พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 34 พระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิ (6)


[ 29 พ.ย. 2553 ] - [ 18297 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2553
ตอน พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 34 พระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิ (6)
 
 
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอนที่ 34 "พระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิ (6)"
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา 
 
        ความเดิมจากตอนที่แล้ว... เมื่อพระบรมศาสดาทรงทราบความคิดของพระภิกษุสงฆ์ที่ยังเป็นปุถุชนเหล่านั้น พระพุทธองค์จึงตรัสกับพระภัททชิว่า “ท่านภัททชิ ท่านจงทำให้พวกภิกษุทั้งหลายได้หายสงสัยเถิด”-ครั้นพระภัททชิได้ฟังพระพุทธองค์ตรัสเช่นนั้น ท่านก็ได้ถวายบังคมและรับพระดำรัสของพระบรมศาสดา โดยการเหาะขึ้นไปสู่เวหาแล้วมุ่งลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำคงคา จากนั้น ท่านก็ได้ไปยืนอยู่บนยอดของปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นที่จมอยู่ใต้น้ำ แล้วก็เหาะลอยขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง
 
        ทันใดนั้นเอง ปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นที่มีขนาดใหญ่มหึมา ก็ได้ลอยตามติดพระภัททชิขึ้นไปในอากาศ ประดุจเศษธุลีที่ลอยติดปลายเท้าขึ้นมาฉะนั้น เหตุอัศจรรย์ในครั้งนี้ทำให้พวกชาวบ้านที่ตามมาส่งเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าภิกษุทั้งหลายได้เห็นอานุภาพของพระภัททชิ ซึ่งพวกชาวบ้านและเหล่าพระภิกษุสงฆ์ที่ยังเป็นปุถุชน ต่างก็พากันตกตะลึงและรู้สึกอัศจรรย์ใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
 
พระภิกษุสงฆ์ที่ยังเป็นปุถุชน ต่างก็พากันตกตะลึงและรู้สึกอัศจรรย์ใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
 
        เมื่อปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นได้ถูกพระภัททชินำขึ้นมาจากแม่น้ำคงคา ลอยปรากฏอยู่กลางอากาศแล้ว พวกปลา เต่า กบ และนาค เป็นต้น ต่างก็พลัดตกจากปราสาทลงสู่แม่น้ำเป็นอันมาก ซึ่งพวกปลา เต่า กบ และนาคเหล่านั้น ก็ไม่ใช่ใครอื่น ทั้งหมดล้วนเป็นอดีตพระประยูรญาติของพระภัททชิในภพชาติที่ท่านเกิดเป็นพระเจ้ามหาปนาทะทั้งสิ้น
 
ปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นได้ถูกพระภัททชินำขึ้นมาจากแม่น้ำ
 
        เพราะด้วยความรัก ความผูกผัน และความหวงแหน ในปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นหลังนี้ มาข้ามภพข้ามชาติ จึงทำให้พวกเขาเหล่านั้น ต้องเวียนว่ายตายเกิดวนเวียนอยู่ในปราสาทหลังนี้มานานกว่าพุทธันดรหนึ่งแล้ว (ซึ่งก็คล้ายๆกับพวกปู่โสมเฝ้าทรัพย์นั่นเอง เพราะใจนั้นติดและผูกพันในทรัพย์ จึงทำให้ต้องมาเกิดเฝ้าทรัพย์ ไปไหนไม่ได้)
 
เพราะความหวงแหนผูกพันในปราสาท จึงต้องมาเกิดเป็นสัตว์จำพวกเต่า กบ ปลา วนเวียนอยู่ในปราสาท
 
        หลังจากที่พระภัททชิได้นำปราสาททองแก้วเจ็ดชั้น ขึ้นมาปรากฏอยู่กลางอากาศแล้ว พระพุทธองค์จึงทรงรับสั่งให้พระภัททชิปล่อยปราสาทนั้นให้กลับลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำคงคาตามเดิม ทันทีที่สิ้นพระสุรเสียง พระภัททชิก็ได้ปล่อยปราสาททองแก้วเจ็ดชั้น ลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำคงคา โดยที่ท่านไม่ได้มีความหวงแหนในปราสาททองแก้วเจ็ดชั้น ซึ่งถือเป็นสมบัติคู่บุญของท่านเลยแม้แต่น้อย เมื่อพระภัททชิได้ปล่อยปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นไปแล้ว ปราสาทก็ได้จมหายลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำคงคาอีกครั้งหนึ่ง
 
ทันทีที่สิ้นพระสุรเสียงของพระศาสดา พระภัททชิก็ได้ปล่อยปราสาททองแก้วเจ็ดชั้น ลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำคงคาตามเดิม
 
        แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นหลังนี้ก็ไม่ได้หายไปไหน เพราะมันยังคงรอคอยผู้มีบุญญาบารมีหรือผู้ที่เป็นเจ้าของอีกท่านหนึ่ง บุคคลท่านนั้นก็คือ...พระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิ (หรือบุตรชายของนายช่างจักสานที่ได้สร้างบรรณศาลาถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าในภพชาติก่อนๆโน้น)-ซึ่งท่านจะลงมาบังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ในยุคสมัยของพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง
 
        ถ้าเราจำกันได้ ในชาติที่สองพ่อลูกได้ร่วมกันสร้างบรรณศาลา และถวายมหาทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าถึงเจ็ดพระองค์นั้น ด้วยอานิสงส์จากมหาทานในครั้งนี้ จึงทำให้ทั้งคู่มีปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นเป็นสมบัติคู่บุญ ซึ่งใครก็ไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ และในยุคพุทธันดรนี้ นายช่างจักสานผู้เป็นพ่อก็ได้เกิดมาเป็น “พระภัททชิ”-ส่วนในยุคสมัยของพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ลูกชายของนายช่างจักสานก็จะได้ไปเกิดเป็น “พระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิ”
 
ปราสาททองแก้วเจ็ดชั้นยังคงรอคอยพระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิ
 
        ในยุคของพระเจ้าสังขบรมจักรพรรดินี้เอง พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะเสด็จอุบัติลงมาบังเกิดบนโลกของเรา โดยที่พระองค์จะทรงบังเกิดอยู่ในตระกูลพราหมณ์มหาศาลที่บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติต่างๆมากมาย เหตุที่พระศรีอริยเมตไตรย์ทรงเลือกลงมาเกิดในตระกูลพราหมณ์ เพราะในยุคนั้นมนุษย์ล้วนให้ความเคารพนับถือและยกย่องวรรณะพราหมณ์มากกว่าวรรณะอื่นๆ
 
        คุณครูไม่ใหญ่: หลายๆคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ชีวิตของคนเราเลือกเกิดไม่ได้”-ทั้งๆที่จริงแล้ว...เราสามารถเลือกเกิด และสามารถออกแบบชีวิตของเราเองได้อีกด้วย ดูอย่างพระศรีอริยเมตไตรย์ พระองค์สามารถเลือกเกิดอยู่ในตระกูลพราหมณ์ซึ่งเป็นวรรณะที่คนในยุคนั้น ให้ความเคารพนับถือและยกย่องมากกว่าวรรณะอื่นๆทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้พระองค์สามารถเลือกเกิดได้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะพระองค์ทรงสั่งสมบุญสร้างบารมีอย่างเต็มที่เต็มกำลังมาอย่างตลอดต่อเนื่อง และทำอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ทั้งทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี และอุเบกขาบารมี ในทุกภพทุกชาติที่พระองค์ทรงลงมาบังเกิดสร้างบารมี จนในที่สุด เมื่อบารมี 30-ทัศของพระองค์เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ พระองค์จึงสามารถเลือกเกิดได้ตามที่พระองค์ทรงปรารถนา
 
 พระศรีอริยเมตไตรย์ทรงเลือกเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล
 
        ดังนั้น ลูกๆคนไหนมีความรู้สึกว่า ทำไมหนอ...ในชาตินี้ตัวเราถึงเกิดมาผิดที่ผิดทาง หรือทำไม...เราเกิดมาสบายน้อยขนาดนี้ ทำไมไม่เกิดมารวย ทำไมไม่เกิดมาหล่อ ทำไมไม่เกิดมาสวย ทำไมไม่เกิดมามีสติปัญญาที่ชาญฉลาดเหมือนอย่างคนอื่นเขา
 
        ที่เราเป็นแบบนี้ เป็นเพราะพระประสงค์ หรือมารประสงค์ หรือใครประสงค์ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร...เราก็เป็นไปแล้ว ใครก็ตามที่เคยคิดแบบนี้ เราก็ต้องย้อนมาดูตัวเราเองว่า...เราสั่งสมบุญสร้างบารมีอย่างเต็มที่เต็มกำลังอย่างพระบรมโพธิสัตว์แล้วหรือยัง ถ้ายัง...ก็จงทำ แต่ถ้าใครคิดว่าทำได้ดีอยู่แล้วหรือทำเต็มที่แล้ว...ก็จงทำต่อไป อย่าประมาท จงอย่าลืมว่า...เรายังตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม ดังนั้น ตราบใดที่เรายังไม่เป็นไท หรือยังไม่พ้นจากการบังคับบัญชาของพญามาร เราก็ต้องสั่งสมบุญสร้างบารมีอย่างตอกย้ำซ้ำๆกันต่อไป จนกว่าจะถึงวันแห่งชัยชนะที่แท้จริง
 
ชม Video Scoop พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 34
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ตื่นจากโลกแห่งความตายตื่นจากโลกแห่งความตาย

กฐินสัมฤทธิ์เด็กดีวีสตาร์โรงเรียนพิงครัตน์กฐินสัมฤทธิ์เด็กดีวีสตาร์โรงเรียนพิงครัตน์

ทำบุญแล้ว...มาเสียดายในภายหลังทำบุญแล้ว...มาเสียดายในภายหลัง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน