อย่ามามั่วนิ่ม


[ 15 พ.ย. 2548 ] - [ 18271 ] LINE it!
View this page in: 中文

CASE STUDY
อย่ามามั่วนิ่ม
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการแทบเท้าคุณครูไม่ใหญ่  
 
    ลูก เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันปัจจุบันอยู่ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซ็ท  สหรัฐอเมริกา  เมื่อครั้งที่ยังอยู่เมืองไทย  ลูกรู้จักวัดพระธรรมกายขณะบวชเป็นสามเณรที่วัดแถวบ้าน ในช่วงปิดเทอมสมัยเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2  ขณะบวชได้มีโอกาสอ่านหนังสือมงคลชีวิต เล่มที่ 2 รู้สึกถูกใจมาก อ่านรวดเดียวจบ จึงมาที่วัดพระธรรมกายตามที่อยู่ในหนังสือ  จากนั้นก็ห่างจากวัดไปจนกระทั่งจบปริญญาตรีและได้มาพบกับกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง  จึงได้กลับเข้ามาทำบุญที่วัดอีกครั้ง ลูกพยายามสร้างบุญเรื่อยมา  และก็ได้มีโอกาสบวชเป็นพระธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษาปี 2541 (รุ่นอัศจรรย์ตะวันแก้ว) ช่วงนั้นผมปลาบปลื้มมาก ที่สามารถชักชวนคนในบ้านเข้าวัดได้เกือบทั้งหมด  คุณพ่อและคุณแม่ตั้งใจทุ่มทำบุญอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เราช่วยกันสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวและบอกบุญร่วม 70 องค์ 
 
    ครอบครัวของลูก ติดตามร่วมบุญทุกบุญของทางวัดมาอย่างสม่ำเสมอ โดยเราได้เป็นประธานกองกฐินเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่กฐินปี 45 , ปี 46 , ปี 47 และกฐินล่วงหน้าปี 48  รวมทั้งเป็นประธานกองหล่อองค์พระสามแสนปลื้ม 4 กอง และเสาแก้วอีก 1 ต้นครับ  ล่าสุดที่บ้านเพิ่งร่วมบุญสร้างมหารัตนบัลลังก์ของหลวงปู่ 50 แผ่นครับ ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่กลับเป็นฝ่ายชวนลูกทำบุญแทน ซึ่งท่านทั้งสองปลาบปลื้มในบุญและรักคุณครูไม่ใหญ่มากๆครับ
 
    คุณพ่อคุณแม่ของลูก ในช่วงเริ่มต้นของชีวิต ท่านต้องประสบกับความยากลำบากมาก ช่วงที่ท่านแต่งงานกันใหม่ๆ ต้องเข้าไปอยู่บ้านคุณพ่อที่อยู่กันแบบกงสี  ลูกแต่ละคนหาเงินมาได้เท่าไหร่ก็จะต้องให้ คุณปู่คุณย่า เพื่อมาไว้ใช้จ่ายภายในบ้าน 
 
    คุณแม่ ต้องทำงานทุกอย่างในบ้านยิ่งกว่าคนรับใช้ เพราะ คุณย่าและพี่น้องของคุณพ่อ ไม่ชอบคุณแม่ ไม่มีใครให้ความเป็นมิตรกับลูกสะใภ้คนนี้ ครั้งหนึ่งคุณพ่อซื้อทุเรียนมาให้คนที่บ้านทาน   บังเอิญว่า พี่ชายของคุณพ่อ ซึ่งมีอาการประสาทอยู่แล้วเกิดปวดท้องจึงโทษว่าเกิดจากทุเรียน และกล่าวหาว่าคุณแม่เอาของที่มีคุณไสยมาให้ทาน ทั้งๆที่คุณแม่ก็ยังไม่รู้เรื่องที่คุณพ่อซื้อทุเรียนมาแจกด้วยซ้ำ  พี่น้องคนอื่นและคุณย่าซึ่งไม่ชอบคุณแม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงกล่าวหาว่าคุณแม่ทำคุณไสย แล้วให้ไปพิสูจน์กับหมอทรงเจ้า  พอไปถึงหมอทรงเจ้าก็ทักว่า “ตัวเอ็งนั้นมีของ”  คุณแม่ซึ่งบริสุทธิ์ใจอยู่แล้วจึงถอดเสื้อชั้นนอกให้ค้นตัว  พอพบตะกรุดที่เลี่ยมทองอยู่ จึงบอกว่า “เห็นมั้ย  นี่แหละของล่ะ”  คุณแม่ก็บอกว่าอันนี้เป็นตะกรุดซึ่งได้จากการฝังลูกนิมิตที่โบสถ์ ซึ่งน้องสาวคุณพ่อที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มีอยู่เช่นกัน  หมอทรงเจ้าจึงหน้าแตก จึงโบ้ยไปเรื่องอื่นแทน  เมื่อเห็นเส้นผมที่ติดอยู่ข้างหลังเสื้อชั้นในจึงบอกว่า “เนี่ย ! เห็นมั้ยล่ะขนหมาดำ”  คุณพ่อผมจึงพูดว่า “ขนหมาอะไรยาวเป็นคืบ  ผมผู้หญิงชัดๆ นี่มันเส้นผมเมียผม อย่ามามั่วนิ่ม”   หมอทรงเจ้ายังไม่ยอมแพ้  คงยืนยันว่าคุณแม่ใช้คุณไสย และท้าว่าถ้าคุณแม่เดินข้ามสะพานจะมีอันเป็นไป ว่าแล้วก็ชี้ไปที่สะพานไม้เก่าๆอันหนึ่งด้านนอก   พอหมอพูดจบคุณแม่ก็รีบใส่เสื้อแล้วเดินข้ามสะพานนั้นให้เห็นกันจะๆ  ซึ่งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น     
 
    หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น  ทำให้คุณพ่อแยกครอบครัวออกมาอยู่เอง ซึ่งทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ  คุณแม่มีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงนัก เนื่องจากท่านต้องทำงานหนักมาตลอด ปลายนิ้วมือเป็นเหน็บชาทั้งสองมือ เจ็บที่ข้อมือ  ตอนนอนต้องใส่เฝือกที่ข้อมือ  ตาเป็นต้อต้องผ่าตัด และหยอดตาทุกวัน จมูกรับกลิ่นไม่ค่อยดี  ส่วนคุณพ่อได้รับการตรวจพบเนื้อมะเร็งที่ต่อมลูกหมากในระยะแรก ขณะนี้รับการรักษาโดยการฉีดยาระงับไว้   แต่โดยรวมท่านก็ร่างกายแข็งแรงดี
 
    ขณะนี้ลูกอยู่ที่ Boston กับ คุณป้า ซึ่งลูกรักและผูกพันมาก ด้วยเหตุที่ในวัยเด็กคุณพ่อคุณแม่ต้องทำมาหากินไม่มีเวลาเลี้ยงดูจึงฝากให้คุณป้าช่วยเลี้ยง ลูกจึงรักคุณป้าเสมือนเป็นแม่อีกคน   บ้านที่เราอยู่เป็นบ้านกัลยาณมิตรหลังแรกในบอสตัน ซึ่งมีการนิมนต์พระอาจารย์จากวัดภาวนานิวเจอร์ซี่มาเป็นเนื้อนาบุญเดือนละครั้ง  
 
    คุณป้าต้องลำบากมาตลอด ท่านถูกเพื่อนโกงบ้านและโกงเงินจำนวนมากมาหลายครั้ง ท่านอยู่อเมริกามา 17 ปี แม้จะอยู่อย่างถูกกฎหมายแต่ยังไม่มีโอกาสได้กลับเมืองไทยเลย  อีกทั้งท่านสมัครทำ Green card เสียเงินไปประมาณ 3 แสนกว่าบาท แต่ก็มีเหตุให้ไม่ได้ถึง 2 ครั้ง จนปัจจุบันอายุย่าง 62 แล้ว แต่ยังต้องทำงานหนักอยู่    
 
    หลังจากลูกเรียนจบปริญญาโททางด้านวิศวกรรมโยธาแล้ว   ลูกและคุณป้าก็ได้มาลงเอยด้วยการเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว โดยก่อนหน้านี้ เราได้เคยหุ้นกับหุ้นส่วนทำร้านอาหารไทยที่ต้องขายเหล้าเบียร์และไวน์ เนื่องจากที่อเมริการ้านอาหารระดับดีๆ ล้วนแล้วแต่ต้องมีเหล้าไว้คอยบริการลูกค้าทั้งนั้น  เพราะคนที่นี่ดื่มของพวกนี้กันจนเป็นปกติ  คือ ผิดปกติจนเป็นปกติ     ลูกและคุณป้าไม่อยากทำจึงตัดสินใจขายหุ้นออกแม้ว่าจะเป็นร้านที่ขายดีก็ตาม  เพราะไม่ต้องการรวยชาติเดียว และคิดว่าเงินที่ได้ยังไงก็ไม่คุ้มกับบาปที่ต้องไปรับในขุม 5 ยิ่งดูภาพนรกจาก DMC แล้วก็ยิ่งกลัว เพราะขนาดเวลาอาบน้ำ ถ้าเปิดน้ำอุ่น ร้อนไปหน่อย ยังสะดุ้งโหยงทุกครั้ง แล้วสัตว์นรกที่ต้องอยู่ในน้ำกรดร้อนต้องทุกข์ทรมานมากๆเลยนะครับ
 
    อีกทั้งยังเห็นตัวอย่างของคนที่ต้องมีชีวิตพังทลายเพราะเหล้า  นั่นก็คือ ลุงของภรรยาลูก ที่มีอดีตเป็นถึงนักเรียนนายร้อย West Point ทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด มีเงินเดือนร่วม 1 ล้านบาท ได้รับหน้าที่ Entertain ลูกค้า จนสุดท้ายตัวเองกลับมาต้องติดเหล้า จึงถูกให้ออกจากงาน ปัจจุบันกลายเป็นคนไม่มีงานทำ อยู่ได้โดยมีเงินช่วยเหลือจากทางรัฐเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
    คุณตา มีภรรยาอยู่ที่เมืองจีน 1 คน มีลูกด้วยกัน 2 คน พอมาเมืองไทยได้มีภรรยาใหม่คือ คุณยาย  และมีบุตรด้วยกัน 6 คน  คุณตาเป็นคนใจดี แต่สูบบุหรี่และดื่มเหล้าเล็กน้อย ท่านมีเพียงร้านขายของเล็กๆ ไว้หาเลี้ยงชีพเท่านั้น  ชีวิตจึงไม่สบายเท่าไร  ต่อมาคุณยายเป็นลมและเสียชีวิตด้วยอายุเพียง 40 ปี  เมื่อคุณยายตาย คุณตาก็ไม่ได้แต่งงานใหม่  และยังคงมีชีวิตลำบากมากมาตลอด  จนกระทั่งอายุได้ 71 ปี  คุณตาก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
 
    คุณปู่ เป็นคนใจดี ซื่อๆ และมีความเกรงใจ คุณย่า อย่างมากเพราะคุณย่าเป็นคนดุ และไม่ค่อยให้ความยุติธรรมต่อลูกๆเท่าไหร่  รักลูกสาวมากกว่าลูกชาย   คุณปู่เสียเพราะเป็นไข้ธรรมดาแต่ถูกลูกที่มีความรู้ไม่ถูกต้อง ให้ซินแสมารักษาโดยให้ทานผ้ายันต์วิเศษและรดน้ำมนต์ทำให้จากไข้ธรรมดากลายเป็นปอดบวม  คุณปู่เสียชีวิตขณะอายุประมาณ 70 ปี    หลังจากนั้นได้ไม่นานคุณย่าก็เสียตามด้วยโรคหัวใจบวม
 
    น้องชายคนรองของลูก คลอดออกมาก่อนกำหนด โดยอยู่ในท้องเพียง 7 เดือน แต่พอออกมาแล้วก็แข็งแรงดี  หมอจึงให้นำกลับมาดูแลที่บ้านได้โดยไม่ต้องอยู่ในตู้อบเหมือนเด็กคลอดก่อนกำหนดทั่วๆ ไป   วันหนึ่งขณะที่แม่ของผมวางน้องไว้บนโต๊ะซึ่งทำเป็นที่นอน ท่านก็เคลิ้มหลับไปเพราะเพิ่งดื่มยาดองเหล้าที่มีคนแนะนำว่าทานแล้วแข็งแรงเร็วขึ้น  น้องผมซึ่งนอนอยู่บนโต๊ะก็ดิ้นตกลงไปหัวกระแทกกับอะไหล่รถยนต์ซึ่งวางอยู่ใต้โต๊ะ น้องร้องเสียงดังมากจนแม่ตกใจตื่น ตอนนั้นน้องซึ่งมีอายุเพียง 22 วัน กระโหลกศีรษะบุบ แม่รีบพาไปหาหมอ  หมอบอกว่าต้องผ่ากระโหลกศีรษะแล้วใช้เครื่องมือเข้าไปงัดส่วนที่บุบให้คืนกลับมาเหมือนเก่า  แม่กลัวว่าหลังการผ่าตัดน้องจะไม่รอดเพราะน้องยังเล็กอยู่มากจึงตัดสินใจไม่ให้รับการผ่าตัด  และไปหาคนทรงเจ้าแทน    คนทรงบอกว่า “เด็กคนนี้เอ็งเลี้ยงเองไม่รอดหรอก  เพราะมันเป็นลูกเทพ   เอ็งต้องยกให้ข้า  เอ้า ! ข้าให้เอ็ง 5 สตางค์ ยกให้ข้าก็แล้วกัน” แล้วน้องก็ถูกซื้อไปในราคา 5 สตางค์ โดยในทุกวันพระและวันโกนแม่ต้องเอาน้องไปให้คนทรงนวดกระโหลก ทำอย่างนี้อยู่ 6 เดือนจนกระโหลกที่ยุบค่อยๆ กลับเป็นปกติ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้หูของน้องใช้การไม่ได้    น้องได้ยินเสียงเพียงข้างเดียว ปัจจุบันก็ยังรักษาไม่หาย
 
คำถาม
 
1. ด้วยบุพกรรมใด  คุณพ่อคุณแม่ของลูกจึงมีชีวิตที่ลำบากในตอนต้น  แต่มาสบายตอนหลัง  , และเหตุใดคุณแม่ของลูกจึงต้องถูกครอบครัวของคุณพ่อเกลียดชัง ใช้งานและกลั่นแกล้งสารพัดอย่าง      คุณแม่มีบุพกรรมใดจึงมีโรคมาก , ส่วนคุณพ่อทำไมถึงเป็นมะเร็ง  แต่ด้วยบุญใดที่ทำให้คุณพ่อไม่เป็นอะไร    ต้องสร้างบุญอย่างไรภพชาติต่อไป คุณพ่อคุณแม่จึงจะพ้นวิบากกรรมเช่นนี้ครับ
 
2. ทำไมคุณป้าต้องลำบากมาตลอด ถูกเพื่อนโกงบ้านและโกงเงิน อีกทั้งต้องเสียเงินฟรีจากการทำ Green card    ลูกกับคุณป้าเคยเป็นแม่ลูกกันมาก่อนรึเปล่าครับ เราทั้งสองจึงรู้สึกผูกพันกันมาก
 
3. เนื่องจากกิจการร้านอาหาร ต้องสั่งซื้อเนื้อสัตว์จำนวนมากจากตัวแทนขายเนื้อ เราจะได้เศษกรรมจากการสั่งฆ่าชีวิตสัตว์หรือไม่ครับ ยิ่งร้านที่มีหลายสาขายิ่งต้องสั่งมากขึ้น กรรมจะยิ่งมากหรือไม่ครับ
 
4. ครอบครัวของลูกได้สร้างองค์พระให้กับคุณปู่ คุณย่า คุณตา และคุณยาย ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านทั้ง 4 อยู่ที่ภพภูมิใด  เมื่อสร้างองค์พระให้แล้ว ท่านได้รับอานิสงส์ของบุญนี้อย่างไรครับ
 
5. บุพกรรมใดทำให้น้องชายคนรองของลูก ต้องได้รับอุบัติเหตุจนศีรษะยุบและหูไม่ได้ยินหนึ่งข้าง  หูของน้องจะมีโอกาสหายไหมครับ  ต้องทำบุญอะไรจะได้ไม่เจอวิบากกรรมนี้อีก   คนทรงใช้วิชาของอาจารย์วิทยาธรช่วยหรือเปล่าครับ
 
6. เหตุใดลูกจึงได้รู้จักวัดตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ต้องห่างไปหลายปี จึงจะกลับเข้ามาวัดใหม่  ผู้ที่คิดจะบวชตั้งแต่เล็กๆได้ จะต้องประกอบเหตุอย่างไรครับ
 
7. ลูกเป็นภูมิแพ้ ไซนัส มาตั้งแต่เด็กยังไม่หาย   หายใจไม่สะดวก  เจ็บภายในช่องอกเป็นครั้งคราว  ปวดหัวบ่อยๆ เกิดจากบุพกรรมใดครับ    รวมทั้งเป็นโรคหลงๆ  ลืมๆ อะไรได้ง่าย   ไม่ทราบว่าเกิดจากกรรมขายสุราในชาตินี้รึเปล่าครับ เนื่องจากร้านอาหารร้านแรกที่ลูกมีหุ้นส่วนอยู่นั้นได้ขายสุราด้วย
 
8. ด้วยวิบากกรรมใดตัวลูกและภรรยาแม้เรียนจบมาสูงๆ แต่ต้องมาทำงานลำบากอยู่ที่บอสตันและห่างไกลวัดอีกด้วย
 
9. คุณพ่อ  คุณแม่  คุณป้า  พี่น้องทั้ง 4 คน  ตัวลูกและภรรยาเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรครับ  ทำไมพี่น้องบางคนรวมทั้งพ่อตาแม่ยายของกระผมยังไม่เข้าใจวัด แล้วพวกเราควรจะสร้างบารมีอย่างไร จึงจะเกิดประโยชน์แก่พระศาสนามากที่สุดครับ
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูงครับ

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณพ่อ – คุณแม่ของลูกมีชีวิตลำบากตอนต้น  แต่มาสบายภายหลัง  เพราะ …ในอดีตมักตัดสินใจทำบุญช้า  เพราะความตระหนี่ แต่ภายหลังก็ได้มาทำบุญ จึงทำให้วิบากกรรมตระหนี่ได้ช่องส่งผลก่อนจ่ะ!

 
  • คุณแม่ของลูก   ถูกครอบครัวของคุณพ่อเกลียดชัง  ,  กลั่นแกล้งใช้งานสารพัดอย่าง   เพราะ ... ในอดีตแม่ก็เคยทำลักษณะเดียวกับคุณย่าไว้  คือ  เคยแกล้งและข่มลูกสะใภ้  ,  ใช้งานสารพัดอย่าง  ด้วยวิบากกรรมนี้จึงดึงดูดให้มาเจอบ้างจ่ะ!
 
  • คุณแม่มีโรคมาก  เพราะ ...กรรมในอดีตเคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย ทำอาหารอยู่เป็นประจำมาส่งผลจ่ะ!  อีกทั้งชอบถลึงตาใส่คนด้วยใจที่ขุ่นมัว  จึงทำให้ชาตินี้สายตามัวจ่ะ!
 
  • คุณพ่อเป็น “มะเร็ง” แต่ยังไม่เป็นอะไร   เพราะ  ...กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารเป็นประจำมาส่งผล     แต่มีบุญที่ทำไว้ในปัจจุบันมา  ตัดรอน  จึงทำให้ยังไม่เป็นอะไร
 
  • จะแก้ไข   ต้องให้คุณพ่อ – คุณแม่สั่งสมบุญทุกบุญ   ทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา   แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้ยังสรรพสัตว์ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ!
 
 
2. คุณป้าลำบากมาตลอด  ,  ถูกเพื่อนโกงบ้านและโกงเงิน , และต้องเสียเงินฟรีจากการทำ  Green card   เพราะ …กรรมตระหนี่ในอดีตตามมาส่งผลให้ลำบาก, แต่ก็ทำบุญบ้าง “เผื่อเหนียว”  จึงได้เงินมาบ้างจากการทำงานหนัก, ในอดีตก็เคยไปโกงเขามา  วิบากกรรมนี้จึงทำให้มาโดนโกงบ้าง, และเสียเงินฟรีจากการทำกรีนการ์ดจ่ะ!

 
  • ลูกกับคุณป้ารักและผูกพันกันมาก   เพราะ  ...ในอดีตเคยเป็น แม่ - ลูกกัน   และได้มาเกื้อกูลกันในปัจจุบันอีก  จึงทำให้รักและผูกพันกันมากจ่ะ!
 
 
3. ลูกทำกิจการร้านอาหาร   ต้องสั่งซื้อเนื้อสัตว์จำนวนมากจากตัวแทนขายเนื้อ     ลูกก็จะมีวิบากกรรมจากการสั่งฆ่าชีวิตสัตว์  ,    ยิ่งมีสาขามากแล้วทำดังกล่าวก็ยิ่งมีวิบากกรรมมาก
 
 
  • แต่ถ้าไปซื้อเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่าแล้ว,  มาวางขาย   ดังนี้ไม่มีวิบากกรรม  คือ  เสียแต่ทรัพย์  ไม่เสียศีล  ,  และไม่ได้มีวิบากกรรมอย่างไร  อีกทั้งไม่ได้ชื่อว่าสนับสนุนทางอ้อม  ,  เพราะสัตว์ที่ถูกฆ่าก็มีวิบากกรรมเก่า  ,   ผู้ฆ่าก็มีวิบากกรรมใหม่   ไม่เกี่ยวกับเราจ่ะ!
 
 
4. คุณปู่  ,  คุณย่า  ,  คุณตา  เป็นภุมมเทวาอยู่กันคนละหมู่บ้าน  ,  ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วก็ทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้นจ่ะ! … คุณยายไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” แล้ว จึงไม่ได้รับบุญที่อุทิศไปให้จ่ะ!
 
 
5. “น้องชายคนรอง” ของลูก   ประสบอุบัติเหตุ “ศีรษะยุบ” , และ “หูไม่ได้ยินข้างหนึ่ง”   เพราะ ... กรรมในอดีตเคยเลี้ยงน้องและเล่นกับน้องที่แบเบาะ  ,  ด้วยความเลินเล่อทำให้น้องตกลงมาหัวฟาดพื้น
 
 
  • กับกรรมที่เคยดื่มสุรา   แล้วทะเลาะกันในวงเหล้า  ,  ได้ยกไหเหล้าทุ่มศีรษะ  ,  กับกรรมที่ทำ “หูทวนลม” ไม่สนใจใน คำสอนของพ่อแม่เป็นครั้งคราวมารวมส่งผลจ่ะ!  
 
 
  • หูของน้องในชาตินี้คงจะหายยากสักหน่อยจ่ะ!        ...ให้สั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน, ศีล , ภาวนาเสมอ ๆ  แล้วอุทิศบุญไปให้กับผู้ที่เราไปเบียดเบียนเขาไว้  อีกทั้งต้องอธิษฐานบ่อย ๆ ภายหลังจากการทำบุญให้พ้นวิบากกรรมนี้จ่ะ!
 
  • “คนทรง” ไม่ได้ใช้วิชาของวิทยาธรช่วยเหลือจ่ะ!
 
6. ลูกรู้จักวัดตั้งแต่เด็ก   แต่หายไปหลายปีแล้วกลับมาวัดใหม่   เพราะ  ...ในอดีตเมื่อทำบุญแล้วไม่ได้อธิษฐานจิตล้อมกรอบเอาไว้ให้ดี  ,  อีกทั้งทำบุญไม่สม่ำเสมอ    บางครั้งก็มีอารมณ์ทำบุญ  ,  บางครั้งก็ไม่มีจ่ะ!

 
  • ผู้ที่คิดบวชตั้งแต่เล็กจะต้องประกอบเหตุ   ด้วยการสั่งสมบุญ ทุกบุญ  แล้วอธิษฐานจิตบ่อย ๆ ให้เป็นผังสำเร็จติดตัวไป, เมื่อผังหนาแน่นก็จะเป็นไปตามความปรารถนาจ่ะ!
 
 
7. ลูกเป็น “ภูมิแพ้”  ,  “ไซนัส” มาตั้งแต่เด็ก   หายใจไม่สะดวก  ,  เจ็บภายในช่องอกเป็นครั้งคราว  ,  ปวดหัวบ่อย ๆ   เพราะ ... กรรมในอดีตตอนเด็กชอบแกล้งสัตว์   โดยชอบโยนเอาลูกหมา, ลูกแมวลงไปในน้ำบ่อย ๆ  ,  บางทีก็หัดให้มันว่ายน้ำ  แต่มันไม่ไหว  ,  ผลุบ ๆ โผล่ ๆ สำลักน้ำ วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ!

 
  • โรคหลง ๆ ลืม ๆ ง่าย   เพราะเศษกรรมสุราในอดีต  กับตอนเป็นพ่อค้ามักชอบโกหกลูกค้าบ่อย ๆ มาส่งผลจ่ะ!  ส่วนกรรมขายสุราในปัจจุบันยังไม่ส่งผลจ่ะ!
 
 
8. ลูกและภรรยาเรียนจบการศึกษาในระดับสูง     แต่ต้องมาทำงานหนักและอยู่ห่างไกลวัด   เพราะ ... ในอดีตช่วงแรกก่อนเจอหมู่คณะ   มักมีความเชื่อว่า จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้จะต้องหนึ่งสมอง , สองมือ  ,  ต้องเหน็ดเหนื่อย  ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้ทำบุญ
 
 
  • แต่ที่เรียนจบการศึกษาในระดับสูง   เพราะสั่งสมเรื่องปัญญาบารมีและการศึกษามาข้ามชาติ  ,  แต่ที่อยู่ห่างไกลวัดก็เป็นเรื่องของปัจจุบันที่ต้องทำมาหากิน  ,  เมื่อเห็นช่องทางไหนที่จะเป็นทางมาแห่งทรัพย์     ก็จะไปแสวงหาทรัพย์ที่นั่นจ่ะ!  
 
 
  • ให้ลูกทำธุรกิจควบคู่กับการสร้างบารมีต่อไป  อย่าได้ย่อท้อ  ต่อไปก็จะเจริญรุ่งเรืองจ่ะ!
 
 
9. คุณพ่อ  ,  คุณแม่  ,  คุณป้า  ,  พี่น้องทั้ง  4  คน  ,  ตัวลูกและภรรยา   ก็เป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมา  ,  แต่บางคนก็สม่ำเสมอ  ,  บางคนก็ไม่สม่ำเสมอ     จึงทำให้บางคนก็เข้าใจ  ,  บางคนก็ไม่เข้าใจเรื่องวัดและการสร้างบารมีจ่ะ!

 
  • ก็ให้ทุกคนตั้งใจสั่งสมบุญทุกบุญอย่างเต็มที่     เพราะเรามาเกิดเพื่อการนี้     แล้วอธิษฐานจิต   ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์     อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม