จากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

CASE STUDY

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ด้วยความเคารพรักอย่างสูง

ผม เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาอยู่ที่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผมขอส่ง Case study เล่าประวัติชีวิตโดยย่อดังต่อไปนี้ครับ

คุณพ่อของผม เป็นชาวจังหวัดนนทบุรี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ปกติแล้ว คุณพ่อเป็นคนสุภาพเรียบร้อย พูดน้อย ยิ้มเก่ง แต่ไม่เกรงกลัวใคร มีใจเป็นนักเลง หากใครท้าตี เตะ ต่อย ที่ไหน เป็นไม่ปฏิเสธสักครั้ง จึงทำให้คุณพ่อมีเรื่องมีราวอยู่ร่ำไป ยิ่งเวลาเมา จะยิ่งดุร้ายทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ตัวผมขณะมีอายุเพียงแค่ 9 ขวบ คุณพ่อก็ยังใช้เป็นกระสอบทราย ทั้งทุบ ทั้งตี เตะ ต่อย กระทืบผม แทบกระอักเลือด หรือบางครั้งคุณพ่อก็จับผมบีบคอ กดน้ำ เกือบจะตายอยู่แล้ว แต่เดชะบุญ คุณย่า มาช่วยไว้ทัน คุณพ่อไม่พอใจ เปลี่ยนเป้าโจมตี ปรี่เข้าไปทุบตีคุณย่า ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของท่าน ผลักคุณย่าจนล้ม นั่งร้องไห้ กองอยู่กับพื้นตรงนั้น เหตุการณ์เป็นเช่นนี้หลายครั้ง จนชาวบ้านแถบนั้นเบื่อเอือมระอากับพฤติกรรมเมาของคุณพ่อมาก ยิ่งถ้ามีปัญหาเรื่องการทำงาน คุณพ่อจะใช้เหล้าดื่มเพื่อดับทุกข์ ดื่มแบบไม่บันยะบันยัง ตั้งแต่กลางวันยันรุ่งเช้า จนท่านได้ล้มป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง อีกทั้งยังป่วยเป็นโรคตับแข็ง โรคเบาหวาน และโรคไตอีกด้วย ในที่สุดคุณพ่อก็เสียชีวิตเมื่ออายุ ได้เพียง 48 ปี

คุณแม่ของผม เป็นคนนครนายก สมัยเด็กๆ คุณแม่โดนผีเข้าบ่อยๆ มีอาการแปลกๆ ทั้งเต้น ทั้งรำ ฟ้อนอยู่คนเดียวเป็นวันๆ ชาวบ้านต่างสันนิฐานว่า คุณแม่คงจะมีองค์ เมื่ออายุได้ 15ปี คุณแม่ย้ายไปอยู่กับคุณป้าที่จ.นนทบุรี แต่อาการผีเข้าก็ยังเป็นอยู่เรื่อยๆ คุณแม่เป็นคนสวย นิสัยดี มีมนุษย์สัมพันธ์ดีกับทุกๆคน จึงมีหนุ่มๆย่านนั้นมาตามจีบคุณแม่มากมาย แต่คนที่เอาชนะใจคุณแม่ได้ ก็คือคุณพ่อของผมเอง เมื่อท่านทั้งสองตกลงอยู่กินกันได้เพียง 1 ปี คุณแม่ก็ตั้งท้องตัวผม แต่คุณพ่อกลับหาว่าเด็กในท้องแม่ไม่ใช่ลูกท่าน คุณแม่ก็ยืนยันกับคุณพ่อว่าท้องกับคุณพ่อจริงๆ แต่คุณพ่อไม่เชื่อ คุณพ่อจึงหนีคุณแม่ไปอยู่กับญาติที่จังหวัดอุตรดิตถ์ คุณแม่เสียใจ ชอกช้ำใจมาก ท่านจึงทำแท้งด้วยการกินยาขับตัวผมที่อยู่ในท้องให้ออกมา แต่บุญของผมคงพอจะมีอยู่บ้าง จึงไม่ยอมคลอดก่อนกำหนดครับ แล้วคุณแม่ก็ต้องอดทนอุ้มท้องตัวผมมาจนครบ 9 เดือน

เมื่อคลอดตัวผมออกมาได้เพียง 3 วัน คุณแม่ก็พอจะมีเรี่ยวแรงบ้าง ท่านได้อุ้มผมจากนนทบุรี ไปตามหาคุณพ่อที่จังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เมื่อพบกับคุณพ่อแล้ว คุณแม่ก็ต้องร้องไห้เสียใจอีกครั้ง เพราะคุณพ่อไม่ยอมรับตัวผมว่าเป็นลูกของท่าน คุณพ่อซึ่งยังอยู่ในอาการเมา บอกกับแม่ว่า “ไม่ใช่ลูกกู!” แล้วก็เข้ามาตบตีคุณแม่อีกด้วย คุณแม่จึงตัดใจทิ้งผมไว้ให้ญาติของคุณพ่อเลี้ยง แล้วคุณแม่ก็หนีกลับมาอยู่กับคุณตาคุณยายที่นครนายก

เมื่อมาอยู่กับ คุณตาคุณยาย แล้ว คุณแม่ก็โดนผีเข้าและล้มป่วยจนคุ้มคลั่งถึงขนาดต้องล่ามโซ่เอาไว้หลายปี คุณยายได้พาเข้าพัก รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จนกระทั่งอาการดีขึ้น แต่คุณยายก็พาคุณแม่ไปรักษากับหมอเจ้าเข้าทรงอีกด้วย คุณแม่รับองค์เป็นร่างทรงพระพิฆเนศหรือกุมารทอง ซึ่งต่อมาอาการป่วยก็หายเป็นปกติ ยิ่งทำให้คุณแม่เชื่อว่าหายป่วยได้เพราะเป็นร่างทรงนั่นเอง หลังจากนั้นคุณแม่ก็เริ่มรับรักษาให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่มีความเดือดร้อนต่างๆนาๆ ชาวบ้านแถวนั้นต่างเชื่อและเกิดความศรัทธานับถือร่างทรงของคุณแม่มาก จึงหลั่งไหลมา อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทำให้คุณแม่ต้องเปิดตำหนักใหญ่โต จุคนได้เป็นร้อยๆ อยู่ที่บ้านของคุณตาคุณยายที่จังหวัดนครนายก อีกทั้งยังมีสาขาย่อยๆอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอีกด้วยครับ

ส่วนตัวผม นับตั้งแต่จำความได้ ผมก็รู้สึกว่า แม่หนอม เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ของผม แม่หนอมเป็นพี่สาวแท้ๆของคุณย่า ท่านเลี้ยงผมอย่างทะนุถนอมเอาอกเอาใจ เพราะผมหน้าตาละม้ายคล้ายสามีของท่านที่ตายไปแล้ว และแม่หนอมก็คิดว่าผมเป็นสามีที่กลับชาติมาเกิด ท่านจึงได้รักผมมาก ต่อมาเมื่อปี 2525 ผมอายุได้ 7ขวบ คุณพ่อก็มาพาตัวผมหนีขึ้นรถไฟเพื่อจะไปกรุงเทพฯ แม่หนอมพยายามจะตามพ่อให้ทัน แต่รถไฟก็วิ่งออกไปเสียก่อน แม่หนอมก็ได้แต่นั่งร้องไห้ครวญครางทุรนทุรายจนเป็นลม ล้มสลบอยู่ตรงรางรถไฟนั่นเอง ต่อมาผมก็ได้ยินข่าวว่าแม่หนอมเครียดและเสียใจมาก ที่คุณพ่อเอาผมจากมา ท่านจึงตรอมใจ เส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตเมื่อ อายุ 58 ปี

ผมอยู่กับพ่อมาเรื่อยๆ อย่างไม่ค่อยมีความสุข เพราะพ่อติดเหล้าเป็นอย่างมาก จนกระทั่งปี 2541 ขณะที่ผมกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย ผมก็มีนิสัยชอบดื่มสุรา คบหานารี และเล่นการพนันเป็นอย่างมาก ผมเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคน จนเธอบางคนได้ตั้งท้อง ผมบอกกับเธอว่าผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่เธอก็ไปทำแท้งกันทุกคน เป็นอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง 3 ครา แต่สุดท้ายผมก็เลิกกับเธอทุกๆ คน

ชีวิตตอนอยู่มหาวิทยาลัยของผมเหลวแหลก และเกือบตายมาหลายครั้ง ครั้งหนึ่งผมลืมกุญแจห้องไว้ ผมจึงปีนขึ้นตึก พอถึงชั้นที่สาม ผมก็พลาดตกลงมาศีรษะกระแทกกับพื้น จนเกือบจะเสียชีวิต ต่อมาผมประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเกือบเสียชีวิตถึง 2 ครั้ง แต่ผมก็เรียนจนจบมาได้ทั้งๆที่ช่วงนั้นผมติดการพนันมากโดยเฉพาะการพนันบอล และเพราะการพนันบอลนี้ทำให้ผมถูกขู่ ฆ่า ผมจึงต้องหลบหนีออกจากเมืองไทย ไปอยู่กับญาติที่มาเลเซีย และต่อมา จึงได้เดินทางไปขายอาหารแห้งอยู่ที่ดูไบ ชีวิตก็พอจะดีขึ้นมาบ้าง...ไม่งั้นผมตายแน่ๆ

จนกระทั่งปลายปี 2546 ที่ดูไบ ผมก็ได้พบกับ นักธุรกิจสาวไทยคนหนึ่ง เธอมีอาชีพขายเครื่องเงินเครื่องทองสำหรับตกแต่งบ้าน เธอมาขายของที่ดูไบ แค่ปีละครั้งเท่านั้นเอง ผมได้พูด ได้คุยคบกับเธอระยะหนึ่ง ถูกใจกันก็คบกันแบบแฟน คบกันสบายๆเรื่อยมา ถึงปี 2547 หนึ่งปีผ่านไป ผมก็ได้มาจดทะเบียนสมรสกับเธอที่เมืองไทย เธอเป็นคนดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ที่สำคัญเธอไปทำบุญที่วัดพระธรรมกายอยู่เสมอ แล้วเธอก็พาผมมานั่งสมาธิที่วัดพระธรรมกายทุกๆวันอาทิตย์ อีกทั้งยังพามาร่วมงานบุญใหญ่ไม่เคยขาด แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้เกิดศรัทธา จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้หยิบหนังสือหลวงปู่วัดปากน้ำมาอ่านดูเรื่องวิชชาธรรมกาย ผมจึงได้เข้าใจและตัดสินใจบวชพระธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษาปี 2547 ครับ ผลจากการบวชนี้เอง ทำให้ผมซาบซึ้งและเข้าใจพระพุทธศาสนา มองชีวิตสมณะได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งมากขึ้น และมองชีวิตตรงตามความเป็นจริง ก่อนที่ผมจะลาสิกขานั้น ผมได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ผมเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ขยายพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก

หลังจากนั้น เมื่อทางวัดมีนโยบายขยายพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปแถบตะวันออกกลาง ทำให้ผมและภรรยาได้นำจดหมายของทางวัด ไปนำเสนอขอติดตั้งจานดาวธรรมต่อกงสุลไทย ณ เมืองดูไบ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำพระสงฆ์ไทยเข้าไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายที่ดูไบอีกด้วย โดยผมมีหน้าที่อุปัฏฐากพระ รวมทั้งเป็นสารถีแก้วขับรถนำท่านไปสอนธรรมะในสถานที่ต่างๆ ผมและภรรยาได้ช่วยกันขยายจานดาวธรรมในดูไบได้กว่า 20 ดวงแล้วครับ

คุณย่า เมื่อปี 2536 คุณย่าได้ล้มป่วยด้วยโรค เบาหวาน ความดัน ไทรอยด์ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่อาการคุณย่าก็ไม่ดีขึ้นเลย ผมจึงบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ผมขอต่ออายุคุณย่า 1 ปีโดยแลกกับอายุของผมถึง 10 ปี จากนั้นอาการของคุณย่าก็ดีขึ้น แล้วมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกถึง 6 ปี จนมาถึงปี 2542 คุณย่าก็ล้มป่วยลงอีกครั้ง ช่วงที่ท่านจะเสียนั้น คุณย่ามักจะทักผมบ่อยๆว่าพาเพื่อน 2 คน สูงๆดำๆ มาด้วยทุกครั้ง คุณย่าทักทั้งๆที่ผมก็มาคนเดียว แล้วท่านก็มาจากไปเมื่อ อายุ 71 ปี

คำถาม

1. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อเป็นโรคตับแข็ง เบาหวาน โรคไต ท่านตายแล้วไปไหน ได้รับบุญหรือไม่

2. บุพกรรมใดแม่ต้องลำบาก อุ้มลูกไปหาสามี เพื่อเรียกร้องให้ยอมรับ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ แม่ทำกรรมมาอย่างไรครับ และบุพกรรมใดผมจึงไม่ได้รับการยอมรับจากคุณพ่อว่าเป็นลูกของท่าน คุณพ่อ คุณแม่และผมมีกรรมร่วมกันมาอย่างไร

3. บุพกรรมใดคุณแม่จึงคิดทำแท้งผม ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แต่บุญใดช่วยผมไว้ครับ และทำไมผมถึงต้องถูกคุณพ่อตบตีอย่างทารุณ

4. คุณแม่มีบุพกรรมมาอย่างไร จึงต้องมาเป็นเจ้าแม่เปิดตำหนักใหญ่โตมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทำไมผมจึงมาต้องเกิดในครอบครัวที่มีเชื้อสายคนทรง ควรแก้ไขอย่างไรครับ

5. ผมและแม่หนอมในอดีตชาติมีความสัมพันธ์กันมาอย่างไร ท่านจึงรักผมมาก แม่หนอมตายเพราะตรอมใจที่ผมจากไปใช่ไหมครับ กรรมใดทำให้ท่านต้องตรอมใจแบบนี้ แม่หนอมตายแล้วไปไหน เป็นอยู่อย่างไร ได้รับบุญหรือไม่ ผมเคยฝันว่าแม่หนอมจะมาเอาผมไปอยู่ด้วยจริงหรือไม่ครับ

6. กรรมใดที่ทำให้ผมตกตึก สมองได้รับการกระทบกระเทือนมาก ความจำก็เลยไม่ดีเหมือนเดิม และทำไมผมจึงเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำถึง2 ครั้ง รอดมาเพราะบุญใด

7. การที่แฟนเก่า 3 คนของผมทำแท้ง แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยผมจะมีวิบากกรรมมั๊ยครับ

8. ที่คุณย่ามีอายุต่อมาได้อีก 6 ปี เกี่ยวกับการบนบานของผมหรือไม่ ย่าตายแล้วไปไหน ทำไมก่อนตายคุณย่าจึงทักผมว่ามีเพื่อนรูปร่างสูงดำมาด้วย

9. ภรรยาของผมสมัยเด็กๆก่อนนอนจะมีความรู้สึกว่า ตัวเล็กนิดเดียว บางครั้งก็ตัวใหญ่คับห้อง ถูกผีอำบ่อยๆเพราะอะไร

10. วิบากรรมใดคุณพ่อของภรรยาจึงล้มหัวฟาดพื้น เส้นเลือดในสมองแตก พูดไม่รู้เรื่อง ควรแก้ไขอย่างไรครับ

11. คุณยายของภรรยา เสียชีวิตด้วยโรคชรา ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่ครับ

12. ตัวผม และภรรยา สร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร จะมีสิทธิไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิ์สัตว์ไหมครับ และผมจะมีบุญบวชอุทิศชีวิตหรือไม่ครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1. คุณพ่อเป็นโรค “ตับแข็ง” , “เบาหวาน” , “โรคไต” เพราะ ...กรรมปัจจุบันเป็นหลัก ที่ “ดื่มสุรา” อย่างหนัก กับกรรมฆ่าสัตว์ทำกับแกล้ม และกรรมขโมยเงินไปดื่มเหล้า มาส่งผลจ่ะ!

ตายแล้วด้วยจิตเศร้าหมอง ได้ไปอยู่ใน “มหานรกขุม 5” กำลังโดนนายนิรยบาล “กรอกน้ำกรดสีดำร้อนแรง” อยู่ ด้วยความทุกข์ทรมานมาก
ไม่อาจรับบุญได้ แต่บุญได้ไปรอคอยอยู่ “ยมโลก” จ่ะ!

2. แม่ต้องมีชีวิตลำบาก , ได้อุ้มลูกไปหาสามีเพื่อให้ยอมรับแต่กลับได้รับการปฏิเสธ เพราะ ...วิบากกรรมกาเมเจ้าชู้ในอดีตในสมัยที่เกิดเป็นผู้ชายของแม่ ตามมาส่งผลจ่ะ!

พ่อไม่ยอมรับว่า ตัวลูกเป็นลูกของท่าน เพราะ ...เศษกรรม กาเมในอดีตของลูก ที่ทำผู้หญิงท้องแล้วไม่ยอมรับ กับขาดบุญเลี้ยงดูบิดามารดาและครอบครัว ได้ตามมาส่งผล
คุณพ่อ , คุณแม่ และตัวลูก ต่างมีกรรมเจ้าชู้ดังกล่าวมา จึงดึงดูดให้มาเกิดร่วมกันจ่ะ!

3. คุณแม่คิด “ทำแท้ง” ตัวลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เพราะ ...กรรมในอดีต ตัวลูกได้ทำผู้หญิงท้องแล้วไม่ยอมรับ จึงทำให้ผู้หญิงคิดไปทำแท้ง วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!

แต่รอดมาได้เพราะ ...บุญที่ทำกับหมู่คณะ กับในชาติที่ทำเขาท้องแล้วไม่ยอมรับ จนผู้หญิงคิดจะไปทำแท้ง แต่ตัวเองก็ไม่ได้คิดที่จะให้ผู้หญิงไปทำแท้ง แต่ก็มีส่วนแห่งวิบากกรรม ที่ต้องมาถูก ทำแท้งแต่ไม่ตายจ่ะ!

คุณพ่อตบตีลูกอย่างทารุณ เพราะ ...ในอดีต ลูกมีนิสัยนักเลงชอบตบตีชกต่อยผู้อื่น วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!

4. คุณแม่ต้องมาเป็น “เจ้าแม่” เปิดตำหนักใหญ่โต จนมีลูกศิษย์มากมาย เพราะ ...แม่มี “เชื้อสาย” นับถือสิง ๆ ทรง ๆ มาหลายชาติแล้วจ่ะ!

ตัวลูกเองก็เคยนับถือสิง ๆ ทรง ๆ มาเหมือนกัน จึงต้องมาเกิดในครอบครัวที่มี “ชื้อสาย” สิงทรงเช่นนี้

จะแก้ไข ก็ให้หักดิบเลิกนับถือสิงๆ ทรงๆ อย่างเด็ดขาด แล้วหันมานับถือพระรัตนตรัยอย่างจริงจังจ่ะ!

5. ลูกและแม่หนอมที่รักกันมาก เพราะ...เคยเป็นแม่ เป็นลูก และเคยเป็นสามี-ภรรยากันมาหลายชาติจ่ะ!

แม่หนอมตาย เพราะ “ตรอมใจ” และหมดอายุขัยด้วย , ที่ตรอมใจ เพราะถูกแย่งของรักไป ด้วยกรรมที่ตัวเองก็เคยไปแย่งของรักเขามา , ได้ตรอมใจตายหลายชาติแล้วจ่ะ!

ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับล่างแถว ๆ บ้าน มีชีวิตลำบากจ่ะ!
ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ จึงทำให้มีสภาพดีขึ้น แต่ยังไม่มาก
ที่ลูกฝันเห็นว่าแม่หนอมจะเอาตัวไปอยู่ด้วย ก็เป็นเรื่องของ “จิตนิวรณ์” จ่ะ!

6. ลูก “ตกตึก” จนสมองกระทบกระเทือนมาก เป็นเหตุให้ความจำไม่ดีเหมือนเดิม และได้ประสบอุบัติเหตุถึง 2 ครั้ง เพราะ ...กรรมปาณาติบาตในอดีต ที่ฆ่าสัตว์ทำอาหาร , ทำกับแกล้มสุรา

และเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เคยเป็น “ทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช” ได้ทรมานและฆ่าข้าศึกตาย วิบากกรรมดังกล่าวได้มาส่งผลจ่ะ!
รอดมาได้เพราะบุญที่ได้ทำมากับหมู่คณะมาจ่ะ!

7. การที่แฟนเก่าของลูก 3 คนไป “ทำแท้ง” โดยที่ตัวลูกไม่เห็นด้วยนั้น ก็จะทำให้มีวิบากกรรมเหมือนในชาตินี้ ที่ถูกแม่ “ทำแท้ง” แต่ตัวเองไม่ตายจ่ะ!

8. ที่คุณย่าอายุยืนต่อมาอีก 6 ปี เพราะท่านยังไม่หมดอายุขัย ไม่เกี่ยวกับการที่ลูก “บนบาน” จ่ะ!

ก่อนคุณย่าตาย ได้ทักว่า ลูกมีเพื่อนรูปร่างสูงดำมาด้วย เพราะเป็นคตินิมิตของคุณย่าที่จะหมดอายุขัย เพราะมีเจ้าหน้าที่เขตจะมารับตัวไปจ่ะ!

คุณย่าตายแล้ว ก็ไปเป็นบริวารของ “ภุมมเทวาสายยักษ์” จ่ะ!

9. ภรรยาของลูกสมัยเด็ก ๆ เวลานอนมักจะรู้สึกว่า “ตัวเล็กนิดเดียว” หรือบางครั้ง “ตัวใหญ่คับห้อง” เพราะ “ธาตุวิปริต” ไม่ได้โดนผีอำแต่อย่างใด อีกทั้งอากาศในห้องถ่ายเทไม่ดีจ่ะ!

10. คุณพ่อของภรรยามีวิบากกรรม ฆ่าสัตว์ทำอาหารและฆ่าสัตว์ทำกับแกล้มสุรา ทั้งในอดีตและปัจจุบันมาส่งผล จึงทำให้หัวฟาดพื้น , เส้นเลือดในสมองแตก , พูดไม่รู้เรื่อง

จะแก้ไขนั้น นอกเหนือจากที่ให้คุณหมอรักษา และทานยา ตามหมอสั่งแล้ว ก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญ และปล่อยสัตว์ปล่อยปลา ให้ชีวิตเป็นทาน แล้วอุทิศส่วนกุศล ไปยังสัตว์ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้บ่อย ๆ จ่ะ!

11. คุณยายของภรรยาเสียชีวิตด้วยโรคชรา

ตายแล้ว ... ก็ไปเป็น “อากาสเทวา” มีวิมานเป็นทองขนาดกลาง ๆ ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา และบุญที่อุทิศไปให้จ่ะ!

12. ตัวลูกก็พลัดจากหมู่คณะมาหลายชาติ และเพิ่งมาเจอกันในชาติหลัง ๆ ในกัปนี้ , ที่ได้กลับมาเจอหมู่คณะ เพราะ ได้ภรรยาเป็นกัลยาณมิตร

โดยเฉพาะพุทธันดรที่แล้ว ก็ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้เคยออกบวชตามพระราชา , เป็นกำลังในการเผยแผ่ จนตลอดชีวิต

แต่ในชาตินี้ที่ได้รับวิบากกรรมต่าง ๆ เพราะตอนที่พลัดจากหมู่คณะได้ไป “คบคนพาล” จึงทำให้อยู่ในวงจรของอบายมุข
แต่ด้วยบุญที่เคยทำกับหมู่คณะมา จึงทำให้ภรรยาได้มาเป็นกัลยาณมิตร และนำกลับมาสู่หมู่คณะอีก

แต่ผังบวชยังไม่แน่นนัก แม้ว่าพุทธันดรที่ผ่านมาจะได้บวชอุทิศชีวิตก็ตาม ชาตินี้ก็แล้วแต่ตัวลูกจะตัดสินใจจ่ะ!

ส่วนภรรยาก็เป็น “กองเสบียง” ที่ดีมาหลายชาติจ่ะ!

ชาตินี้มาเจอกันอีก ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!