ผ่าซ้ำๆ กรรมอะไร

CASE STUDY

ผ่าซ้ำๆ กรรมอะไร

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างยิ่ง

ลูก ได้เข้าวัดครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2531 มาพร้อมกับพระน้องชายซึ่งปีนั้นท่านได้เข้ามาบวชพระธรรมทายาท และท่านก็ยังอยู่เป็นพระภิกษุจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้ได้ 18 พรรษาแล้วค่ะ ท่านได้เป็นกัลยาณมิตรคอยให้กำลังใจลูกเสมอมา ทำให้ลูกได้สร้างบารมีเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ลูกได้ทำหน้าที่ผู้นำบุญ ชักชวนผู้คนและหมู่ญาติมาสร้างความดี ติดจานดาวธรรม และได้ร่วมบุญทุกๆ บุญกับทางวัดไม่เคยขาดเลย ลูกมีเรื่องราวที่อยากจะกราบเรียน และขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ฝันในฝันดังนี้ค่ะ

คุณอาของลูกมีบุตรทั้งหมด 5 คน..เป็นชายล้วน

ลูกชายคนที่ 2 ของอา ชอบดื่มเหล้ามาก และชอบล่าสัตว์มาทำกับแกล้มอยู่เป็นประจำ มีสัตว์แปลกๆ สารพัดชนิด แม้คนทั่วไปจะไม่นิยมกินกัน แต่ลูกชายของอาคนนี้ก็จะนำมาทำเป็นกับแกล้ม กินแกล้มเหล้าอย่างเอร็ดอร่อย มีทั้งแมลงป่อง นกแสก ปลาไหลมีหู ซึ่งคนเชื่อว่ามีอายุร้อยปี บ้างก็เรียกกันว่าเป็นปลาไหลจำศีล ซึ่งเขาจะไม่กินกัน ลูกของอามักจะนำสัตว์เหล่านั้นมาต้มในน้ำเดือดๆ เวลากินเลี้ยงกับเพื่อนก็จะดื่มเหล้าแบบข้ามวันข้ามคืนจนถึงรุ่งสาง และบางทีก็มาเลิกเอาตอนเย็นของอีกวันหนึ่ง ดื่มจนหมดแรงไปเลย เรื่องทำบุญน้อยมาก เขาจะทำอยู่บ้างในบางโอกาส เช่น กฐิน ผ้าป่า เป็นครั้งเป็นคราว แต่หลังจากการทำบุญทุกครั้ง พอเสร็จงานบุญก็ฉลองเหล้ากันเลย ดื่มกับเพื่อนๆ จนเมาหัวราน้ำ

เขาเคยเปิดร้านขายแอร์ วันหนึ่งได้มีเรื่องกับคนรู้จักกัน ซึ่งเขามาท้าต่อยถึงที่ร้านแอร์ น้องชายได้ใช้ปืนยิงชายคนนั้นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และขังชายคนนั้นไว้ในบ้านจนถึงเช้า ส่วนตัวเองก็หนีไปที่อื่น พอตอนเช้าก็โทรศัพท์ไปบอกตำรวจให้มาดูที่ร้านแอร์ แต่ชายคนนั้นก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว น้องชายได้เข้ามอบตัวและบอกว่าทำไปเพื่อป้องกันตัว เขาสู้คดีจนชนะ พ้นโทษออกมา และได้บวชเพื่อล้างบาปเป็นเวลาประมาณ ๑ เดือน จากนั้นก็ลาสิกขา

จากการที่เขาเป็นคนดื่มเหล้าจัดมาหลายสิบปี จึงทำให้ป่วยเป็นโรคตับ โรคไต และอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เลิกดื่มเหล้า จนกระทั่ง 1 ปีก่อนจะเสียชีวิต หมอได้สั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้ดื่มเหล้าอีก แต่เขาก็ไม่ฟัง บางครั้งป่วยหนักจนกินข้าวไม่ได้แต่ก็ยังไม่วายดื่มเหล้า จนกระทั่งเนื้อตัวบวมเหลืองไปหมด เมื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิต 1 อาทิตย์ ได้มีเลือดไหลออกตามทวารต่างๆ ทั้งหู จมูก ปาก หมอบอกว่า ตับพังหมดแล้ว และไตวาย คราวนี้หมอมัดมือมัดเท้าไว้เพื่อไม่ให้เขาดื่ม เขาพึมพำอยากกลับบ้านๆ อยู่ตลอดเวลา และกระตุกเชือกที่มัดมือจนขาด แล้วก็ลุกขึ้นมานั่งหอบอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ล้มตัวลงนอนต่อ ญาติๆ ที่เฝ้าอยู่เห็นเขาหลับไปแล้ว ก็เลยพากันกลับบ้านตอนเที่ยงคืน แต่พอตอนตีหนึ่งหมอก็โทรมาแจ้งว่า เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว

ลูกชายคนโตของอา เคยทำงานอยู่บริษัทประกันชีวิตมา 10 กว่าปี ได้เป็นหัวหน้าเขต ทำให้มีลูกน้องบริวารมาก และต้องนัดประชุมการขาย พบปะสังสรรค์กันเป็นประจำ ในงานเลี้ยงแต่ละครั้ง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเหล้า และเขาก็ต้องดื่มด้วยทุกครั้ง ต่อมาเขาได้เลิกอาชีพขายประกัน แล้วหันมาเปิดร้านอาหาร ต้องฆ่าสัตว์เป็นๆ ไว้บริการลูกค้า เพื่อทำเป็นอาหารตามเมนูที่ลูกค้าสั่งอยู่ทุกวัน กระทั่งต่อมาป่วยเป็นโรคไทรอยด์ ได้เข้ารับการผ่าตัดเมื่อปี 2542 หลังผ่าตัดเสร็จ เสียงก็แหบไปเลย แหบมากๆ รักษาเท่าไรก็ไม่กลับคืน จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ลูกสาวของอาอีกคนหนึ่ง เมื่อปี 2534 ได้เกิดเหตุสารเคมีที่เก็บอยู่ที่ท่าเรือคลองเตยระเบิดขึ้น สารเคมีได้กระจายตัวไปไกลในรัศมี 1 กิโลเมตร หลังเกิดเหตุสารเคมีระเบิดได้ 1 เดือน ลูกสาวของอาคนนี้ก็มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง อาเจียนเหมือนคนแพ้ท้อง แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบสาเหตุ เธอได้ไปตรวจและรักษาอยู่เป็นปี จึงตรวจพบว่าโดนสารเคมีชนิดร้ายแรงเข้าไปในร่างกาย หมอสั่งผ่าตัดสมอง หลังผ่าตัดกะโหลกก็ยุบ ต่อมาตาข้างขวาก็ค่อยๆ มืดลง จนกระทั่งบอดสนิท หูทั้งสองข้างก็ได้ยินน้อยลง จนเวลาคุยต้องตะโกนดังๆ ถึงจะได้ยิน ปัจจุบันสุขภาพจิตเธอย่ำแย่เหมือนคนเป็นโรคประสาท

ลุงของลูก ท่านชอบเล่นการพนันม้าแข่ง เล่นมาตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ว่าจะมีการแข่งม้าที่สนามไหน จะในกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด ท่านก็จะไม่พลาดเลยสักนัด นอกจากเล่นพนันม้าแล้ว ลุงยังสูบบุหรี่จัดมาก สูบมาหลายสิบปีจนถึงอายุ 60 ปีจึงเลิก ที่เลิกเพราะว่าไอมากและแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก พอไปหาหมอเอ็กซเรย์ดู หมอบอกว่าปอดเป็นจุด แม้จะเลิกสูบบุหรี่แล้ว แต่อาการไอและแน่นหน้าอกก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ เพราะเป็นวัณโรคปอด จนกระทั่ง 1 ปีก่อนเสียชีวิต ท่านมักจะมีอาการหายใจไม่ค่อยออกและมักจะช็อคอยู่เรื่อยๆ ต้องพกพาถังออกซิเจนไว้ใกล้ตัว ถ้าช็อคหายใจไม่ออกก็ครอบออกซิเจนทันที เลยทำให้ลุงไม่กล้าไปไหนไกลๆ อยู่แต่ในบ้าน กับเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ ตอนใกล้เสียชีวิต ลุงนอนอยู่ในโรงพยาบาล ภรรยาและญาติๆ ของลุงได้ไปทำบุญที่วัดต่างๆโดยใส่ชื่อลุงเป็นคนทำ และคุณอาก็จะสวดมนต์ให้ลุงฟังอยู่ข้างเตียง ทำให้ลุงไม่มีอาการทรมานเลย ก่อนจะสิ้นใจลุงได้ชู 2 นิ้วให้ญาติดู แต่ญาติก็ยังไม่เข้าใจความหมาย พอผ่านไปราว 2 ชั่วโมง ลุงก็สิ้นใจ

ตัวลูกเอง ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับมดลูก ต้องเข้ารับการผ่าตัดมาหลายครั้ง ผ่าตัดครั้งแรก พ.ศ.2521 เพื่อทำหมัน หลังผ่าได้ประมาณ 2 เดือนก็เกิดอาการอักเสบเป็นหนองข้างใน ต้องเจาะซ้ำเพื่อดูดเอาหนองออก หลังเจาะเสร็จมีอาการมึนศีรษะคล้ายบ้านหมุนได้ ลุกไปไหนก็ไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับที่ เป็นอยู่อย่างนี้ถึง 3 เดือน

ต่อมาพ.ศ.2534 ลูกก็ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบเกือบแตก ต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็น ครั้งที่สอง พระน้องชายได้พาพระอาจารย์ไปเยี่ยมและสอนให้ทำสมาธิ ลูกก็ทำตามจนเห็นดวง แล้วอาการเจ็บปวดก็ทุเลาลงไปมาก

ต่อมา ปี 2539 หมอตรวจพบว่ากำลังจะเป็นมะเร็งที่มดลูก ลูกจึงต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกเป็น ครั้งที่ 3 การผ่าครั้งนี้หมอได้ตรวจพบซีสท์ทั้ง 2 ข้างที่รังไข่ แต่หมอไม่ยอมตัดออกให้ แต่หลังจากนั้นก็มาผ่าตัดซ้ำอีกเป็น ครั้งที่ 4 ในปี 2540 ซึ่งห่างกันเพียง 9 เดือน ลูกถามหมอภายหลังว่า “ตอนตรวจพบครั้งนั้นทำไมไม่ผ่าตัดให้เลยคะ” หมอตอบว่า “เจ็บแค่ไหน ก็ผ่าแค่นั้น”

ต่อมา พ.ศ.2546 หลังจากลูกกลับจากปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์ ได้นิมนต์พระน้องชายมาฉันเพลที่บ้าน หลังจากได้รับประทานอาหารมื้อนั้นแล้ว ทุกคนก็เกิดอาการท้องเสีย เลยต้องยกครอบครัวกันเข้าโรงพยาบาล หลังจากได้รับการรักษาแล้วทุกคนก็อาการดีขึ้น มีแต่ลูกคนเดียวที่อาการไม่ดีขึ้นเลย ผู้อำนวยการจากศูนย์เด็กท่านหนึ่งแนะนำว่าให้ไปหาหมออีกครั้ง เพราะสงสัยว่าอาจเป็นเกี่ยวกับมดลูกที่ลูกเคยเป็นอยู่ หมอสูติคลำท้องดูก็พบว่ามีก้อนเนื้อบางอย่างอยู่ในท้อง โตเกือบเท่าหัวเด็ก หมอจึงสั่งให้ผ่าตัดอีกครั้งเป็น ครั้งที่ 5 การผ่าครั้งนี้ยุ่งยากกว่าทุกครั้ง เพราะหมอศัลยกรรมไม่ยอมรับเป็นเจ้าของไข้ หมอที่จะผ่าตัดลูกต้องใช้ 2 คนคือ 1 หมอสูติทำหน้าที่ผ่ามีดแรก แต่ด้วยความที่ไม่มีความชำนาญในเรื่องนี้ก็เลยทำต่อไม่ได้ ต้องไปตามหมอศัลยกรรมมาผ่าตัดต่อ แต่ก็ไม่ใช่หมอศัลยกรรมที่เคยตรวจลูกมาก่อน เลยทำให้มีปัญหาตามมาคือ หลังผ่าได้ 9 วัน พอตัดไหมเสร็จแล้ว ลูกก็กลับบ้านได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ต้องย้อนกลับมาโรงพยาบาลใหม่อีกครั้ง เพราะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จนนั่งไม่ได้ หมอตรวจพบว่าน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ หมอก็ทดสอบอยู่เกือบ 10 วัน จึงได้ผ่าตัดอีกเป็น ครั้งที่ 6 หลังผ่าตัดครั้งนี้ถึงทำให้ลูกทราบว่า ตัวเองถูกตัดลำไส้ทิ้งและต้องจัดเรียงลำไส้ใหม่

ปัจจุบันลูกป่วยเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ต้องไปตรวจทุกๆ 2 เดือนหมอบอกว่าถ้านิ่วขยายใหญ่จนอักเสบก็จะต้องผ่าตัดอีกเป็น ครั้งที่ 7 ลูกต้องเผชิญชะตากรรมผ่าซ้ำๆ อยู่หลายครั้งจนรู้สึกขยาด และได้บอกกับตัวเองว่า “ยิ่งต้องผ่าซ้ำเราต้องยิ่งกระหน่ำทำบุญให้เต็มที่” โดยยึดเอาคำสอนของคุณครูไม่ใหญ่ที่ว่า ยามประสบทุกข์ต้องเอาบุญและเอาธรรมะเป็นที่พึ่ง แล้วลูกก็มุ่งหน้าทำหน้าที่ผู้นำบุญอย่างไม่ย่อท้อ มาวัดทุกวันอาทิตย์ และก็นั่งสมาธิต่อเนื่องกันมาตลอด 3 ปีไม่เคยขาดเลยเจ้าค่ะ

ลูกอยากจะขอถามคุณครูไม่ใหญ่ดังนี้เจ้าค่ะ

1. ลูกชายคนที่ 2 ของอา ตายแล้วไปอยู่ภพภูมิใด เขาผูกเวรกันมากับคนที่เขาได้ยิงตายหรือเปล่าคะ และบุญที่ลูกชายกับหลานชายบวชอุทิศไปให้เขาได้รับไหมคะ

2. ลูกชายคนโตของอา เขาทำกรรมใดมาจึงป่วยเป็นไทรอยด์และถูกผ่าตัด และกรรมใดทำให้หลังผ่าตัดแล้วเสียงแหบ เวลาคุยแทบไม่ได้ยินเสียง ปัจจุบันเขายังทำปาณาติบาตและขายเหล้าอยู่ สิ่งนี้จะมีผลต่อเขาทั้งในปัจจุบันและในอนาคตอย่างไร และจะมีวิธีใดช่วยเหลือเขาหรือแก้ไขได้อย่างไรคะ

3. ลูกสาวอา ทำบุพกรรมใดมาจึงทำให้สารเคมีเข้าไปทำลายสมองต้องถูกผ่าตัดสมองจนกะโหลกยุบ ตาข้างขวาบอดสนิท รวมทั้งหูทั้งสองข้างก็ไม่ค่อยได้ยิน จึงทำให้บางครั้งเธอเผลอไปด่าพ่อแม่โดยไม่มีเหตุผล กรรมใดที่ทำร่วมกันมาในครอบครัว จึงทำให้ต้องมาดูแลรับผิดชอบร่วมกัน และจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ

4. ลุง ตายแล้วไปไหนคะ ลุงเคยทำบุญใดไว้ จึงทำให้ช่วงที่ป่วยก่อนเสียชีวิตมีญาติๆ คอยทำบุญให้ตลอด และสวดมนต์ให้ฟังอยู่ข้างเตียง ทำให้ท่านมีอาการสงบ ไม่ทรมาน และการที่ลุงชู 2 นิ้วในช่วงก่อนสิ้นใจหมายความว่าอย่างไรคะ

5. ตัวลูกทำบุพกรรมใดมาจึงต้องถูกผ่าตัดถึง 6 ครั้ง และการผ่าตัดครั้งที่ 5 ทำไมจึงได้หมอที่เกี่ยงกันไม่อยากเป็นเจ้าของไข้ จนทำให้เกิดความผิดพลาดในการผ่าตัด ต้องผ่าตัดซ้ำ ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เลย ลูกมีวิบากกรรมที่จะต้องได้ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีในครั้งต่อไปอีกหรือเปล่าคะ

6. ครอบครัวของลูกมีกรรมอะไรร่วมกัน คราวหนึ่งจึงเกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงพร้อมๆ กันทั้งครอบครัว เพราะอาหารที่รับประทานเป็นเหตุ

7. ลูกมีพระลูกชายบุญธรรม อยู่รูปหนึ่ง ท่านบิณฑบาตในที่ใกล้ๆ บ้านลูกเป็นประจำ เลยนับถือกันเป็นโยมแม่กับพระลูกชาย ในอดีตชาติเราเคยเกี่ยวข้องหรือมีบุพกรรมอะไรร่วมกันมาคะ

8. พระน้องชายของลูก ท่านทำบุพกรรมใดมาคะ จึงถูกผ่าฝีที่ทวารหนัก ผ่าซ้ำๆ ที่เดิมอยู่ถึง 3 ครั้ง เจ็บปวดทรมานมากเพราะอักเสบมีหนองอยู่ข้างใน ท่านกับตัวลูกอดีตชาติเกี่ยวข้องกันมาอย่างไรคะชาตินี้จึงมาเป็นพี่น้องกัน และคอยดูแลเป็นกำลังใจให้ลูกอย่างดีมาตลอด แล้วตัวลูกกับพระน้องชายเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรคะ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1. ลูกคนที่ 2 ของอา กับคนที่เขายิงตายนั้น ได้ “ผูกเวร” กันมา ผลัดกันฆ่าด้วยสาเหตุต่าง ๆ , โดยมีจุดเริ่มต้นในชาติหนึ่ง ทั้งคู่เป็น “ขี้เมา” อยู่คนละวงเหล้า ได้ทะเลาะกันด้วยเรื่องผู้หญิง ต่างก็ด่าว่ากันถึงขั้นชกต่อย แล้วในที่สุดลูกชายคนที่ 2 ของอา ก็ได้ฆ่าเขาตายในชาตินั้น แล้วก็ไปตกอบายภูมิอยู่นาน

ภายหลัง จากที่ได้มาเป็นมนุษย์ ก็ได้ผลัดกันฆ่า , ต่างก็จองเวรซึ่งกันและกันมาจนถึงชาตินี้ เมื่อฆ่าเขาตาย เขาก็ได้จองเวรต่อกันไปอีก

ตายแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาไป “ยมโลก” กำลังถูก “กรอกน้ำทองแดงร้อน” ด้วยกรรมดื่มสุรา ก่อนที่จะไปเจอทัณฑ์ทรมานอย่างอื่น ทุกข์ทรมานมาก
ได้รับบุญที่ลูกชายกับหลานชายบวชอุทิศไปให้ แต่ก็ยังไม่พ้นกรรมจ่ะ!

2. ลูกชายคนโตของอาป่วยเป็น “ไทรอยด์” และถูกผ่าตัด ,ภายหลังการผ่าตัดก็เสียงแหบ คุยแทบไม่ได้ยินเสียง เพราะ …กรรม “มักโกรธ” ในอดีต และมักจะไม่ค่อยให้อภัย

อีกทั้งมีวจีกรรมที่ชอบด่าว่าด้วยความรุนแรงในยามโกรธ รวมกับกรรมปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ทำอาหารและฆ่าสัตว์ขายในอดีต ได้ตามมาส่งผลจ่ะ!

ปัจจุบันยังทำปาณาติบาตและขายเหล้าอยู่ วิบากกรรมนี้จะทำให้อายุสั้น , มีโรคมาก , ตายแล้วก็จะไปอบาย

ถ้าเกิดใหม่ในอนาคต ก็จะเป็น ใบ้ , บ้า , ปัญญาอ่อน และจะต้องเลี้ยงคน ใบ้ , บ้า , ปัญญาอ่อน ในตอนที่ตัวหมดจากกรรม ใบ้ , บ้า , ปัญญาอ่อนแล้วจ่ะ!

จะช่วยเหลือเขา ก็ต้องทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้เขา ด้วยใจที่เยือกเย็นและอดทน โดยชี้ให้เห็นภัยของสิ่งเหล่านี้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต , ถ้าเขายังไม่ยอม ทำตาม ก็ให้ลูกทำบุญแล้วอธิษฐานจิตช่วยเขาไปก่อนจ่ะ!

3. ลูกสาวของอา ถูกสารเคมีเข้าไปทำลายสมอง ต้องถูกผ่าตัดสมองจนกะโหลกยุบ ตาข้างขวาบอดสนิท , หูทั้งสองข้างก็ไม่ได้ยิน จนทำให้บางครั้งเผลอด่าพ่อแม่โดยไม่มีเหตุผล เพราะ …กรรมในอดีตหลายกรรมมารวมกันส่งผล ทั้งในชาติใกล้ , ชาติไกล เช่น มีกรรมปาณาติบาต , กรรมสุรา เป็นต้น

โดยพื้นฐานชาติหนึ่งเป็นผู้ชาย ได้ “ดื่มสุรา” จนเมา แล้วเอา ไหเหล้าทุบศีรษะขี้เมาวงเดียวกัน จนบาดเจ็บสาหัส

อีกทั้งยังเคยทะเลาะวิวาทกับขี้เมาวงเดียวกันคนเดิมอีกครั้ง จนกระทั่งเขาบาดเจ็บและ ตาบอด ด้วยการใช้ขวดเหล้าทุบไปที่หน้าจน “ตาแตก”

และบางทีตบบ้องหูเขา จนหูไม่ได้ยิน แต่คนละคน และคนละวาระ อีกทั้งยังมีกรรมกาเมเจ้าชู้อีกด้วย , วิบากกรรมดังกล่าวตามมาส่งผล

ส่วนพ่อ - แม่เป็นคนขายสุรามาชาติหนึ่ง จึงต้องมารับผิดชอบดูแลลูกที่มีกรรมสุราดังกล่าวจ่ะ!

จะแก้ไขก็ต้องให้ทั้งครอบครัวหมั่นสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนาให้มาก ๆ บุญนี้ก็จะได้ไปตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าว ให้หนักเป็นเบาจ่ะ!

4. ลุงก่อนเสียชีวิตได้มีญาติมาคอยดูแล และทำหน้าที่ประคับประคองจนหมดลม ด้วยการทำบุญให้และสวดมนต์นั้น ก็เกิดจากบุญที่ได้เลี้ยงดูบิดามารดา และสงเคราะห์ญาติตามมาส่งผลจ่ะ!

ก่อนลุงตายท่านชู 2 นิ้ว เพราะ ท่านอยากจะบอกว่า ท่าน “สู้” จ่ะ!
ตายแล้วก็ไปเป็น “อากาสเทวา” มีวิมานไม่ใหญ่นักจ่ะ! โดยบุญส่งผลก่อนบาปจ่ะ!

5. ตัวลูกต้องถูก “ผ่าตัดถึง 6 ครั้ง” เพราะ …กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร และฆ่าขายทั้งสัตว์เล็ก และสัตว์ใหญ่ ในสมัยที่เกิดในสังคมเกษตรกรรม , อีกทั้งมีเศษกรรมกาเมด้วย และมีกรรม “มักโกรธ” ขี้หงุดหงิด จึงทำให้เป็นนิ่วในถุงน้ำดี และอาจต้องมีกรรมถูกผ่าตัดจ่ะ!

กรรมปาณาติบาตดังกล่าว บีบคั้นให้การผ่าตัดครั้งที่ 5 มีปัญหา ทำให้คุณหมอเกี่ยงกันเป็นเจ้าของไข้ จนทำให้เกิดการผิดพลาดในการผ่าตัด ต้องผ่าตัดซ้ำ ๆ จ่ะ!

6. ครอบครัวของลูก เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง พร้อมกัน ด้วยการรับประทานอาหารเป็นเหตุ เพราะ …กรรมในอดีต เคยเอา “อาหารบูด” ให้หมาแมวกินจ่ะ!

7. ลูกและพระลูกชายบุญธรรม ได้เคยเกื้อกูลกันในอดีตและปัจจุบัน โดยเคยเป็นญาติกันบ้าง , เป็นแม่ - ลูกกันบ้าง จึงถูกชะตาและได้เกิดกุศลศรัทธามาเกื้อกูลกันในปัจจุบันจ่ะ!

8. พระน้องชายเคยถูกผ่าฝีที่ทวารหนัก ซ้ำกัน 3 ครั้ง เพราะ … เป็นกรรม “เหนียวหนี้” กับกรรมปาณาติบาตมารวมกันส่งผลจ่ะ!

กรรมปาณาติบาต ก็คือ การฆ่าสัตว์และ ฆ่าคน

ที่ฆ่าคน เพราะ ได้เคยเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ ออกบวช ได้ออกรบฆ่าข้าศึกตาย แต่ต่อมาได้ออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต โดยทำหน้าที่ “เผยแผ่” ธรรมะ , ปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงพระภายในจ่ะ!

พระน้องชายชาติที่ผ่านมาก็เป็นญาติกัน แล้วได้เป็นกัลยาณมิตรให้ลูกมาสร้างบารมีกับหมู่คณะ โดยตัวลูกทำหน้าที่ “กองเสบียง” จ่ะ!

ชาตินี้มาเจอกันอีก ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีอย่างเต็มที่ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!