(กุมารทองมีกิ๊ก) แพ้ท้อง..มาราธอน!


[ 19 ม.ค. 2549 ] - [ 18270 ] LINE it!
View this page in: English

CASE  STUDY
 (กุมารทองมีกิ๊ก) แพ้ท้อง..มาราธอน!
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ

        กระผมมีชีวิตที่มาราธอนหลายเรื่องครับ ซึ่งความมาราธอนนี้เกิดขึ้นกับโยมแม่ จนกระทั่งสืบเนื่องมาถึงตัวกระผม ทำให้กระผมเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาบวช และในวันนี้กระผมก็ขอแบ่งปันความมาราธอนนี้มายังรายการที่  Peek สุดๆ ทาง DMC ช่องนี้ช่องเดียวครับ

        โยมแม่ของกระผม  เป็นลูกสาวชาวนา ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการช่วยโยมตาทำนาตั้งแต่อายุเพียง 12 ขวบ เพราะท่านสงสารโยมตาที่ต้องเหนื่อยตรากตรำทำนาเพียงคนเดียว เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกถึง 12 คน เมื่อโยมแม่ย่างเข้าสู่วัยสาว ก็ได้มาเรียนตัดเสื้อที่กรุงเทพ จนกระทั่งมาพบรักและแต่งงานกับโยมพ่อ หลังจากนั้นไม่นาน โยมแม่ก็ได้ตั้งครรภ์กระผมขึ้น ซึ่งแปลกมากครับ ที่โยมแม่เริ่มมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงตั้งแต่เดือนแรก กินอะไรไม่ค่อยได้เลย เพราะท่านมีอาการเหม็นอาหาร เวียนหัวและอาเจียนอย่างหนัก แม้โยมแม่จะเปลี่ยนหมอเพื่อรักษามาแล้วหลายคน อาการแพ้นั้นก็ยังไม่ทุเลาลงเลย ท่านอาเจียนจนนอนซม ต้องไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล ท่านอาเจียนจนเป็นเลือด ทรมานสะบักสะบอมอย่างนี้จนกระทั่งถึง 9 เดือน
 
        และในวันคลอดกระผมนี่เอง ถึงกับทำให้โยมแม่สลบหมดแรงต้องพักฟื้นจนไม่สามารถให้นมลูกได้ในวันแรก กระผมจึงได้แต่ร้องไห้จนโยมพ่อเป็นห่วงกลัวกระผมจะหิว และด้วยความปรารถนาดีแต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โยมพ่อจึงไปซื้อนมข้นหวานมาชงใส่ขวดนมให้กระผมดูดในวันแรกคลอด  แล้วพ่อก็กล่อมผม และแล้วเหตุการณ์ที่เศร้าที่สุดก็ได้เกิดขึ้นคือ กระผมท้องเสียขั้นรุนแรงถ่ายไม่หยุดเลย จนหมอต้องมาเฝ้าดูอาการ และนับจากนั้นกระผมก็เป็นโรคท้องเสียเรื้อรังมาตลอดจนกระทั่งอายุได้ 4 เดือน และอาการก็ได้เริ่มหนักขึ้นรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังกินอะไรไม่ได้เลย ทานนมอะไรไปก็ถ่ายออกหมด
 
        โยมแม่พยายามไปหาหมอเพื่อนำกระผมไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ก็ไม่มีหมอคนไหนรับไว้ โดยให้เหตุผลว่า ตรวจแล้วไม่เห็นเป็นอะไร และก็ไม่ยอมรับรักษาให้ โยมแม่กลุ้มใจมาก จนกระผมอายุถึง 6 เดือนอาการก็ได้ทวีความรุนแรงถึงขั้นซูบผอมลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง 9 เดือนก็ยังไม่หาย ตอนนั้นร่างของผมไม่ต่างอะไรกับซอมบี้ ศพคืนชีพครับ เพราะผมผอมกะหร่อง ท้องกิ่ว ตัวเล็กแห้ง ตาลึกโหล ผิวดำแห้งติดกระดูกซีกโครง เป็นทารกที่แทบจะกระดุกกระดิกตัวไม่ได้ จนวันหนึ่งมีคนมาบอกโยมแม่ว่า ทารกเป็นโรคถุงลิง ท่านจึงอุ้มลูกที่กำลังจะตายนั้นไปให้เขาเอาเข็มคว้านเข้าไปในกระพุ้งแก้มเพื่อควักเอามันเปลวข้างแก้มออก จริงๆ เขาต้องทำการคว้านออกทั้ง 2 ข้าง แต่ด้วยความที่กระผมทนไม่ไหว ได้แต่แผดเสียงร้องไห้อย่างทรมาน จึงทำให้ควักแก้มออกไปเพียงข้างเดียว และด้วยเหตุนี้ทำให้แก้มซ้ายและแก้มขวาของกระผมมีขนาดไม่เท่ากัน หลังจากควักถุงลิงออก 1 ข้างแล้วนั้นอาการกลับทรุดหนักลงไปอีก
 
        จนกระทั่งมีพระธุดงค์ท่านนั่งสมาธิดูให้ ท่านบอกว่า “ทารกคนนี้มีบุญมาก จะรอดได้ก็ต้องยกให้เป็นลูกพระเท่านั้น แต่ยกพระธรรมดาๆ ไม่ได้ จะต้องยกให้กับพระที่เป็นเจ้าอาวาสเท่านั้น” โยมพ่อโยมแม่จึงรีบอุ้มกระผมไปยกให้กับเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง พอไปถึง จึงกราบเรียนท่านว่า เอาลูกมายกให้ พอท่านชำเลืองดูเด็ก ท่านถึงรีบพูดด้วยเสียงดังๆว่า “ มึงเอาเด็กตายมายกให้เป็นลูกกูได้ยังไงวะ..!!” เพราะสภาพทารกตอนนั้นนอนแน่นิ่ง ตัวแห้งดำ เหมือนศพตายแล้วจริงๆ แต่หลังจากที่โยมพ่ออธิบายให้ท่านฟังแล้วท่านก็รับกระผมไว้เป็นลูกครับ พอหลังจากนำไปยกให้พระเสร็จ โยมพ่อโยมแม่ก็ได้พากระผมไปหาหมอที่คลีนิกอีก แต่ก็น่าเศร้าที่สุดเพราะหมอบอกว่า ให้ทำใจเพราะทารกมีโอกาสรอดแค่ 1% เท่านั้นจึงไม่ยอมรับกระผม 
 
        แต่โยมแม่ก็ไม่ย่อท้อท่านพากระผมไปโรงพยาบาลทหารเรือ ปรากฏว่าโชคดีมากๆ ที่โรงพยาบาลนี้เขายอมรับกระผมไว้ แต่ถึงหมอจะยอมรับกระผมไว้รักษา โยมพ่อก็ได้แต่ร้องไห้ไม่หยุด เพราะคิดว่ายังไงกระผมก็ต้องตาย ทำให้ญาติพี่น้องต่างเตรียมจัดงานศพไว้รอกันแล้ว แต่ก็มีเหตุการณ์อันไม่คาดคิดเกิดขึ้นครับ คือเมื่อกระผมอยู่โรงพยาบาลได้เพียง 1คืน อยู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมาได้ และอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ จนหาย แต่นับจากนั้นก็ทำให้กระผมก็มีโรคประจำตัวติดมาจนถึงปัจจุบันคือ จะท้องเสียถี่มากกว่าคนปกติ ผมอยากจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าได้จังเลยครับ เพราะทุกวันนี้ท้องผมจะเสียง่ายหากไม่ระมัดระวังเรื่องอาหารครับ และต่อมากระผมก็ป่วยหนักเรื้อรังอีกครั้งด้วยโรคริดสีดวงจมูกมีมูกหนองไหลมีกลิ่นเหม็นตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาแพ้อากาศทรมานมากและต้องผ่าตัดตอนอายุ 16 ปี ซึ่งกระผมเสียเลือดมากถึง 1 ใน 3 ของร่างกายและเป็นเรื้อรังจนต้องผ่าตัดอีกครั้งตอนอายุ 22 ปี

        หลวงพ่อครับ โยมแม่กระผมท่านเข็ดมากๆ จากการแพ้ท้องกระผม ดังนั้นพอตั้งท้องลูกที่ 2 เวลาท่านทำบุญอะไรก็จะอธิษฐานตลอดเวลาเลยว่า ขออย่าให้แพ้ท้อง ให้คลอดง่ายๆ เลี้ยงง่ายๆ และเรียนเก่งมากๆ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ เพราะน้องชายของกระผมทั้งคลอดง่ายเลี้ยงง่ายมากเรียนก็เก่งโดยที่แม่ไม่ลำบากใจเลย

         พอแม่มีน้องคนที่ 2 แล้วหลังจากนั้นไม่นานนักโยมแม่ก็ได้ตั้งครรภ์อีก แต่คราวนี้โยมแม่ไม่อยากมีลูกแล้วครับ เพราะช่วงนั้นโยมแม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน หากมีลูกตอนนั้นก็จะเป็นภาระในการทำมาหากิน โยมแม่จึงคิดในใจว่า “ลูกคนนี้ หากแท้งได้ก็ดี” และนับจากนั้นอีกไม่นานนัก โยมแม่ได้นั่งรถไปซื้อของ รถกระแทกมากเพราะถนนขรุขระ จนทำให้โยมแม่มีอาการปวดท้องมากจนตกเลือด และแท้งลูกในที่สุด ซึ่งหลังจากแท้งแล้วโยมแม่ฝันทันทีว่า มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ จะมาขออยู่ด้วย ซึ่งโยม แม่ก็ตอบ OK ทันที และท่านก็ได้ไปหาร่างทรงให้เขาดูให้ว่าเด็กที่มาขออยู่ด้วยเป็นใคร ร่างทรงบอกว่า เด็กคนนี้คือลูกของโยมแม่ที่แท้งไป เขาคือกุมารทองจะมาขออยู่ด้วย เขาชื่อกอแก้ว ซึ่งร่างทรงก็ได้มอบกุมารทองมาให้โยมแม่กลับมาบูชาที่บ้านด้วยกุมารทอง
 
        นับจากนั้นโยมแม่บอกว่า กอแก้วมาเข้าฝันโยมแม่ถี่มาก ซึ่งโยมแม่มักจะบอกกอแก้วว่า ให้ช่วยแม่หาเงินหาทองเข้าบ้านนะลูกนะ ซึ่งน่าอัศจรรย์ใจมากครับ โยมแม่ขายดิบขายดีทำมาค้าขึ้นมาก  กอแก้วช่วยโยมแม่อยู่อย่างนี้เกือบ 10 ปี จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง กอแก้วมาเข้าฝันบอกโยมแม่ว่า “ เดี๋ยวหนูจะไปขุดทองที่ซาอุนะแม่นะ จะขุดทองมาให้แม่ แม่จะได้รวยๆ..” และนับจากวันนั้นกอแก้วหายไป และไม่มาเข้าฝันโยมแม่อีกเลย

        ต่อมาเมื่อกระผมเป็นวัยรุ่นกระผมก็ได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งต่อมากระผมสนิทสนมกับเธอมาก จนสัญญากันว่าเราจะแต่งงานกันทันที หลังจากที่ผมบวชหลังจากเรียนจบแล้ว แต่ขณะบวชที่วัดพระธรรมกาย ผมได้เปลี่ยนใจ เพราะผมได้มารู้เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต และก็มาคิดได้ว่าหากเราสึกไปก็ต้องไปเลี้ยงลูกชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่หากเราบวชต่อจะได้ทำพระนิพพานให้แจ้ง และสามารถสร้างประโยชน์อันมหาศาลให้แก่คนหมู่ใหญ่ ไม่ได้เป็นเพียงพ่อที่สอนลูก  2-3  คน แต่อาจเป็นพ่อที่สอนลูกๆ เป็นพันเป็นหมื่น
 
        ด้วยเหตุนี้ทำให้กระผมตัดสินใจบวชอุทิศชีวิต และตัดสินใจ เปิดโอกาสให้เธอได้พบคนอื่น ผมบอกเธอว่าเราคงต้องจากกัน เธอเสียใจมาก ผมคิดว่า...อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ แม้โยมแม่ผมจะไม่เห็นด้วยในทีแรก เพราะท่านชอบและอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้มาก ซึ่งท่านก็บ่นให้ผมฟังจนถึงปัจจุบันว่า แม่น่าจะได้เธอเป็นลูกสะใภ้ เพราะแม่ทะเลาะและไม่ถูกกับลูกสะใภ้คนปัจจุบันที่เป็นภรรยาของน้องชายมาก ทำให้โยมแม่มีความทุกข์เป็นอย่างมาก

        โยมตาของกระผม เป็นชาวนาที่ทำงานหนักมาก ท่านเป็นคนขยันขันแข็ง ชอบทำบุญตามประเพณี เคยบวชเป็นพระอยู่ 1 พรรษา ท่านดื่มเหล้าบ้าง และชอบสูบยาเส้น ในบั้นปลายชีวิตท่านตายด้วยวัณโรค วัย 74  ปี
โยมยายของกระผม ท่านไม่ต้องทำงานอะไรเลย เพราะมีหน้าที่เลี้ยงลูกอย่างเดียว เพราะแค่เลี้ยงลูกอย่างเดียวก็ไม่มีเวลาทำอะไรแล้วครับ เพราะท่านมีลูกดกถึง 12 คน แต่ท่านเป็นคนใจบุญสุนทาน ชอบเข้าวัดเข้าวา ตอนตายท่านตายสบายคือ หลับไปเฉยๆ ด้วยวัย  82 ปี

        โยมก๋ง(ปู่) ของกระผม ท่านเป็นคนขยันทำงาน ท่านชอบไหว้เจ้าตามประเพณีจีน ท่านดื่มเหล้าบ้าง บั้นปลายชีวิตท่านตายด้วยโรคนิ่วในท่อปัสสาวะในวัย79 ปี

ขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังต่อไปนี้ครับ
 
1.    บุพกรรมใดของกระผมและโยมแม่ ที่ทำให้โยมแม่แพ้ท้องมาราธอนขนาดนี้ครับ

2.    พระธุดงค์ที่ท่านบอกว่าผมบุญมาก ท่านดูจากอะไรครับ และการที่ต้องยกลูกให้คนมีบุญมากกว่าจะทำให้มีชีวิตรอดจริงหรือไม่ครับ และกระผมรอดด้วยสาเหตุอะไร

3.    บุพกรรมใดที่กระผมต้องท้องเสียตั้งแต่คลอดจนเกือบตายและมีอาการเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน  , บุพกรรมใดที่ทำให้กระผมโดนเข้าใจว่าเป็นโรคถุงลิง และโดนคว้านแก้มไปหนึ่งข้าง และบุพกรรมใดทำให้กระผมเป็นริดสีดวงจมูก และหายสนิทหลังจากมาบวชครับ

4.    บุพกรรมใดที่ทำให้โยมน้องชายคลอดง่าย เลี้ยงง่าย และเรียนเก่งมากๆ   

5.    โยมน้องชายคนสุดท้องที่แท้งไป เขามาเป็นกุมารทองใช่หรือไม่ครับ แล้วเขาไปขุดทองที่ซาอุจริงหรือไม่ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนครับ

6.    บุพกรรมใดที่ทำให้ทั้งๆที่โยมตามีลูกถึง 12 คนด้วยกัน  แต่โยมตามีลูกสาวคือโยมแม่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยท่านทำงานอย่างเต็มใจและขยันขันแข็ง , โยมตาตายแล้วไปอยู่ที่ไหน   ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่  มีอะไรอยากฝากบอกไหมครับ

7.    โยมยาย โยมก๋ง ตายแล้วไปอยู่ที่ไหนครับ ได้รับบุญที่อุทิศไหมหรือมีอะไรอยากฝากบอกไหมครับ

8.    โยมแม่และลูกสะใภ้คนปัจจุบันผูกเวรอะไรกันมารึไม่ และทำอย่างไรทั้ง 2 ถึงเข้าใจกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขครับ และบุพกรรมใดที่ทำให้โยมแม่เป็นโรคปวดขามาก ต้องแก้ไขอย่างไรครับ

9.    กระผมเป็นคนเกลียดเหล้าสุดขีด และไม่ดื่มเลย และก็ไม่ช่วยโยมแม่ขายด้วย ซึ่งกระผมสามารถสอนตัวเองในเรื่องนี้ตั้งแต่เล็กๆ อย่างน่าแปลกใจ ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักวัดเลย บุพกรรมใดที่ทำให้กระผมมีอัธยาศัยแบบนี้ครับ และจะทำอย่างไรให้โยมแม่ท่านเลิกขายเหล้าได้ครับ

10.    ในชาตินี้กระผมตัดใจจากคนรักที่กำลังจะแต่งงานกันเพื่อมาบวช แล้วตั้งใจบวชตลอดชีวิต การทิ้งเขามาบวชจนเขาเสียใจมากจะมีบาปหรือได้บุญอย่างไร  ชาติที่แล้วผมกระทำเช่นนี้รึเปล่าครับ  กระผมมีผังบวชหนาแน่นขนาดไหนครับ

11.    บุพกรรมใดทำให้กระผมต้องไปสร้างบารมีอยู่ที่วัดสาขาจังหวัดจันทบุรี ผมกับที่วัดสาขาแห่งนั้นผูกพันหรือสัมพันธ์กันในอดีตมาอย่างไรครับ เพราะรู้สึกปีติและมีความสุขมากที่กระผมสร้างบารมีได้มากในดินแดนแห่งนั้น

12.    โยมพ่อ โยมแม่ โยมน้องชาย และกระผมสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใดครับ เคยเข้าถึงพระธรรมกายไหมครับ มีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม พุทธันดรที่แล้วได้ลงมาสร้างบารมีกับหมู่คณะกี่ครั้งครับ

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที 
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    โยมแม่แพ้ท้องอย่างรุนแรง   เพราะ....กรรมที่คล้าย  คลึงกันของแม่และลูก  เช่น  ตัวลูกได้จับข้าศึกมาขัง   ทรมานไว้ในคุกโดยไม่ค่อยให้อาหาร  ,  ส่วนโยมแม่ในชาติที่เป็นผู้ชายและเป็นทหาร   ได้ทรมานข้าศึกที่จับมาขังคุก   ด้วยวิธีการเดียวกับลูก       มาส่งผลจ่ะ !

  
2.    พระธุดงค์บอกว่า   ลูกมีบุญมากนั้น     ท่านดูจากสมาธิของท่าน   ที่ท่านเห็นความสว่างที่เกิดขึ้นในตัวของลูกจ่ะ !
 
  • การที่ยกลูกให้กับผู้มีบุญมากกว่าจะทำให้มีชีวิตรอดนั้น     ก็เป็นแค่ส่วนเสริมเท่านั้น     ส่วนใหญ่หรือส่วนหลักขึ้นอยู่กับบุญ – กรรมของเด็กคนนั้นจ่ะ !
  • ที่ตัวลูกรอดมาได้   เพราะ....ลูกมีบุญเก่าที่เคยสร้างมากับหมู่คณะในหลาย ๆ บุญและหลาย ๆ รูปแบบ   ในหลาย ๆ ชาติที่ผ่านมา มาอุ้มเอาไว้จ่ะ !
  
3.    ลูก “ท้องเสีย” ตั้งแต่คลอดจนเกือบตาย   และมีอาการ “เรื้อรัง” มาจนถึงปัจจุบัน   เพราะ....ในชาติที่เป็นทหาร   นอกจากให้ข้าศึกที่ถูกจับเป็นเชลยอดอาหาร     ลูกยังเอา “ยาถ่าย” ใส่ในอาหารให้เชลยศึกกิน   ทำให้เชลยศึกท้องเสียอย่างรุนแรง     วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ !
 
  • ลูกถูกเข้าใจว่า   เป็น “โรคถุงลิง” และโดนคว้านแก้มไปข้างหนึ่ง เพราะ....“ วจีกรรม” ในอดีต   ที่ชอบแอบตำหนิผู้ใหญ่ลับหลัง เช่น  ตำหนิ  พ่อ – แม่ , ลุง , ป้า , น้า , อา  อย่างไม่ถูกต้อง     และไม่ตรงไปตามความเป็นจริง   มาส่งผล     แต่กรรมไม่หนักมาก   จึงโดนคว้านข้างเดียวจ่ะ !
  • ลูกเป็นโรค “ริดสีดวงจมูก”   และมาหายได้ตอนบวช   เพราะ --- กรรมที่ทรมานข้าศึกที่จับมาได้ตอนลูกเป็นทหาร     โดยจับข้าศึกกดหัวลงไปในถังน้ำ   จนข้าศึกหายใจไม่สะดวก   แต่ไม่ถึงตาย  เพื่อ “รีดข่าว”  ,  แต่บุญบวชทั้งอดีตและปัจจุบัน   มาตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวจ่ะ !
  
4.    โยมน้องชายคลอดง่าย  ,  เลี้ยงง่าย  และเรียนเก่ง   เพราะ.....ในอดีตโยมน้องชายได้เป็นหมอรักษาไข้     ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยเอาไว้มาก   และเป็นคนชอบขวนขวายในการศึกษา   ส่งเสริมด้านปัญญาบารมีข้ามชาติมาส่งผลจ่ะ !
 
  
5.    โยมน้องชายคนสุดท้องที่ “แท้งไป” มาเป็นกุมารทองนั้น ก็เป็นเรื่องจริง   เพราะในอดีตโยมน้องชายและแม่   ก็เคยได้ไปนับถือ “ไสยเวทย์”    และเคยส่ง “สัตว์ท้อง” ไปฆ่าขาย   อีกทั้งสนับสนุนคน “ทำแท้ง”  ,  วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผลจ่ะ !     
 
 
  • เขาได้ไปซาอุตามที่อาจารย์วิทยาธรบังคับให้ไปดูแลเจ้าของกุมารทองที่อาจารย์ไสยเวทย์มอบให้     แล้วก็ไปมีแฟนที่เป็นกายละเอียดเหมือนกัน     แต่เป็นแขกชาวซาอุ(ไปมีกิ๊กกับสาวกายละเอียดซาอุ)และอยู่กับเจ้าของรูปกุมารทองที่อาจารย์ไสยเวทย์ให้ไปดูแลจ่ะ !
  
6.    โยมตามีลูกถึง  12  คนด้วยกัน     แต่มีโยมแม่เป็นลูกสาวคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยท่านทำงานอย่างเต็มที่และเต็มใจ    เพราะ....โยมตาบางชาติก็ช่วยเหลือพ่อ - แม่  ,  บางชาติก็ไม่ช่วยเหลือ     แต่ชาติที่ไม่ค่อยช่วยเหลือบิดา - มารดามีมากกว่า  ,  บุญของโยมตามีเพียงเท่านี้     จึงบันดาลให้มีโยมแม่เพียงคนเดียวคอยดูแลจ่ะ !
 
  • โยมตาตายแล้ว   ก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ชั้นดี   ในหมู่บ้าน      ภุมมเทวาแห่งหนึ่ง     ด้วยบุญที่ทำตามประเพณีในพระพุทธศาสนาและเคยบวช  ,  ได้รับบุญที่อุทิศไปให้   ก็ทำให้ท่านดีใจที่ลูกหลานยังระลึกนึกถึงท่านได้     จึงทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้นในทุกด้าน  ,  ทั้งเสื้อผ้า  ,  อาหารทิพย์  ,  ที่อยู่อาศัยเป็นต้นจ่ะ !
  
7.    โยมยาย - โยมก๋งตายแล้ว 
  • โยมยายก็ไปเป็นเทพธิดา มีวิมานทองขนาดย่อมของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส  3     ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา     ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว   ก็ทำให้ท่านมีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น     ท่านก็มีปีติใจที่ลูกหลานระลึกถึงและอุทิศ บุญไปให้จ่ะ !     

  • “โยมก๋ง” ก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” อยู่ที่ศาลเจ้าที่ตัวเองเคารพนับถือ     ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว   ก็มีสภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม     จากที่อาศัยอาหารที่เขามาเซ่นไหว้   ก็มีอาหารที่เกิดขึ้นเองด้วยบุญจ่ะ !    

  • ท่านยังลำบากเรื่องอาหารการกินอยู่   ดังนั้นท่านจึงอยากให้ทำบุญอุทิศไปให้ท่านอีก    ท่านจะได้มีอาหารทิพย์กินไม่ลำบากเหมือนเดิมจ่ะ !

  
8.    โยมแม่และลูกสะใภ้คนปัจจุบัน   ก็ไม่ได้ผูกเวรกันมา    แต่ก็เป็นปัญหาปกติของ “แม่ผัว , ลูกสะใภ้”
 
  • การที่จะให้  2  คนเข้าใจกันและอยู่ร่วมกันอย่างผาสุข , ทั้ง 2  คนต้องหันหน้าเข้าหากัน  ,  โดยลูกสะใภ้ก็ต้องอ่อนน้อม  ,  แม่ผัวก็ต้องเอ็นดูด้วยเมตตาธรรม  ,  ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน     อีกทั้งต้องมีกัลยาณมิตรแนะนำทั้ง  2  ท่าน   ก็จะปรับความเข้าใจได้   เพราะไม่ได้ผูกเวรกันมาจ่ะ !
 
  • โยมแม่เป็นโรค “ปวดขา” มาก   เพราะกรรมในอดีต   ได้เคยเอาไม้ไปตี “ขาสุนัข” ที่มันมาถ่ายเลอะเทอะ   จนขามันเป๋  ,  เจ็บขา   กับกรรมผูกขาสัตว์ในอดีต   เพื่อส่งขาย  ,  วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ !    
  • ต้องทำบุญทุกบุญ   แล้วอุทิศไปให้สัตว์เหล่านั้น  บ่อย ๆ หนักก็จะเป็นเบา
 
 
9.    ลูกเป็นคน “เกลียดเหล้า” อย่างสุดขีด   ไม่ดื่มและไม่ช่วยขายด้วยมาตั้งแต่ยังเล็ก   ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้บวชเลย   เพราะ....ในอดีตลูกเคยชักชวนคนเลิกดื่มสุรามาเยอะ   เพราะในชาตินั้นได้เกิดในครอบครัวที่มีบิดาดื่มน้ำเมา     จนทำให้มีปัญหาครอบครัว     
 
 
  • อีกทั้งตัวก็เคยดื่ม   แต่พอมีกัลยาณมิตรมาชวนไปทำบุญกับหมู่คณะ     เมื่อเข้าใจทุกข์โทษของสุราแล้วก็เลยเลิกดื่ม     และชักชวนให้คนอื่นเลิกด้วย  ,  อัธยาศัยนี้จึงติดตัวมาจ่ะ !     แต่ด้วยวิบากกรรมที่ตัวเองเคยดื่มเหล้า   เคยเลี้ยงเหล้า   เศษกรรมนี้จึงทำให้มามีมารดาค้าขายเหล้าจ่ะ !
  • จะให้โยมแม่เลิกขายเหล้า   ลูกก็จะต้องชี้โทษให้เห็นทั้งในปัจจุบันและในอบายให้ท่านเข้าใจ     วันใดที่ท่านเข้าใจ   ท่านก็จะเลิกจ๊ะ !

10.    ลูกตัดใจจากคนรักที่กำลังจะแต่งงานกัน   แล้วมาบวช   จนทำให้คนรักเสียใจนั้น   ก็ไม่บาปจ่ะ !    
  • แต่จะได้บุญจากการบวช   ซึ่งเลิศประเสริฐกว่าบุญใด  ,  อีกทั้งจะปลอดภัยในสังสารวัฏ   และไร้พันธนาการของชีวิตจ่ะ !    
  • ส่วนแฟนนั้นก็เสียใจชั่วคราว     พอเขาเข้าใจหรือมีคนใหม่เอาใจ   เขาก็หายเสียใจ, 
 
  • อีกทั้งชาติที่ผ่านมาลูกก็ทำอย่างนี้แหละจ่ะ !     โดยพุทธันดรที่ผ่านมา     ลูกได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช   ได้ทิ้งคนรักมาบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต ,  มีผลปฏิบัติธรรมได้ถึงพระธรรมกายภายใน   กลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้

11.    ลูกต้องไปสร้างบารมีอยู่ที่วัดสาขาจังหวัดจันทบุรี   ด้วยความปีติสุข   เพราะ....ในอดีตพุทธันดรที่ผ่านมา   ลูกก็ทำหน้าที่ “เผยแผ่” ภายหลังจากที่บวชแล้ว   และได้ไปโปรดเทศน์ญาติโยมตามหัวเมืองต่าง ๆ  ,  ผังนี้ติดตัวมา   จึงมีความพึงพอใจที่จะทำดังนี้จ่ะ !     ผังบวชชาติที่ผ่านมาก็หนาแน่น   เพราะบวชได้ตลอดชีวิต จ่ะ !


12.    โยมพ่อ , โยมแม่ , โยมน้องชาย   สร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” แบบตามอารมณ์     ดังนั้นบางชาติก็เจอกัน , บางชาติก็ไม่เจอกันจ่ะ !    
 
  • ส่วนตัวลูกก็ได้ลงมาสร้างบารมีทั้ง    2  ครั้งจ่ะ !    
  • ชาตินี้ก็อย่าชะล่าใจ   ให้ประคองตัวให้ดี     ให้ทำให้ดีกว่าชาติที่ผ่านมา   ก็จะเอาตัวรอดได้จ่ะ !
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว    ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม