View this page in: English
CASE STUDY
(กุมารทองมีกิ๊ก) แพ้ท้อง..มาราธอน!
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
กระผมมีชีวิตที่มาราธอนหลายเรื่องครับ ซึ่งความมาราธอนนี้เกิดขึ้นกับโยมแม่ จนกระทั่งสืบเนื่องมาถึงตัวกระผม ทำให้กระผมเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาบวช และในวันนี้กระผมก็ขอแบ่งปันความมาราธอนนี้มายังรายการที่ Peek สุดๆ ทาง DMC ช่องนี้ช่องเดียวครับ
โยมแม่ของกระผม เป็นลูกสาวชาวนา ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการช่วยโยมตาทำนาตั้งแต่อายุเพียง 12 ขวบ เพราะท่านสงสารโยมตาที่ต้องเหนื่อยตรากตรำทำนาเพียงคนเดียว เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกถึง 12 คน เมื่อโยมแม่ย่างเข้าสู่วัยสาว ก็ได้มาเรียนตัดเสื้อที่กรุงเทพ จนกระทั่งมาพบรักและแต่งงานกับโยมพ่อ หลังจากนั้นไม่นาน โยมแม่ก็ได้ตั้งครรภ์กระผมขึ้น ซึ่งแปลกมากครับ ที่โยมแม่เริ่มมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงตั้งแต่เดือนแรก กินอะไรไม่ค่อยได้เลย เพราะท่านมีอาการเหม็นอาหาร เวียนหัวและอาเจียนอย่างหนัก แม้โยมแม่จะเปลี่ยนหมอเพื่อรักษามาแล้วหลายคน อาการแพ้นั้นก็ยังไม่ทุเลาลงเลย ท่านอาเจียนจนนอนซม ต้องไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล ท่านอาเจียนจนเป็นเลือด ทรมานสะบักสะบอมอย่างนี้จนกระทั่งถึง 9 เดือน
และในวันคลอดกระผมนี่เอง ถึงกับทำให้โยมแม่สลบหมดแรงต้องพักฟื้นจนไม่สามารถให้นมลูกได้ในวันแรก กระผมจึงได้แต่ร้องไห้จนโยมพ่อเป็นห่วงกลัวกระผมจะหิว และด้วยความปรารถนาดีแต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โยมพ่อจึงไปซื้อนมข้นหวานมาชงใส่ขวดนมให้กระผมดูดในวันแรกคลอด แล้วพ่อก็กล่อมผม และแล้วเหตุการณ์ที่เศร้าที่สุดก็ได้เกิดขึ้นคือ กระผมท้องเสียขั้นรุนแรงถ่ายไม่หยุดเลย จนหมอต้องมาเฝ้าดูอาการ และนับจากนั้นกระผมก็เป็นโรคท้องเสียเรื้อรังมาตลอดจนกระทั่งอายุได้ 4 เดือน และอาการก็ได้เริ่มหนักขึ้นรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังกินอะไรไม่ได้เลย ทานนมอะไรไปก็ถ่ายออกหมด
โยมแม่พยายามไปหาหมอเพื่อนำกระผมไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ก็ไม่มีหมอคนไหนรับไว้ โดยให้เหตุผลว่า ตรวจแล้วไม่เห็นเป็นอะไร และก็ไม่ยอมรับรักษาให้ โยมแม่กลุ้มใจมาก จนกระผมอายุถึง 6 เดือนอาการก็ได้ทวีความรุนแรงถึงขั้นซูบผอมลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง 9 เดือนก็ยังไม่หาย ตอนนั้นร่างของผมไม่ต่างอะไรกับซอมบี้ ศพคืนชีพครับ เพราะผมผอมกะหร่อง ท้องกิ่ว ตัวเล็กแห้ง ตาลึกโหล ผิวดำแห้งติดกระดูกซีกโครง เป็นทารกที่แทบจะกระดุกกระดิกตัวไม่ได้ จนวันหนึ่งมีคนมาบอกโยมแม่ว่า ทารกเป็นโรคถุงลิง ท่านจึงอุ้มลูกที่กำลังจะตายนั้นไปให้เขาเอาเข็มคว้านเข้าไปในกระพุ้งแก้มเพื่อควักเอามันเปลวข้างแก้มออก จริงๆ เขาต้องทำการคว้านออกทั้ง 2 ข้าง แต่ด้วยความที่กระผมทนไม่ไหว ได้แต่แผดเสียงร้องไห้อย่างทรมาน จึงทำให้ควักแก้มออกไปเพียงข้างเดียว และด้วยเหตุนี้ทำให้แก้มซ้ายและแก้มขวาของกระผมมีขนาดไม่เท่ากัน หลังจากควักถุงลิงออก 1 ข้างแล้วนั้นอาการกลับทรุดหนักลงไปอีก
จนกระทั่งมีพระธุดงค์ท่านนั่งสมาธิดูให้ ท่านบอกว่า “ทารกคนนี้มีบุญมาก จะรอดได้ก็ต้องยกให้เป็นลูกพระเท่านั้น แต่ยกพระธรรมดาๆ ไม่ได้ จะต้องยกให้กับพระที่เป็นเจ้าอาวาสเท่านั้น” โยมพ่อโยมแม่จึงรีบอุ้มกระผมไปยกให้กับเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง พอไปถึง จึงกราบเรียนท่านว่า เอาลูกมายกให้ พอท่านชำเลืองดูเด็ก ท่านถึงรีบพูดด้วยเสียงดังๆว่า “ มึงเอาเด็กตายมายกให้เป็นลูกกูได้ยังไงวะ..!!” เพราะสภาพทารกตอนนั้นนอนแน่นิ่ง ตัวแห้งดำ เหมือนศพตายแล้วจริงๆ แต่หลังจากที่โยมพ่ออธิบายให้ท่านฟังแล้วท่านก็รับกระผมไว้เป็นลูกครับ พอหลังจากนำไปยกให้พระเสร็จ โยมพ่อโยมแม่ก็ได้พากระผมไปหาหมอที่คลีนิกอีก แต่ก็น่าเศร้าที่สุดเพราะหมอบอกว่า ให้ทำใจเพราะทารกมีโอกาสรอดแค่ 1% เท่านั้นจึงไม่ยอมรับกระผม
แต่โยมแม่ก็ไม่ย่อท้อท่านพากระผมไปโรงพยาบาลทหารเรือ ปรากฏว่าโชคดีมากๆ ที่โรงพยาบาลนี้เขายอมรับกระผมไว้ แต่ถึงหมอจะยอมรับกระผมไว้รักษา โยมพ่อก็ได้แต่ร้องไห้ไม่หยุด เพราะคิดว่ายังไงกระผมก็ต้องตาย ทำให้ญาติพี่น้องต่างเตรียมจัดงานศพไว้รอกันแล้ว แต่ก็มีเหตุการณ์อันไม่คาดคิดเกิดขึ้นครับ คือเมื่อกระผมอยู่โรงพยาบาลได้เพียง 1คืน อยู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมาได้ และอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ จนหาย แต่นับจากนั้นก็ทำให้กระผมก็มีโรคประจำตัวติดมาจนถึงปัจจุบันคือ จะท้องเสียถี่มากกว่าคนปกติ ผมอยากจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าได้จังเลยครับ เพราะทุกวันนี้ท้องผมจะเสียง่ายหากไม่ระมัดระวังเรื่องอาหารครับ และต่อมากระผมก็ป่วยหนักเรื้อรังอีกครั้งด้วยโรคริดสีดวงจมูกมีมูกหนองไหลมีกลิ่นเหม็นตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาแพ้อากาศทรมานมากและต้องผ่าตัดตอนอายุ 16 ปี ซึ่งกระผมเสียเลือดมากถึง 1 ใน 3 ของร่างกายและเป็นเรื้อรังจนต้องผ่าตัดอีกครั้งตอนอายุ 22 ปี
หลวงพ่อครับ โยมแม่กระผมท่านเข็ดมากๆ จากการแพ้ท้องกระผม ดังนั้นพอตั้งท้องลูกที่ 2 เวลาท่านทำบุญอะไรก็จะอธิษฐานตลอดเวลาเลยว่า ขออย่าให้แพ้ท้อง ให้คลอดง่ายๆ เลี้ยงง่ายๆ และเรียนเก่งมากๆ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ เพราะน้องชายของกระผมทั้งคลอดง่ายเลี้ยงง่ายมากเรียนก็เก่งโดยที่แม่ไม่ลำบากใจเลย
พอแม่มีน้องคนที่ 2 แล้วหลังจากนั้นไม่นานนักโยมแม่ก็ได้ตั้งครรภ์อีก แต่คราวนี้โยมแม่ไม่อยากมีลูกแล้วครับ เพราะช่วงนั้นโยมแม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน หากมีลูกตอนนั้นก็จะเป็นภาระในการทำมาหากิน โยมแม่จึงคิดในใจว่า “ลูกคนนี้ หากแท้งได้ก็ดี” และนับจากนั้นอีกไม่นานนัก โยมแม่ได้นั่งรถไปซื้อของ รถกระแทกมากเพราะถนนขรุขระ จนทำให้โยมแม่มีอาการปวดท้องมากจนตกเลือด และแท้งลูกในที่สุด ซึ่งหลังจากแท้งแล้วโยมแม่ฝันทันทีว่า มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ จะมาขออยู่ด้วย ซึ่งโยม แม่ก็ตอบ OK ทันที และท่านก็ได้ไปหาร่างทรงให้เขาดูให้ว่าเด็กที่มาขออยู่ด้วยเป็นใคร ร่างทรงบอกว่า เด็กคนนี้คือลูกของโยมแม่ที่แท้งไป เขาคือกุมารทองจะมาขออยู่ด้วย เขาชื่อกอแก้ว ซึ่งร่างทรงก็ได้มอบกุมารทองมาให้โยมแม่กลับมาบูชาที่บ้านด้วยกุมารทอง
นับจากนั้นโยมแม่บอกว่า กอแก้วมาเข้าฝันโยมแม่ถี่มาก ซึ่งโยมแม่มักจะบอกกอแก้วว่า ให้ช่วยแม่หาเงินหาทองเข้าบ้านนะลูกนะ ซึ่งน่าอัศจรรย์ใจมากครับ โยมแม่ขายดิบขายดีทำมาค้าขึ้นมาก กอแก้วช่วยโยมแม่อยู่อย่างนี้เกือบ 10 ปี จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง กอแก้วมาเข้าฝันบอกโยมแม่ว่า “ เดี๋ยวหนูจะไปขุดทองที่ซาอุนะแม่นะ จะขุดทองมาให้แม่ แม่จะได้รวยๆ..” และนับจากวันนั้นกอแก้วหายไป และไม่มาเข้าฝันโยมแม่อีกเลย
ต่อมาเมื่อกระผมเป็นวัยรุ่นกระผมก็ได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งต่อมากระผมสนิทสนมกับเธอมาก จนสัญญากันว่าเราจะแต่งงานกันทันที หลังจากที่ผมบวชหลังจากเรียนจบแล้ว แต่ขณะบวชที่วัดพระธรรมกาย ผมได้เปลี่ยนใจ เพราะผมได้มารู้เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต และก็มาคิดได้ว่าหากเราสึกไปก็ต้องไปเลี้ยงลูกชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่หากเราบวชต่อจะได้ทำพระนิพพานให้แจ้ง และสามารถสร้างประโยชน์อันมหาศาลให้แก่คนหมู่ใหญ่ ไม่ได้เป็นเพียงพ่อที่สอนลูก 2-3 คน แต่อาจเป็นพ่อที่สอนลูกๆ เป็นพันเป็นหมื่น
ด้วยเหตุนี้ทำให้กระผมตัดสินใจบวชอุทิศชีวิต และตัดสินใจ เปิดโอกาสให้เธอได้พบคนอื่น ผมบอกเธอว่าเราคงต้องจากกัน เธอเสียใจมาก ผมคิดว่า...อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ แม้โยมแม่ผมจะไม่เห็นด้วยในทีแรก เพราะท่านชอบและอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้มาก ซึ่งท่านก็บ่นให้ผมฟังจนถึงปัจจุบันว่า แม่น่าจะได้เธอเป็นลูกสะใภ้ เพราะแม่ทะเลาะและไม่ถูกกับลูกสะใภ้คนปัจจุบันที่เป็นภรรยาของน้องชายมาก ทำให้โยมแม่มีความทุกข์เป็นอย่างมาก
โยมตาของกระผม เป็นชาวนาที่ทำงานหนักมาก ท่านเป็นคนขยันขันแข็ง ชอบทำบุญตามประเพณี เคยบวชเป็นพระอยู่ 1 พรรษา ท่านดื่มเหล้าบ้าง และชอบสูบยาเส้น ในบั้นปลายชีวิตท่านตายด้วยวัณโรค วัย 74 ปี
โยมยายของกระผม ท่านไม่ต้องทำงานอะไรเลย เพราะมีหน้าที่เลี้ยงลูกอย่างเดียว เพราะแค่เลี้ยงลูกอย่างเดียวก็ไม่มีเวลาทำอะไรแล้วครับ เพราะท่านมีลูกดกถึง 12 คน แต่ท่านเป็นคนใจบุญสุนทาน ชอบเข้าวัดเข้าวา ตอนตายท่านตายสบายคือ หลับไปเฉยๆ ด้วยวัย 82 ปี
โยมก๋ง(ปู่) ของกระผม ท่านเป็นคนขยันทำงาน ท่านชอบไหว้เจ้าตามประเพณีจีน ท่านดื่มเหล้าบ้าง บั้นปลายชีวิตท่านตายด้วยโรคนิ่วในท่อปัสสาวะในวัย79 ปี
ขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังต่อไปนี้ครับ
1. บุพกรรมใดของกระผมและโยมแม่ ที่ทำให้โยมแม่แพ้ท้องมาราธอนขนาดนี้ครับ
2. พระธุดงค์ที่ท่านบอกว่าผมบุญมาก ท่านดูจากอะไรครับ และการที่ต้องยกลูกให้คนมีบุญมากกว่าจะทำให้มีชีวิตรอดจริงหรือไม่ครับ และกระผมรอดด้วยสาเหตุอะไร
3. บุพกรรมใดที่กระผมต้องท้องเสียตั้งแต่คลอดจนเกือบตายและมีอาการเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน , บุพกรรมใดที่ทำให้กระผมโดนเข้าใจว่าเป็นโรคถุงลิง และโดนคว้านแก้มไปหนึ่งข้าง และบุพกรรมใดทำให้กระผมเป็นริดสีดวงจมูก และหายสนิทหลังจากมาบวชครับ
4. บุพกรรมใดที่ทำให้โยมน้องชายคลอดง่าย เลี้ยงง่าย และเรียนเก่งมากๆ
5. โยมน้องชายคนสุดท้องที่แท้งไป เขามาเป็นกุมารทองใช่หรือไม่ครับ แล้วเขาไปขุดทองที่ซาอุจริงหรือไม่ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนครับ
6. บุพกรรมใดที่ทำให้ทั้งๆที่โยมตามีลูกถึง 12 คนด้วยกัน แต่โยมตามีลูกสาวคือโยมแม่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยท่านทำงานอย่างเต็มใจและขยันขันแข็ง , โยมตาตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ มีอะไรอยากฝากบอกไหมครับ
7. โยมยาย โยมก๋ง ตายแล้วไปอยู่ที่ไหนครับ ได้รับบุญที่อุทิศไหมหรือมีอะไรอยากฝากบอกไหมครับ
8. โยมแม่และลูกสะใภ้คนปัจจุบันผูกเวรอะไรกันมารึไม่ และทำอย่างไรทั้ง 2 ถึงเข้าใจกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขครับ และบุพกรรมใดที่ทำให้โยมแม่เป็นโรคปวดขามาก ต้องแก้ไขอย่างไรครับ
9. กระผมเป็นคนเกลียดเหล้าสุดขีด และไม่ดื่มเลย และก็ไม่ช่วยโยมแม่ขายด้วย ซึ่งกระผมสามารถสอนตัวเองในเรื่องนี้ตั้งแต่เล็กๆ อย่างน่าแปลกใจ ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักวัดเลย บุพกรรมใดที่ทำให้กระผมมีอัธยาศัยแบบนี้ครับ และจะทำอย่างไรให้โยมแม่ท่านเลิกขายเหล้าได้ครับ
10. ในชาตินี้กระผมตัดใจจากคนรักที่กำลังจะแต่งงานกันเพื่อมาบวช แล้วตั้งใจบวชตลอดชีวิต การทิ้งเขามาบวชจนเขาเสียใจมากจะมีบาปหรือได้บุญอย่างไร ชาติที่แล้วผมกระทำเช่นนี้รึเปล่าครับ กระผมมีผังบวชหนาแน่นขนาดไหนครับ
11. บุพกรรมใดทำให้กระผมต้องไปสร้างบารมีอยู่ที่วัดสาขาจังหวัดจันทบุรี ผมกับที่วัดสาขาแห่งนั้นผูกพันหรือสัมพันธ์กันในอดีตมาอย่างไรครับ เพราะรู้สึกปีติและมีความสุขมากที่กระผมสร้างบารมีได้มากในดินแดนแห่งนั้น
12. โยมพ่อ โยมแม่ โยมน้องชาย และกระผมสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใดครับ เคยเข้าถึงพระธรรมกายไหมครับ มีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม พุทธันดรที่แล้วได้ลงมาสร้างบารมีกับหมู่คณะกี่ครั้งครับ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. โยมแม่แพ้ท้องอย่างรุนแรง เพราะ....กรรมที่คล้าย คลึงกันของแม่และลูก เช่น ตัวลูกได้จับข้าศึกมาขัง ทรมานไว้ในคุกโดยไม่ค่อยให้อาหาร , ส่วนโยมแม่ในชาติที่เป็นผู้ชายและเป็นทหาร ได้ทรมานข้าศึกที่จับมาขังคุก ด้วยวิธีการเดียวกับลูก มาส่งผลจ่ะ !
2. พระธุดงค์บอกว่า ลูกมีบุญมากนั้น ท่านดูจากสมาธิของท่าน ที่ท่านเห็นความสว่างที่เกิดขึ้นในตัวของลูกจ่ะ !
- การที่ยกลูกให้กับผู้มีบุญมากกว่าจะทำให้มีชีวิตรอดนั้น ก็เป็นแค่ส่วนเสริมเท่านั้น ส่วนใหญ่หรือส่วนหลักขึ้นอยู่กับบุญ – กรรมของเด็กคนนั้นจ่ะ !
- ที่ตัวลูกรอดมาได้ เพราะ....ลูกมีบุญเก่าที่เคยสร้างมากับหมู่คณะในหลาย ๆ บุญและหลาย ๆ รูปแบบ ในหลาย ๆ ชาติที่ผ่านมา มาอุ้มเอาไว้จ่ะ !
3. ลูก “ท้องเสีย” ตั้งแต่คลอดจนเกือบตาย และมีอาการ “เรื้อรัง” มาจนถึงปัจจุบัน เพราะ....ในชาติที่เป็นทหาร นอกจากให้ข้าศึกที่ถูกจับเป็นเชลยอดอาหาร ลูกยังเอา “ยาถ่าย” ใส่ในอาหารให้เชลยศึกกิน ทำให้เชลยศึกท้องเสียอย่างรุนแรง วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ !
- ลูกถูกเข้าใจว่า เป็น “โรคถุงลิง” และโดนคว้านแก้มไปข้างหนึ่ง เพราะ....“ วจีกรรม” ในอดีต ที่ชอบแอบตำหนิผู้ใหญ่ลับหลัง เช่น ตำหนิ พ่อ – แม่ , ลุง , ป้า , น้า , อา อย่างไม่ถูกต้อง และไม่ตรงไปตามความเป็นจริง มาส่งผล แต่กรรมไม่หนักมาก จึงโดนคว้านข้างเดียวจ่ะ !
- ลูกเป็นโรค “ริดสีดวงจมูก” และมาหายได้ตอนบวช เพราะ --- กรรมที่ทรมานข้าศึกที่จับมาได้ตอนลูกเป็นทหาร โดยจับข้าศึกกดหัวลงไปในถังน้ำ จนข้าศึกหายใจไม่สะดวก แต่ไม่ถึงตาย เพื่อ “รีดข่าว” , แต่บุญบวชทั้งอดีตและปัจจุบัน มาตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวจ่ะ !
4. โยมน้องชายคลอดง่าย , เลี้ยงง่าย และเรียนเก่ง เพราะ.....ในอดีตโยมน้องชายได้เป็นหมอรักษาไข้ ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยเอาไว้มาก และเป็นคนชอบขวนขวายในการศึกษา ส่งเสริมด้านปัญญาบารมีข้ามชาติมาส่งผลจ่ะ !
5. โยมน้องชายคนสุดท้องที่ “แท้งไป” มาเป็นกุมารทองนั้น ก็เป็นเรื่องจริง เพราะในอดีตโยมน้องชายและแม่ ก็เคยได้ไปนับถือ “ไสยเวทย์” และเคยส่ง “สัตว์ท้อง” ไปฆ่าขาย อีกทั้งสนับสนุนคน “ทำแท้ง” , วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผลจ่ะ !
- เขาได้ไปซาอุตามที่อาจารย์วิทยาธรบังคับให้ไปดูแลเจ้าของกุมารทองที่อาจารย์ไสยเวทย์มอบให้ แล้วก็ไปมีแฟนที่เป็นกายละเอียดเหมือนกัน แต่เป็นแขกชาวซาอุ(ไปมีกิ๊กกับสาวกายละเอียดซาอุ)และอยู่กับเจ้าของรูปกุมารทองที่อาจารย์ไสยเวทย์ให้ไปดูแลจ่ะ !
6. โยมตามีลูกถึง 12 คนด้วยกัน แต่มีโยมแม่เป็นลูกสาวคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยท่านทำงานอย่างเต็มที่และเต็มใจ เพราะ....โยมตาบางชาติก็ช่วยเหลือพ่อ - แม่ , บางชาติก็ไม่ช่วยเหลือ แต่ชาติที่ไม่ค่อยช่วยเหลือบิดา - มารดามีมากกว่า , บุญของโยมตามีเพียงเท่านี้ จึงบันดาลให้มีโยมแม่เพียงคนเดียวคอยดูแลจ่ะ !
- โยมตาตายแล้ว ก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ชั้นดี ในหมู่บ้าน ภุมมเทวาแห่งหนึ่ง ด้วยบุญที่ทำตามประเพณีในพระพุทธศาสนาและเคยบวช , ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ ก็ทำให้ท่านดีใจที่ลูกหลานยังระลึกนึกถึงท่านได้ จึงทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้นในทุกด้าน , ทั้งเสื้อผ้า , อาหารทิพย์ , ที่อยู่อาศัยเป็นต้นจ่ะ !
7. โยมยาย - โยมก๋งตายแล้ว
- โยมยายก็ไปเป็นเทพธิดา มีวิมานทองขนาดย่อมของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส 3 ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็ทำให้ท่านมีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น ท่านก็มีปีติใจที่ลูกหลานระลึกถึงและอุทิศ บุญไปให้จ่ะ !
- “โยมก๋ง” ก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” อยู่ที่ศาลเจ้าที่ตัวเองเคารพนับถือ ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็มีสภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม จากที่อาศัยอาหารที่เขามาเซ่นไหว้ ก็มีอาหารที่เกิดขึ้นเองด้วยบุญจ่ะ !
- ท่านยังลำบากเรื่องอาหารการกินอยู่ ดังนั้นท่านจึงอยากให้ทำบุญอุทิศไปให้ท่านอีก ท่านจะได้มีอาหารทิพย์กินไม่ลำบากเหมือนเดิมจ่ะ !
8. โยมแม่และลูกสะใภ้คนปัจจุบัน ก็ไม่ได้ผูกเวรกันมา แต่ก็เป็นปัญหาปกติของ “แม่ผัว , ลูกสะใภ้”
- การที่จะให้ 2 คนเข้าใจกันและอยู่ร่วมกันอย่างผาสุข , ทั้ง 2 คนต้องหันหน้าเข้าหากัน , โดยลูกสะใภ้ก็ต้องอ่อนน้อม , แม่ผัวก็ต้องเอ็นดูด้วยเมตตาธรรม , ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน อีกทั้งต้องมีกัลยาณมิตรแนะนำทั้ง 2 ท่าน ก็จะปรับความเข้าใจได้ เพราะไม่ได้ผูกเวรกันมาจ่ะ !
- โยมแม่เป็นโรค “ปวดขา” มาก เพราะกรรมในอดีต ได้เคยเอาไม้ไปตี “ขาสุนัข” ที่มันมาถ่ายเลอะเทอะ จนขามันเป๋ , เจ็บขา กับกรรมผูกขาสัตว์ในอดีต เพื่อส่งขาย , วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ !
- ต้องทำบุญทุกบุญ แล้วอุทิศไปให้สัตว์เหล่านั้น บ่อย ๆ หนักก็จะเป็นเบา
9. ลูกเป็นคน “เกลียดเหล้า” อย่างสุดขีด ไม่ดื่มและไม่ช่วยขายด้วยมาตั้งแต่ยังเล็ก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้บวชเลย เพราะ....ในอดีตลูกเคยชักชวนคนเลิกดื่มสุรามาเยอะ เพราะในชาตินั้นได้เกิดในครอบครัวที่มีบิดาดื่มน้ำเมา จนทำให้มีปัญหาครอบครัว
- อีกทั้งตัวก็เคยดื่ม แต่พอมีกัลยาณมิตรมาชวนไปทำบุญกับหมู่คณะ เมื่อเข้าใจทุกข์โทษของสุราแล้วก็เลยเลิกดื่ม และชักชวนให้คนอื่นเลิกด้วย , อัธยาศัยนี้จึงติดตัวมาจ่ะ ! แต่ด้วยวิบากกรรมที่ตัวเองเคยดื่มเหล้า เคยเลี้ยงเหล้า เศษกรรมนี้จึงทำให้มามีมารดาค้าขายเหล้าจ่ะ !
- จะให้โยมแม่เลิกขายเหล้า ลูกก็จะต้องชี้โทษให้เห็นทั้งในปัจจุบันและในอบายให้ท่านเข้าใจ วันใดที่ท่านเข้าใจ ท่านก็จะเลิกจ๊ะ !
10. ลูกตัดใจจากคนรักที่กำลังจะแต่งงานกัน แล้วมาบวช จนทำให้คนรักเสียใจนั้น ก็ไม่บาปจ่ะ !
- แต่จะได้บุญจากการบวช ซึ่งเลิศประเสริฐกว่าบุญใด , อีกทั้งจะปลอดภัยในสังสารวัฏ และไร้พันธนาการของชีวิตจ่ะ !
- ส่วนแฟนนั้นก็เสียใจชั่วคราว พอเขาเข้าใจหรือมีคนใหม่เอาใจ เขาก็หายเสียใจ,
- อีกทั้งชาติที่ผ่านมาลูกก็ทำอย่างนี้แหละจ่ะ ! โดยพุทธันดรที่ผ่านมา ลูกได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ทิ้งคนรักมาบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต , มีผลปฏิบัติธรรมได้ถึงพระธรรมกายภายใน กลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้
11. ลูกต้องไปสร้างบารมีอยู่ที่วัดสาขาจังหวัดจันทบุรี ด้วยความปีติสุข เพราะ....ในอดีตพุทธันดรที่ผ่านมา ลูกก็ทำหน้าที่ “เผยแผ่” ภายหลังจากที่บวชแล้ว และได้ไปโปรดเทศน์ญาติโยมตามหัวเมืองต่าง ๆ , ผังนี้ติดตัวมา จึงมีความพึงพอใจที่จะทำดังนี้จ่ะ ! ผังบวชชาติที่ผ่านมาก็หนาแน่น เพราะบวชได้ตลอดชีวิต จ่ะ !
12. โยมพ่อ , โยมแม่ , โยมน้องชาย สร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” แบบตามอารมณ์ ดังนั้นบางชาติก็เจอกัน , บางชาติก็ไม่เจอกันจ่ะ !
- ส่วนตัวลูกก็ได้ลงมาสร้างบารมีทั้ง 2 ครั้งจ่ะ !
- ชาตินี้ก็อย่าชะล่าใจ ให้ประคองตัวให้ดี ให้ทำให้ดีกว่าชาติที่ผ่านมา ก็จะเอาตัวรอดได้จ่ะ !
- ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ