรับใช้หลวงปู่     ทั้งตอนก่อนหลวงปู่บวช     กระทั่งหลวงปู่บวชแล้ว  ก็ยังเป็นอุปัฏฐากรับใช้ใกล้ชิด     แต่เป็นอุบาสก   เพราะใจชอบเป็นอุบาสกมากกว่าเป็นพระ     แต่มีความรักผูกพันกับหลวงปู่    
 
 
  • ลุงหลอมต้องหมั่นนึกถึงบุญ     และปฏิบัติธรรมให้สม่ำเสมอ     แล้วอธิษฐานจิตตามติดหลวงปู่ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์   บ่อย ๆ ทุกวัน     ก็จะไปได้ถ้าไม่ประมาท จ่ะ!
 
 
7. “ปู่ผง”  และ  “ลุงหลอม”   จะได้รับอานิสงส์จากการอุปัฏฐากพระเดชพระคุณหลวงปู่ในภพชาติต่อไป  คือ ...จะได้ติดตามหลวงปู่ไปอีกในภพชาติต่อ ๆ ไป  ,  และจะไม่ลำบากยากแค้นเหมือนชาตีนี้
 
 
  • จะมีบริวารคอยรับใช้ไปในภพเบื้องหน้า  , จะมีร่างกายที่แข็งแรง  ,  สมส่วน  ,  สง่างาม  ,  จะมีดวงปัญญาและปฏิภาณไหวพริบเป็นอย่างดี  ,  จะมีลาภ , ยศ , สรรเสริญ , สุข   และจะได้เข้าถึงพระธรรมกาย  เป็นต้น จ่ะ!
 
  • “ปู่ผง”  และ  “ลุงหลอม”   ก็มีสิทธิ์ที่จะได้อุปัฏฐากใกล้ชิดหลวงปู่ไปในภพชาติเบื้องหน้าอีก     ถ้าปรารถนาจะเป็นอย่างแรงกล้า จ่ะ! 
 
 
  • ผู้ที่จะได้เป็นอุปัฏฐากพระเดชพระคุณหลวงปู่     จะต้องประกอบเหตุ ...คือ  ต้องมีสายบุญกับพระเดชพระคุณหลวงปู่มาในอดีต  อีกทั้งจะต้องตั้งความปรารถนาอย่างแรงกล้า    ที่จะไปเป็นอุปัฏฐากท่าน  ในทุกครั้งที่ทำบุญทุกบุญ  ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา  เป็นต้น จ่ะ!
 
 
8. “ป้าละออ”  เป็น  “อัมพาต”   เพราะ...กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งในอดีตและปัจจุบัน   มาส่งผลจ่ะ !   ...ตายแล้วก็ไปรออยู่ “ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตเสบียง”     ด้วยใจที่ผูกพันกับหลวงปู่และบุญทุกบุญที่ทำกับท่าน  ,  รวมทั้งบุญที่ทำในพระพุทธศาสนาและถวายที่ดิน   
 
 
  • ท่านกำลังปลื้มมีความสุขมาก     ฝากความถึงลุงหลอมและทุกคน   ตอนนี้ท่านกำลังนั่งธรรมะที่วิมานหลวงปู่ไม่ได้คิดเรื่องอะไร   นอกจากตั้งใจหยุดใจให้ละเอียด จ่ะ!
 
 
9. “ลุงหลอม”  กับ  “ป้าละออ”   จะได้อานิสงส์จากการถวายที่ดิน  คือ   ... มีวิมานใหญ่โตกว้างขวางที่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ เป็นวิมานทองประดับรัตนชาติสวยงามมาก      ...ภพชาติต่อไป    ก็จะไม่รู้จักคำว่ายากจน   แล้วจะมีสมบัติเป็นที่ดินมากมาย    ได้เป็นราชาและราชินีที่ดิน   เป็นต้น จ่ะ!
 
 
10. ตัวลูกและปู่ผงกับลุงหลอม    ได้มีความสัมพันธ์กันในชาตินี้    เพราะ ... เคยเป็นข้าราชบริพารร่วมกันมา   ของพระราชาองค์ที่ชอบทำทานแก่คนยากจน     แต่ในชาตินั้นตัวลูกเป็นผู้ชาย  ได้เป็นมหาดเล็กของพระราชาเหมือนปู่ผงและลุงหลอม จ่ะ!
 
 
11. ลูกได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมา
 
 
12. พุทธันดรที่ผ่านมา   ตัวลูกเป็น “คุณหนู” ลูกสาวเศรษฐี   สุขุมาลชาติ   สวยเหมือนดอกฟ้า   สง่างามเฉิดฉาย     ก็เลยชอบ แต่งองค์ทรงเครื่อง  รักสวยรักงาม  เพลิดเพลินกับการประดับตกแต่ง     จนบางครั้งก็ประมาทในการสร้างบารมี     แต่ก็มีจิตเลื่อมใสศรัทธาในหมู่คณะอย่างเต็มที่     แต่มักจะไปเสียเวลากับเรื่องดังกล่าว  ,  จึงมักจะคิดสร้างบารมีล่าช้า    เพราะความประมาทว่า “ยังไงก็ทำอยู่แล้ว   เดี๋ยวก็ได้”     จึงทำให้กรรมแห่ง “ความ-ตระหนี่” ในหลาย ๆ ชาติได้ช่องมาตัดรอน     ทำให้ชาตินี้ไม่รวย  ,  แต่รวยพอประมาณที่มีหลานได้     ไม่เหมือนพุทธันดรที่ผ่านมา  (ชาติก่อนเหมือนดอกฟ้า  ,  ชาตินี้เหมือนดอกหญ้า)

 
  • เวลานั่งธรรมะในชาติที่ผ่านมา   ก็พอนึกถึงพระมหาเถระได้   แต่ก็ไม่ค่อยนั่งเท่าไหร่     ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมา  แบบ “กองเสบียง”...แต่ก่อนมาเกิดก็มาจากดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ    เหมือนลุงหลอมแหละ จ่ะ!  
 
 
  • ชาตินี้มาเจอกันอีก     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ     แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์     อย่าได้พลัดกันเลย จ่ะ!
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม